ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 46 สนมเต๋อเฟยทวงความเป็นธรรม (รีไรท์)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 46 สนมเต๋อเฟยทวงความเป็นธรรม (รีไรท์)

ตอนที่ 46 สนมเต๋อเฟยทวงความเป็นธรรม (รีไรท์)

เฟิงหยางกำลังตำหนิตัวเองที่ปกป้องเจ้านายน้อยได้ไม่ดีพอ ครั้นได้ยินคำพูดของแม่นม ก็เอ่ยเสียงต่ำ “ต่อให้เป็นถึงองค์หญิง ก็รังแกเจ้านายน้อยแห่งตำหนักอ๋องซู่ไม่ได้!”

บรรยากาศพลันตึงเครียด องค์หญิงเจียหนิงกุมบาดแผลที่เลือดหยุดไหลแล้ว พลางร้องไห้อย่างน่าสงสาร และเฉียวเยี่ยนที่รีบมารับเด็ก ๆ ก็เห็นสถานการณ์ของทุกคนจากระยะไกล

ครั้นแม่นมเห็นเฉียวเยี่ยนเข้ามาก็รู้สึกว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ดีสำหรับพวกเขาเท่าใดนัก จึงรีบพาองค์หญิงออกไปก่อน

เฉียวเยี่ยนรีบเดินเข้าไปหาเด็ก ๆ และถามเจ้าปลาอ้วนที่กำลังโกรธเกรี้ยว “ลูกรักเป็นอะไรรึ?”

เมื่อเจ้าปลาอ้วนเห็นมารดาก็พลันเสียใจทันที วิ่งไปกอดขามารดาไว้และฝังหน้าลงไป

เฉียวเยี่ยนรู้สึกปวดใจ อุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมา ถึงได้รู้สึกว่ากางเกงตรงก้นอีกฝ่ายเปียกเป็นวงกว้าง

เจ้าปลาอ้วนฝังหน้าอยู่ในอ้อมแขนมารดา ท่าทางกล้าหาญเปี่ยมโทสะเมื่อครู่ ตอนนี้กลับกลายเป็นรู้สึกเสียใจจนน้ำตาคลอเบ้า

ครั้นเฟิงหยางเห็นเฉียวเยี่ยน เขาก็คุกเข่าข้างหนึ่งและสารภาพผิด “หวางเฟย เป็นข้าน้อยเองที่ดูแลได้ไม่ดีขอรับ ทำให้จวิ้นจู่น้อยได้รับความลำบาก…”

เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ออกมา ครั้นเฉียวเยี่ยนฟังจบ แววตาก็พลันฉายไอเย็นออกมา นางบอกให้เขาลุกขึ้น และไม่ได้กล่าวโทษเขาแต่อย่างใด

ในขณะที่เฉียวเยี่ยนอุ้มเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เฟิงหยางก็อุ้มเสี่ยวฉวนเอ๋อร์ขึ้นมา และรีบเดินไปที่ตำหนักคุนหนิง

กางเกงของคนตัวเล็กเปียกแล้ว ต้องรีบกลับไปเปลี่ยน ไม่เช่นนั้นจะป่วยได้ง่าย

ในตำหนักคุนหนิง

หลังจากฮองเฮาได้ยินว่าพระนัดดารักของตัวเองถูกทำร้ายก็ตบโต๊ะด้วยโทสะ รีบพาแม่นมและนางข้าหลวงสองสามคนไปขอความเป็นธรรมกับพระสนมเต๋อเฟย ทว่ายังไม่ทันได้ออกจากตำหนัก พระสนมเต๋อเฟยก็นำคนมาหาเสียก่อน

ภายในห้องโถงใหญ่ ฮองเฮานั่งอยู่บนตำแหน่งสูงสุด ข้าง ๆ มีเฉียวเยี่ยนและเด็กทั้งสองนั่งอยู่ ส่วนพระสนมเต๋อเฟยนั่งอยู่ด้านล่างกับองค์หญิงเจียหนิง ซึ่งข้าง ๆ มีแม่นมที่มีใบหน้าดุร้ายยืนอยู่

มือข้างที่บาดเจ็บขององค์หญิงเจียหนิงถูกพันด้วยผ้าพันแผลหลายชั้น และใบหน้าในยามนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา ร้องไห้ได้อย่างน่าสงสารยิ่งนัก

สีหน้าของพระสนมเต๋อเฟยไม่ค่อยสู้ดีนัก หลังจากจิบชาไปหนึ่งอึก ก็เอ่ยตัดกำลังก่อนว่า “ซู่หวางเฟย วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อขอคำอธิบาย ลูกสาวเจ้าผลักเจียหนิงของข้าล้ม มือก็ได้รับบาดเจ็บ ขอถามเจ้าหน่อยว่าเจ้าจะอธิบายอย่างไร?”

ฮองเฮาได้ยินเช่นนี้ก็เดือดดาลขึ้นมา ตอกกลับในทันที “เจียหนิงเป็นคนผลักหลานรักของข้าก่อน เจ้าจะชวนทะเลาะแบบไม่มีเหตุผลรึ?”

พระสนมเต๋อเฟยมองไปทางพระธิดาหัวแก้วหัวแหวน ในสายตาของนางนั้น ลูกของตัวเองคือผู้สูงส่ง ส่วนคนอื่นคือรากหญ้า

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจียหนิงก็หาได้ทำให้นางบาดเจ็บไม่ อีกอย่างนั้น เจียหนิงคือองค์หญิง นางที่เป็นแค่จวิ้นจู่จะเทียบได้รึ?”

เฉียวเยี่ยนยิ้มเยาะ ช่างเป็นหญิงชราที่สองมาตรฐานจริง ๆ ลูกสาวอีกฝ่ายถูกผลักกลับเป็นเรื่องใหญ่ แต่ลูกสาวนางถูกบันดาลโทสะใส่ มันสมควรแล้วรึ?

ระบบตัวน้อยโมโหหญิงชราคนนี้มากเช่นกัน หากไม่ใช่เพราะนางออกไปไม่ได้ ป่านนี้คงกระโดดตบบ้องหูอีกฝ่ายไปแล้ว

น้ำเสียงเฉียวเยี่ยนเย็นชา สีหน้าก็พลันเยือกเย็น “ในเมื่อพระสนมเต๋อเฟยคิดเช่นนี้ เช่นนั้นเราไปให้ฝ่าบาทตัดสินดีกว่า เปิ่นเฟยจะอยู่ด้วยจนจบแน่นอน!”

พระสนมเต๋อเฟยผู้คิดว่าไม่มีใครในวังที่ทำให้นางต้องทนทุกข์ได้นอกจากฮ่องเต้และฮองเฮา เมื่อเห็นเฉียวเยี่ยนไร้การเคารพยำเกรงต่อนาง นางก็ยิ่งกริ้วมากขึ้น

“ซู่หวางเฟยช่างมีมารยาทดีจริง ๆ นี่คือท่าทางที่เจ้าปฏิบัติต่อผู้อาวุโสรึ! ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเสียจริง มิน่าเล่าถึงได้สอนลูกสาวออกมาได้หยาบคายพอ ๆ กัน!”

เฮอะ! ผู้อาวุโส?

เฉียวเยี่ยนยิ้มเย้ยหยัน “เต๋อเฟยเหนียงเหนียงช่างบังอาจนัก! ข้าเป็นอย่างไร ลูกสาวข้าเป็นอย่างไร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับท่าน? ข้าไปกินข้าวบ้านท่านหรือนอนหลับอยู่บนเตียงท่านรึ?”

“ตำหนักท่านอยู่ในทะเลหรือ ถึงได้กว้างใหญ่ไพศาลขนาดนั้น?”

“หากมีเวลากังวลเรื่องของคนอื่น ไยไม่ดูแลผิวพรรณให้ดีเล่า ตีนกาที่หางตาแทบจะแปะชัดอยู่บนหน้าแล้ว!”

เฉียวเยี่ยนระเบิดคำพูดออกมาทีละคำ ทำให้พระสนมเต๋อเฟยโกรธจนหน้าซีด มือหนึ่งทาบอก อีกมือหนึ่งชี้หน้าเฉียวเยี่ยนด้วยอาการสั่นเทา “เจ้า…เจ้า!”

“ท่านเป็นอะไรไป หากทะเลาะไม่เป็นก็กลับบ้านไปเรียนสักสองปีก่อนแล้วค่อยมาหาเปิ่นเฟย จะได้ไม่เสียเวลา!”

เรื่องทักษะฝีปากของเฉียวเยี่ยน นางไม่เคยทะเลาะแพ้ใคร ในตอนนั้นน้องสาวที่เข้ากันได้ดีกับนางถูกผู้ชายทิ้ง นางก็ด่าผู้ชายคนนั้นอยู่ข้างล่างตึกผ่านลำโพงตลอดทั้งวัน และยังทักทายไปถึงบรรพบุรุษสิบแปดชั่วโคตรด้วย!

สุดท้ายชายคนนั้นก็ร้องห่มร้องไห้มาขอโทษน้องสาวนาง

พระสนมเต๋อเฟยก็เกือบร้องไห้ออกมาแล้ว “นังหญิงปากร้าย! หยาบคายยิ่งนัก!”

“หวงโฮ่วเหนียงเหนียง นี่คือลูกสะใภ้ที่ดีของท่านรึ! ช่างบังอาจนัก วันนี้ข้าจะไปรายงานต่อฝ่าบาท!”

เฉียวเยี่ยนปวดหัวกับเสียงเสียดแหลมของหญิงชรา และมองลูกสาวข้างกายที่กำลังฟังนางทะเลาะกับคนอื่นด้วยแววตาเป็นประกาย ความรักของแม่พลันระเบิดออกมาทันที

“ลูกรักดูสิ แม่ช่วยด่าคนให้แล้ว!”

บังอาจรังแกลูกของนางรึ?

ต่อให้พระเจ้าจะลงมา นางก็กล้าด่า!

ระบบตัวน้อยในทะเลแห่งจิตสำนึกนั่งเรียบร้อยอยู่หน้าโต๊ะ ถือสมุดบันทึกเล่มเล็ก เตรียมจดบันทึกด้วยสีหน้าจริงจัง

“หยาบคาย? ปากร้าย? เปิ่นเฟยเคารพท่านเหมือนผู้ใหญ่และไม่อยากโต้เถียงกับท่าน ไม่เช่นนั้นก็คงทำไปนานแล้ว ท่านคิดว่าตนยังมีโอกาสได้เอ่ยวาจาอีกรึ?”

พระสนมเต๋อเฟยชราวัยสามสิบกว่าปีมีสีหน้าซีดเผือด เอามือทาบอกหอบหายใจแรง ดวงตาที่ถลึงมองนั้นดูเหมือนจะสลบไปได้ทุกเมื่อ

เฉียวเยี่ยนเดาะลิ้นสองครั้ง “เต๋อเฟยเหนียงเหนียง ข้าคิดว่าสภาพจิตใจของท่านดูไม่ดีนัก ด่าเพียงไม่กี่ประโยคก็โมโหจนกลายเป็นเช่นนี้ อีกเดี๋ยวคงจะไม่เป็นลมท่ามกลางผู้คนหรอกใช่ไหม?”

“นั่นไม่ดีเลย เราต้องการเป็นพลเมืองดีที่ปฏิบัติตามกฎหมาย อย่ามาจงใจหาเรื่องกันเลย”

หวงโฮ่วเหนียงเหนียงแอบอุทานดีใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ และยืนอยู่ข้าง ๆ เฉียวเยี่ยน แสร้งทำเป็นจับแขนเสื้ออีกฝ่าย และเกลี้ยกล่อมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เสี่ยวเยี่ยน หยุดทะเลาะได้แล้ว วุ่นวายจนดูไม่ค่อยดีแล้ว”

เหล่าขันทีและนางข้าหลวงในห้องถึงกับนิ่งงัน “…”

เอ่อ…พวกเราอยากบอกว่า พระนางช่วยหยุดยิ้มให้มันชัดเจนหน่อยได้หรือไม่?

ครั้นหวงโฮ่วเหนียงเหนียงแสร้งทำได้ไม่เหมือน นางจึงไม่เสแสร้งอีกต่อไป กลับไปประทับบนบัลลังก์ตามเดิม และอุ้มเสี่ยวฉวนเอ๋อร์มาไว้ในอ้อมแขน ป้อนขนมอบชิ้นหนึ่งให้เขา ตัวเองก็ชิมหนึ่งชิ้น ก่อนที่สองย่าหลานจะดูการแสดงอย่างตั้งใจ

ดูเหมือนว่าต้องหาเวลาไปเรียนรู้กลเม็ดเคล็ดลับการด่าจากพระสุณิสาเสียแล้ว หลายปีมานี้ต้องรับโทสะสนมเหล่านั้น ต้องมีสักวันหนึ่งที่พระนางจะเอาคืนบ้าง!

พระสนมเต๋อเฟยโกรธจนถึงขีดสุด สติสตังทั้งหมดมลายหายไปจนสิ้น และสั่งแม่นมที่อยู่ข้าง ๆ อย่างเป็นบ้าเป็นหลัง “แม่นมจาง ตบปากนาง!”

“เพคะ!”

แม่นมจางรับคำสั่งและม้วนแขนเสื้อขึ้น เดินไปหาเฉียวเยี่ยนด้วยสีหน้ามาดร้าย จนผู้คนในบริเวณนั้นอดกังวลขึ้นมาไม่ได้

แม่นมจางคนนี้มีชื่อเสียงด้านความดุร้าย มีขันทีและนางข้าหลวงไม่รู้กี่คนถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือนางมาแล้ว!

ไม่รู้ว่าเฉียวเยี่ยนจะเสียเปรียบหรือไม่หากต้องปะทะกับนาง

ทว่าในเวลานี้เฉียวเยี่ยนที่เป็นเป้าความกังวลก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย สงบนิ่งไม่สะทกสะท้าน หากเพ่งมองดี ๆ ก็จะเห็นว่ากำลังตื่นเต้นเล็กน้อย

ในที่สุดก็ถึงเวลาลงมือแล้วหรือ? นางแทบรอไม่ไหวแล้ว เมื่อครู่ที่คุยเรื่องไร้สาระไปมากมายก็แค่อยากบีบให้อีกฝ่ายลงมือก่อนก็เท่านั้น เช่นนี้นางจะได้มีเหตุผลในการสู้!

แม่นมจางเดินไปอยู่ตรงหน้าเฉียวเยี่ยน ดวงตารูปทรงสามเหลี่ยมและเปลือกตาตกมองสำรวจอีกฝ่ายพลางพ่นลมหายใจเย็นชาออกมา ดูหยิ่งผยองยิ่งนัก

ครั้นระบบตัวน้อยเห็นท่าทางเย่อหยิ่งของหญิงอ้วน นางก็ม้วนแขนเสื้อขึ้นอย่างตื่นเต้น กวัดแกว่งแขนน้อยไปมาอย่างดุดันแบบเด็ก ๆ

[ท่านโฮสต์ จัดการนางเลย!]

แม่นมจางยกแขนอ้วนของตัวเองขึ้น แล้วเตรียมจะฟาดลงบนใบหน้ารูปไข่ของเฉียวเยี่ยน จนทุกคนคิดว่าเฉียวเยี่ยนจะถูกทุบตี ส่วนฮองเฮาก็ส่งแม่นมข้างกายไปลากแม่นมจางออกมาทันที ทว่ากลับเห็นเฉียวเยี่ยนรับมือของแม่นมจางไว้ได้อย่างง่ายดาย

ทันทีที่นางออกแรง ทุกคนก็ได้ยินเสียงกระดูกแตกหัก รวมถึงเสียงกรีดร้องดั่งสุกรถูกเชือดของแม่นมจาง

มืออ้วนที่ฆ่าขันทีและนางข้าหลวงนับไม่ถ้วนในเวลานี้กลับบิดเบี้ยวผิดรูป ขณะที่แม่นมจางร้องคร่ำครวญกุมมือด้วยสีหน้าขาวซีด

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เอ้า ก็ลูกป้าผลักน้องเขาก่อนอะ ตัดสินยังไงลูกป้าก็ผิดอยู่ดี

มาหาเรื่องเฉียวเยี่ยนเครื่องด่าและมือตบแห่งราชสำนักแบบนี้ก็มือหักไปสิ

ท่านอ๋องระวังหวางเฟยของท่านไว้ให้ดีเลย เกิดวันใดหวางเฟยบันดาลโทสะขึ้นมา อนุชาท่านอาจโดนเชือดไปทำปุ๋ยให้บรรดาผักในสวนก็เป็นได้

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท