เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 341 ปฏิบัติการแทนพระพันทีหลวง

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 341 ปฏิบัติการแทนพระพันทีหลวง

“เฟิงอู๋โยว เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาก่อเรื่องที่ตำหนักคุนหนิง ข้าจะออกคำสั่งประหารเจ้าเสีย!”

“แนวนอนก็ตาย แนวตั้งก็ตาย มิสู้ลากผู้อยู่เบื้องหลังร่วมเส้นทางสู่น้ำพุใต้ธรณีไปด้วยกัน”

เฟิงอู๋โยวยกเท้าข้างหนึ่งวางบนบัลลังก์พญาหงส์เคลือบทองแวววาว จ้องเขม็งไปที่พระพันปีหลวงเห่อเหลียนที่กำลังตระหนกตกใจ พร้อมกับพูดเน้นย้ำ “ขอทูลถามพระพันปีหลวง ท้าวนางกุ้ยหยามหมิ่นขุนนางในราชสำนักเป็นที่อับอายอย่างโจ่งแจ้ง ขอกระหม่อมสั่งสอนบทเรียนแทนพระพันปีหลวงจะได้หรือไม่พะย่ะค่ะ”

น้ำเสียงของนางเยือกเย็นฉับพลัน คิ้วแก้มอมยิ้ม แม้ไม่โกรธแต่น่าเกรงขาม

พระพันปีหลวงเห่อเหลียนเหลือบมองทหารองครักษ์พกดาบที่ตะลึงเป็นไก่ตาแตกอยู่หน้าตำหนัก พลันตวาดอย่างโมโห “ยืนทื่ออยู่ตรงนั้นทำอะไร รีบคุ้มกันเร็วเข้า!”

เฟิงอู๋โยวตอบกลับอย่างเรียบนิ่ง “ขอพระพันปีหลวงโปรดอย่ากังวล กระหม่อมเคยนำทัพออกศึกด้วยตัวเอง กระหม่อมจะปกป้องพระพันปีหลวงอย่างสุดกำลังพะย่ะค่ะ”

“เฟิงอู๋โยว เจ้ากล้าดียิ่งนัก!”

พระพันปีหลวงเห่อเหลียนนั่งหลังตรงหน้าซีดอยู่บนบัลลังก์พญาหงส์เคลือบทองแวววาว พระหัตถ์ใต้แขนเสื้อสั่นเล็กน้อย

“ขอบพระคุณสำหรับคำกล่าวชมเป็นล้นพ้น กระหม่อมเป็นถึงแม่ทัพใหญ่แห่งทัพทหารม้า ย่อมกล้าดีกว่าคนทั่วไป”

ทันทีที่เฟิงอู๋โยวพูดจบ นางก็หันกลับมามองทันที ดวงตาทรงกลีบดอกท้ออันเฉียบคมกวาดมองทหารองครักษ์พกดาบที่ตื่นตระหนกอยู่ด้านหน้าตำหนัก “พระพันปีหลวงทรงหวาดกลัว อารมณ์ไม่คงที่เป็นอย่างยิ่ง ผู้ใดก็ตามที่กล้าก้าวมาข้างหน้าแม้แต่ก้าวเดียว ด้วยอำนาจแม่ทัพใหญ่จะถือว่าเป็นกบฏ ต้องโทษประหารสถานเดียว”

“นี่มัน…”

ใบหน้าหัวหน้าองครักษ์ที่พกดาบแสดงความลำบากใจ เขาพยายามอย่างเต็มที่จะโน้มน้าวตัวเองว่าการที่เฟิงอู๋โยวยืนอยู่ต่อหน้าพระพักตร์พระพันปีหลวงเห่อเหลียนเช่นนี้ เป็นแค่การปลอบอารมณ์ของพระพันปีหลวงเท่านั้น

เพียงแต่ พระพันปีหลวงทรงหวาดกลัวจนพระพักตร์ซีดเผือด ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อาจแสร้งทำเป็นไม่เห็นได้

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หัวหน้าองครักษ์ก็พูดขึ้นอย่างระมัดระวัง “ท่านแม่ทัพเฟิง ขออย่าได้หุนหันพลันแล่น ท่านถูกสงสัยว่าวางแผนสังหารองค์ฮ่องเต้ หากท่านก่ออาชญากรรมอีก ข้าเกรงว่าแม้แต่เซ่อเจิ้งหวางก็ไม่อาจปกป้องท่านได้”

“แม่ทัพผู้นี้ภักดีและพร้อมปกป้ององค์ฮ่องเต้ ท่านพูดได้เยี่ยงไรว่าข้ากำลังก่ออาชญากรรม นอกจากนี้ ก่อนที่ฮ่องเต้จะฟื้นตื่นขึ้น พวกเจ้ากลับด่วนตัดสินเอาผิดแม่ทัพผู้นี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีคนอิจฉาที่องค์ฮ่องเต้โปรดปรานข้าแต่เพียงผู้เดียว”

พระพันปีหลวงเห่อเหลียนทรงถูกเฟิงอู๋โยวยั่วโมโหจนควันออกหู นางกัดฟันด้วยความโกรธและตรัสขึ้น “เฟิ่งจือหลินแห่งแคว้นเป่ยหลี ไฉนถึงได้กำเนิดบุตรป่าเถื่อนไร้การสั่งสอนเยี่ยงเจ้า”

ปึ่ง!

เฟิงอู๋โยวตบโต๊ะด้วยมือข้างเดียว แววหงุดหงิดปรากฏขึ้นดวงตา

พระพันปีหลวงเห็นเช่นนั้น อยู่ๆ ลำคอก็แห้งผาก และกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว “เจ้า…เจ้าคิดจะทำอะไร”

เฟิงอู๋โยวไม่ตอบ แต่โน้มตัวเล็กน้อยและรินชาใส่แก้วอย่างไม่รีบร้อย “ชาหนึ่งแก้ว พร้อมอำนาจที่ให้กระหม่อมปฏิบัติการแทนพระพันปีหลวง”

สีหน้าของพระพันปีหลวงเห่อเหลียนฉายแววหวาดกลัว เป็นการยากที่จะรักษาความสงบบนใบหน้า นางตรัสขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและวาจาตะกุกตะกัก “เฟิงอู๋โยวมีอะไรก็พูดกันดีๆ”

“พระเนตรของพระพันปีหลวงแจ่มแจ้งดุจคบเพลิง เที่ยงธรรมเคร่งครัด คล้ายกับว่าสามารถชำระล้างความคับข้องใจของกระหม่อมได้”

“เจ้า…เจ้ามีความคับข้องใจอันใด”

ดวงตาอันเฉียบคมของเฟิงอู๋โยวมองไปที่ด้านหน้าตำหนัก นางเบ้ปากให้จวินฝู “วันนี้ กระหม่อมไม่ได้พบกับสาวใช้ข้างกายของท่านหญิงจวินฝู ทว่าหญิงกลับยืนยันอย่างหนักแน่นว่ากระหม่อมเป็นฝ่ายทำร้ายสาวรับใช้ข้างกาย ภายในใจของกระหม่อนรู้สึกไม่ยุติธรรมเป็นยิ่งนักและแอบร้องไห้หลายรอบในกลางดึกอันไร้ผู้คน”

จวินฝูยกมือทั้งสองข้างปิดแก้มอันร้อนฉ่าของตัวเอง นางกระโดดอย่างโมโห “เฟิงอู๋โยว เจ้าพูดโป้ปดมดเท็จ เห็นๆ อยู่ว่าวันนี้หรงชุ่ยเพิ่งเผชิญหน้ากับอันตรายอันเกินหยั่ง เจ้าหาเวลาที่ไหนมาแอบร้องไห้หลายรอบในกลางดึกอันไร้ผู้คน”

“หลังจากถูกท่านหญิงใส่ร้าย โลกทั้งใบของแม่ทัพผู้นี้ก็เหลือเพียงความมืดมิด สำหรับแม่ทัพผู้นี้ กลวงวันก็เหมือนเป็นกลางคืน”

มุมปากพระพันปีหลวงเกร็งกระตุก นางคิดว่าคนหน้าด้านไร้ยางอายอย่างเฟิงอู๋โยวควรถูกจับเฉือนเนื้อทีละชิ้นตอนเป็นๆ!

แต่น่าเสียดาย นางรักชีวิตตัวเองเป็นที่สุด

เพื่อรักษาชีวิตตัวเอง พระพันปีหลวงจึงทำได้แค่ยอมสละจวินฝูไป

หลังจากครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ พระพันปีหลวงเห่อเหลียนก็ทรงกำชับทหารองครักษ์ในตำหนักด้วยน้ำเสียงเย็นเรียบ “ท่านหญิงจวินฝูใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักด้วยเจตนามุ่งร้าย ต้องรับโทษเฆี่ยนร้อยหวาย”

จวินฝูตะลึงงัน นางคิดว่าพระพันปีหลวงเห่อเหลียนเกลียดเฟิงอู๋โยวมากพอๆ กับนาง ไม่คิดว่าพระพันปีหลวงเห่อเหลียนจะเป็นคนขี้ขลาดเช่นนี้!

“ขอพระพันปีหลวงโปรดเมตตา!”

จวินฝูจงใจเอามือป้องหน้าท้องตัวเองพลางสะอื้นไห้ “สิ่งที่ฝูเอ๋อร์พูดเป็นความจริงทั้งหมด ไม่มีเจตนาพูดเกินจริงอย่างแน่นอน ขอพระพันปีหลวงโปรดพิจารณาด้วยเจ้าค่ะ”

เฟิงอู๋โยวเผยยิ้มยิงฟัน พลางจิบชาในแก้วอย่างใจเย็นและเติมชาอีกครึ่งถ้วยให้ตัวเอง

เมื่อเห็นเช่นนั้น พระพันปีหลวงเห่อเหลียนก็ตระหนักได้ว่าจวินฝูกำลังตั้งครรภ์เลือดเนื้อของหยุนเฟยไป๋อยู่ นางจึงเปลี่ยนคำพูด “จวินฝู เป็นความจริงที่เจ้าให้ร้ายแก่ขุนนางในราชสำนัก เห็นแก่เจ้าที่กำลังตั้งครรภ์ เว้นโทษเฆี่ยนตี หากแต่ความผิดเล็กน้อยก็จำเป็นต้องลงโทษ เพียงแค่คุกเข่าบนแผงเข็มเป็นเวลาหนึ่งเค่อเป็นการชดเชยให้แม่ทัพเฟิง”

“พระพันปี…”

จวินฝูส่ายหน้าปฏิเสธ สายตาก็มองไปที่แผงเข็มที่นางกำนัลจากตำหนักคุนหนิง ถือมาด้านหน้า นางสั่นสะท้านไปทั้งตัวด้วยความกลัว ขาทั้งสองข้างพลันอ่อนแรงลงเรื่อยๆ

เฟิงอู๋โยวเลิกคิ้วมองความทุกข์ของจวินฝูอย่างเป็นสุข

สำหรับคนโง่เง่าไร้ยางอายพรรค์นี้ที่คิดท้าทายความอดทนของเฟิงอู๋โยวซ้ำแล้วซ้ำเล่า สมควรใช้ความรุนแรงด้วย

“อ๊าย…”

หลังจากนั้นไม่นาน จวินฝูก็ถูกทหารองครักษ์พกดาบทั้งสองคนหิ้วแขนทั้งสองข้างนำเป็นวางบนแผงเข็ม

เข็มเหล็กยาวหนึ่งนิ้วแทงทะลุเนื้อของจวินฝู และแทงเข้าไปที่กระดูกหัวเข่าของนาง ทำให้เธอกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

แม้ว่าเฟิงอู๋โยวจะกังวลว่าจวินมั่วหรันอาจจะตำหนินางที่ทรมานจวินฝูอย่างไร้ความปราณี แต่นางก็อดทนกับจวินฝูมาหลายครั้ง แล้วถ้าไม่สอนบทเรียนจวินฝู ตัวเองก็คงจะรู้สึกเสียใจกับตัวเองเช่นกัน

เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของจวินฝู ความคับแค้นในใจของเฟิงอู๋โยวก็สลายไปในที่สุด

นางเอ่ยเสียงเรียบ “ท่านหญิงจวินฝูจงอย่าตำหนิพระพันปีหลวง การกระทำของพรพระพันปีหลวงล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์ของเจ้าเอง ในอีกไม่กี่เดือน เมื่อเจ้าคลอดบุตร ความเจ็บปวดจากการคลอดบุตรย่อมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตอนนี้คุกเข่าบนแผงเข็มเพื่อเตรียมตัวเตรียมใจก่อนการคลอดบุตรในอีกไม่กี่เดือนให้หลัง”

“เฟิงอู๋โยว สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เหนือศีรษะเพียงสามคืบ! เจ้าคอยดูเถิด”

จวินฝูเจ็บปวดจนสะท้านไปทั้งตัว เวลาเพียงครู่เดียว เหงื่อที่แก้มของนางก็ไหลรวมกับน้ำตาจากเบ้ากลายเป็นเนื้อเดียวกัน

เหงื่อเค็มเหมือนน้ำเกลือไหลลงบนหน้าบวมๆ เจ็บจนอยากเอาหัวโขกเสาให้มันจบๆ ไป

“พูดให้น้อยลงสักสองประโยคดีไหม ปากเล็กเห่าเก่งแบบนี้ มองเยี่ยงไรก็น่าตบตี”

เฟิงอู๋โยวยกนิ้วทาบบนปากสั่งให้เงียบ จากนั้นนั่งลงบนโต๊ะหินลายมังกรบุหงาด้านหน้าพระพักตร์พระพันปีหลวงเห่อเหลียน และมองพระพักตร์อย่างได้เปรียบ

ต่อให้สีหน้าของนางจะเป็นปกติและไม่เอ่ยคำใด แต่รังสีรุนแรงที่แผ่ออกมา เหมือนขู่ให้พระพันปีหลวงเห่อเหลียนตกใจมากจนไม่กล้าพูด

“สถานการณ์ของฮ่องเต้เป็นเยี่ยงไรบ้างพะย่ะค่ะ”

“หมดสติยังไม่ฟื้น กำลังตกอยู่ในอันตราย” พระพันปีหลวงเห่อเหลียนแสร้งทำเป็นถอนหายใจ นางค่อยๆ ยกมือและใช้ผ้าเช็ดหน้าปักผ้าไหมสีทองขึ้นปาดน้ำตาที่ไม่มีอยู่จริงออกจากหางตา

เฟิงอู๋โยวชำเลืองมองภาพปักรูปเป็ดไก่ในบึงน้ำบนผ้าเช็ดหน้าอย่างไม่เข้าใจ

ทั้งที่ดูสูงส่งทรงสง่า แต่กลับปักภาพเป็ดไก่อะไรไม่เข้าเรื่อง

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท