เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 48 ก่อเรื่องอีกแล้ว

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 48 ก่อเรื่องอีกแล้ว

เฟิงอู๋โยวตกใจมาก ขาเป็ดในมือกลายเป็นเผือกร้อนในบัดดล

ถึงแม้นางไม่เคยเจอท่านหญิงจวินฝูมาก่อน แต่ทั่วใต้หล้านี้ต่างรู้ว่าเซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตงหลินรักท่านหญิงจวินฝูขึ้นหิ้ง

จี้มั่วอิ้นเหรินทำหน้าสลดพลางแตะเฟิงอู๋โยว “แม่ทัพเฟิง เจ้าก่อเรื่องใหญ่เข้าแล้ว!”

เฟิงอู๋โยวมองไปที่ขาเป็ดในมือของจี้มั่วอิ้นเหริน แผนการบางอย่างพลันผุดขึ้นทันที

นางยื่นมือที่เยิ้มไปด้วยน้ำมันไปตบไหล่ของจี้มั่วอิ้นเหริน “เสี่ยวอิ้นอิ้น ตอนนี้พวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว พวกเราควรช่วยเหลือกัน ปกป้องกัน และทำงานร่วมกันเพื่อเอาชนะความยากลำบากถึงจะถูกนะขอรับ!”

จี้มั่วอิ้นเหรินส่ายหัวปฏิเสธ “เรื่องอื่นข้าสามารถช่วยเจ้าได้ แต่เรื่องนี้ข้าช่วยไม่ได้! เห็นๆ กันอยู่ว่าเจ้าย่างสัตว์เลี้ยงของจวินฝู ดังนั้นข้าไม่ต้องการรับโทษแทนเจ้า”

“จงกล้าหาญให้สมกับเป็นลูกผู้ชายหน่อยสิขอรับ! ตำแหน่งของฝ่าบาทสูงส่งเช่นนี้ สมควรต้องมีส่วนรับผิดชอบนะขอรับ!”

เพื่อเอาชีวิตรอด เฟิงอู๋โยวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเกลี้ยกล่อมจี้มั่วอิ้นเหรินผู้ไร้เดียงสา “ทั่วใต้หล้าคือดินแดนของราชาฉันใด สรรพสิ่งทั่วใต้หล้าคือของของราชาฉันนั้น บัดนี้ฝ่าบาทเป็นถึงท่านอ๋องผู้สูงส่ง การเสวยเป็ดของท่านหญิงเพียงหนึ่งตัว คิดว่าท่านหญิงจะกล้าดุด่าฝ่าบาทหรือขอรับ”

จี้มั่วอิ้นเหรินพูดขึ้นด้วยสีหน้าซีดเซียว “ข้าหาได้กลัวนางไม่ แต่เจ้าควรรู้ไว้อย่าง เซ่อเจิ้งหวางรักและปกป้องนางเป็นที่สุดและถ้าเขารู้เรื่องนี้เข้า…”

เมื่อพูดได้ครึ่งหนึ่ง อยู่ๆ เขาก็โยนขาเป็ดทิ้ง สองมือพลันกอดอกสั่นระริก

“ฝ่าบาทกลัวเซ่อเจิ้งหวางขนาดนั้นเชียวเหรอ”

“ก่อนที่ท่านปู่จะสิ้นพระชนม์ เขาได้ประทานตราจักรพรรดิและอำนาจการปกครองแคว้นตงหลินให้กับเซ่อเจิ้งหวาง ดังนั้นอำนาจของเซ่อเจิ้งหวางจึงมากกว่าของข้ายิ่งนัก”

เฟิงอู๋โยวนึกในใจ การกระทำเช่นนี้ของท่านอ๋องแห่งแคว้นตงหลินพระองค์ก่อนช่างลึกซึ้งและมองการณ์ไกล

จี้มั่วอิ้นเหรินยังอยู่ในวัยเยาว์ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นครองราชย์และปกครองแคว้นได้อย่างมั่นคง

มีเพียงจวินมั่วหรันผู้ที่ไร้ความทะเยอทะยานอยากเป็นใหญ่ แต่กลับทรงอำนาจและสามารถควบคุมใต้หล้าให้อยู่ในกำมือ สามารถปกป้องดูแลจี้มั่วอิ้นเหรินวัยละอ่อนและปกป้องแคว้นตงหลินได้อย่างมั่นคงผาสุก

“แม่ทัพเฟิง ข้ากลัว”

จี้มั่วอิ้นเหรินบุ้ยปาก ก่อนโน้มตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเฟิงอู๋โยว

เฟิงอู๋โยวยกมือลูบศีรษะน้อยๆ ของเขาอย่างเบามือพลางพูดเสียงขรึม “อย่าได้กลัวเลยขอรับ ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำหลากมาใช้ดินโคลนต้านรับ[1]“

“แผนการครั้งนี้ ควรทำเยี่ยงไรดี”

“ลงมือแล้วต้องทำให้ถึงที่สุด ต่อให้ตายก็ไม่ยอมรับผิด”

เฟิงอู๋โยวกัดขอเป็ดไปอีกสองสามคำ เมื่อท้องอิ่มถึงมีแรง จากนั้นก็เดินไปนั่งหลบมุมอยู่ในสวน ก่อนขุดดินอย่างบ้าคลั่ง

“ต่อให้ตายก็ไม่ยอมรับผิด ถึงแม้จะหน้าไม่อาย แต่ก็ดีกว่าไม่มีวิธีรับมือ”

“ต่อให้ตายก็ไม่ยอมรับผิดอย่างนั้นหรือ”

จี้มั่วอิ้นเหรินพยักหน้าอย่างหนักแน่นและพยายามสะกดความลนลานลง จากนั้นเข้าไปช่วยเฟิงอู๋โยวขุดดินและช่วยกันฝังเปิดที่เหลืออยู่ครึ่งตัวไว้ใต้ต้นอู๋ถง

“เซียงเซียง!”

“เซียงเซียง เจ้าอยู่ไหน”

“ฮือๆๆ เซียงเซียงที่รัก เจ้ารีบออกมาสิ!”

ขณะที่เฟิงอู๋โยวกับจี้มั่วอิ้นเหรินกับฝังร่างเป็ดอยู่นั้น น้ำเสียงใสกังวานของหญิงสาวก็แล่นเข้ามากระทบไม่หยุด

มือเปื้อนดินโคลนของจี้มั่วอิ้นเหรินพลันสั่นเทิ้มราวกับถูกฝ่าฟ้า มันเกร็งกระตุกไม่หยุด

เฟิงอู๋โยวพูดกำชับเสียงขรึม “สงบสติอารมณ์หน่อยขอรับ! เซ่อเจิ้งหวางยังไม่มาเสียหน่อย”

น้ำเสียงของนางยังไม่ทันสิ้นสุดลง จวินฝูก็พาองครักษ์หลายสิบคนกรูกันเข้ามา

เฟิงอู๋โยวเงยหน้ามองจวินฝูผู้งดงามอย่างเงียบๆ

จวินฝูยืนกุมมือ คางเชิดอย่างสง่า พร้อมกับถามเฟิงอู๋โยวด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร “เจ้าเห็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของข้าหรือไม่”

ขณะที่พูดอยู่ ผ้าคลุมไหลขนสัตว์สีแดงบนไหล่ของนางพลันพลิ้วไหว ขับให้ผิวพรรณของนางดูขาวนวลดุจหยก แต่งแต้มความสวยงามจับใจ

เฟิงอู๋โยวปัดเศษดินที่มือออก ก่อนค่อยๆ ลุกขึ้น จากนั้นจึงปริปากเอย “ว่ากันว่าท่านหญิงจวินฝูเลอโฉมอย่างยากจะหาผู้ใดเปรียบได้ในใต้หล้า วันนี้กระหม่อมได้เห็นกับตาตัวเอง ความงดงามช่างสมคำล่ำลือเสียจริงขอรับ”

จี้มั่วอิ้นเหรินรีบเข้ามายืนข้างๆ เฟิงอู๋โยวและพูดเสริมขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อ “ที่แม่ทัพเฟิงพูดเป็นความจริง”

ดูเหมือนว่าคำว่า ‘เห็นคนล้มห้ามเหยียบซ้ำ’ จะต้องใช้ในสถานการณ์ตอนนี้จริงๆ

จวินฝูที่ถูกเฟิงอู๋โยวกับจี้มั่วอิ้นเหรินชื่นชมจนตัวลอย ได้แต่สะกดความดีใจอย่างออกนอกหน้าเอาไว้ สำรวมท่วงท่ากิริยาและถามพวกเขาอย่างสุภาพมากขึ้น “พวกเจ้าเห็นเป็ดที่คล้องสร้อยกุญแจอายุยืนผ่านมาแถวนี้บ้างหรือไม่”

“ไม่ขอรับ”

เฟิงอู๋โยวกับจี้มั่วอิ้นเหรินตอบขึ้นพร้อมกัน

ดวงตาจวินฝูเกิดสั่นไหวขึ้นทันที นางรู้สึกว่าพวกเขาทั้งสองคนดูแปลกๆ

“ไม่เห็นจริงๆ หรือ”

จวินฝูยังไม่วางใจ นางก้าวเข้ามาด้านหน้าเฟิงอู๋โยวสองสามก้าว กระดิ่งที่อยู่ตรงเข็มขัดของนางส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งตามจังหวะย่างเดินของนาง

“ไม่เห็นจริงๆ ขอรับ!”

เฟิงอู๋โยวกับจี้มั่วอิ้นเหรินส่ายหน้าตอบกลับอย่างหนักแน่น

จวินฝูเหลือบมองเฟิงอู๋โยวที่สีหน้าดูเป็นธรรมชาติ ไร้ซึ่งแววผิดปกติแต่อย่างใด

จากนั้นก็เหลือบไปมองจี้มั่วอิ้นเหรินที่ใบหน้าเลอะดินด้านหลังเฟิงอู๋โยว แม้หน้าตาจะดูคุ้นๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีแววผิดปกติบนใบหน้าเช่นกัน

ไม่ใช่ เด็กมอมแมมคนนี้ดูเหมือนจะเป็นอ๋องน้อยคนปัจจุบันไม่ใช่หรือ!

“ฝ่า ฝ่าบาท?”

จวินฝูตั้งสติกลับมาได้ก็ถกกระโปรงขึ้นเล็กน้อยและเดินเข้ามด้านหน้าจี้มั่วอิ้นเหริน ดวงตาเป็นประกาย ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสงสัย

“อืม ข้าเอง” จี้มั่วอิ้นเหรินตอบรับ

“ฝ่าบาทเพคะ ไฉนถึงได้มอมแมมแบบนี้” จวินฝูได้กลิ่นควันบนตัวจี้มั่วอิ้นเหรินเจือจาง ก่อนถอยกลับไปอย่างรังเกียจ

จี้มั่วอิ้นเหรินปั้นสีหน้าเป็นปกติก่อนคลี่ยิ้มตอบกลับ “สองสามวันมานี้ ข้ากำลังค้นหาความลับในการปกครองแคว้นอยู่ ทำให้ไม่มีอาหารตกถึงท้องและไม่ได้อาบน้ำมากหลายวัน”

“เป็นเช่นนี้เอง”

จวินฝูพยักหน้าก่อนโค้งคำนับอย่างหมดความสนใจ “เช่นนั้นเชิญฝ่าบาทค้นหาความลับการปกครองแคว้นต่อเลยแล้วกันเพคะ หม่อมฉันขอตัวก่อนเพคะ”

“ขอท่านหญิงกลับอย่างปลอดภัย” จี้มั่วอิ้นเหรินถอนหายใจอย่างโล่งอกขึ้นในใจ ก่อนตอบกลับ

แกร็ก

จวินฝูเฟิงจะหันกลับไป จู่ๆ ก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้นจากใต้ฝ่าเท้า

นางยกเท้าขึ้นและหลุบตามองที่พื้นอย่างไม่ใส่ใจ

เพียงแวบแรกก็พบกับภาพที่ไม่ชอบมาพากลบางอย่าง

สิ่งของบนพื้นที่หักเป็นสองท่อนนั่น ไม่ใช่กระดูกขาเป็ดหรอกหรือ

“เซียงเซียง?”

จวินฝูค่อยๆ นั่งยองๆ ลง สายตาจ้องมองกระดูกขาเป็ดที่ถูกแทะอย่างไม่เหลือเนื้อหนัง น้ำตาหลั่งรินออกมาทันที

เฟิงอู๋โยวกับจี้มั่วอิ้นเหรินมองหน้ากัน พวกเขาคิดว่าได้ฝังเป็ดไปตลอดกาลแล้ว

แต่คิดไม่ถึงว่าจะสะเพร่าทิ้งเศษกระดูกขาเป็ดเอาไว้อยู่

“ทหาร จงขุดดินในบริเวณนี้ให้ทั่ว!”

จวินฝูร้องไห้พลางยืนพิงองครักษ์ที่อยู่ข้างหลังอย่างไร้เรี่ยวแรง

ไม่รู้เป็นเพราะอะไร อยู่ๆ นางก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่างผุดขึ้นมา หรือว่าเซียงเซียงของนางถูกคนชั่วกินเข้าไปแล้วจริงๆ

เมื่อคิดได้เช่นนี้ จวินฝูจึงกลับมายืนตัวตรงเป็นปกติอีกครั้ง

นางอยากจะเค้นถามจี้มั่วอิ้นเหริน แต่ด้วยยศตำแหน่งของอีกฝ่ายสูงกว่า จึงได้แต่เก็บเอาไว้ในใจ

หลังจากนั้น ความโกรธทั้งหมดก็โหมใส่เฟิงอู๋โยวทันที

นิ้วมือเล็กเรียวของนางชี้ไปที่ปากของเฟิงอู๋โยวที่ยังมันแผล่บอยู่ “เจ้ากินเซียงเซียงของข้าเข้าไปใช่หรือไม่”

“ไม่ใช่ขอรับ”

เฟิงอู๋โยวมองจวินฝูที่ตัวเล็กกว่านางพลางตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติ

ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือของจวินฝูช่างงดงามสะดุดตาจริงๆ แต่พอมองดูดีๆ ก็พบว่าหน้าตาของเขาคล้ายกับจวินมั่วหรันอยู่รำไร

ดวงตาทั้งสองคู่จ้องมองกัน สายตาของเฟิงอู๋โยวสั่นคลอน ถึงแม้นางพยายามจะกลบเกลื่อน แต่ก็ทำได้ยาก ส่วนจวินฝูก็สุดจะกล่ำกลืน นางพยายามฝืนน้ำตาของตัวเองเพื่อไม่ให้ดูอ่อนแอต่อหน้าเฟิงอู๋โยว

หลังจากนั้นไม่นาน เหล่าทหารองครักษ์ของจวินฝูก็เจออะไรบางอย่าง จากนั้นก็พากันขานรายงานสิ่งที่เจอ

“ท่านหญิงขอรับ พบเป็ดย่างครึ่งตัวอยู่ใต้ต้นอู๋ถง”

“มีขนเป็ดสีขาวถูกฝังอยู่ที่แปลงดอกไม้ด้วยขอรับ”

“พบเศษสร้อยกุญแจอายุยืนตรงเนินดินข้างๆ เท้าของท่านหญิงขอรับ”

….

จวินฝูรับนร่างเซียงเซียงมาจากมือขององครักษ์ นางแทบไม่อยากยอมรับความจริงอันโหดร้ายที่เกิดขึ้น ครั้นแล้วก็ร้องไห้ปล่อยโฮออกมาเสียงดังลั่นในทันที

“ฮือๆๆ”

“ช่างโหดร้าย!”

“ท่านพี่! มีคนเถื่อนเหยียบย่ำจิตใจข้า!”

[1] ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำหลากมาใช้ดินโคลนต้านรับ หมายถึงไม่ว่าจะมาวิธีไหนก็รับมือได้

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท