ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 22 ดอกไป๋เหอที่บ้านเกิดบานแล้ว (รีไรท์)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 22 ดอกไป๋เหอที่บ้านเกิดบานแล้ว (รีไรท์)

ตอนที่ 22 ดอกไป๋เหอที่บ้านเกิดบานแล้ว (รีไรท์)

คนอื่นขุดดินเหงื่อไหลท่วมตัว แต่ลูกทั้งสองกลับมีฝุ่นเต็มหัวเต็มหน้า เฉียวเยี่ยนหันกลับไปมองคู่พี่ชายน้องสาวด้านหลังก็พบว่าลูกของนางได้กลายเป็นก้อนขี้เถ้าตัวน้อยไปแล้ว จึงจูงมือทั้งสองโยนไปให้ลุงฉูที่อยากลองเข้าร่วมขุดดินอย่างกระตือรือร้น

ลุงฉูกอดเด็กน้อยทั้งสองอย่างมีความสุขจนฉีกยิ้มกว้าง หัวไหล่ที่เคยอักเสบ อีกทั้งหมอนรองกระดูกเคลื่อน และขาที่เป็นเหน็บชาก็หายเป็นปกติแล้ว เล่นกับเด็ก ๆ ทั้งวันก็ไม่ร้องว่าเหนื่อย

ช่วงนี้พวกเด็ก ๆ มีของเล่นใหม่ นั่นคือการจับปลาในบ่อปลาหลีฮื้อ ทว่าปลาในบ่อไม่ใช่ปลาหลีฮื้อสีแดงสดอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นฝูงปลาเฉา ปลาหลี และปลาลิ่น

เมื่อท่านอ๋องรู้ว่าบุตรสาวสุดที่รักของตัวเองอยากกินปลาก็สั่งให้คนไปจับปลาหลีฮื้อในบ่อปลาทิ้งให้หมดแล้วหาปลาน้ำจืดกินได้มาแทน พวกเด็ก ๆ ดีใจมากจนไปจับปลาที่บ่อทุกวัน เมื่อจับได้ก็เอามาให้เฉียวเยี่ยนทำอาหารให้กิน

ลูกปลาน้อยที่น่าสงสารในบ่อ ยังไม่ทันได้เติบโตก็ถูกเด็กน้อยสองคนทำร้าย

ในค่ายทหาร

ขณะที่มู่ฉินเจินกำลังเสียเหงื่อร่วมฝึกฝนกับกลุ่มทหาร เกาจัวหยวนก็วิ่งมารายงานด้วยท่าทางเร่งรีบ

“ท่านอ๋อง ที่เมืองหลวงตอนนี้มีข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับเจ้านายน้อยกับหวางเฟยเหนียงเหนียงขอรับ”

แววตามู่ฉินเจินฉายประกายเย็นชาทันที เขาหมุนตัวกลับเข้าไปในกระโจมหลัก และสั่งเกาจัวหยวนให้เล่าเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง

เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวลือแพร่สะพัดในเมืองหลวง ว่ากันว่าเฉียวเยี่ยนสวมเขาท่านอ๋องซู่ เด็กทั้งสองคือลูกที่เกิดจากนางกับคนที่อยู่ในบ้านไร่

หลังจากที่มู่ฉินเจินได้ยิน ไอเยือกเย็นก็พลันแผ่กระจายไปทั่วร่าง ดวงตาแคบยาวหรี่ลงเล็กน้อย และฉายแววดุดัน

“รีบนำคนไปจับคนปล่อยข่าวลือออกมา แล้วก็อย่าให้หวางเฟยรู้”

เขาไม่อยากให้เฉียวเยี่ยนรู้สึกไม่สบายใจเพราะเรื่องยุ่งเหยิงเหล่านี้ แต่น่าเสียดายที่ช้าไปก้าวหนึ่ง เพราะเฉียวเยี่ยนได้รู้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

วันนี้เฉียวเยี่ยนส่งฮุ่ยเซียงไปซื้อผักที่ตลาด เมื่อสาวใช้ตัวน้อยกลับมาก็เล่าข่าวลือใส่สีตีไข่เกี่ยวกับนางและเด็ก ๆ ให้เฉียวเยี่ยนฟังอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

เฉียวเยี่ยนฟังรายงานของฮุ่ยเซียงแล้วก็ถึงกับหยุดขุดดินทันที คิ้วงามพลันขมวดมุ่น

พูดตามเหตุผลแล้ว ในวันที่กลับมายังตำหนัก มีคนเห็นหน้าลูกชายของนางไม่น้อยเลย คนฉลาดล้วนดูออกว่าสองพ่อลูกมีความคล้ายคลึงกันมากเพียงใด และไม่ควรมีข่าวลือเช่นนี้แพร่สะพัดออกไป!

แต่เพียงไม่กี่วันเรื่องนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วเมือง และใครบางคนก็กำลังควบคุมมันอยู่!

นางพิงจอบพลางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากคิดวิธีรับมือได้แล้วก็ไม่กลุ้มใจอีก จากนั้นก็ถามเรื่องเมล็ดพันธุ์ขึ้นมา “ฮุ่ยเซียง ไปซื้อเมล็ดพันธุ์มาเป็นอย่างไรบ้าง?”

ฮุ่ยเซียงได้ยินก็กระทืบเท้าอย่างกังวลใจและเอ่ยว่า “เหนียงเหนียง ถึงขั้นนี้แล้ว เหตุใดท่านไม่รู้จักกังวลใจบ้างเจ้าคะ?”

หากท่านอ๋องเชื่อข่าวลือพวกนั้น หวางเฟยเหนียงเหนียงอาจจะถูกจับใส่กรงไม้ไผ่ถ่วงน้ำได้เลยนะ!

เฉียวเยี่ยนปลอบใจอย่างช่วยไม่ได้ พลางตบไหล่ฮุ่ยเซียงเบา ๆ “ใจเย็น ๆ เจ้าไม่เชื่อเปิ่นหวางเฟย หรือไม่เชื่อท่านอ๋องของเจ้า?”

“เปิ่นหวางเฟยดูเป็นคนประเภทยอมเสียเปรียบหรือ?”

“แต่ว่า…”

ฮุ่ยเซียงอยากจะพูดอะไรมากกว่านี้ แต่เฉียวเยี่ยนกลับปิดปากนางไว้

เฉียวเยี่ยนทำท่าหล่อเหลา นางโยนจอบในมือทิ้ง จับมือเล็กของฮุ่ยเซียงแล้วดึงเข้ามาหาตัวเอง ก่อนจะเคลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ แววตาแฝงรอยยิ้ม น้ำเสียงดูเจ้าเล่ห์ระคนขี้เล่น “ชู่ว เชื่อข้า คนบนเขาย่อมมีเล่ห์เหลี่ยมเป็นของตัวเอง!”

ร่างของฮุ่ยเซียงแข็งทื่อเป็นหิน ความร้อนพวยพุ่งขึ้นทั่วร่าง ใบหน้าแดงก่ำดั่งกุ้งต้ม พยายามผลักเฉียวเยี่ยนออกไป

ช่วยด้วย! หวางเฟยไม่ปกติแล้ว!

แต่เฉียวเยี่ยนจงใจแกล้งสาวใช้โง่คนนี้ นางจับมือแน่นไม่ยอมปล่อย ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วเป่าลมเบา ๆ “ฮุ่ยเซียงน้อย เจ้าติดตามข้าเถิด เจ้าหนีจากเงื้อมมือข้าไม่ได้หรอก”

ฮุ่ยเซียงกำลังจะร้องไห้ออกมาแล้ว ศีรษะก็เอนไปทางด้านหลัง “หวางเฟย…ท่านอย่าทำเช่นนี้!”

ระบบตัวน้อยเอามือเท้าคางดูโฮสต์ตัวเองเล่นบทนักเลงเจ้าชู้ ปากน้อยก็เผยอออก และส่งเสียงอุทานออกมา

[โว้ว! ดอกไป๋เหอที่บ้านเกิดบานแล้ว[1]!]

เคร้ง!

เสียงโลหะหล่นกระทบพื้นดังขึ้น ดึงดูดสายตาของเฉียวเยี่ยนที่กำลังทำเจ้าชู้ใส่สาวใช้ให้หันไปมอง และนางก็พลันแข็งทื่อเป็นหินทันที!

มู่ฉินเจินที่ไม่รู้ว่ามายืนห่างจากพวกนางสิบกว่าฉื่อตั้งแต่เมื่อใด เวลานี้กำลังยืนเอามือไพล่หลัง สีหน้าถมึงทึง เหมือนสามีที่จับได้คาเตียงว่าภรรยากำลังเล่นชู้

มู่เวินเหยียนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาอ้าปากกว้างด้วยความตกใจ ดาบที่อยู่ในมือตกลงสู่พื้น

เฉียวเยี่ยนรู้สึกอับอาย เหตุใดผู้ชายคนนี้ถึงกลับมาแล้วล่ะ? นี่มันยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลยมิใช่รึ?

นี่มันน่าอายเกินไปแล้ว ผู้ชายคนนั้นจะสงสัยว่ารสนิยมทางเพศของนางผิดปกติหรือไม่?

นางเผยยิ้มโง่งมและโบกมือทักทายมู่ฉินเจิน ในหัวก็ตะโกนเรียกระบบตัวน้อย

“ระบบ! เขากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่รึ?”

ระบบตัวน้อยรับชมความสนุกอย่างเพลิดเพลิน ในน้ำเสียงเด็กเล็กมีความยินดีในความโชคร้ายของคนอื่นเล็กน้อย

[ก็ในตอนที่ท่านบอกให้ฮุ่ยเซียงติดตามท่านด้วยท่าทางรักใคร่เสน่หาน่ะสิ…]

เฉียวเยี่ยนกัดฟัน แอบร้องไห้อยู่ในใจ

“แล้วทำไมเจ้าไม่บอกให้เร็วกว่านี้!”

ระบบตัวน้อยแหย่นิ้วก้อย แล้วเอ่ยอย่างไม่เกรงใจ

[ระบบดูเพลินไปหน่อยจนลืมไปเลย]

เฉียวเยี่ยน “…”

มู่ฉินเจินมองดูท่าทางหลากหลายของเฉียวเยี่ยนก็เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่รอยยิ้มนี้เมื่อรวมเข้ากับสีหน้ามืดมนในขณะนี้ จึงทำให้ดูเหมือนเป็นการเยาะเย้ยเสียมากกว่า

“ดูเหมือนเปิ่นหวางจะมาผิดเวลา?”

น้ำเสียงเขาเย็นเยือก ทำให้เฉียวเยี่ยนที่ได้ยินยิ่งอับอายเข้าไปใหญ่ และแทบอยากใช้เท้าขุดหลุมฝังตัวเองทันที

นางยิ้มอย่างเขินอาย และเอ่ยโดยไม่คิด “ไม่ ท่านมาได้ถูกเวลาแล้ว”

ทั่วบริเวณเงียบลงในบัดดล ไอเยือกเย็นทั่วร่างมู่ฉินเจินยิ่งเพิ่มมากขึ้น สีหน้าดูเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม หลังจากระบบตัวน้อยเงียบไปครู่หนึ่ง ก็กุมท้องระเบิดหัวเราะทันใด

ครานี้เฉียวเยี่ยนอับอายถึงขีดสุด นางปิดปากตัวเอง รีบอธิบายอย่างลนลาน “ไม่ใช่ มันไม่ใช่อย่างที่ท่านคิด ข้าแค่แกล้งฮุ่ยเซียงเล่น ๆ”

ในเวลานี้เอง มู่เวินเหยียนที่หายไปนานในที่สุดก็ได้สติกลับมา พลางหยิบดาบขึ้นมาจากพื้นและหันหลังวิ่งหนีไป

“พี่สี่ ข้าเพิ่งนึกได้ว่ายังมีเรื่องให้จัดการ วันนี้ไม่อยู่รับประทานอาหารที่นี่แล้ว ข้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ข้าตาบอด!”

มุมปากเฉียวเยี่ยนกระตุก นางอธิบายไปตอนนี้จะมีใครเชื่อนางไหมว่านางไม่ใช่ชาวดอกไป๋เหอ[2]?

ฮุ่ยเซียงคุกเข่าลงนานแล้วทันทีที่เห็นท่านอ๋อง และเวลานี้ก็อธิบายด้วยร่างกายที่สั่นเทา “ท่านอ๋อง หวางเฟยเหนียงเหนียง…แค่แกล้งบ่าวละ…เล่น ท่านอย่าคิดเป็นจริงเป็นจังเด็ดขาดนะเจ้าคะ”

มู่ฉินเจินไม่พูดอะไร ปรายตามองบ่าวรับใช้ที่แทบจะก้มหน้าติดพื้น

แค่นี้รึ?

เขาหล่อมากรึ? เขายอดเยี่ยมมากรึ?

หลังจากสำรวจเสร็จ เขาก็เอ่ยอย่างราบเรียบ “ลุกขึ้นเถิด”

ฮุ่ยเซียงลุกขึ้นพลางกล่าวขอบคุณ ก่อนจะรีบวิ่งหนีไปไวเหมือนเห็นผี

เหล่าข้ารับใช้แยกย้ายกันไปหมดแล้ว เวลานี้ในสวนมีเพียงเฉียวเยี่ยนและมู่ฉินเจิน ชายหนุ่มแสร้งทำเป็นยิ้มแล้วเอ่ยว่า “งานอดิเรกของหวางเฟยช่างหลากหลายเสียจริง”

เฉียวเยี่ยนฟังเสียงเย้ยหยันนั้นก็พลันกัดฟันและเปลี่ยนเรื่องทันที “วันนี้ข้าได้ยินฮุ่ยเซียงบอกว่าในเมืองหลวงมีข่าวลือเกี่ยวกับข้าและเด็ก ๆ ท่านจะว่าอย่างไร?”

มู่ฉินเจินอึ้งไปเล็กน้อย ดูเหมือนจะปิดบังนางไม่ได้จริง ๆ

“ข้าส่งคนไปจัดการเรียบร้อยแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวล”

เฉียวเยี่ยนยิ้ม กังวล? มีอะไรให้นางต้องกังวลกัน!

“วิธีหยุดข่าวลือที่ดีที่สุดคือปล่อยให้ข่าวลือซาไปเอง เมื่อข่าวลือไปต่อไม่ได้แล้ว พวกคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังต้องเผยตัวออกมาแน่นอน”

มู่ฉินเจินได้ยินแล้วก็จ้องมองใบหน้างดงามที่เผยความมั่นใจของหญิงคนนี้ด้วยดวงตาลึกล้ำ “เจ้ามีกลอุบายอันใด?”

เฉียวเยี่ยนเลิกคิ้วขึ้นอย่างขี้เล่น ใบหน้าเคลือบไปด้วยรอยยิ้ม “ไม่ถือว่าเป็นกลอุบายหรอก เรียกว่าเป็นแผนเพื่อไม่ให้ขาดทุนจะดีกว่า”

[1] ดอกไป๋เหอในบ้านเกิดบานแล้ว 故乡的百合花开啦 เปรียบได้กับการรักกันไปนาน ๆ ทุกสิ่งสมความปรารถนา แต่ในบริบทของเรื่องนี้ ระบบอาจหมายความเป็นเชิงหยอกล้อว่า ในที่สุดเฉียวเยี่ยนก็ได้เจอหญิงคนรักเสียที

[2] ชาวดอกไป๋เหอ หมายถึง ชาวหญิงรักหญิง มาจากคำว่า 百合 (ยูริ) ซึ่งก็คือหมวดนิยายหญิงรักหญิงในภาษาญี่ปุ่น

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เอ่อ หวางเฟย ท่านจะทำสวนดอกลิลลี่กับสาวใช้ของท่านแล้วหรือ? นี่มันฉากสะดุดรักในนิยายยูริเลยนะ อย่าให้ผู้แปลหวั่นไหวสิ เดี๋ยวก็ต่อเรือเยี่ยนเซียงให้หรอก

สรุปคือตอนนี้เฉียวเยี่ยนเป็นพระเอกสินะ

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท