ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 50 ระบบที่กลายเป็นศัตรูสมมติ (รีไรท์)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 50 ระบบที่กลายเป็นศัตรูสมมติ (รีไรท์)

ตอนที่ 50 ระบบที่กลายเป็นศัตรูสมมติ (รีไรท์)

เมื่อตัดสินใจแล้ว เฉียวเยี่ยนก็ได้มอบลิปสติกให้กับเหล่าเหนียงเหนียงคนละแท่ง ให้พวกนางช่วยกระจายข่าว รอให้ร้านเครื่องสำอางของนางเปิดตัว

หลังจากมีความคิดเช่นนี้ เฉียวเยี่ยนก็พลิกบัญชีดูทันที ตรวจสอบร้านค้าภายใต้การครอบครองของมู่ฉินเจินว่ามีร้านไหนเหมาะจะเปิดร้านเครื่องสำอางบ้าง สุดท้ายจึงตั้งเป้าหมายไว้ที่ร้านขายเครื่องประดับทองเงินที่ขายได้ไม่ค่อยดี

ในช่วงบ่ายอันแจ่มใส เฉียวเยี่ยนพาฮุ่ยเซียงและลูกสองคนออกจากเรือน เตรียมไปสำรวจร้านขายเครื่องประดับทองเงิน และวางแผนตกแต่งปรับปรุง

นางได้บอกเรื่องนี้แก่มู่ฉินเจินก่อนแล้ว มู่ฉินเจินไม่สนใจพวกกิจการ และกลายเป็นพวกเถ้าแก่ชี้นิ้วสั่ง อยากทำอะไรก็แล้วแต่นาง

เมื่อมาถึงร้าน เฉียวเยี่ยนยืนมองอยู่นอกประตู ร้านค้ามีขนาดใหญ่มาก ทว่าไม่มีลูกค้าอยู่ด้านในสักคน ส่วนผู้ดูแลร้านนั่งเหงาหลับอยู่ด้านหน้าตู้บริการ

ฮุ่ยเซียงก้าวเข้าไปเคาะตู้ ปลุกผู้ดูแลร้านให้ตื่น ผู้ดูแลร้านรีบยิ้มทันที และเอ่ยอย่างกระตือรือร้นกับเฉียวเยี่ยน “ไม่ทราบว่าฮูหยินอยากซื้อเครื่องประดับแบบใดรึ?”

เฉียวเยี่ยนไม่พูดอะไร ฮุ่ยเซียงยื่นป้ายของตำหนักอ๋องซู่ในมือออกมา ผู้ดูแลร้านตัวสั่นสะท้านในทันใด และมองไปที่เฉียวเยี่ยน

ผิวพรรณเรียบเนียนเกลี้ยงเกลา งามล่มเมือง มาพร้อมกับเด็กแฝดชายหญิง หรือนี่จะเป็นซู่หวางเฟยในข่าวลือ!

เมื่อได้ข้อสรุปการคาดเดาในใจแล้ว ผู้ดูแลร้านก็รีบโค้งคำนับเฉียวเยี่ยนทันที “หวางเฟยเหนียงเหนียง ข้าน้อยไม่ทราบว่าท่านจะมา จึงไม่ได้ต้อนรับ”

เฉียวเยี่ยนโบกมือ สั่งเขาให้ลุกขึ้น นางมองไปรอบ ๆ เพื่อมองเค้าโครงภายในร้าน

มีเครื่องประดับมากมายวางอยู่ แต่ทั้งหมดล้วนเป็นแบบธรรมดา ไม่มีการออกแบบที่น่าทึ่งเป็นพิเศษ

รูปแบบการตกแต่งของร้านล้วนเห็นได้ทั่วไปไม่มีอะไรแปลกใหม่ พื้นที่ว่างของร้านก็ดี เนื้อที่ก็กว้างขวาง แต่กิจการกลับซบเซา ช่างน่าเสียดายนัก

เฉียวเยี่ยนรู้สึกพอใจ หากปรับปรุงตกแต่งที่นี่สักหน่อย ทำเป็นร้านขายเครื่องสำอางก็น่าจะไม่เลว

นางหยิบสมุดที่พกติดตัวออกมา วาดรูปเค้าโครงภายในร้านแบบคร่าว ๆ มอบหมายงานบางอย่างให้ผู้ดูแลร้าน ก่อนจะพาเด็ก ๆ และฮุ่ยเซียงจากไป

หลังออกมาจากร้าน เฉียวเยี่ยนก็ไปยังหอฮวาอวิ้น เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าการปรับปรุงตกแต่ง

ทันทีที่มาถึงหน้าประตูภัตตาคาร หลี่ว่านหลินผู้ดูแลหอฮวาอวิ้นก็ออกมาต้อนรับ หลี่ว่านหลินเคยเป็นทหารในกองทัพมาก่อน เมื่อก่อนเป็นลูกน้องของมู่ฉินเจิน มู่ฉินเจินเห็นเขาค่อนข้างฉลาด หลังจากเกษียณจึงเอาเขามาทิ้งไว้ที่ภัตตาคาร

หอฮวาอวิ้นเปลี่ยนไปมากเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ เฉียวเยี่ยนเข้าไปดูหน้าต่างขายผักเป็นอันดับแรก ดูกว้างขวาง สะดุดตา นางเห็นแล้วก็พอใจกับมันมาก

ผู้ดูแลร้านนึกถึงโต๊ะวางหม้อไฟที่หวางเฟยสั่งทำที่มาถึงเมื่อครู่ ก็พาเฉียวเยี่ยนขึ้นไปตรวจดูที่ชั้นบน

โต๊ะเหล่านี้เฉียวเยี่ยนเป็นคนออกแบบและหาช่างฝีมือมาทำ ตรงกลางโต๊ะกว้างมีรูอยู่ สามารถวางหม้อลงไปได้ และข้างใต้หม้อมีช่องว่างอยู่ สามารถใส่ถ่านไฟเพื่อเพิ่มความร้อนได้

เฉียวเยี่ยนให้คนยกถาดถ่านไฟมา ลองดูความสามารถในการทำความร้อนของหม้อ ซึ่งนำความร้อนได้ค่อนข้างเร็ว ไม่นานน้ำครึ่งหม้อก็เดือดขึ้นมาแล้ว

หอฮวาอวิ้นใกล้จะเปิดกิจการ ร้านเครื่องสำอางก็กำลังปรับปรุงใหม่ เรื่องเหล่านี้ทำให้เฉียวเยี่ยนยุ่งตลอดทั้งวัน จนตอนนี้ผอมลงไปสองชั่ง

มู่ฉินเจินมองสตรีตัวเล็กแสนดื้อรั้นคนนี้แล้วก็รู้สึกปวดใจ วันหนึ่งในระหว่างกินข้าว เขาก็ให้กล่องไม้กล่องหนึ่งแก่เฉียวเยี่ยน

เฉียวเยี่ยนเปิดออกดูด้วยความสงสัย พบว่าด้านในมีตั๋วเงินอยู่ มูลค่ามหาศาลมาก น่าจะประมาณหลายหมื่นตำลึง

มู่ฉินเจินเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สีหน้าจริงจัง “ความจริงแล้วเจ้าไม่ต้องลำบากขนาดนั้นก็ได้ นับตั้งแต่ที่ข้าพาเจ้ากลับมาเมืองหลวง ทั้งตำหนักอ๋องซู่ล้วนเป็นของเจ้า และทรัพย์สินทั้งหมดของข้าก็เป็นของเจ้าเช่นกัน”

รวมถึงข้าที่เป็นของเจ้าด้วย

ทว่าประโยคนี้เขาไม่ได้เอ่ยออกไป

เฉียวเยี่ยนตกตะลึงไปชั่วครู่ ฟังคำพูดอันหนักแน่นของเขาก็รู้สึกแค่ว่ามันอบอุ่น แต่ก็ยังผลักกล่องตั๋วเงินคืนกลับไป

“ขอบคุณสำหรับน้ำใจของท่าน แต่ข้าชอบใช้เงินที่ตัวเองหามาได้ และข้าก็สนุกกับการหาเงิน ไม่ได้รู้สึกลำบากอะไร”

เมื่อมู่ฉินเจินเห็นนางขีดเส้นแบ่งฝ่ายกับตัวเองอย่างชัดเจน ความผิดหวังก็ผุดขึ้นมาในหัวใจ นางผลักไสเขาเช่นนี้ เป็นเพราะคนที่ชื่อระบบรึ?

ท่านอ๋องที่จริงจังเกินเหตุเพียงแค่คิดถึงคนที่ชื่อระบบก็เริ่มหึงหวงขึ้นมา จึงอดไม่ได้ที่จะถามอย่างไม่พอใจ “เช่นนั้นเจ้ายอมใช้เงินของระบบรึ?”

เฉียวเยี่ยนกำลังดื่มน้ำแกง ครั้นได้ยินคำพูดของเขาก็แทบจะพ่นน้ำแกงออกมา

และคิดว่าตัวเองหูแว่ว “ใครนะ?”

รังสีหึงหวงในน้ำเสียงของมู่ฉินเจินเอ่อล้นออกมาแล้ว สายตาลุ่มลึกจ้องมองเฉียวเยี่ยน มิอาจปล่อยผ่านสีหน้านางไปได้ ด้วยกลัวว่านางจะมีความรู้สึกพิเศษกับคนที่ชื่อระบบ

“ระบบ ก่อนหน้านี้ที่เจ้าเมาก็เอ่ยถึงเขาตลอดมิใช่รึ? เขาสำคัญกับเจ้ามากเลยหรือ?”

เฉียวเยี่ยนอกสั่นขวัญแขวน ผ่านมาหลายวัน นางคิดว่าเขาจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วเสียอีก ตอนนี้จะขุดคุ้ยเรื่องเก่าขึ้นมารึ?

ระบบตัวน้อยที่แทะเมล็ดแตงอย่างเอร็ดอร่อยไม่รู้เลยว่าตัวเองได้กลายเป็นศัตรูสมมติของท่านอ๋องแล้ว

มู่ฉินเจินมองเฉียวเยี่ยนที่เอาแต่ก้มหน้าไม่เอ่ยสิ่งใดก็ยิ่งรู้สึกผิดหวังมากขึ้น เขาวางชามและตะเกียบลงบนโต๊ะ แล้วลุกขึ้น

“ข้าอิ่มแล้ว ขอตัวไปจัดการงานราชการก่อน”

เฉียวเยี่ยนมองตามแผ่นหลังมู่ฉินเจินที่จากไป และเกิดคำถามขึ้นมาในหัว

เหตุใดนางถึงได้รู้สึกว่าท่านอ๋องดูแปลกไปเล็กน้อย? ดูกลุ้มใจแปลก ๆ!

มู่ฉินเจินไปที่ห้องหนังสือ ดูข้อมูลที่เกาจัวหยวนรายงานมา เขาได้สืบหามาเกือบหนึ่งเดือนแล้วก็ไม่เจอคนที่เข้าเกณฑ์ว่าชื่อระบบเลย

มีเพียงคนหนึ่งที่เป็นขอทานชรา ซึ่งได้ตายไปแล้วหลายเดือน ทว่าเขาเชื่อสายตาของเฉียวเยี่ยน นางคงไม่ชายตาแลขอทานชราที่ตายไปแล้วแน่นอน

ท่านอ๋องขยำรายงานที่อยู่ในมือ สายตามุ่งมั่น ต่อให้สุดขอบฟ้าสิ้นมหาสมุทร เขาต้องหาคนที่ชื่อระบบให้เจอให้ได้!

เฉียวเยี่ยนไม่มีเวลาไปคิดเล็กคิดน้อยกับท่านอ๋องที่จริงจังเกินเหตุ นางพาพ่อครัวกลุ่มหนึ่งไปผัดฮั่วกัวตี่เลี่ยว[1]

การทำฮั่วกัวตี่เลี่ยวต้องใช้ไขมันวัว แต่เฉียวเยี่ยนหาซื้อไม่ได้ จึงใช้ไขมันแพะแทน

เมื่อเตรียมไขมันแพะและเครื่องปรุงอื่น ๆ พร้อมแล้ว ก็เริ่มทำฮั่วกัวตี่เลี่ยว

ก่อนอื่นใส่ไขมันแพะลงไปในหม้อ จนกลายเป็นน้ำมัน แล้วเพิ่มขิง หอม กระเทียม ผักชีลงไปผัดให้หอม พอผัดจนมันเริ่มแห้งแล้วก็ตักออก แล้วใส่โต้วป้านเจี้ยงลงไปหนึ่งถ้วยใหญ่ หลังจากโต้วป้านเจี้ยงหลอมน้ำมันแดงออกมาก็ใส่ฮวาเจียว[2] อบเชย ใบหอม และพริกเพื่อเพิ่มรสชาติ

กลิ่นของฮั่วกัวตี่เลี่ยวทั้งหอมทั้งฉุน กลิ่นหอมจนลอยออกไปจากตำหนักอ๋องซู่แล้ว ข้ารับใช้ที่ทำงานอยู่ได้กลิ่นก็วิ่งมาล้อมห้องเครื่อง หลังจากรู้ว่ายังกินไม่ได้ในตอนนี้ก็กลับไปทำงานต่ออย่างผิดหวัง

เฉียวเยี่ยนผัดฮั่วกัวตี่เลี่ยวเผ็ดร้อนสามระดับ ได้แก่ เผ็ดน้อย เผ็ดปานกลาง และเผ็ดมาก ตอนบ่ายก็ตัดสินใจต้มหม้อไฟสักครั้งหนึ่งเพื่อลองชิมรสชาติ

นำฮั่วกัวตี่เลี่ยวที่ผัดเสร็จแล้วใส่ลงในถาดดินเผารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และปล่อยให้เย็นจนแข็งตัว จากนั้นก็หั่นเป็นชิ้นเล็ก ใช้กระดาษน้ำมันห่อให้ดี และเขียนฉลากติดไว้

และเพราะจะกินหม้อไฟในตอนบ่าย หลังจากเฉียวเยี่ยนสอนพ่อครัวในห้องเครื่องใหญ่ว่าต้มอย่างไรแล้ว นางก็หิ้วไก่ที่ทำความสะอาดแล้วตัวหนึ่งกลับไปที่เรือนจิ่งเสวียน

เติมน้ำลงในหม้อร้อนขนาดเล็ก ใส่ไก่ทั้งตัวลงไปในหม้อ แล้วใส่ต้นหอมขด ขิงแผ่น และเหล้าเหลืองลงไปค่อย ๆ ตุ๋น ซึ่งจะใช้น้ำซุปไก่นี้เป็นฐานน้ำซุปหม้อไฟ

ในระหว่างที่เคี้ยวน้ำซุปไก่ เฉียวเยี่ยนก็เตรียมวัตถุดิบที่กินกับหม้อไฟร้อน

ให้ฮุ่ยเซียงพกตะกร้าเล็ก ๆ ไปเก็บผักบางชนิดในเรือนกระจก ส่วนนางก็หั่นเนื้อสัตว์ และทอดหมูกรอบเล็กน้อย

ตัดเนื้อสันในเป็นเส้น ๆ ใส่เครื่องปรุงหมักไว้ ใช้แป้งและไข่ตีให้เข้ากันเป็นแป้งเหลว แล้วนำเนื้อที่หมักชุบลงไปในแป้ง ก่อนนำลงไปทอดจนเป็นสีทองกรอบ

แม้จะไม่มีเนื้อวัวสไลซ์ แต่โชคดีที่มีเนื้อแพะ วันนี้ซื้อไขมันแพะมา จึงซื้อเนื้อแพะมาจำนวนไม่น้อย นำเนื้อแพะมาหั่นเป็นแผ่นบาง ๆ และจัดใส่ในถาด

กินหม้อไฟก็ควรจะมีลูกชิ้นด้วย แต่วันนี้ทำไม่ทันแล้ว เฉียวเยี่ยนทำได้เพียงตัดทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย และทำเกี๊ยวไข่แทน

[1] ฮั่วกัวตี่เลี่ยว (火锅底料) เครื่องเทศปรุงรสสำเร็จรูปสำหรับหม้อไฟ

[2] ฮวาเจียว (花椒) หรือพริกเสฉวน ให้รสชาติเผ็ดชา

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

นับถือในความมุ่งมั่นตามหาระบบของท่านอ๋องจริง ๆ เห็นท่านอ๋องเป็นแบบนี้ก็ตลกดีค่ะ

ดีที่กินข้าวกลางวันแล้ว ไม่งั้นหิวทรมานแน่เลยค่ะ เจอสูตรหม้อไฟเฉียวเยี่ยนเข้าไป ใครอ่านแล้วรู้สึกอยากกินปิ้งย่าง หมูกระทะ ชาบู หม้อไฟบ้างคะ

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท