ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 118 แขนเดียวค้ำฟ้า

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 118 แขนเดียวค้ำฟ้า

เมื่อเทียบขนาดของทั้งคู่แล้ว เหมือนกับเอาถั่วลิสงเม็ดหนึ่งไปหนุนโม่หินอันหนึ่งเอาไว้

ทั่วทั้งหุบเขาที่คล้ายถูกมีดดาบสรรสร้างขึ้นมาก็สั่นสะเทือนตามขึ้นมาด้วยเช่นกัน

การกระแทกครั้งนี้ การคุกเข่าครั้งนี้ เสียงดังกัมปนาทครั้งนี้ ไม่รู้ว่ามีคนมากน้อยเท่าไหร่ที่รู้สึกเป็นห่วงตาม

เพิ่งจะกระแทกลงมาแค่ครั้งเดียวก็ทำเอาหอการค้าตระกูลฉินทรุดลงไปแล้ว แล้วก็ยังมีท่าทางที่เหมือนเกือบจะแบกรับเอาไว้ไม่ไหวอีก อารมณ์ของพวกฉินอี๋เป็นอย่างไร เพียงแค่คิดดูก็คงจะรู้ได้

สายตาของประชาชนจำนวนนับไม่ถ้วนในเมืองปู๋เชวี่ยพากันจ้องเขม็ง ภายในใจรู้สึกลุ้นตามไปด้วยเช่นกัน

หนานหรูที่จ้องมองฉากแสงอยู่ในตำหนักด้านหลังของตำหนักคุนกว่างตกตะลึง คล้ายค่อนข้างประหลาดใจ หัวคิ้วขมวดขึ้นมาเล็กน้อย

เหล่าประธานหอการค้าที่อยู่ด้านนอกตำหนักเองก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

มีบางคนรู้สึกยินดีขึ้นมา ถ้าผ่านด่านนี้ไปไม่ได้ อย่างนั้นพวกเขาก็มีข้ออ้างให้พูดได้เต็มปากเต็มคำแล้ว

ความจริงแล้วการประมูลด่านที่หนึ่ง สองและสามที่เจ้าแคว้นหนานหรูกำหนดขึ้นมานั้นเป็นวิธีการทดสอบตามปกติหลังจากที่เทพมหาวิญญาณถูกสร้างออกมา เมื่อพูดถึงข่ายพลังเชื่อมต่อข้อต่อแล้ว ความจริง ‘หล่อหลอมกายา’ ที่เป็นด่านที่สองนี้ต่างหากถึงจะเป็นการทดสอบความสามารถในการรับแรงกระแทกของข้อต่ออย่างแท้จริง

หากแสดงความสามารถออกมาในด่านนี้ได้ย่ำแย่ อย่างนั้นต่อให้ในด่านแรกเทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินจะแสดงความสามารถเอาไว้ดีแค่ไหนก็สามารถถูกพวกเขาหาข้ออ้างมาทำให้กลายเป็นโมฆะได้

นี่เพิ่งจะเป็นการกระแทกครั้งที่หนึ่งของหล่อหลอมกายา หลังจากนี้ยังมีการกระแทกอีกเกือบหมื่นครั้ง แล้วจะไม่ให้ประธานหอการค้าเหล่านี้ประหลาดใจได้อย่างไร แล้วจะไม่ให้พวกเขานึกยินดีได้อย่างไร

ภายในห้องควบคุมสั่นสะเทือนขึ้นมาเล็กน้อย หลัวคังอันเบิกตาโต มองดูหลินยวนที่กำลังคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่ในตำแหน่งผู้ควบคุม ท่าทางดูคล้ายกำลังแบกรับเอาไว้อย่างยากลำบาก

เขารู้ดีว่าการแบกรับแรงด้วยแขนสองข้างกับแขนหนึ่งข้างนั้นแตกต่างกันมากแค่ไหน มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เหมือนหนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง สำหรับแขนข้างเดียวแล้ว นี่ถือเป็นการทดสอบที่ยากลำบากอย่างมาก

“น้องหลิน เป็นอย่างไรบ้าง? หากไม่ไหวจริงๆ พวกเรายอมแพ้ก็ได้นะ ถึงอย่างไรท่านประธานก็บอกเอาไว้แล้วว่าจะให้เงินพวกเรา” หลัวคังอันกล่าวเตือนด้วยความหวังดี

หลินยวนไม่ได้พูดอะไร ร่างกายที่คุกเข่าด้วยเข่าข้างเดียวบิดไปมา พยายามค้ำลูกโลหะเอาไว้ด้วยแขนข้างเดียว ฝืนใช้พลังค้ำยันเอาไว้

ทันใดนั้น หลินยวนรู้สึกหัวไหล่พลันเบาลง ทั่วทั้งร่างพลันเบาลง ร่างกายมีความรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอย่างไรอย่างนั้น

ภายในหุบเขามีเสียงหวึ่งๆ ดังขึ้นมา พลังงานจำนวนมหาศาลก่อตัวเป็นแสงระยิบระยับเหมือนแสงออโรร่าอยู่ในอากาศ แสงระยิบระยับที่สายงามพลิ้วไหวไปมาราวริ้วเมฆ รั้งลูกโลหะทรงกลมขนาดใหญ่โตมหึมาเอาไว้

ลูกโลหะเริ่มลอยขึ้นไป คล้ายถูกแสงระยิบระยับที่ดูเหมือนริ้วเมฆประคองขึ้นไปอย่างไรอย่างนั้น

กระทั่งเทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินที่ยันอยู่ด้านล่างลูกโลหะก็ยังมีความรู้สึกเหมือนจะลอยขึ้นมาเล็กน้อยด้วย หลังจากร่างกายที่คุกเข่าด้วยเข่าข้างเดียวลอยขึ้นมาได้ประมาณหนึ่งจั้งกว่า ลูกโลหะทรงกลมที่แบกเอาไว้พลันเร่งความเร็ว ลอยออกไปจากฝ่ามือของเทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินอย่างรวดเร็ว

เพียงแค่พลังงานที่ใช้ในการทำให้ลูกโลหะลอยขึ้นไปในครั้งนี้ครั้งเดียวก็เป็นจำนวนเงินที่ครอบครัวทั่วๆ ไปอาจจะไม่มีวันหาได้ทั้งชีวิต จากตรงนี้จะเห็นได้เลยว่าทางสภาเซียนต้องลงทุนไปกับการประมูลครั้งนี้เป็นจำนวนเงินมหาศาลเท่าไร

ลูกโลหะลอยออกไปอย่างรวดเร็ว เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินคล้ายหลุดออกแรงดึงดูดด้วยเหมือนกัน ตึง! คุกเข่ากลับลงไปบนพื้น

พริบตาที่หลุดออกจากแรงดึงดูด หลินยวนรีบควบคุมเทพมหาวิญญาณให้ยืนตรง แหงนหน้ามองขึ้นไป มองดูลูกโลหะที่ลอยขึ้นไปบนฟ้าอย่างรวดเร็ว

เขารีบฉวยโอกาสตอนนี้ปรับท่าทางของตัวเอง ซึ่งก็เป็นการปรับท่าทางของเทพมหาวิญญาณด้วย

เหตุการณ์ที่ดูแย่เมื่อครู่นี้ไม่ใช่ความผิดพลาด หากแต่เป็นเพราะเขาไม่ได้ตั้งรับให้ดี พูดให้ถูกคือเขาไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้

ความจริงแล้วหลัวคังอันมีประสบการณ์ในด้านนี้มากกว่าเขาเสียอีก

ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยผ่านการทดสอบแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ กลับเป็นหลัวคังอันที่เคยมีประสบการณ์ รวมไปถึงการทดสอบในค่ายผู้พิทักษ์เทพในเมืองปู๋เชวี่ยก่อนหน้านี้ด้วย ตัวเขาไม่เคยได้เคยลองควบคุมเทพมหาวิญญาณเลย ทุกครั้งล้วนแต่อยู่ในการควบคุมของหลัวคังอัน

เขาไม่ใช่ว่าไม่เคยควบคุมเทพมหาวิญญาณให้รับแรงปะทะที่รุนแรงเช่นนี้ ต่อให้เป็นแรงปะทะที่มากกว่านี้เขาก็เคยรับมาแล้ว แต่การรับแรงปะทะโดยที่ไม่มีการป้องกันหรือการหลบหลีกใดๆ เช่นนี้ นี่ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกจริงๆ

ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการรับแรงปะทะด้วยแขนข้างเดียวด้วย นี่เกือบจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วจริงๆ

หลินยวนมองดูแขนข้างซ้าย แขนข้างซ้ายทำการตัดขาดการเชื่อมต่อกับกับแขนที่ขาดไปของเทพมหาวิญญาณอย่างสมบูรณ์แล้ว เขาสะบัดแขนซ้ายเล็กน้อย ก่อนจะนำไปไพล่ไว้ด้านหลัง แหงนหน้ามองขึ้นไปอีกครั้ง คิดว่าอีกไม่นานการกระแทกครั้งต่อไปก็คงจะลงมา

แล้วก็เป็นไปอย่างที่คาดเอาไว้ แถบแสงระยิบระยับที่อยู่ด้านบนเส้นท้องฟ้าที่อยู่เหนือหุบเขาพลันหายไป ด้านบนมีเสียง ‘วูบ’ ดังขึ้นมา ลูกโลหะส่งเสียงหวีดหวิวพร้อมกับร่วงลงมาบนพื้นราวอุกกาบาตอีกครั้ง

ขาทั้งสองข้างของเทพมหาวิญญาณพลันแยกออกหนึ่งหน้าหนึ่งหลัง ทิ้งระยะห่างระหว่างกันประมาณหนึ่ง แหงนหน้าจ้องมองวัตถุขนาดมหึมาที่กำลังตกลงมาบนพื้น ก่อนจะชูแขนข้างเดียวขึ้นไปอีกครั้ง

ในด่านทดสอบนี้ไม่สามารถหลบได้ ทำได้เพียงยืนรับการกระแทกอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดเอาไว้ รับการกระแทกซ้ำไปซ้ำมา ด่านทดสอบนี้จึงถูกเรียกว่าหล่อหลอมกายา

หากว่าหลบ หรือออกไปจากพื้นที่ที่กำหนด การทดสอบจะถือเป็นอันสิ้นสุดในทันที

วัตถุขนาดใหญ่กำลังจะตกลงมาถึง ในเสี้ยววินาทีที่กำลังจะกระแทกเข้ากับเป้าหมาย แขนของเทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉินที่ชูขึ้นไปพลันขยับยืดสูงขึ้นไปอีกเล็กน้อย แล้วก็คล้ายดันมือขึ้นไปด้านบนเพื่อรับลูกโลหะที่กำลังจะกระแทกลงมา ภายในการเคลื่อนไหวอันนุ่มนวลมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังขึ้นมา!

พริบตาที่เกิดการปะทะกัน แขนยังไม่ได้ยืดออกไปจนสุด

ตูม! ฝ่ามือและลูกโลหะปะทะกันอย่างรุนแรง

สุดท้ายแขนข้างเดียวที่ชูขึ้นไปของเทพมหาวิญญาณยังคงถูกกดลงมาอย่างรวดเร็ว แต่แรงปะทะอันรุนแรงนั้นได้ถูกฝ่ามือที่กระแทกออกไปของเทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินสลายไปไม่น้อยแล้ว

ในเวลาเดียวกับที่แขนถูกกดลงมา ขาทั้งสองข้างที่แยกออกจากกันของเทพมหาวิญญาณพลันย่อต่ำลงอย่างรวดเร็ว อยู่ในท่าย่อเข่าครึ่งหนึ่งพร้อมชูแขนเอาไว้

เหล่าประธานหอการค้าที่จ้องมองดูฉากแสงพลันเผยสีหน้าผิดหวังออกมา ไม่ได้เกิดภาพที่ถูกกระแทกจนทรุดตัวคุกเข่าลงไปกับพื้นอีกครั้ง ครั้งนี้เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินรับเอาไว้ได้ แขนข้างหนึ่งรับลูกโลหะขนาดมหึมาเอาไว้ แล้วก็ไม่ได้ใช้ไหล่แบกรับเอาไว้เหมือนอย่างครั้งก่อน ย่อเข่าครึ่งเดียวแบกรับวัตถุมหึมา หนึ่งแขนค้ำท้องฟ้า!

เป็นเพราะการกระแทกในครั้งแรก หลายๆ คนรวมไปถึงฉินอี๋จึงพากันจ้องมองดูการกระแทกในครั้งที่สองแบบไม่วางตา เรียกได้ว่าไม่กล้าแม้กระทั่งหายใจ

เมื่อเห็นเทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินรับเอาไว้ได้ ท่าทางดูดีกว่าครั้งแรก นี่จึงทำให้หลายๆ คนต่างรู้สึกโล่งใจ

พลังอันมหาศาลปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง แสงออโรร่าระยิบระยับประคองลูกโลหะขนาดมหึมาให้ลอยขึ้นไปอีกครั้ง ลูกโลหะลอยขึ้นไปอย่างช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ เร่งความเร็วขึ้นอีกครั้ง เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินที่อยู่ด้านล่างเริ่มทำการปรับท่ายืนเพื่อรับการกระแทก สายตาจับจ้องขึ้นไปด้านบน

แสงระยิบระยับหายไป ลูกโลหะขนาดใหญ่ตกลงมาอีกครั้ง ส่งเสียงดังกัมปนาท

ตู้ม! ร่างของเทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินย่อลงไป รับเอาไว้ด้วยแขนข้างเดียวอีกครั้ง

แสงระยิบระยับปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง นำพาลูกโลหะขนาดมหึมาค่อยๆ ลอยขึ้นไปบนอากาศอีกครั้ง ก่อนจะหายไปเมื่อลอยขึ้นไปถึงตำแหน่ง ลูกโลหะตกลงมา

เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินรับเอาไว้ รับเอาไว้ได้อีกครั้ง รับเอาไว้ได้อย่างมั่นคง

เป็นไปเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลูกโลหะลอยขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง แล้วก็ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินรับเอาไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า คล้ายค่อยๆ เคยชินกับการรับการกระแทกที่รุนแรงเช่นนี้ด้วยแขนข้างเดียวแล้ว ท่าทางยิ่งดูช่ำชอง แล้วก็ยิ่งดูนิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็รับเอาไว้ได้อย่างมั่นคง

ความนิ่งและมั่นคงนั้นทำให้ฉินอี๋วางใจขึ้นไม่น้อย แล้วก็ทำให้หลายๆ คนที่นึกเป็นห่วงต่างวางใจขึ้นไม่น้อยด้วยเช่นกัน

ประธานหอการค้ากลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ในที่นั่งต่างมีสีหน้าไร้อารมณ์

เมื่อเทียบกับแดนแมงมุมสวรรค์ที่เป็นด่านทดสอบด่านแรกแล้ว หลอมกายาที่เป็นด่านทดสอบที่สองนั้นดูน่าเบื่อเป็นอย่างมาก ลูกโลหะภายในหุบเขากระแทกใส่เป้าหมายซ้ำไปซ้ำมา

ดูแล้วน่าเบื่อหน่าย ความเคลื่อนไหวก็ดูเรียบง่ายธรรมดา แต่แรงกระแทกอันรุนแรงที่ร่วงตกลงมาจากด้านบนนั้นกลับเป็นการทดสอบที่ยากลำบากอย่างมากสำหรับร่างกายของเทพมหาวิญญาณ

ถึงแม้แรงกระแทกอันมหาศาลที่ตกลงมาจากด้านบนจะกระแทกลงมาเพียงแค่จุดเดียว แต่มันกลับเป็นการทดสอบความสามารถในการรับแรงกระแทกของข้อต่อแทบจะทุกส่วนภายในร่างเทพมหาวิญญาณ ด้วยเหตุนี้ทุกคนถึงได้พูดกันว่าด่านทดสอบนี้เป็นด่านทดสอบสำคัญของการประมูลในครั้งนี้

เวลาค่อยๆ ผ่านไป ที่นั่งของเหล่าประธานหอการค้าที่เข้าร่วมการประมูลเริ่มวางลงเรื่อยๆ

เป็นเพราะด่านทดสอบนี้ใช้เวลาเป็นอย่างมากจริงๆ อีกทั้งเทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินยังรับการกระแทกได้อย่างมั่นคงเช่นนี้ ไม่รู้จริงๆ ว่าต้องรอไปถึงเมื่อไรกว่าที่เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินจะรับไม่ไหว

การทดสอบเทพมหาวิญญาณหลังทำการสร้างเสร็จเรียบร้อยตามปกติจะให้เทพมหาวิญญาณรับแรงกระแทกทั้งหมดสามพันครั้ง นี่จึงเป็นที่มาของชื่อด่านหลอมกายา

ในการประมูลครั้งนี้ เจ้าแคว้นหนานหรูได้เพิ่มจำนวนครั้งในการกระแทกในด่านที่สองเข้าไปเป็นห้าพันครั้ง

ผลปรากฏว่าเพื่อทำการทดสอบหอการค้าตระกูลฉิน เจ้าแคว้นหนานหรูได้เพิ่มจำนวนครั้งในการทดสอบเข้าไปเป็นหนึ่งหมื่นครั้ง!

หนึ่งหมื่นครั้งนี่ต้องรออีกนานเท่าไร? หากต้องทนดูเรื่องที่น่าเบื่อแบบนี้ต่อไปมันช่างทรมานเป็นอย่างมาก อีกทั้งการทดสอบในด่านแรกก็ใช้เวลาไปไม่น้อยแล้ว หลังดูจนมาถึงตอนนี้ก็มีหลายๆ คนที่ทนไม่ไหวแล้ว ประธานหอการค้าต่างๆ ทยอยลุกออกไปพักผ่อน

ก่อนที่จะจากไป เผิงซีได้เดินอ้อมผ่านด้านหลังเก้าอี้ที่ฉินอี๋นั่งอยู่ เขาเหลียวหน้าไปมองดูแผ่นหลังฉินอี๋อยู่หลายครั้ง สีหน้าแววตามีความซับซ้อน

…..

หลังทนจนถึงท้ายที่สุด บนที่นั่งของหอการค้าที่เข้าร่วมการประมูลก็เหลืออยู่ห้าคน มีฉินอี๋กับไป๋หลิงหลง หนานชีหรูอันกับเทพธิดาฉิงชุ่ย แล้วก็ยังมีผู้ติดตามข้างกายหนานชีหรูอัน ผู้ติดตามคนนี้ยืนนิ่งอยู่ด้านหลังหนานชีหรูอัน ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย คล้ายรูปปั้นแกะสลักอย่างไรอย่างนั้น สายตาคอยสอดส่องระแวดระวังอยู่ตลอดเวลา

ฟ้ามืดลงแล้ว จูลี่ที่รับผิดชอบการถ่ายทอดสดของสถานีปู๋เชวี่ยก็ทนไม่ไหวเช่นเดียวกัน อีกทั้งภาพการกระแทกซ้ำไปซ้ำมาตรงหน้าก็ไม่มีอะไรน่าบรรยาย จึงส่งงานต่อให้ลูกน้อย ส่วนตัวเองกลับไปพักผ่อนก่อน ขณะเดียวกันก็สั่งกำชับว่าถ้าเกิดมีอะไรเปลี่ยนแปลงให้มาเรียกตนเองทันที

เธอเองก็ไม่ได้ไปไหนไกล หามุมใกล้ๆ นอนห่มผ้าลงไป

“คุณชายหรูอัน ยังต้องรออีกถึงเมื่อไรคะเนี่ย ฉันง่วงไม่ไหวแล้ว พวกเรากลับไปพักผ่อนกันเถอะค่ะ” ฉิงชุ่ยที่ใกล้จะทนดูไม่ไหวแล้วเอียงศีรษะซบไหล่หนานชีหรูอันพลางกล่าวออดอ้อน ซึ่งเธอเองก็เหนื่อยล้าอย่างมากจริงๆ

หนานชีหรูอันลูบใบหน้าของเธอ กล่าวกับฉินอี๋ที่นั่งอยู่ข้างๆ ว่า “ประธานฉิน ที่นี่มีคนมากมายจับตาดูอยู่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นทุกคนต้องเห็นแน่ ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรหรอกครับ กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะครับ”

ฉินอี๋ฉีกยิ้ม “ฉันไม่เหนื่อยค่ะ คุณชายไปพักผ่อนก่อนได้เลยค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”

หนานชีหรูอันมองเห็นเส้นเลือดที่อยู่ในดวงตาของเธอ ลังเลคล้ายอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็พยักหน้า เขาเข้าใจความรู้สึกของเธอ จึงไม่ได้เกลี้ยกล่อมอะไรอีก “ได้ครับ ถ้ามีอะไรก็ติดต่อผมได้เลยนะครับ” กล่าวจบก็ลุกขึ้น ฉิงชุ่ยคล้องแขนเขาแล้วเดินออกไปด้วยกัน

ส่วนเจ้าเมืองสามสิบหกคนที่อยู่บนที่นั่งกรรมการกลับยังไม่มีใครลุกไปไหน ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้พวกเขาเป็นกรรมการล่ะ

กระทั่งความหนาวเย็นในช่วงเวลากลางคืนค่อยๆ จับตัว ไป๋หลิงหลงโน้มตัวลงมา กล่าวเสียงแผ่วเบาว่า “เสี่ยวอี๋ ฉันลองคำนวณดูแล้วนะ หนึ่งชั่วยามจะกระแทกประมาณสามร้อยครั้ง ถ้ากระแทกลงมาด้วยความเร็วเท่านี้ ดูแล้วต้องใช้เวลาทั้งหมดประมาณสองถึงสามวัน เมื่อคืนเธอไม่ได้นอนเลย ทนมาจนถึงตอนนี้ ถ้าขืนยังทนดูอยู่แบบนี้ร่างกายจะทนไม่ไหวเอานะ เธอกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันดูอยู่ที่นี่เอง ถ้ามีอะไรจะรีบติดต่อเธอไป”

“เธอคิดว่าฉันกลับไปตอนนี้แล้วจะนอนหลับเหรอ?” ฉินอี๋มองซ้ายมองขวา ตบเก้าอี้ของฉิงชุ่ย “ตรงนี้ไม่มีคน เธอเองก็ไม่ต้องยืนหรอก นั่งลงเถอะ”

เฮ้อ! ไป๋หลิงหลงลอบถอนใจ รู้ว่าเธอคงไม่มีทางพักผ่อนได้ถ้าไม่รู้ผล จึงได้แต่ต้องนั่งลงเป็นเพื่อน จากนั้นหยิบเอายาวิเศษที่พกติดตัวออกมา เทให้ฉินอี๋กินเม็ดหนึ่ง

หลังจากนั้นก็ให้คนเอาผ้าห่มมาให้ผืนหนึ่ง ให้ฉินอี๋ห่มป้องกันความหนาว

เสียงกระแทกภายในหุบเขาดังขึ้นไม่หยุด เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินที่อยู่ในหุบเขาก็รับการกระแทกไม่หยุด ประชาชนที่ชมการถ่ายทอดสดอยู่ตรงหน้าฉากแสงไม่มีความรู้สึกสนใจต่อภาพอันน่าเบื่อหน่ายนี้เช่นกัน ถึงเวลาที่ควรพักผ่อนก็ไปพักผ่อน ถึงเวลาควรไปทำอะไรก็ไปทำอย่างนั้น

…………………………………………………………..

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน