ตอนที่ 237 แย่งชิงเซ่อเจิ้งหวาง
แม้จะพูดไปเช่นนั้น แต่ภายในใตของเฟิงอู๋โยวกลับรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
นางเดินเร็วขึ้นและเร็วขึ้นบนหลังคา ราวกับเดินอยู่บนพื้นราบก็ไม่ปาน
ฟู่เย่เฉินตามหลังนางติดๆ อย่างไม่เร่งรีบ พร้อมมีความคิดชั่ววูบผุดแวบเข้ามาในหัว “อู๋โยว เจ้าไม่ได้ถูกสิงร่างจริงๆใช่หรือไม่”
เขาเกิดมาในตระกูลเป็นอู่จั่ว คนอื่นๆ อาจไม่เชื่อเรื่องการชุบชีวิตวิญญาณจากศพ แต่เขาเคยเห็นเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นกับตาตัวเอง
ดังนั้นเขาจึงเริ่มสงสัยว่าเฟิงอู๋โยวผู้ว่องไว แต่ไม่มีกำลังภายในและไร้วิชาตัวเบา อาจไม่ใช่แม่ทัพผู้กล้าหาญแห่งแคว้นเป่ยหลีก็เป็นได้
“ไม่ใช่ธุระอะไรของเจ้า”
เฟิงอู๋โยวส่ายหัวอย่างเอือมระอา นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนรูปงามอย่างฟู่เย่เฉินจะช่างพูดและถามคำถามเซ้าซี้ได้มากมายขนาดนี้
พูดน้ำไหลไฟดับราวกับผีเจาะปากมาพูด
ฟู่เย่เฉินอมยิ้ม เขาถามเช่นนั้นเพราะแค่สนใจเกี่ยวกับหลักการชุบวิญญาณจากศพเท่านั้น ส่วนเฟิงอู๋โยวตัวจริงจะเป็นวิญญาณมาจากไหน เขาไม่สน
เพราะถึงอย่างไร เขาก็ไม่เคยเจอเฟิงอู๋โยวคนเดิมมาก่อน และเขาก็หลงใหลในนิสัยของเฟิงอู๋โยวผู้ที่อยู่ข้างหน้าตอนนี้เท่านั้น
เฟิงอู๋โยวไม่อยากพูดกับฟู่เย่เฉินเกี่ยวกับการฟื้นคืนชีพของคนตาย และได้แต่มุ่งหน้าไปที่พำนักของเป่ยถางหลีอิน
ทันทีที่ก้าวมาถึงด้านบนหลังคาของห้องนอนด้านในของเป่ยถางหลีอิน เฟิงอู๋โยวก็ได้ยินสาวใช้ส่วนตัวสองคนของเป่ยถางหลีอินพูดถึงตัวนางอย่างมีความสุข
เฟิงอู๋โยวคลี่ยิ้มและพูดอย่างภาคภูมิใจ “ไม่นึกว่าเสน่ห์ของข้าจะรุนแรงขนาดนี้! ข้ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นที่พูดถึงของบรรดาสาวๆ หลังมื้อเย็น”
ด้านในห้อง เป่ยถางหลีอินนั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหาร โดยมีชุนเสี่ยกำลังแต่งหน้าให้นางอยู่ ขณะเดียวกันนางก็เอ่ยปากถามเซ่อเยว่ เสียงเรียบเย็น “เจ้าได้ยินเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเฟิงอู๋โยวและเซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตงหลินมาบ้างหรือไม่”
เซ่อเยว่ส่ายหัว แต่จากนั้นก็พยักหน้าระรัวขึ้นมาราวกับเพิ่งนึกออก ต่อมาก็พูดขึ้นอย่างระมัดระวัง “มีข่าวลือว่าเฟิงอู๋โยวกลายเป็นคนโปรดของเซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตงงหลินไปแล้วเจ้าค่ะ”
“คนโปรด?”
เป่ยถางหลีอินเย้ยหยัน “อย่างเจ้านั่นเนี่ยนะ?”
“หม่อมฉันยังได้ยินมาอีกว่า เฟิงอู๋โยวสามารถเปิดเรือนแพทย์ในพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดของเมืองหลวงแคว้นตงหลินได้ ทั้งหมดก็ล้วนเป็นเพราะได้รับการสนับสนุนอุ้มชูจากเซ่อเจิ้งหวาง”
“เฟิงอู๋โยวเรียนรู้ทักษะทางการแพทย์ตั้งแต่เมื่อไหร่ เจ้าแน่ใจหรือว่าเขาไม่ได้เปิดร้านขายของชำ ข่าวนี้จริงแค่ไหน”
เซ่อเยว่ยกมือสาบาน “เป็นเรื่องจริงแน่นอน ว่ากันว่าเฟิงอู๋โยวรับคนไข้เพียงสามรายต่อวัน แต่ละจ่ายค่ารักษาเบื้องต้นมากกว่าหนึ่งหมื่นตำลึงเงิน”
เมื่อได้ยินว่าเฟิงอู๋โยวหาเงินได้เอง เป่ยถางหลีอินก็กัดฟันอย่างหงุดหงิด “ผู้คนในแคว้นตงหลินถูกหลอกง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ ค่ารักษาเบื้องต้นราคาหนึ่งหมื่นตำลึงเงิน แบบนี้มันมิจฉาชีพชัดๆ”
เซ่อเยว่พูดขึ้นต่อ “เซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นคงหลิน ได้เชิญกู่หนานเฟิงแพทย์วิเศษอัจฉริยะมาช่วยงานเฟิงอู๋โยวด้วยเจ้าค่ะ ว่ากันว่ากู่หนานเฟิงสามารถรักษาคนไข้ได้หลายสิบรายต่อวัน หากเขาพบคนไข้ที่ยากจน จะไม่คิดค่ารักษาสักแดงเดียว ดังนั้นเรือนแพทย์พยากรณ์ที่ว่าไม่เพียงทำเงินเท่านั้น แต่ยังได้รับชื่อเสียงมากมายจากการทำความดีช่วยเหลือผู้คนอีกด้วยเจ้าค่ะ”
เพล้ง!
เป่ยถางหลีอินโกรธจัดจนกวาดถ้วยบนโต๊ะอาหารลงกับพื้นอย่างรุนแรง
นางกัดฟันกรอด “เฟิงอู๋โยว ไฉนเจ้าถึงชอบแย่งชิงทุกอย่างไปจากข้า ไฉนเจ้าถึงได้ดิบได้ดีไปกว่าข้าตลอด”
ณ บนหลังคา ฟู่เย่เฉินถอดกระเบื้องออกสองชิ้น และมองทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในห้องเป็นเพื่อนเฟิงอู๋โยวอย่างสนอกสนใจ
ฟู่เย่เฉินถามเฟิงอู๋โยวอย่างสงสัย “เจ้าแย่งชิงอะไรมาจากนาง ดูจากท่าทางของนางแล้วดูเหมือนจะเกลียดเจ้าเข้ากระดูก”
เฟิงอู๋โยวยักไหล่ “สงสัยเป็นเพราะข้างดงามและโดดเด่นเกินนางกระมัง”
“ไฉนข้ารู้สึกว่าเป่ยถางหลีอินรู้ว่าเจ้าเป็นผู้หญิง”
“นางอาจจะรู้ ข้าแค่ไม่อยากเข้าใจว่าทำไมนางถึงพุ่งเป้ามาที่ข้าตลอด”
เฟิงอู๋โยวจ้องมองเป่ยถางหลีอินอย่างเย็นชา อยู่ๆ ความคิดแปลกๆ ก็ปรากฏขึ้นในใจ
บางทีการที่เป่ยถางหลีอินพุ่งเป้ามาที่นางเช่นนี้ อาจเป็นเพราะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับภูมิหลังของนางก็เป็นไป
ภาพตัดกลับมาภายในห้อง เซ่อเยว่รีบคุกเข่าลงบนพื้นพร้อมกับพูดเสียงสั่น “องค์หญิง โปรดใจเย็นๆ ก่อนเจ้าค่ะ”
“เซ่อเยว่ บอกความจริงกับข้ามาว่าเซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตงหลินชอบเฟิงอู๋โยวจริงหรือ”
“มันเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”
แม้ว่าเซ่อเยว่จะกลัวว่าจะถูกเป่ยถางหลีอินพลอยโกรธไปด้วย แต่นางก็ไม่กล้าโกหกต่อหน้าเป่ยถางหลีอิน
เห็นรูปลักษณ์ที่บอบบางและบริสุทธิ์ของเป่ยถางหลีอินแบบนั้น แต่นางกลับมีวิธีการทรมานผู้คนที่แพรวพราวนัก
หลังจากคุร่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เซ่อเยว่ก็พูดขึ้นต่อ “ไม่เพียงแค่เซ่อเจิงหวางแห่งแคว้นคงหลินเท่านั้นที่หลงใหลเฟิงอู๋โยว แม้จี้มั่วอิ้นเหริน ฮ่องเต้องค์น้อยแห่งแคว้นคงหลินก็ชื่นชอบเขามากเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีองค์ชายจอมหื่นอย่างองค์ชายเฉิน ที่หลังจากได้รับการรักษาโรคดอกหลิวจนหายขาดด้วยฝีมือเฟิงอู๋โยว เขาก็ตกหลุมรักนางอย่างสุดขั้วหัวใจและย่อมทำทุกอย่างเพื่อนาง”
“หุบปาก!”
เป่ยถางหลีอินโกรธจนหน้าแดงก่ำ จากนั้นก็ยกเท้าถีบหน้าอกเซ่อเย่วทันที “นางคนใช้บ้า!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ ชุนเสี่ยจึงรีบเข้าไปปลอบเป่ยถางหลีอิน “องค์หญิงอย่าโกรธไปเลยเจ้าค่ะ บาดแผลบนร่างกายยังไม่หายดี ดังนั้นพยายามอย่าเคลื่อนไหวไปมากกว่านี้เลยนะเจ้าคะ”
“วันที่แผลข้าหายดี วันนั้นเฟิงอู๋โยวคงปีนขึ้นมาบนหัวข้าแล้วกระมัง!” เป่ยถางหลีอินแผดเสียง
“องค์หญิงเจ้าคะ เฟิงอู๋โยวเป็นชายที่ถูกทอดทิ้งจากกรมทหาร ดังนั้นองค์หญิงไม่มีอะไรต้องกลัว สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือสุขภาพของขององค์หญิงเจ้าค่ะ ทั้งนี้ต้องหายให้ทันในวันแสดงครั้งสำคัญของสภาบุหงาที่จะจัดขึ้นในงานเลี้ยงบัณฑิตที่จะถึง”
เป่ยถางหลีอินหายใจเข้าลึกๆ พลางใช้มือปิดแผลที่มีผ้าพันแผลหนาเตอะบนหน้าอก พร้อมกับพึมพำเสียงแผ่ว “ไม่ช้าก็เร็ว ข้าจะแย่งชิงทุกอย่างจากมือของเฟิงอู๋โยว รวมถึงเซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตงหลินด้วย”
ณ บนหลังคา ฟู่เย่เฉินส่ายหัวอย่างเอือมระอา ก่อนพูดกับเฟิงอู๋โยว “ถึงแม้ว่าจวินมั่วหรันจะไม่เข้าใกล้ผู้หญิง แต่เขาก็ยังถูกห้อมล้อมด้วยกลุ่มนกกระจิบและนกนางแอ่นอย่างเย่เชี่ยว เป่ยถางหลีอิน จี้มั่วจื่อหยวน…แล้วเจ้าเป็นใคร เฟิงอู๋โยว คู่แข่งเยอะแบบนี้ สู้รับข้อเสนอข้าไม่ดีกว่าหรือ อยู่ห่างๆ จากจวินมั่วหรัน และแต่งเข้าเรือนฟู่”
“ข้าไม่สนใจเรื่องแต่งงาน”
เฟิงอู๋โยวรู้ดีว่าเป่ยถางหลีอินไม่มีทางจะตกหลุมรักใครง่ายๆ เพราะนางเป็นพวกใช้เหตุผลมากกว่าความรู้สึก
เหตุผลที่นางต้องการชนะใจจวินมั่วหรันมีเพียงข้อเดียวเท่านั้นคือ…เพื่อแย่งชิงทุกอย่างไปจากเฟิงอู๋โยว
หลังจากนั้นไม่นาน เป่ยถางหลีอินก็สงบลงและกลับมานั่งที่หน้าโต๊ะอาหาร ก่อนถามเซ่อเย่วเสียงเย็น “เจ้าพอจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับความชอบของเซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตงหลินหรือไม่”
“ความชอบของเซ่อเจิ้งหวางเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้เลยเจ้าค่ะ ทั้งหมดที่ข้ารู้ก็คือดูเหมือนเซ่อเจิ้งหวางจะชอบเฟิงอู๋โยวเอามากๆ และเขามักจะใช้เวลาอยู่ที่เรือนแพทย์พยากรณ์”
“รีบไปเตรียมชุดบุรุษมาให้ข้าหน่อย”