ตอนที่ 363 เป่ยถางหลงถิงเกิดสงสัย
หรือว่าฆาตรกรคือเป่ยถางหลีอิน?
ไม่!
เป็นไปไม่ได้!
เป่ยถางหลงถิงส่ายหน้าไปมา ข้าไม่เชื่อเด็ดขาด เป่ยถางหลีอินไม่กล้าเหยียบมดตายแม้แต่ตัวเดียว แล้วจะกล้าลงมือฆ่าคนได้เยี่ยงร
แต่ความจริงกับสิ่งคาดหวังมักตรงกันข้ามเสมอ
ต่อมา เขายังพบปิ่นหยกอันหนึ่งตกอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง
ปิ่นหยกอันนั้นเป็นของขวัญวันเกิดที่เขามอบให้เป่ยถางหลีอินเองกับมือ
สมองของเป่ยถางหลงถิงว่างเปล่า อยู่ๆ รู้สึกเหมือนโดนฟ้าฝ่า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป่ยถางหลีอินเป็นคนฆ่าหลิ่วหยวน
เขาไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่อ่อนโอนมาตลอดอย่างเป่ยถางหลีอินกลายเป็นฆาตกรโหดเหี้ยม
เขาไม่อยากจะเชื่อว่าบุตรีสุดที่รักที่เขาทะนุถนอมมาสิบกว่าปี คือแมวดาวที่สับเปลี่ยนเป็นรัชทายาทในบทของหลิ่วหยวน
“ฝ่าบาท?”
ทหารองครักษ์รีบก้าวเท้ามาด้านหน้า เรียกสติของเป่ยถางหลิงถิงที่กำลังตกอยู่ในภวังค์เสียงเบา
เป่ยถางหลงถิงตั้งสติกลับมา แล้วแอบลบตัวหนังสือ ‘อิน’ ที่ฝ่ามือของหลิ่วหยวน
“ฮ่องเต้แห่งแคว้นเป่ยหลี คดีนี้มีข้อสงสัยอยู่หลายประการ ขอฝ่าบาทตามพวกกระหม่อมมาด้วยขอรับ” ทหารองครักษ์พูดขึ้นอย่างนอบน้อม
“อืม”
เป่ยถางหลงถิงพยักหน้าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อาศัยจังหวะที่ไม่ใครสังเกต รีบทำลายปิ่นหยกที่ตกอยู่ที่มุมห้องนั้นเป็นผุยผง
ณ ศาลต้าหลี่
เป่ยถางหลงถิงนั่งกลัดกลุ้มอยู่ในศาลตาหลี่ ไม่เหมือนคนที่เคยสดใสร่าเริงเหมือนที่ผ่านมา แค่คืนเดียวเหมือนแก่ลงไปเป็นสิบปี
สิบเจ็ดปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยคิดสงสัยในตัวตนของเป่ยถางหลีอิน
แต่วันนี้ การตายอย่างมีเงื่อนงำและน่าอนาถของหลิ่นหยวนเหมือนส่งสัญญาณเตือนบางอย่างให้กับเขา
วันที่หลิงซู่ซู่คลอด เนื่องจากเขายังติดภารกิจอยู่ จึงไม่ได้อยู่ข้างกายนาง
หลังจากที่เขารีบเสร็จภารกิจและกลับมายังห้องบรรทม หลิงซู่ซู่คุยกับเขาแค่ประโยคเดียวแล้วก็สิ้นใจ
เวลาเดียวกัน ท้าวนางตระกูลหลิ่วก็วิ่งชนเสาจบชีวิตตัวเองหลังจากปล่อยมือออกจากหลิงซู่ซู่
ตอนนั้น เขาไม่คิดเลยว่าการตายของตระกูลหลิ่วมีอะไรแปลก
แต่เมื่อถึงคราวที่หลิ่วหยวนต้องไปยมโลกเพียงเพราะบทสั้นบทเดียว เป่ยถางหลงถิงก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกต่อไป
บางทีหลิ่วหยวนอาจจะเป็นทายาทของตระกูลหลิ่วก็เป็นได้
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ในใจของเป่ยถางหลงถิงก็ยุ่งเหยิงพัลวันเข้าไปอีก
ถ้าสมมุติว่าเป่ยถางหลีอินไม่ใช่บุตรีของเขากับหลิงซู่ซู่ แล้วบุตรีที่แท้จริงของเขาอยู่ที่ใด?
ตายไปในวังกลวงเป่ยหลีเมื่อสิบเจ็ดปีที่แล้วหรือยังมีชีวิตอยู่ดี
ภาพเฟิงอู๋โยวในสภาพผมเผ้ากระเซะกระเซิงลอยขึ้นมาในหัวของเป่ยถางหลงถิง
หรือว่าเฟิงอู๋โยวคือลูกที่แท้จริงของเขากับหลิงซู่ซู่
ไม่!
เป็นไปไม่ได้!
ในใจของเป่ยถางหลงถิงรู้สึกผิดกับเฟิงอู๋โยว
เขาหวังว่าเขากับเฟิงอู่โยวจะไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือดกันแม้แต่น้อย
แต่ไม่รู้เพราเหตุใด ในเวลานี้ ในหัวของเป่ยถางหลงถิงถึงเต็มไปด้วยภาพใบหน้าเฟิงอู๋โยวที่แข็งกร้าวตอนที่ถูกเขาทำร้าย
ตอนที่อยู่ในกองทัพของแคว้นเป่ยหลี การเค้นถามของเขาทำให้นางน้ำตาคลอเบ้า แต่ก็ยืนหยัดโต้แย้งให้ตัวเองเสียงหนักแน่น
ตอนที่มายังแคว้นตงหลินช่วงแรกๆ ในหัวของเป่ยถางหลงถิงเต็มไปด้วยโทสะ เป็นเหตุให้พาเป่ยถางหลีอินตามไปแก้แค้นเฟิงอยู่โยว
เขาลืมภาพสายตาเฟิงอู๋โยวที่สะท้อนความยินดีตอนเจอเขาไปเสียสนิท มิหนำซ้ำยังลงมือกับนางอย่างไม่ออมมือจนบาดเจ็บหนัก
ไม่กี่วันก่อน เพื่อระบายอารมณ์แทนเป่ยถางหลีอิน เขาบุกเข้าไปยังเรือนแพทย์พยากรณ์กลางดึก ไม่สืบสาวราวเรื่องใดๆ บังคับให้เฟิงอู๋โยวคุกเข่าต่อหน้าเขา
หากไม่ใช่เพราะไป๋หลี่เหอเจ๋อมาทันเวลา เฟิงอู๋โยวคงถูกเขาทรมานบาดเจ็บไปทั่วร่างแน่นอน
…
เป่ยถางหลงถิงรู้สึกหัวใจอ่อนแรงเหมือนหายใจไม่ออก
ไม่นานนัก ขุนนางศาลต้าหลี่ก็รับรู้คดีที่เกิดขึ้น ณ เรือนพำนัก และรีบตั้งหน้าถ่อมาอย่างกระหืดกระหอบ
เมื่อก้าวเท้าเข้ามายังกลางห้องโถงพิพากษาแห่งศาลต้าหลี่ ทันทีที่เห็นเป่ยถางหลงถิงนั่งอยู่ ขุนนางแห่งศาลต้าหลี่ก็ฝืนทำตัวกระปรี้กระเปร่า สีหน้ายิ้มแย้ม “ท่านฮ่องเต้แห่งแคว้นเป่ยหลีอย่าได้กังวลใจไป รอให้มือชันสูตรพิสูจน์ศพของหลิ่วหยวนก่อน ขอท่านกลับไปพักที่เรือนพำนักก่อนเถิดขอรับ”
ระหว่างที่พูดอยู่ ทหารสี่คนก็นำศพที่ตายอย่างมีเงื่อนงำของหลิ่วหยวนเข้ามากลางห้องโถง
ฟู่เย่เฉินที่เพิ่งกลับออกมาจากคุกสวรรค์แห่งศาลตาหลี่ต้องถูกเชิญตัวมายังห้องโถงพิพากษาอีก
มือหนึ่งถือพัดโบกไปมา ดวงตานกการเวกกึ่งยิ้มกึ่งหุบฉายแววดูถูก
เป่ยถางหลงถิงทำร้ายเฟิงอู๋โยวหลายครั้ง ฟู่เย่เฉินไม่มีทางลืมลง
ถ้าเป่ยถางหลงถิงเป็นคนลงมือฆ่าจริงๆ เขาจะทำให้เลือดจะต้องชดใช้ด้วยเลือดแน่นอน
แต่หลังจากการชันสูตรเสร็จ ฟู่เย่เฉินกลับมีสีหน้าดูผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด
การตายของหลิ่วหยวน ไม่เกี่ยวกับเป่ยถางหลงถิงแน่นอน
เขามีบาดแผลทั่วร่างกาย ก่อนตายคงโดนทารุณจากการทุบตีอย่างโหดเหี้ยม
จากการสำรวจบาดแผลลึกตื้นที่เกิดขึ้น ฟู่เย่เฉินมั่นใจได้ว่าคนที่ทำร้ายหลิ่วหยวนไม่ได้มีแค่คนเดียวแน่นอน
เป็นที่ทราบกันดีว่าวรยุทธ์โบราณของเป่ยถางหลงถิงนั้นบรรลุขั้นสุดเพียงใด
แค่ปลายนิ้วเดียวก็สามารถปลิดชีวิตหลิ่วหยวนได้แล้ว คงไม่ได้จำเป็นต้องเปลืองแรงหาคนมาทำร้ายเขาแบบนี้
ขุนนางของศาลตาหลี่เห็นฟู่เย่เฉินเงียบไปนาน ในใจจึงเกิดความสงสัยและรีบถามขึ้น “พบเบาะแสอะไรบ้างหรือไม่ขอรับ”
ฟู่เย่เฉินคลี่ยิ้ม หางตายกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสองข้างมองไปยังเป่ยถางหลงถิงที่กำลังนั่งกลัดกลุ้มอยู่ ก่อนพูดอย่างเน้นย้ำ “ชื่อของฆาตรกร เขียนไว้ที่ฝ่ามือของหลิ่วหยวนแล้วใช่หรือไม่ ท่านฮ่องเต้แห่งแคว้นเป่ยหลี”
“ท่านมือชันสูตรฟู่หมายความว่าเยี่ยงไร”
“ฝ่าบาททราบดีอยู่แล้ว ก่อนที่จะหลิ่วหยวนจะตาย ฝ่ามือของเขาเขียนชื่อฆาตกรด้วยของมีคมอย่างเช่นปิ่นหยก แต่น่าเสียดาย มีบางคนตั้งใจจะทำลายหลักฐานทั้งหมดไปแล้ว”
ขุนนางแห่งศาลตาหลี่ยิ่งฟังยิ่งงง จึงรีบถามต่อ “มีวิธีการใดหรือไม่ที่จะทราบได้ว่าที่ฝ่ามือของหลิ่วหยวนเขียนไว้ว่าอะไร”
ฟู่เย่เฉินไม่ตอบ สายตาของเขามองเป๋ยถางหลงถิงอย่างไม่ละสายตาและลอบสังเกตสีหน้าของเขาอยู่อย่างเงียบๆ