ตอนที่ 42 เฉียวเยี่ยนยุยงให้ฮ่องเต้และฮองเฮาขุดพระราชวัง (รีไรท์)
ตอนที่ 42 เฉียวเยี่ยนยุยงให้ฮ่องเต้และฮองเฮาขุดพระราชวัง (รีไรท์)
เขาด่าทอพร้อมกับวิ่งเข้าไปในตำหนัก ครั้นเห็นฮ่องเต้และฮองเฮาก็ตกใจจนแทบล้มหัวคะมำทันที รังสีเดือดพล่านเมื่อครู่พลันหดหายไปในพริบตา
“ลูกคารวะเสด็จพ่อเสด็จแม่”
ฮ่องเต้เหลือบมองโอรสองค์เล็กอย่างไม่ชอบใจ และเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “อายุสิบแปดปีแล้ว ยังจะโหวกเหวกโวยวายอีก มันใช้ได้ที่ไหนกัน!”
มู่เวินเหยียนหัวหดเป็นเต่าทันที ในขณะที่ฮองเฮามองเขาด้วยรอยยิ้มสดใส “เวินเหยียน รีบเข้ามากินอาหารเร็ว ไม่ต้องไปสนใจเสด็จพ่อเจ้า”
มู่เวินเหยียนเหมือนสุนัขตัวโตที่ทำผิด เขาวิ่งไปหาฮองเฮาและแสร้งทำเป็นน่าสงสาร “ถึงอย่างไรเสด็จแม่ก็ดีกับลูกที่สุด”
ฮองเฮาถูกหยอกล้อจนแย้มสรวลเบิกบาน พระนางและลู่จาวอี๋มีความสัมพันธ์ที่ไม่เลว เจ้าเด็กคนนี้ชอบอยู่ติดกับมู่ฉินเจินมาตั้งแต่ยังเยาว์ ซึ่งพระนางก็เห็นเขาเป็นโอรสตัวเองเช่นกัน
มู่เวินเหยียนกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ไม่เห็นพี่สี่และพี่สะใภ้ก็ไม่สนใจสิ่งใด ยื่นมือไปหยิบซาลาเปาย่างขึ้นมากินทันที
เขายังคิดว่ามันเป็นขนมธรรมดาอะไรสักอย่าง ทว่าพอกินไปคำแรกก็ตื่นตะลึงจนแทบลอย และไม่สนว่าจะเสียกิริยาหรือไม่ ได้แต่ส่งเสียงเยินยอสรรเสริญเฉียวเยี่ยนเป็นวรรคเป็นเวร
ในขณะที่ทุกคนกำลังรับประทาน เฉียวเยี่ยนและมู่ฉินเจินก็ออกมาจากห้องเครื่อง และมีข้ารับใช้ยกซวนเหมยทังกับมะเขือเทศเชื่อมบ๊วยสองถาดใหญ่ตามหลังมา
เฉียวเยี่ยนเห็นพวกเขากินกันจนน้ำมันเลอะมุมปากก็รู้สึกพอใจอย่างอธิบายไม่ถูก มีคนชอบอาหารที่ตัวเองทำ เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จครั้งใหญ่อย่างหนึ่งแล้ว
นางสั่งให้บ่าวยกซวนเหมยทังกับมะเขือเทศเชื่อมบ๊วยไปวางไว้บนโต๊ะ
ฮองเฮาทอดพระเนตรผลไม้แดงลูกเล็กสีแดงสดน่ารักในถ้วยก็เกิดความรู้สึกโปรด ครั้นใช้ช้อนตักเข้าโอษฐ์แล้วก็พลันเบิกเนตรกว้างทันที
นี่มันอร่อยเกินไปแล้ว!
เนื้อผลไม้อ่อนนุ่มไม่เปื่อยยุ่ย เปรี้ยวหวานเรียกน้ำย่อย แถมยังเย็นสดชื่น โดยเฉพาะน้ำผลไม้นั้นเป็นรสชาติที่นางไม่เคยชิมมาก่อน!
ฮ่องเต้ก็ชิมแล้วเช่นกัน รสชาติดีจริง ๆ แก้เลี่ยนได้ชะงัดนัก เมื่อครู่เขากินซาลาเปาย่างไปไม่น้อย จึงไม่พ้นอาการเลี่ยนน้ำมัน ทว่าหลังจากได้กินผลไม้แดงไป เขาก็รู้สึกว่าตัวเองยังกินซาลาเปาย่างได้อีกสองสามลูก
มู่ฉินเจินเองก็ยังตกหลุมรักผลไม้แดงลูกเล็กธรรมดาที่เขามีส่วนร่วมในการทำเช่นกัน และกินไปแล้วหลายลูก
ในผลไม้แดงลูกเล็กนี้มีรสชาติที่แปลกใหม่ เขานึกไปถึงท่าทางลุกลี้ลุกลนของเฉียวเยี่ยนก่อนหน้านี้ หรือของสิ่งนั้นจะทำให้ผลไม้แดงมีรสชาติวิเศษเช่นนี้?
มู่เวินเหยียนกินผลไม้แดงไปหลายลูก และเอ่ยชมไม่ขาดปาก ทั้งยังทำตัวออดอ้อนใส่เฉียวเยี่ยน “พี่สะใภ้สี่ ข้าขอเอากลับไปที่วังให้เสด็จแม่ข้าชิมได้หรือไม่? เสด็จแม่ข้าชอบกินของเปรี้ยวหวาน”
เฉียวเยี่ยนยิ้มหวาน “ย่อมได้อยู่แล้ว อีกเดี๋ยวเจ้าก็นำเนื้อย่างกลับไปด้วย”
ใครเล่าจะต้านทานลูกอ้อนของเด็กหนุ่มผู้น่ารักสดใสได้ เฉียวเยี่ยนพอใจกับน้องชายไม่เอาไหนคนนี้มาก
ทว่าท่านอ๋องผู้นี้แอบไม่พอใจ แววตาดุจคมดาบจ้องมู่เวินเหยียนเขม็ง ก่อนจะยกเท้าขึ้นถีบผางที่บั้นท้ายเด็กหนุ่ม “ไร้มารยาท!”
มู่เวินเหยียนปิดก้นกรีดร้องออกมา และมุ่ยปากบ่นกับเฉียวเยี่ยน “พี่สะใภ้สี่ ท่านดูสิ!”
ท่าทางโวยวายของเขาทำให้ทุกคนหัวเราะออกมา เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ถือซาลาเปามองท่านอาหกพร้อมหัวเราะคิกคัก แต่เสี่ยวฉวนเอ๋อร์กลับคิดว่าท่านอาหกเหมือนจะไม่ค่อยเต็มเต็งเท่าใดนัก
เฉียวเยี่ยนมองลูกทั้งสองกินจนน้ำมันเยิ้มมุมปากจึงหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดให้พวกเขา จากนั้นก็ป้อนมะเขือเทศให้พวกเขา
แต่ท้องของเด็ก ๆ บอบบาง มิอาจกินของที่เย็นจนเกินไปได้ หลังจากป้อนให้สองลูก เฉียวเยี่ยนก็ไม่ให้พวกเขากินอีก แต่รินซวนเหมยทังที่อยู่ในอุณหภูมิปกติให้พวกเขาแทน
ในที่สุดเนื้อแพะก็ย่างเสร็จสิ้นแล้ว เฉียวเยี่ยนหยิบมีดเล่มเล็กขึ้นมาเฉือนเนื้อด้านบนทีละน้อย ด้วยความที่เนื้อร้อนมาก เฉียวเยี่ยนจึงระมัดระวัง และเป่าลมไปด้วยไม่หยุด
ครั้นมู่ฉินเจินเห็นก็เดินเข้าไปจับมือนางไว้ แล้วแย่งมีดสั้นที่อยู่ในมือมา “ข้าทำเอง”
เฉียวเยี่ยนรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของมือใหญ่ที่กุมมือตัวเองไว้ จึงเงยหน้ามองเขาอย่างแปลกใจ ตัวนางสูงกว่าหนึ่งร้อยหกสิบหมี่ ในขณะที่มู่ฉินเจินสูงประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบกว่าหมี่ เมื่อเทียบกับเขาแล้ว นางจึงดูตัวเล็กเป็นพิเศษ
ใบหน้านางร้อนผ่าวเล็กน้อย ก่อนจะรีบชักมือกลับ “ขอบคุณ”
มู่ฉินเจินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย และจับมีดสั้นเริ่มหั่นเนื้อ โดยมีเฉียวเยี่ยนยืนถือถาดอยู่ข้าง ๆ เขา
ฮ่องเต้และฮองเฮาสองเฒ่ามองท่าทางของคู่หนุ่มสาวก็ยิ้มตาหยี ช่างเหมาะสมกันจริง ๆ รู้สึกประหนึ่งได้เห็นหลานคนที่สามคนที่สี่โบกมือให้กับพวกเขาอย่างไรอย่างนั้น
หากมู่ฉินเจินรู้ความคิดสองเฒ่าในเวลานี้ เขาต้องยักไหล่อย่างไม่พูดอะไรแน่ เขาในตอนนี้ยังไม่เคยแม้แต่ย่างกรายเข้าไปในห้องภรรยาตัวเองเลย จะเอาลูกคนที่สามและสี่มาได้อย่างไรกัน!
เนื้อแพะนี้ย่างได้อร่อยนัก บวกกับน้ำปรุงรสที่เฉียวเยี่ยนเตรียมไว้ มันก็ทั้งอร่อยทั้งเผ็ด นี่เป็นครั้งแรกที่ฮ่องเต้และฮองเฮากินพริก เผ็ดจนแก้มแดงก่ำ ส่งเสียงฮูฮาไม่หยุด แต่ก็ยังหยุดกินไม่ได้เช่นเคย
หลังจากกินเนื้อไปสองสามคำแล้วดื่มซวนเหมยทังไปอึกใหญ่ก็เรอออกมาอย่างพอใจ วันนี้ช่างเหมือนวันเซ่นไหว้เทพเจ้าจริง ๆ ฝ่าบาทอยากใช้ฐานะฮ่องเต้ของตัวเองแลกกับมู่ฉินเจิน มีความสุขกับพวกหลาน ๆ ทุกวัน แล้วปลูกผักไว้สักหน่อยเพื่อฆ่าเวลาเหลือเกิน
ทุกคนกินไปด้วยคุยกันไปด้วย หัวข้อสนทนาก็มาถึงเรือนกระจก ฝ่าบาทสนใจเรือนกระจกมาก อยากจะสร้างไว้ในพระราชวังสักหนึ่งหลัง
เพียงเฉียวเยี่ยนได้ยินเรื่องนี้ นางก็บรรยายข้อดีของมันอย่างน้ำไหลไฟดับให้ฮ่องเต้และฮองเฮาสั่นไหว
ครั้งแรกที่นางเข้าวัง นางก็รู้สึกได้ถึงความหรูหราของพระราชวังโบราณ พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล มีตำหนักใหญ่โต มีนางสนมนางในมากมาย ทุกอย่างต้องใช้ค่าใช้จ่ายมหาศาล
หากสามารถปรับอุทยานในพระราชวังน้อยใหญ่เป็นแปลงผักไว้ปลูกผักบางส่วนได้ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาปากท้องในพระราชวังได้
นอกจากสวนดอกไม้ ในพระราชวังยังมีบ่อน้ำ สระที่คนทำขึ้น ด้านในนั้นเลี้ยงปลา และปลูกดอกบัวไว้ได้ ทั้งสวยงาม ทั้งสามารถกินได้
หลังจากตัดแต่งป่าท้อ ป่าเหมยในพระราชวังก็สามารถกินผลมันได้ และยังสร้างเรือนกระจกไว้ได้สองหลัง เช่นนี้ก็รับประกันปริมาณผักและผลไม้ในฤดูหนาวได้
พระเนตรฮ่องเต้และฮองเฮาเป็นประกายเมื่อได้ยินเช่นนี้ พวกเขาตื่นเต้นอย่างหาใดเปรียบ และแทบอยากกลับไปพระราชวัง แบกจอบหักร้างถางพงทันที
แต่หลังจากตื่นเต้นไปแล้ว ฮ่องเต้ก็ยังคิดหนัก อุทยานในพระราชวังเหล่านั้นล้วนสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ หากเขาทำลายไป ไม่รู้ว่าเหล่าบรรพบุรุษจะโทษเขาหรือไม่
เฉียวเยี่ยนรู้ถึงความกังวลของเขา ก็โยนแผนหนึ่งทิ้งไปทันที สมัยปัจจุบันมีวิธีการทำสวนและจัดสวนแบบชนบทอยู่มากมายมิใช่หรือ ขอแค่ออกแบบเสร็จ การปลูกผักก็ยังให้ความรู้สึกหรูหราได้
นางยิ่งพูดก็ยิ่งตื่นเต้น ให้ฮุ่ยเซียงไปเอาพู่กันกับกระดาษมา แล้ววาดให้ฮ่องเต้ดูตรงนั้น
สวนเกษตรสมัยปัจจุบันมากมายทั้งสวยงามทั้งใช้ประโยชน์ได้ เพียงแบ่งแปลงผักเป็นสองส่วน ปูหินเป็นทางเล็กตรงกลาง รอผักเติบโตขึ้น ก็จะดูแลกล้าผักได้สะดวก และสามารถให้คนมาเที่ยวชมได้
รอบ ๆ แปลงผักสามารถวางรั้วไม้ไผ่ล้อมไว้ได้ และปลูกแตงกวา ถั่วที่สามารถเลื้อยขึ้นรั้วได้ ใครบอกว่ามีแค่ดอกโบตั๋นเท่านั้นที่สวย ดอกของพืชผักบางอย่างก็มีเอกลักษณ์เช่นกัน
นอกจากแปลงผักแล้ว ยังสามารถสร้างโถงทางเดินยาว ๆ ได้ และปลูกแตงต่าง ๆ ไว้รอบโถงทางเดินยาว รอมันเลื้อยไปบนโถง ก็สามารถกลายเป็นศาลาที่ให้ร่มเงาได้เป็นอย่างดี
หากหาต้นองุ่นดี ๆ มา ก็สามารถปลูกองุ่นได้ รอจนองุ่นสุก ก็นั่งในศาลาเด็ดองุ่นสองพวงมากินได้เลย
ฮ่องเต้และฮองเฮาจินตนาการตามคำอธิบายของนาง ในหัวผุดภาพกลิ่นหอมของผลแตงและผลไม้ต่าง ๆ ขึ้นมา เมื่อฤดูสารทมาถึง ก็พาพวกหลาน ๆ ไปเก็บผลแตง หากไม่มีสิ่งใดทำ ก็แบกจอบไปที่แปลงผักฆ่าเวลา
เมื่อเฉียวเยี่ยนเห็นผู้เฒ่าทั้งสองเริ่มสั่นไหว นางก็โจมตีต่อไป
“บ่อน้ำนี้นอกจากเลี้ยงปลา ปลูกรากบัวแล้ว ยังสามารถปลูกข้าวได้ ทว่าที่นี่หนาวเร็ว อาจจะปลูกได้เพียงฤดูเดียว ถึงตอนนั้นต้นกล้างอกออกมา ก็เลี้ยงปลาในนาข้าวไว้บ้าง…นี่คือปลาไนยอดนิยม ปลาไนพื้นบ้านมีรสชาติอร่อยมาก เนื้อนุ่มอ่อน…”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
นอกจากเป็นเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรแล้ว ยังเป็นพนักงานขายตรงด้วยใช่ไหมหวางเฟย ขายโปรเจกต์จนคนฟังหวั่นไหวแล้ว
ไหหม่า(海馬)