ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 33 สองหัวหน้าคนงานตัวน้อย (รีไรท์)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 33 สองหัวหน้าคนงานตัวน้อย (รีไรท์)

ตอนที่ 33 สองหัวหน้าคนงานตัวน้อย (รีไรท์)

เช้านี้เป็นวันแรกของการก่อสร้าง ซึ่งตามธรรมเนียมของเมืองหลวงจำต้องดูแลเหล่าคนงานให้ได้กินอาหารดี ๆ มื้อหนึ่ง เฉียวเยี่ยนจึงนำกลุ่มสาวใช้และพ่อครัวไปทำงานในครัวตั้งแต่เช้าตรู่

สิ่งที่เหล่าคนงานทำล้วนเป็นงานหนัก จึงต้องจัดเตรียมอาหารเครื่องดื่มให้เพียงพอ

วางขาหมูที่เพิ่งเชือดสด ๆ ลงบนไฟและเผาสักครู่ แล้วนำมาขูดล้างให้สะอาด จากนั้นลวกน้ำร้อนและเช็ดให้แห้ง เสร็จแล้วก็นำลงหม้อทอดจนหนังสุกเหลืองแกมดำ

หลังจากนั้นก็เทน้ำปรุงรสที่ผัดเสร็จแล้วลงในหม้อตุ๋น ใส่ขาหมูทอดแล้วลงไป รอจนสุกพอประมาณ แล้วใส่ถั่วเหลืองที่แช่น้ำค้างคืนลงไป

หัวถุ่ยที่นำมาจากบ้านไร่ยังเหลืออีกสองชิ้น นางจึงสับมันเป็นชิ้นใหญ่ ๆ และใช้น้ำร้อนล้างเกลือบนผิวนอก ฝานเป็นแผ่น ๆ แล้วผัดเนื้อรมควันกับต้นกระเทียม

นางทำอาหารสองอย่างและนึ่งหมั่นโถวสองเข่งใหญ่ การทำหมั่นโถวนั้นง่ายมาก นางผสมแป้งไว้เมื่อเช้านี้ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วยามแป้งก็ขึ้นฟู ก้อนแป้งถูกแบ่งเป็นขนาดพอเหมาะ จากนั้นก็นำไปนึ่งในเข่ง เท่านี้ก็เสร็จสิ้นแล้ว

หมั่นโถวที่นึ่งเสร็จแล้วมีขนาดเท่ากำปั้นของผู้ใหญ่ มันมีสีขาวนวลนุ่มนิ่มและมีควันร้อนกรุ่นออกมา ครั้นกัดกินเข้าไปคำหนึ่งและลงแรงเคี้ยวก็ยิ่งรับรู้ถึงความหวาน

ส่วนอาหารที่เหลือ นางยกให้เป็นหน้าที่ของเหล่าพ่อครัวใหญ่ในห้องเครื่องที่เข้ามาทำกับข้าวในตำหนักอ๋อง ซึ่งฝีมือการทำอาหารของทุกคนล้วนไม่เลวเลย มีไก่ผัดหน่อไม้เปรี้ยวหม้อใหญ่โรยด้วยผงพริกที่เฉียวเยี่ยนให้จนมีสีแดงแวววาว ดูแล้วชวนให้น้ำลายไหล

นอกจากอาหารหลักสองสามอย่างแล้ว เฉียวเยี่ยนยังทำซอสพริกและไข่ผัดซีอิ๊วด้วย ซึ่งสามารถทากินกับหมั่นโถวได้

นางนำพริกไปย่างในเตาถ่านให้เปลือกสุกมีสีอมดำ จากนั้นแกะส่วนที่ไหม้ทิ้ง ใส่พริกลงโขลกในครกหิน ตั้งน้ำมันในหม้อให้ร้อน ใส่กระเทียมสับจำนวนมากลงไปเจียว จากนั้นเทพริกที่โขลกแล้วตามลงไป ใส่เกลือ ซีอิ๊วเล็กน้อยเพื่อให้มีรสชาติ

ซอสพริกที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ยังส่งไอร้อนออกมา กลิ่นหอมของน้ำมันร้อนโชยเป็นระลอก ยามได้ตักราดลงบนหมั่นโถวหนึ่งช้อนก็ทั้งอร่อยทั้งเผ็ด

เหตุผลหลักที่นางทำไข่ผัดซีอิ๊วด้วยก็เพราะกลัวว่าบางคนไม่กินพริก ถึงอย่างไรนี่เป็นครั้งแรกที่เหล่าคนงานได้สัมผัสกับพริก จึงไม่พ้นที่จะมีบางคนทนไม่ได้

ลูกทั้งสองตื่นแต่เช้ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว วันนี้หลังจากตื่นนอนก็เกาะติดเฉียวเยี่ยนไม่ห่าง จากนั้นก็จูงมือพากันตามลุงฉูไปลานทิศตะวันตกเพื่อดูเหล่าคนงานก่อสร้าง

เสี่ยวฉวนเอ๋อร์เอามือไพล่หลังเสมือนผู้คุมตัวน้อย มองดูเหล่าคนงานทำงานด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ในขณะที่เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เข้าไปคลุกคลีกับกลุ่มชายชรา เด็กน้อยถกแขนเสื้อขึ้นอวดแขนเล็กขาวเนียน และอยากจะแบกท่อนไม้ร่วมกับเหล่าคนงาน

ชายกลุ่มหนึ่งเห็นท่าทางน่ารักนุ่มนิ่มของเด็กน้อยก็ใจอ่อนระทวย ไยจึงมีเด็กน้อยน่ารักขนาดนี้ ดวงตากลมโตคลอหยาดน้ำ ใบหน้าเล็กอวบขาว โดยเฉพาะปากหวานเล็ก ๆ ที่เรียกพวกเขาว่าท่านน้าท่านลุง และกล่อมเกลาจิตใจผู้คนได้อย่างไม่ยากเย็น

มิน่าเล่าในเมืองหลวงถึงมีข่าวลือว่าอ๋องซู่หลงลูกมาก มีลูกสาวน่ารักใส่ใจขนาดนี้จะไม่ให้หลงได้อย่างไร พวกเขาเห็นแล้วก็อยากกลับบ้านไปทุบตีเจ้าเด็กบ้าที่รู้จักแต่ปีนต้นไม้จับนกและลงน้ำจับปลาเหลือเกิน

เด็กชายตัวเล็กคนนั้นก็น่ารัก แม้จะไม่ชอบยิ้ม แต่ท่าทางจริงจังเคร่งขรึมนั้นเหมือนท่านอ๋องซู่ฉบับเด็กน้อย อยากจะเข้าไปบีบขยี้นัก

เหล่าคนงานกำลังขุดฐานราก เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ก็วิ่งไปที่ห้องเครื่องควานมือหาจอบน้อยของนาง และขุดตามอย่างขะมักเขม้น ทำให้เหล่าคนงานเอ็นดูจะแย่แล้ว

ครั้นเสี่ยวฉวนเอ๋อร์เห็นน้องสาวขุดอย่างจริงจังก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบจอบน้อยของตนออกมาและเข้าร่วมขุดด้วย

ลุงฉูยืนดูนายน้อยทั้งสองอยู่ด้านข้างอย่างภาคภูมิใจยิ่งนัก!

ยามมองทั่วทั้งเมืองหลวง ใครจะมีทักษะเทียบเท่านายน้อยของเขาบ้าง? อายุยังน้อย ยังใช้จอบเล็กชำนาญกว่าผู้ใหญ่ทั่วไปเสียอีก

เมื่อมู่ฉินเจินกลับมาจากว่าราชกิจก็ไปดูความคืบหน้าของเหล่าคนงานที่ลานทิศตะวันตกเป็นอันดับแรก แต่กลับพบว่าเด็กสองคนใกล้จะกลายเป็นหัวหน้าคนงานแล้ว และทำให้กลุ่มคนงานยอมจำนนต่อความน่ารัก

หลังจากพาเด็กทั้งสองกลับไปเรือนหลักแล้ว เหล่าคนงานก็เริ่มกินข้าว

ลุงฉูพาพวกเขาตรงไปยังห้องครัวใหญ่ ในห้องครัวใหญ่จัดโต๊ะไว้สองโต๊ะ แต่ละโต๊ะวางอาหารเต็มไปหมด และอาหารทุกจานล้วนอุดมไปด้วยน้ำมัน

เหล่าคนงานพากันตะลึงเมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะใหญ่ทั้งสอง นี่คืออาหารที่จะให้พวกเขากินกันน่ะหรือ? นี่มันอาหารสำหรับผู้ดีมีเงินชัด ๆ บรรดาเจ้าขุนมูลนายคงจะกินกันเช่นนี้สินะ!

เฟิงเฉียนอันก็ไม่คิดเลยว่าจะได้รับการต้อนรับเช่นนี้ จึงรู้สึกนับถือในตัวเฉียวเยี่ยนมากขึ้น

เหล่าพ่อครัวใหญ่ในครัวไม่ลืมที่จะสร้างความประทับใจดี ๆ ให้กับหวางเฟยเหนียงเหนียงด้วยการพยายามบอกว่าอาหารที่เฉียวเยี่ยนทำนั้นอร่อยเพียงใด ครั้นเหล่าคนงานรู้ว่าอาหารบนโต๊ะเหล่านี้เป็นฝีมือของหวางเฟยก็ยิ่งตกตะลึง

ขาหมูในน้ำปรุงรสชุ่มฉ่ำ เพียงใช้ตะเกียบจิ้มเบา ๆ ก็หลุดเป็นชิ้น ทั้งนุ่มอร่อยละลายในปาก สิ่งที่กลืนลงไปคือตีนหมูที่นุ่มเป็นพิเศษ ไม่มีความเลี่ยน แม้แต่ถั่วเหลืองยังชุ่มไปด้วยรสเนื้อ เหมาะที่จะกินกับข้าวยิ่งนัก

ลุงฉูกินข้าวร่วมโต๊ะกับเหล่าคนงาน และสอนวิธีกินหมั่นโถวให้แก่พวกเขา

ฉีกหมั่นโถวออก คีบซอสพริกป้ายลงบนนั้น กินสองหรือสามคำ หมั่นโถวลูกหนึ่งก็ลงไปอยู่ในท้อง

นี่เป็นครั้งแรกที่เหล่าคนงานกินพริก หลังจากทำตามที่ลุงฉูสอนและกัดไปหนึ่งคำก็รู้สึกแสบร้อนทั่วลิ้น ไม่นานก็เริ่มมีอาการน้ำหูน้ำตาไหล เป็นความรู้สึกยากจะอธิบายทว่าสดชื่นมาก!

ไม่นานซอสพริกหนึ่งถ้วยก็ถูกเหล่าคนงานจัดการเรียบ

หลังจากกินอาหารอิ่มไปหนึ่งมื้อ ตกบ่ายเหล่าคนงานต่างก็ทำงานหนักเป็นพิเศษ นอกจากหยุดดื่มน้ำแล้วก็ไม่พักอีกเลย ด้วยกลัวว่าจะไม่คุ้มค่าแรงกับอาหารที่เฉียวเยี่ยนทำให้

เฉียวเยี่ยนเองก็พอใจกับคนงานที่ซื่อสัตย์และมีความรับผิดชอบกลุ่มนี้มาก ในใจแอบจดคะแนนความดีความชอบของมู่ฉินเจินไว้เงียบ ๆ

……

ขณะที่พวกคนงานกำลังสร้างเรือนกระจก เฉียวเยี่ยนก็ไม่ได้อยู่เฉย ๆ ถาดเพาะกล้าชุดแรกที่นางสั่งทำมาถึงแล้ว เหมาะที่จะลองปลูกต้นกล้าดูผลลัพธ์พอดี

เรือนเพาะกล้าที่สร้างขึ้นในตอนแรกนั้นเรียบง่ายมาก รักษาความอบอุ่นได้ค่อนข้างเสถียร แต่ยังแย่กว่าเรือนกระจกมากนัก

ในเรือนเพาะกล้าสร้างชั้นวางไว้เก็บต้นกล้า ต้นกล้ามันเทศสีเขียวแต่ละแถวเติบโตอวบอ้วนน่ารัก เมื่อใดที่เรือนกระจกสร้างเสร็จสิ้นแล้ว พวกมันก็พร้อมลงปลูก

มันเทศเจริญเติบโตโดยไม่เลือกสภาพดิน พวกมันจึงสามารถอยู่รอดได้ดี ไม่เพียงใช้รากในการปลูกได้เท่านั้น แม้แต่เถามันเทศก็สามารถใช้ขยายพันธุ์ได้

ตัดเถามันเทศให้ยาวสิบกว่ากงเฟิน เด็ดใบออกบางส่วนแล้วปักลงในดิน รดน้ำให้เพียงพอ และรอให้เถาแตกราก เท่านี้ก็อยู่รอดได้แล้ว

นางนำต้นกล้าชุดปัจจุบันนี้ไปปลูกในเรือนกระจก รอเริ่มฤดูวสันต์ก็ใช้เถามันเทศขยายพันธุ์ในปริมาณมากได้

ถาดเพาะกล้าทำออกมาได้อย่างมีมาตรฐาน ถาดหนึ่งมักมีเจ็ดสิบสองหลุม ขณะที่ถาดส่วนน้อยมีขนาดหลุมใหญ่กว่า และมีจำนวนสามสิบสองหลุมต่อหนึ่งถาด

นางผสมดินดำอันร่วนซุยกับปุ๋ยคอกเข้าด้วยกันตามสัดส่วน กรุลงในถาดเพาะกล้า รดน้ำเล็กน้อยให้ดินชุ่มแล้วหว่านเมล็ด จากนั้นก็กลบดินบาง ๆ คลุมเมล็ดอีกชั้น และรดน้ำให้ทั่ว

วางถาดเพาะกล้าที่หว่านเมล็ดแล้วไว้บนชั้นวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย จากนั้นก็ดูแลตามปกติ

ระบบตัวน้อยรู้สึกเบื่อ นางนอนอยู่บนเก้าอี้แคะมืออย่างเบื่อหน่าย

หลังจากละครจบลงก็ไม่มีใครมาหาเรื่องโฮสต์อีกเลย ละครดี ๆ ของนางก็ไม่ได้ดูแล้ว เฮ้อ ชีวิตของปลาเค็มไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย

ในระหว่างที่เฉียวเยี่ยนหว่านเมล็ดพืช ก็ได้ยินเสียงระบบตัวน้อยถอนหายใจ นางจึงถามอย่างขบขัน “เจ้ามีเรื่องรำคาญใจอะไรอีกล่ะ?”

ระบบตัวน้อยถอนหายใจอีกครั้ง พลางบ่นอย่างน่าสงสาร

[ท่านโฮสต์ ระบบค้นพบว่า ปลาเค็มตัวน้อยที่ไม่มีอะไรทำก็เบื่อมากเช่นกัน]

[ละครก็ไม่น่าดูแล้ว และไม่มีใครเล่นกับระบบด้วยสักคน…]

เฉียวเยี่ยนฟังเสียงเด็กน้อยของระบบก็รู้สึกสงสารเล็กน้อย เด็กน้อยถูกขังอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ ตลอดชีวิต แม้จะมีพลังมหาศาล แต่มิอาจไปเล่นทุกที่เหมือนอย่างเด็กทั่วไปได้ นางจึงไม่รู้จะปลอบเจ้าตัวน้อยอย่างไร

เด็กทั้งสองทำการบ้านที่ท่านแม่มอบหมายให้เสร็จแล้วก็วิ่งไปหานางที่เรือนเพาะกล้า และเปิดปากตะโกนเรียกท่านแม่ด้วยเสียงหวานมาแต่ไกล

………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ระบบเหงาแล้ว หาอะไรให้น้องทำหน่อยค่ะ

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท