ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 177 หลานไม่รักดี

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 177 หลานไม่รักดี

หลังทำการสำรวจสถานที่ในด้านต่างๆ เสร็จเรียบร้อย ทางตัวแทนของสภาเซียนไม่ติดอะไร ทางเว่ยผิงกงที่เป็นตัวแทนของกองทหารรักษาการณ์ไม่ติดอะไร ทางเมืองปู๋เชวี่ยเองก็ไม่ติดอะไร ดังนั้นสถานที่สำหรับทำการสร้างข่ายพลังของเทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉินจึงได้ข้อสรุปเป็นที่เรียบร้อย

หลังได้ข้อสรุปเรื่องสถานที่ตั้งและขนาดอย่างคร่าวๆ เป็นที่เรียบร้อย ทุกคนก็เดินทางกลับมายังเมืองปู๋เชวี่ย เริ่มทำการวางแผนงานในขั้นต่อไป

หลังเพิ่งกลับมาถึงสำนักงานใหญ่ของหอการค้าตระกูลฉินได้ไม่นาน ทางฉินอี๋ก็ได้รับโทรศัพท์จากหนานชีหรูอัน อีกฝ่ายบอกให้เธอเตรียมรับเงินทุนหนึ่งหมื่นล้านมุก

เห็นได้ชัดว่าตระกูลหนานชีได้เงินมาจากเผิงซีและสวีเฉียนแล้ว

“เร็วขนาดนี้เลยหรือคะ?” ฉินอี๋รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หลังสอบถามไปเล็กน้อยก็รู้สึกโล่งใจ

เพราะว่านี่เป็นเงินจำนวนหนึ่งหมื่นล้านมุก ซึ่งไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ การที่จะฟอกเงินทั้งหมดนี้จำเป็นต้องใช้เวลา ตระกูลหนานชีจึงเอาทรัพย์สินในตระกูลของตัวเองออกมาให้หอการค้าตระกูลฉินก่อน ภายนอกทำเหมือนว่าลงทุนกับทางหอการค้าตระกูลฉิน แต่ความจริงคือเป็นการแทนที่ เดี๋ยวค่อยๆ ฟอกเงินที่ได้มาจากหอการค้าตระกูลโจวกับหอการค้าตระกูลพานแล้วคืนกลับไปให้ทางตระกูลก็พอ ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการใช้เงินทุนของทางหอการค้าตระกูลฉิน

ความจริงทางตระกูลหนานชีได้เงินมาหนึ่งหมื่นสองพันล้านมุก พวกเขาให้เผิงซีกับสวีเฉียนจ่ายเงินมาคนละหกพันล้านมุก แล้วก็มอบให้ทางหอการค้าตระกูลฉินเพียงหนึ่งหมื่นล้านมุก

ฉินอี๋ไม่ได้ซักไซ้อะไรในเรื่องนี้ เพราะไม่ได้มีประโยชน์อะไร นั่นเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายควรได้รับ อีกฝ่ายลงทุนลงแรงก็ควรจะได้สิ่งตอบแทน ทั้งเรื่องกำลังคนที่บาดเจ็บล้มตาย แล้วก็เรื่องการฟอกเงินก้อนนั้นที่ล้วนแต่มีค่าใช้จ่าย ไม่อาจปล่อยให้อีกฝ่ายลงแรงไปเปล่าๆ ได้

อีกฝ่ายเองก็ไม่ได้เอาเปรียบเธอ เธอได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ การที่ทางตระกูลหนานชีไม่ได้ฮุบเอาเงินไปทั้งหมดก็ถือว่าไว้หน้าเธอมากพอแล้ว

แต่แน่นอน การที่อีกฝ่ายไม่ฉวยโอกาสฮุบเงินก้อนนี้ไปก็เป็นเพราะว่าทางหอการค้าตระกูลฉินได้เสนอผลประโยชน์ที่มากกว่าและยั่งยืนกว่าให้อีกฝ่ายได้เห็น ไม่อย่างนั้นหากปล่อยให้อีกฝ่ายฮุบเงินไปแล้วค่อยคายออกมาใหม่ออกครั้ง แบบนั้นมันจะพูดกันลำบาก

หลังฉินอี๋วางโทรศัพท์ลง ไป๋หลิงหลงก็ถอนใจออกมา “เล่นงานอีกฝ่ายขนาดนี้แล้วยังไปเอาเงินเขามาอีก ช้าเร็วอีกฝ่ายก็ต้องรู้ตัว ตระกูลกงหู่กับตระกูลเซียงหลัวเสียหายหนักขนาดนี้ เกรงว่าพวกเขาคงไม่มีทางปล่อยหอการค้าตระกูลฉินไปแน่!”

ฉินอี๋กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “หรือว่าถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ พวกเขาจะปล่อยพวกเราไป?”

ไป๋หลิงหลงกล่าว “มันก็ใช่ แต่ครั้งนี้เราเล่นงานอีกฝ่ายหนักมากจริงๆ นะ!”

ฉินอี๋กล่าว “หอการค้าตระกูลฉินก้าวออกมาแล้ว ถ้าแอบซ่อนไม่ได้ก็ต้องเผชิญหน้า ก่อนหน้านี้เราทำให้ทั้งสองตระกูลนั่นอยู่เฉยๆ ไปได้พักหนึ่ง นั่นได้ซื้อเวลาให้ฉันมากพอแล้ว ตอนนี้สถานการณ์โดยรวมถือว่าเป็นที่แน่นอนแล้ว กองทหารรักษาการณ์ของทางสภาเซียนก็กำลังเดินทางมาที่นี่ ต่อให้ตระกูลกงหู่กับตระกูลเซียงหลัวจะมีอิทธิพลแค่ไหนก็ไม่กล้ามาวู่วามทำอะไรแน่นอน ขอเพียงพวกเราสร้างความแข็งแกร่งให้แก่รากฐานได้ ขอเพียงเรายืนอย่างมั่นคงได้ คอยรับมือไปตามสถานการณ์ เราก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร ท้ายที่สุดแล้วใครจะแพ้ใครจะชนะนั้นมันก็ยังไม่แน่!”

เธอเหลียวหน้ากลับมาเอ่ยเสียงเยือกเย็น “ปล่อยข่าวลือออกไป บอกว่าหอการค้าตระกูลพานกับหอการค้าตระกูลโจวไม่มีเงินเหลือแล้ว!”

……

เหตุการณ์ไล่ล่าสังหารเหตุการณ์หนึ่งได้ทำให้เมืองฝูปอและเมืองเทียนกู่ตกอยู่ในความตื่นตะลึง ถึงแม้การไล่ล่าสังหารจะเกิดขึ้นนอกเมือง แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังทำให้ทางผู้พิทักษ์เมืองรู้ตัว

ด้านหนึ่งกำลังหลบหนี คิดจะหลบหนีออกจากเมือง

มือสังหารอีกฝ่ายหนึ่งเองก็ไม่กล้าลงมืออย่างเอิกเกริกครึกโครมภายในเมือง

แต่ผลปรากฏว่าได้เกิดเรื่องที่ฝ่ายมือสังหารคาดไม่ถึง พวกเขาเจอกองกำลังกลุ่มหนึ่งเข้ามาขัดขวาง ต่อสู้กันชนิดที่ว่าสั่นสะเทือนฟ้าดิน

ทันทีที่กองกำลังของผู้พิทักษ์เมืองเดินทางมาถึง ฝ่ายมือสังหารกับฝ่ายที่เข้ามาขัดขวางไม่กล้าทำให้เรื่องราวมันใหญ่โตจนถึงขั้นที่ยากจะยอมรับได้ ต่างฝ่ายต่างพาคนเจ็บและคนตายแยกย้ายกันหนีไป เหลือไว้เพียงสถานการณ์ที่เละเทะและแปลกประหลาด

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สำหรับบางคนแล้วอาจจะรู้สึกตกใจและสงสัยเป็นอย่างมาก แต่สำหรับคนบางคนแล้ว พวกเขากลับรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร

คนเราต่อสู้กันก็เพื่อผลลัพธ์อะไรสักอย่าง และผลลัพธ์ที่ว่านั้นก็มีเพียงคู่กรณีในเรื่องนั้นเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด

…..

“โจวหม่านเชา แกจะหลบไปถึงเมื่อไรกันแน่ ทำไมถึงไม่ออกมาสักที?”

กงหู่อี้ที่ถือโทรศัพท์เดินกลับไปกลับมาอยู่ภายในสวนโมโหขึ้นมาแล้ว กำลังต่อว่าโจวหม่านเชาอย่างโกรธเกรี้ยว

ก่อนหน้านี้เป็นกงหู่จ้าวที่ติดต่อกับโจวหม่านเชามาโดยตลอด แต่ครั้งนี้เขาทนไม่ไหวแล้วจริงๆ เรื่องราวมันวุ่นวายจนใกล้จะแก้ไขไม่ได้แล้ว จำเป็นต้องให้โจวหม่านเชารีบกลับมาทำการแก้ไขสถานการณ์ในตอนนี้โดยด่วน

โจวหม่านเชากล่าว “แล้วเรื่องที่ท่านเลขารับปากผมเอาไว้ล่ะครับ? ชีวิตของสารเลวเผิงซีล่ะครับ! พวกเราตกลงกันแล้ว ผมต้องได้เห็นไอสารเลวเผิงซีมันตาย เรื่องราวถึงจะถือว่ายุติลง”

กงหู่อี้กล่าว “กงหู่จ้าวบอกแกไปแล้วนี่ เผิงซีมันหนีไปแล้ว ตอนนี้ไม่มีทางหาตัวมันเจอได้ง่ายๆ แกยังจะเอายังไงอีก?”

โจวหม่านเชากล่าว “ด้วยอิทธิพลและอำนาจของตระกูลกงหู่ คนที่ถูกพวกท่านจับตาเอาไว้จะหนีรอดไปได้ง่ายๆ ได้ยังไงครับ?”

เขารู้เรื่องที่เผิงซีถูกตามไล่ฆ่าแล้วหนีรอดไปได้แล้ว แต่เขาก็ได้ยินข่าวลือบางอย่างมาเช่นเดียวกัน ว่านี่อาจจะเป็นหลุมพรางที่ตระกูลกงหู่กับเผิงซีร่วมกันวางขึ้นมา

ถึงแม้ตัวเขาเองก็รับรู้ได้ว่าความเป็นไปได้นี้มีไม่สูงนัก แต่เพราะว่านี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตตัวเอง เขาไหนเลยจะประมาทย่ามใจได้ เขาย่อมต้องทำการตรวจสอบแล้วตรวจสอบอีก ไหนเลยจะยอมเสี่ยงกระโดดลงไปในหลุมพรางได้

เขาตรวจสอบไปตรวจสอบมา กงหู่อี้ก็รอแล้วรอเล่า แต่รอเท่าไรโจวหม่านเขาก็ยังไม่มา นี่จึงทำให้เขาร้อนใจ!

หนึ่งในสามเลขาใหญ่ของตระกูลกงหู่เดินทางมาด้วยตัวเอง แต่ก็ยังจัดการแก้ไขปัญหาไม่ได้ ถ้าขืนยังปล่อยให้เรื่องราวเลวร้ายลงไปกว่านี้ล่ะก็ เขาก็คงไม่รู้จะกลับไปอธิบายกับทางตระกูลอย่างไรเช่นกัน!

กงหู่อี้กัดฟันเอ่ยว่า “มีคนมารับไป! บอกแล้วไงว่ามีคนมารับไป มีคนช่วยเผิงซีหนีไป ฉันจะหลอกแกทำไม?”

โจวหม่านเชากล่าว “ใครกันที่มีความสามารถขนาดนี้ ถึงขนาดขัดขวางการไล่สังหารของตระกูลกงหู่ได้?”

กงหู่อี้กล่าว “โจวหม่านเชา แกโง่ไปแล้วเหรอไง? นี่ยังต้องเดาอีกเหรอ? ใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ก็เป็นฝีมือคนนั้นนั่นแหละ เรื่องแค่นี้แกไม่เข้าใจเหรอไง? คนที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ แล้วยังสามารถใช้งานยอดฝีมือของดินแดนเซียนได้ อีกทั้งสามารถลงมือที่เมืองเทียนกู่ได้ในเวลาเดียวกัน นอกจากตระกูลหนานชีแล้วยังจะมีใครรู้เรื่องเหล่านี้ได้อีก ใครมันยังมีความสามารถที่จะสอดมือเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ได้อีก? พวกเราติดกับอีกฝ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า หรือแกยังไม่ตื่นจากความฝันอีก?”

โจวหม่านเชากล่าว “เดี๋ยวเรื่องพวกนี้ผมย่อมต้องทำการตรวจสอบเอง”

“แกยังคิดจะค่อยๆ ตรวจสอบอีกเหรอ?” กงหู่อี้โมโหจนหัวเราะขึ้นมา “ตอนนี้หอการค้าตระกูลโจวเป็นยังไงแกไม่รู้เหรอ? เผิงซีมันเอาเงินเกือบหมื่นล้านที่หมุนเวียนอยู่ในบัญชีของหอการค้าตระกูลโจวออกไปหมดแล้ว หอการค้าอื่นๆ ได้ข่าวก็พากันกลัวว่าจะขาดทุน พากันมาเร่งเอาเงินค่าสินค้า บอกว่าถ้าไม่ให้เงินก็จะไม่ส่งสินค้าให้หอการค้าตระกูลโจว ถ้าขืนเรายังไม่มีคำอธิบายอีกล่ะก็…นี่แกยังคิดจะรีรอไปถึงเมื่อไร?”

โจวหม่านเชาเองก็โมโหแล้วเช่นกัน “ก่อนหน้านี้ผมเคยบอกแล้วไงว่าให้ระวังเผิงซีมันเอาเงินหนีไป ทำไมพวกท่านถึงไม่ขวางเอาไว้?”

กงหู่อี้กล่าวอย่างโมโห “แล้วแกมัวไปทำอะไรอยู่ล่ะ? ถ้าไม่เป็นเพราะพวกฉันขัดขวางเอาไว้ ตอนนี้หอการค้าตระกูลโจวคงไม่มีปัญญาจ่ายกระทั่งเงินเดือนพนักงานเลยด้วยซ้ำ! ฉันจะบอกอะไรแกให้นะ แกรีบไสหัวกลับมาเลยนะ แค่ควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ก็พอ เรื่องที่ผ่านมาฉันจะไม่ซักไซ้เอาผิด! แต่ถ้าแกยังมัวชักช้าจนแก้ไขอะไรไม่ได้ล่ะก็ ถ้าฉันไม่สามารถมอบคำอธิบายให้กับทางตระกูลได้ล่ะก็ อย่างนั้นแกก็ไม่ต้องกลับมาแล้ว ตระกูลกงหู่ใช่ว่าจะขาดหอการค้าตระกูลโจวไปไม่ได้ซะทีไหน เรื่องนี้ฉันรับผิดชอบไหว ฉันจะรอดูว่าแกจะตายยังไง!”

ดังนั้น โจวหม่านเชาจึงกลับมา

เมื่อเห็นคนที่คุ้นเคยปรากฏตัวขึ้น พนักงานหอการค้าตระกูลโจวที่ยังทำงานอยู่ก็พากันลุกยืนขึ้น เหล่าพนักงานที่พบเจอเหตุการณ์วุ่นวายพากันเอ่ยทักทาย “ท่านประธาน!”

ภายในใจโจวหม่านเชารู้สึกหนักอึ้ง แต่ภายนอกยังคงแสดงออกถึงความเยือกเย็น ยิ้มเล็กน้อยพร้อมพยักหน้าตอบกลับไป

เมื่อเข้าไปนั่งลงในห้องทำงาน เขาก็ยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรออกไปสายแล้วสายเล่า หอการค้าตระกูลโจวก็คึกคักขึ้นมาอย่างรวดเร็วอีกครั้ง

ด้านนอกหอการค้าตระกูลโจวมีรถแล่นเข้ามาอย่างต่อเนือง พนักงานที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ทยอยเดินทางกลับมา กลับเข้ามาทำงานในหอการค้าตระกูลโจวใหม่อีกครั้ง ไม่จำเป็นต้องสั่งการอะไร ต่างกลับไปทำงานในตำแหน่งเดิมของแต่ละคนก่อนหน้านี้

ส่วนในตำแหน่งที่ขาดคน หัวหน้างานที่ได้รับอำนาจก็ดึงเอาคนงานที่ตนเองมองว่าเหมาะสมขึ้นมาทำ

พนักงานเก่าแก่ของหอการค้าตระกูลโจวที่เกษียณออกไปแล้วก็กลับมาเช่นกัน เริ่มใช้เส้นสายทางธุรกิจในอดีตของตัวเองออกมา เพื่อช่วยพาหอการค้าตระกูลโจวให้ก้าวข้ามอุปสรรคในครั้งนี้ไปให้ได้

เมื่อโจวหม่านเชากลับมา เมื่อพนักงานเก่าแก่จำนวนมากกลับมา ความหวาดวิตกภายในหอการค้าตระกูลโจวพลันสงบลง

กงหู่อี้ที่คอยจับตาดูอยู่ลอบรู้สึกโล่งใจ

“พี่ผัง ต้องขอโทษด้วยครับพี่ เผิงซีมันก่อเรื่องวุ่นวายแบบนี้ขึ้นมา พลอยทำให้พี่ต้องเป็นกังวลไปด้วย เรื่องเงินค่าสินค้ามีปัญหานิดหน่อยจริงๆ ครับพี่ แต่ตอนนี้ผมกลับมาแล้ว พวกเราพี่น้องร่วมมือกันมานานหลายปี พี่ยังไม่เชื่อผมอีกเหรอ? เอาอย่างนี้ บริษัทของหอการค้าตระกูลโจวที่อยู่ที่เมืองของพวกพี่ ตอนนี้พี่ผังส่งคนไปเซ็นสัญญาได้เลย ผมจะเอาบริษัทนั้นเป็นเงินมัดจัด ถ้าผมผิดนัดจ่ายเงินไม่ได้ บริษัทนั้นก็เป็นของพี่ไปเลย….ไอหยา ไม่ได้หรอกพี่ เรื่องส่วนตัวมันก็เรื่องส่วนตัว ธุรกิจก็ต้องเป็นธุรกิจ จะเอามาปนกันไม่ได้….ตกลง ในเมื่อพี่ผังพูดมาแบบนี้ อย่างนั้นก็ผมก็ไม่เกรงใจแล้วกัน น้ำใจนี้ผมขอรับไว้ เอาไว้ผมจัดการอะไรๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราค่อยนัดกัน….”

หลังโจวหม่านเชาโทรศัพท์ไปสายแล้วสายเล่า ปัญหาที่มาจ่อตรงหน้าบางอย่างก็คลี่คลายไปอย่างรวดเร็ว

การที่เขาเป็นคนออกหน้าแก้ไขปัญหานั้นได้ผลเป็นอย่างดี แรงกดดันของเหล่าพนักงานเบื้องล่างลดน้อยลงไปอย่างมากทันที

การแก้ไขปัญหาของเผิงซีก่อนหน้านี้ห่างชั้นกับการแก้ไขปัญหาของโจวหม่านเชาในตอนนี้อย่างเห็นได้ชัด

เรียกได้ว่าเป็นความแตกต่างในด้านเส้นสายของทั้งสองคน แล้วก็เรียกได้ว่าเป็นเพราะเผิงซีขึ้นมานั่งในตำแหน่งประธานหอการค้าด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง จึงทำให้หลายๆ คนรู้สึกไม่พอใจ เพราะหอการค้าอื่นๆ ล้วนไม่ได้หูหนวกตาบอด เผิงซีใช้วิธีการแบบนี้ขึ้นมาเป็นประธานหอการค้า หอการค้าอื่นๆ เองก็กลัวว่าคนของตัวเองจะทำเรื่องแบบนี้เหมือนกัน จึงไม่แปลกที่ท่าทีที่พวกเขามีให้เผิงซีจะไม่ค่อยดีเท่าไรนัก

ในที่สุดโจวหม่านเชาที่ทำงานจนดึกดื่นก็ได้พักเสียที เขานั่งพิงพนักเก้าอี้ ใบหน้าเหนื่อยล้า

เขาเองก็ไม่อยากไปเที่ยวขอร้องให้คนอื่นช่วยเหลือเหมือนขอทานเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นเดียวกัน ตอนนี้หอการค้าตระกูลโจวไม่มีเงินทุนให้เอาออกมาใช้ได้แล้วจริงๆ

เขาไปหากงหู่อี้ บอกให้กงหู่อี้ไปขอยืมเงินทุนจากตระกูลกงหู่มาช่วยเหลือหอการค้าตระกูลโจวเป็นการเร่งด่วนก่อนก้อนหนึ่ง แต่ท่าทีของกงหู่อี้หลังจากที่ติดต่อไปทางตระกูลกงหู่กลับดูค่อนข้างคลุมเครือ

โจวหม่านเชาเข้าใจในทันที ตอนนี้หอการค้าตระกูลฉินมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก หอการค้าตระกูลโจวกับหอการค้าตระกูลฉินใครจะแพ้ใครจะชนะนั้นยังไม่อาจรู้ได้ ตอนนี้ผลประโยชน์ที่เคยมีอยู่ไม่เพียงแต่จะเกิดความเสียหายเท่านั้น แต่นี่ยังจะมาให้ตระกูลกงหู่ออกเงินทุนก้อนใหญ่ให้กับผลลัพธ์ที่ยังไม่แน่นอนอีก ตระกูลกงหู่ไม่ยินดีรับความเสี่ยงนี้

อีกฝ่ายยินดีแบ่งปันผลประโยชน์ แต่ความเสี่ยงนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นนี่ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ ด้วย

แต่เขาก็ไม่อาจชักช้ารีรอได้ ในเมื่อไม่อาจคาดหวังในตระกูลกงหู่ได้ เขาจึงได้แต่ต้องคิดหาทางด้วยตัวเอง

เขาลุกขึ้นเดินไปที่ริมหน้าต่าง มองดูแสงไฟระยิบระยับภายในเมืองฝูปอ ในอดีตเขาก็มักจะมายืนมองอยู่ตรงนี้บ่อยครั้ง ครั้งนี้เขาได้กลับมายืนตรงนี้อีกครั้ง ทว่าความรู้สึกกลับแตกต่างออกไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความอ้างว้างและความเศร้าสร้อยที่ยากจะปกปิดเอาไว้ได้

อย่างน้อยพานชิ่งก็หาศพของลูกสาวทั้งสองคนพบ แต่เขาล่ะ ภายหลังเขาถึงได้รู้ว่าศพของผู้หญิงและลูกชายของตัวเองได้ถูกเผิงซีทำลายจนกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว

นี่ต้องเป็นความเคียดแค้นถึงขนาดไหนกัน?

เขาสามารถรับรู้ได้ เผิงซีน่าจะรู้ถึงสถานะและตัวตนของเมิ่งซู่แล้ว!

เพราะเมื่อครู่ก่อนหน้านี้เขาได้รับโทรศัพท์จากโจวหม่านฟางผู้เป็นพี่สาวของตัวเอง โจวหม่านฟางตะโกนถามเขาว่าเมิ่งซู่ใช่ลูกชายแท้ๆ ของเขาไหม?

แล้วจะให้เขาตอบอย่างไร? เขาก็ทำได้เพียงสะกดกลั้นความเจ็บปวด ตอบไปว่าไม่ใช่!

แต่โจวหม่านฟางกลับร้องไห้ออกมา ร้องไห้ออกมาอย่างปวดใจ บอกว่าเขาหลอกเธอ บอกว่าเธอได้รับวีดีโอที่หานชิงเอ๋อร์สารภาพความจริงออกมาในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่แล้ว!

…………………………………………………………

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน