ตอนที่ 377 ขออภิเษกสมรส / ตอนที่ 378 เป็นลมหมดสติ
ตอนที่ 377 ขออภิเษกสมรส
ไม่กลัว
เฟิงอู๋โยวยักไหล่ เพราะนางไม่มีสิ่งนั้น มีอะไรที่จะต้องกลัว
แต่ทว่า เมื่อลองคิดดูอีกครั้ง เฟิงอู๋โยวก็หันกลับมากล่าวกับหยุนเฟยไป๋อย่างจริงจังว่า “หากพบกันในวันข้างหน้า? รัชทายาทหยุนฉิน ท่านแน่ใจว่าท่านไหวนะ ถ้าหากว่าไม่ไหว ‘ชีวิตนี้ยังอีกยาวไกล’ ‘รู้จักกันนานจนเกิดความรัก’ ‘วันแล้ววันเล่า’ คำที่มีความหมายลึกซึ้งเหล่านี้ ทางที่ดีท่านอย่าใช้เลย เดี๋ยวจะทำให้สตรีทั้งหลายหลงดีใจเสียเปล่า”
“นี่เจ้า!”
หยุนเฟยไป๋โมโหจนลิ้นคด ถ้าหากไม่มีจวินมั่วหรันอยู่เขาคงอยากจะสับนางออกเป็นชิ้นๆ แน่นอน
ผ่านไปพักใหญ่ทุกคนถึงได้เข้าใจความหมายแฝงที่เฟิงอู๋โยวสื่อ
“ที่แท้ความไม่เข้ากันยังมีความหมายนี้ซ่อนอยู่”
“‘รู้จักกันนานจนเกิดความรัก’ คำนี้ ใช้ได้เหมาะสมยิ่งนัก ไม่คิดเลยว่า แม่ทัพเฟิงจะเล่าเรื่องตลกสัปดนได้หน้าตายเช่นนี้”
“แม่ทัพเฟิงเป็นบุคคลที่น่าอัศจรรย์จริงๆ เล่นเอารัชทายาทหยุนฉินโมโหจนหน้าดำหน้าแดง”
…
ขุนนางแห่งแคว้นตงหลิงออกท่าทางเหมือนกำลังดูละครฉากหนึ่งอย่างออกรส ใบหน้าเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยถากถางหยุนเฟยไป๋ที่นอนอยู่ในราชรถหยก
หลายปีมานี้แคว้นหยุนฉินมักมีเหตุขัดแย้งตามแนวเขตชายแดนระหว่างแคว้นหยุนฉินกับแคว้นตงหลินอยู่เนืองๆ ขุนนางแคว้นตงหลินมักจะมีการกล่าวถึงอยู่ตลอด
วันนี้ได้เห็นความเสียเปรียบของหยุนเฟยไป๋ด้วยตาตัวเอง ทุกคนเลยไม่อยากที่จะปิดบังสีหน้าเก็บอาการ เหลือแค่ชี้นิ้วไปยังเป้าของหยุนเฟยไป๋แล้วหัวเราะเยาะเท่านั้น
นัยน์ตาสีม่วงของหยุนเฟยไป๋ดูสดใส แต่แววตากลับเต็มไปด้วยแรงอาฆาต
เขาจ้องเขม็งไปที่สีหน้าขี้เล่นแบบไม่เลิกราของเฟิงอู๋โยว กล่าวเน้นทีละคำทีละประโยคว่า “เฟิงอู๋โยว เจ้าอย่าได้ตกอยู่ในมือข้าเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้น…”
“ไม่เช่นนั้นจะทำกระไรหรือ? องค์รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉิน ท่านยังอยากจะทำเรื่องที่ยังไม่จบเมื่อคืนต่อหรือ?”
สายตาของเฟิงอู๋โยวดูเหยียดหยาม ดวงตาสองข้างจ้องเขม็งมายังเป้ากางเกงที่มีบาดแผลของเขา
หยุนเฟยไป๋สีหน้าดำจนเขียว เอามือกุมบริเวณบาดแผลด้วยความปวดใจ น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความโมโหสุดขีด “พาข้ากลับตำหนักไปพักผ่อน”
“ขอรับ”
องครักษ์พกดาบสี่นายตอบรับหยุนเฟยไป๋อย่างระมัดระวัง เกรงว่าจะไปทำให้หยุนเฟยไป๋โกรธขึ้นมาอีก จึงรีบยกราชรถหยกแล้วจากไปไวราวกับสายฟ้า
แปะๆๆ
พอหยุนเฟยไป๋จากไป ห้องโถงศาลต้าหลี่ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้น
ขุนนางของแคว้นตงหลินเกือบจะทั้งหมด เปิดใจยอมรับเฟิงอู๋โยวผู้มาจากแคว้นเป่ยหลีแต่นำมาซึ่งความสุขแก่ทุกคน เฟิงอู๋โยวเบิกยิ้มกว้าง “พวกท่านอย่ามัวแต่ปรบมืออยู่เลย รีบบอกข้าให้หมดมาว่าพวกท่านชอบข้าตรงจุดไหนบ้าง”
ยังไม่ทันได้ให้คนอื่นเอ่ยปาก จวินมั่วหรัน อยู่ๆ ก็คุกเข่าลงต่อหน้าเฟิงอู๋โยว
เวลานี้ จากห้องโถงของศาลต้าหลีที่เคยมีเสียงอึกทึกเหมือนถูกสะกดไว้ ทั้งเสียงปรบมือ เสียงกระซิบเสียงหายใจ พลันหายไปในบัดดล
เฟิงอู๋โยวประหลาดใจกับการนั่งคุกเข่าลงข้างหนึ่งของเฟิงอู๋โยว หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ “เจ้า…เข่าเจ้าเป็นอะไรหรือไม่”
“ไม่เป็นอะไร”
สีหน้าแววตาของจวินมั่วหรันเวลานี้ดูเคร่งขรึมยิ่งนัก มองดูไม่มีความยินดีแม้แต่น้อย คิ้วขมวด หากมองแค่แวบเดียวยังคงดูเย่อหยิ่งและจองหอง
ทุกคนเห็นสีหน้าจวินมั่วหรันยิ่งดูคร่ำเคร่งเช่นนั้นก็ยิ่งกลัวจนตัวสั่น กลัวว่าถ้าจวินมั่นหรันเกิดบ้าขึ้นมา คงฆ่าพวกเขาตายหมดไม่มีเหลือ
ไม่นานจวินมั่วหรันก็หายใจเข้าลึก ค่อยๆ เงยหน้าแล้วจ้องมองเฟิงอู๋โยว “เคยได้ยินเจ้ากล่าวกับชิงหลวนว่าชายแห่งแคว้นเป่ยหลีขอแต่งงานมักจะคุกเข่าเช่นนี้ เพื่อแสดงถึงความจริงใจ เฟิงอู๋โยว เจ้ายินดีที่จะแต่งงานกับข้าหรือไม่”
เป่ยถางหลิงถิงแอบถามอ๋าวเช่อไปว่า “แคว้นเป่ยหลีมีประเพณีอภิเษกสมรสเช่นนี้จริงหรือ”
อ๋าวเช่อส่ายหน้า “เหมือนว่าจะไม่มี”
ตอนที่ 378 เป็นลมหมดสติ
กว่าเฟิงอู๋โยวจะตั้งสติกลับมาได้ นางรีบยื่นมือออกไป หยิกที่แก้มสองของจวินมั่วหรัน “ข้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหม เจ้าเจ็บหรือเปล่า”
“หากว่าเจ้ายังไม่ได้ตัดสินใจ ผ่านไปอีกสักระยะค่อยถามเจ้าใหม่”
“ข้า…ยินดี”
เฟิงอู๋โยวยังไม่ทันพูดจบ อาการมึนหัวยิ่งหนักขึ้น แวบมองแล้วก็ล้มลงไปกับพื้น
จวินมั่นหรันคิดว่านางคงอยากจะหลบหลีกเรื่องแต่งงานถึงได้แสร้งเป็นลม ไม่คิดเลยว่านางจะล้มลงไปกับพื้นอันเย็นเฉียบตรงๆ แบบนี้
ยังดีที่เป่ยถางหลงถิงมือไว ตอนที่ศีรษะด้านหลังนางเกือบกระแทกกับพื้น ฝ่ามืออันหนากว้างของเขาก็เข้าไปประคองศีรษะกลมได้รูปของนางเอาไว้ได้ทันท่วงที
“เซ่อเจิ้งหวาง ท่านทำให้นางตกใจ นางไม่อยากแต่งกับท่าน ทำไมต้องบังคับด้วย การบังคับขืนใจไม่ใช่เรื่องดีเลย หลักง่ายๆ แค่นี้ท่านไม่เข้าใจหรือ”
เป่ยถางหลงถิงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นจวินมั่วหรันขอเฟิงอู๋โยวแต่งงานกะทันหันทำให้นางตกใจจนเป็นลมหมดสติไป กล่าวโทษจวินมั่วหรันอย่างไม่พอใจ
จวินมั่วหรันเห็นดังนั้นก็ใจร้อนเป็นไฟ ผลักเป่ยถางหลงถิงออกไปและรีบกอดประคองร่างของเฟิงอู๋โยวไว้แน่น รีบมองไปยังแพทย์หลวงซูและตะคอกว่า “มัวยืนทำอะไรอยู่”
แพทย์หลวงซูได้ยินดังนั้นก็รีบบึ่งมาอยู่ตรงหน้าเฟิงอู๋โยว
เมื่อมือของเขาวางที่ข้อมือของนาง วินาทีนั้นเขาตกใจกลัวจนเกือบสติหลุด
เฟิงอู๋โยวเป็นผู้หญิง
แพทย์หลวงซูสีหน้าซีดเซียว เขารู้ดีว่าเขาได้ทราบเรื่องราวความลับอันยิ่งใหญ่แบบนี้ สงสัยจะมีชีวิตอยู่รอดได้ไม่นาน หวั่นกลัวยิ่งนัก
“อาการเป็นเยี่ยงไร”
“พิษในร่างกายแทรกซึมเข้าไปยังปอด กลัวว่าหลับไปแล้วจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก”
แพทย์หลวงซูก้มหน้าศีรษะชิดอก เหงื่อเป็นเม็ดๆ หยดออกจากหน้าผาก
ดวงตาสีดำประกายทองของจวินมั่วหรันหดลงเล็กน้อย เขาเหมือนจะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ไม่นานหลานหรันก็เข้ามาครอบคลุมจิตใจของเขา
แต่ทว่าในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะพยายามเพียงใดก็ตามแต่เขาก็ไม่มีอำนาจในการควบคุมร่างกายตอนนี้
ในเมื่อไม่มีหนทางอื่นใดแล้ว เขาจึงได้แต่กัดฟันแล้วรีบขจัดมารที่อยู่ในใจซึ่งกำลังกัดกินเขาตอนนี้
จวินหลานหรันเห็นท่าไม่ดี รีบกล่าวอย่างสุขุมบอกเขาว่า “มอบร่างกายให้กับข้าเสียโดยดี ข้าจะดูแลนางแทนเจ้าเอง”
จวินมั่วหรันกลับตอบว่า “นางต้องการข้า ข้าจะไม่อยู่ตรงนี้ไม่ได้”
จวินหลานหรันถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ตอบเสียงเบาว่า “ครั้งหน้าจะไม่ละเว้น”
ทันใดนั้นจวินมั่วหรันก็รู้สึกว่ารอบๆ ใบหน้ามืดมิดไปหมด
เขาเห็นมือหลายคู่นับไม่ถ้วนจากความมืดมิดนั้นค่อยๆ ดึงจวินหลานหรันเข้าไปในความมืดมิด ในใจเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก
ทุกคนเห็นจวินมั่วหรันคุยกับตัวเองอยู่ ต่างพากันมองหน้ากันด้วยความหวาดกลัว
ก่อนหน้านี้ พวกเขาเคยได้ยินมาว่าจวินมั่วหรันมีโรคประจำตัวที่รักษายากโรคหนึ่ง คือ ‘โรคทางจิตใจ’ ไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็นเรื่องจริง
กว่าภาพมืดดำนั้นจะหายไปจากหน้าของจวินมั่วหรัน อาจเป็นเพราะเขาเร่งรีบเกินไปจนเกิดธาตุไฟเข้าแทรก เขากระอักเลือดออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“อาหรัน!”
จี้มั่วจื่นเฉินตกใจจนหน้าซีด รีบสาวเท้าก้าวไปหาจวินมั่วหรันผู้สีหน้าไม่สู้ดีนัก
ในห้องโถง เหล่าขุนนางแคว้นตงหลินล้วนสีหน้าสลด
พวกเขารู้ดีว่าจวินมั่วหรันเป็นผู้ที่ดูแลรักษาผืนแผ่นดินตงหลินอย่างแท้จริง
ถ้าหากเขาล้มลง ความมั่งคั่งรุ่งเรื่องของแคว้นตงหลินตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาคงมลายไปสิ้น
แววตาที่สูญเสียการเพ่งมองของจวินมั่วหรันค่อยๆ จ้องมองไปที่เฟิงอู๋โยว เขากอดนางไว้แน่นไม่ปล่อยมือแม้แต่วินาทีเดียว
แพทย์หลวงซู “ไฉนอยู่ๆ นางเป็นลมล้มพับไปเช่นนี้”
แพทย์หลวงซู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบอย่างระวังว่า “แม่ทัพเฟิงมักจะมีอาการปวดที่ท้องอยู่เป็นประจำหรือไม่ ปวดท้อง ง่วงนอน ล้วนเป็นสัญญาณล่วงหน้าทั้งนั้น”
“รักษาได้หรือไม่”
แพทย์หลวงซูส่ายหน้าด้วยความลำบากใจ “ข้าน้อยไม่มีความมั่นใจเลยแม้แต่น้อย”
จวินมั่วหรันจิตใจรุ่มร้อน รีบอุ้มเฟิงอู๋โยวขึ้นแล้วบึ่งไปยังเรือนแพทย์พยากรณ์