ตอนที่ 178 แผนปลูกสตรอเบอรี่
ตอนที่ 178 แผนปลูกสตรอเบอรี่
การห่อผลสามารถลดแมลงศัตรูพืชและโรคได้ และยังทำให้รูปร่างของลูกท้อสมบูรณ์ขึ้น และสีของผลไม้ก็จะยิ่งสวยงามขึ้นด้วย
กระดาษที่นางนำมาห่อผลท้อเป็นกระดาษวาดเขียนที่ใช้กันทั่วไป ซึ่งมีความโปร่งใสนิดๆ และมีสีอมเหลืองเล็กน้อย ไม่มีอะไรเหมาะสมไปกว่านี้แล้ว
กระดาษถูกพับเป็นถุงสี่เหลี่ยมเล็กๆ ขนาดพอเหมาะ ก่อนจะนำไปห่อลูกท้อ จากนั้นใช้เชือกเส้นเล็กๆ มัดตรงส่วนด้านล่างก็เป็นอันใช้ได้แล้ว
แต่ก่อนจะห่อผลต้องฉีดยาฆ่าแมลงบนต้นท้อ และให้แคลเซียมเสริมลงไปอีกหนึ่งครั้งก่อน จะได้ลดแมลงศัตรูพืชและป้องกันการแตกของผลไม้ได้
การห่อผลท้อทำค่อนข้างง่ายมาก นางจึงไม่ได้ไปที่หมู่บ้านจิ่วหลีพัวด้วยตัวเอง เพียงแค่เขียนวิธีการอย่างรายละเอียด แถมยังวาดแผนภาพการทำงาน และมอบให้คนไปส่งที่นั่น และขนกระดาษไปสองคันรถด้วย
ต้นท้อมีจำนวนมาก ลูกท้อบนต้นก็ยิ่งมีมากจนนับไม่ถ้วน ดังนั้นการพับถุงกระดาษก็เป็นโครงการใหญ่อย่างหนึ่ง
เฉียวเยี่ยนให้คนส่งกระดาษไปให้ชาวบ้านในหมู่บ้านจิ่วหลีพัว ให้พวกเขาช่วยพับถุงกระดาษ และนางจะคำนวณราคาอยู่ที่สองอีแปะต่อถุงกระดาษยี่สิบใบ
อย่าคิดว่ามันฟังดูราคาถูก แต่การพับถุงกระดาษนั้นง่ายมาก แค่สตรีในหมู่บ้านทำวันเดียวก็สามารถพับได้หลายพันใบแล้ว เช่นนี้ก็สามารถทำรายได้ไปได้ร้อยกว่าอีแปะในวันเดียว ทำให้พวกชาวบ้านต่างแย่งกันทำงานนี้
หลังจากจัดการเรื่องป่าท้อเสร็จแล้ว เฉียวเยี่ยนก็เตรียมเริ่มดำเนินการครั้งใหญ่อีกครั้ง ปีที่แล้วนางเพาะเลี้ยงเมล็ดสตรอเบอรี่ที่ซื้อมาจากระบบตัวน้อยเอาไว้ ซึ่งตอนนี้มันได้งอกกล้าสตรอเบอรี่ออกมาแล้ว หลังผ่านการขยายต้นกล้า จนถึงตอนนี้นางก็มีต้นกล้าสตรอเบอรี่ขนาดพร้อมปลูกชุดหนึ่งแล้ว
นางเตรียมรื้อเรือนกระจกที่ปลูกมันเทศในหมู่บ้านลวี่หลัวเรือนหนึ่ง แล้วนำมาปลูกสตรอเบอรี่แทน
ลู่ทางการขายสตรอเบอรี่นั้นกว้างขวางมาก สามารถขายสดหรือแปรรูปเป็นแยมผลไม้ในโรงงานก็ได้ อีกทั้งในราชวงศ์เทียนลี่ยังไม่เคยมีสตรอเบอรี่ ดังนั้นก็จินตนาการได้เลยว่ายามใดที่สตรอเบอรี่ออกสู่ตลาด ยอดขายต้องดีมากเป็นแน่
เวลาการเพาะปลูกสตรอเบอรี่ในเรือนกระจกอยู่ในช่วงเดือนเก้า เมื่อถึงเดือนหนึ่งเดือนสองในปีหน้าก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผลไม้อื่นยังไม่สุกดี นางสามารถใช้โอกาสนี้หาเงินจากผลไม้นอกฤดูได้
สองสามวันมานี้ เฉียวเยี่ยนวิ่งวุ่นไปที่หมู่บ้านลวี่หลัวทุกวันอีกแล้ว ครอบครัวสี่คนกลับมาไม่เห็นเงาในตอนกลางวันอีกครั้ง ถึงพลบค่ำจึงจะสามารถมารวมตัวกันได้
นี่เป็นครั้งแรกที่ส่งเสริมการปลูกสตรอเบอรี่ในสมัยโบราณ เฉียวเยี่ยนจึงทุ่มเทพลังงานอย่างเต็มร้อย อีกทั้งมันเทศในเรือนกระจกชุดนี้ก็ถึงเวลาเก็บเกี่ยวพอดี พวกคนงานใช้เวลาไปสองวันกว่าจะขุดมันเทศในเรือนกระจกออกมาหมด
มันเทศที่ขุดออกมาได้มีน้ำหนักหลายพันชั่ง และขนส่งพวกมันไปยังโรงงานทั้งหมด เพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับทำเส้นมันเทศ
หลังจากจัดการรื้อเรือนกระจกจนว่างเปล่าแล้ว เฉียวเยี่ยนก็ให้พวกคนงานไถแปลงลึกๆ การไถลึกสามารถทำให้ชั้นดินด้านบนแลกเปลี่ยนกับชั้นดินด้านล่าง เพื่อลดปริมาณไข่แมลงที่อยู่บนชั้นดิน
หลังจากไถแปลงลึกเสร็จแล้ว ก็ต้องฆ่าเชื้อราในดินก่อน แต่ขั้นตอนนี้เฉียวเยี่ยนแอบทำอย่างลับๆ
เพื่อให้การฆ่าเชื้อรามีประสิทธิภาพขีดสุด นางใช้สารฆ่าเชื้อราในดินที่ซื้อมาจากระบบ ก็คือพวกคาร์เบนดาซิมและสารผสมบอร์โดซ์ที่ใช้บ่อยที่สุดในสมัยใหม่
นางเทยาฆ่าเชื้อราลงในถังน้ำขนาดใหญ่อย่างเงียบๆ ราวกับกำลังวางยาพิษ จากนั้นก็ให้พวกคนงานฉีดพ่นยาที่เจือจางแล้วอยู่ในเรือนกระจก
หลังจากฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อราเสร็จก็ต้องทำให้เรือนกระจกมีอุณหภูมิสูง ความจริงแล้วคือปิดม่าน ประตูในเรือนกระจกให้หมด ให้ภายในโรงเรือนรักษาอุณหภูมิที่ค่อนข้างสูงไว้ จะได้ฆ่าเชื้อราในดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อุณหภูมิในเรือนกระจกฟิล์มพลาสติกสมัยปัจจุบันสามารถสูงถึงสี่สิบหรือห้าสิบองศา แต่ในสมัยโบราณกลับมีอุณหภูมิไม่สูงขนาดนั้น เฉียวเยี่ยนจึงทำได้เพียงปฏิบัติตามหลักการที่ว่ามีบางสิ่งดีกว่าไม่มีอะไรเลย และพยายามลดเชื้อราในดินให้ได้มากที่สุด
หลังจากทำความสะอาดเรือนกระจกเสร็จ เฉียวเยี่ยนก็ไปทำชั้นวางปลูกสตรอเบอรี่ นางวางแผนจะทำการเพาะปลูกแบบสามมิติ ก็คือเพาะปลูกบนดินกับเพาะปลูกแบบสามมิติไปพร้อมกัน
พื้นดินใช้วิธีขุดแบบแปลงคันนา และปลูกสตรอเบอรี่ไว้บนคันนานั้น เว้นช่องไว้ให้คนเดินและใส่ปุ๋ยรดน้ำ เว้นพื้นที่แคบยาวรอบบริเวณเรือนกระจกทั้งสี่ทิศ และตั้งชั้นวางสตรอเบอรี่บนพื้นที่โล่งนั้น เลียนแบบการเพาะปลูกแบบทางยกระดับในสมัยใหม่
ด้านบนสุดของเรือนกระจกนางก็พิจารณาแล้ว สามารถสร้างที่วางของได้ และแขวนตะกร้าเล็กๆ ไว้บนที่วาง และปลูกสตรอเบอร์รี่ไว้บนตะกร้าแขวนนั้น
วันที่ยี่สิบสองเดือนเจ็ด
ในพระราชวัง
ในช่วงสองสามวันมานี้ มู่ฉินเจินยังคงช่วยชายชราพิจารณาสาส์นอยู่ในวัง และสะสางงานราชการทหารของค่ายทหารตัวเองไปพร้อมกัน พอถึงอาหารกลางวันก็ไปรับประทานกับฮองเฮา
เพราะบิดาอยู่ในวัง ลูกทั้งสองจึงไม่ได้นำข้าวกล่องน้อยมาด้วย อาศัยวิ่งไปกินข้าวกับเสด็จปู่เสด็จย่าแทน
หลังเสวยเสร็จ ฮองเฮาก็กล่อมเด็กทั้งสองเข้านอน ยังมีเวลาอีกหนึ่งชั่วยามก่อนเข้าเรียนภาคบ่าย ให้พวกเขางีบหลับกลางวันสักหน่อยได้
เมื่อมองท่าทางหลับไหลน่ารักของเด็กๆ ฮองเฮาก็พระทัยอ่อนจนกลายเป็นน้ำ หากมีพระนัดดามาเพิ่มอีกสักสองสามคนคงจะดีไม่น้อย เช่นนั้นนางจะวางมือจากวังหลัง และรับหน้าที่อยู่กับลูกๆ หลานๆ ทุกวันเท่านั้น
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ นางก็อดกังวลขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้ ความสัมพันธ์ระหว่างพระโอรสกับพระสุณิสาในตอนนี้คนฉลาดต่างมองออกได้ว่าเป็นไปอย่างดียิ่ง แต่ไม่สมเหตุสมผลเลยที่ท้องกลับเงียบสนิท
ครั้นหญิงชรานึกถึงคนหนุ่มสาวที่ไม่ต้องการมีลูกและพยายามหลีกเลี่ยงเหล่านั้น ก็รู้สึกยิ่งกังวลมากขึ้น
เด็กสองคนนี้คงจะไม่คิดว่าแค่ลูกสองคนก็พอแล้วหรอกนะ เลยดื่มยาคุมกำเนิดและไม่ต้องการมีลูก
นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร!
อย่าเพิ่งเอ่ยถึงเรื่องคลอดบุตรเลย หากดื่มยาคุมกำเนิดมากๆ มันก็ไม่ดีต่อสุขภาพ จะทำให้มดลูกเย็น และเกิดปัญหามากมายตามมา
นางยิ่งคิดก็ยิ่งกังวล ครั้นเห็นพระโอรสยังดื่มชาอย่างสบายๆ ก็อยากจะเตะเขาเสียสองที!
เมื่อคนรับใช้ถอยกลับออกไป ภายในตำหนักก็เหลือเพียงสองแม่ลูกกับเด็ก ๆ ที่หลับสนิท
นางถลึงพระเนตรใส่พระโอรส และตรัสเสียงเบาทุ้ม “เจ้ากับเสี่ยวเยี่ยนกำลังดื่มยาคุมกำเนิดกันอยู่ใช่หรือไม่? การทำเช่นนี้มากๆ มันไม่ดีต่อสุขภาพนะ เจ้ารีบหยุดเดี๋ยวนี้เลย!”
มู่ฉินเจินชะงักมือที่ถือถ้วยชาอยู่ แทบจะพ่นน้ำชาที่อยู่ในปากออกมา นัยน์ตาแฝงไปด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อ
ฮองเฮาเห็นเขาเช่นนั้นก็คิดว่าเขาอาย จึงเอ่ยต่อ “จะอายไปไย เจ้าหาใช่ลูกที่ข้าให้กำเนิดมาเสียหน่อย กลับไปบอกเสี่ยวเยี่ยนว่าห้ามดื่มยาอีก ไม่เช่นนั้นจะได้รับผลกระทบในอนาคต”
การที่มดลูกเย็นจะก่อให้เกิดความผิดปกติของรอบเดือนหรืออาการปวดบริเวณท้องน้อยขณะมีรอบเดือน นอกจากนี้ยังมีปัญหามือเท้าเย็นชา เป็นโรคกลัวหนาว หากเป็นมดลูกเย็นขั้นรุนแรงยังทำให้ตั้งครรภ์ได้ยากอีกด้วย กล่าวสั้นๆ คือสำหรับสตรีแล้ว นี่เป็นปัญหาร้ายแรงอย่างมาก
มู่ฉินเจินกลืนน้ำชาในปากลงไป และอ้าปากค้างเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามมารดาอย่างไร
เขากับเจ้าท่อนไม้ยังไม่ก้าวหน้าไปถึงขั้นตอนสุดท้ายเลย นางจะเอาเวลาไหนไปดื่มยาคุมกำเนิด
เขาปรับสติอารมณ์ให้เป็นปกติ และตอบอย่างแห้งแล้งด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “เสด็จแม่ไม่ต้องกังวล พวกเราไม่ได้ดื่มสักนิด”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฮองเฮาก็ยิ่งกังวลมากขึ้น!
นางดูออกว่าพระโอรสกำลังจะบ่ายเบี่ยงอีกครั้ง จึงคว้าตัวเขาเอาไว้ สีพระพักตร์เต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม “ไม่ได้ดื่ม แล้วเหตุใดนานเพียงนี้แล้วท้องของเสี่ยวเยี่ยนยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอีก เจ้าบอกกับแม่มาตามตรง ร่างกายของเจ้ามีปัญหาใช่หรือไม่?”
ขณะกล่าว นางก็มองไปยังเบื้องล่างของพระโอรส และไม่สงสัยเลยสักนิดว่าร่างกายเฉียวเยี่ยนมีปัญหาหรือไม่ ในใจนาง ลูกสะใภ้ของนางย่อมดีที่สุด และเป็นคนมีความสามารถมากที่สุด จะมีปัญหาได้อย่างไร
หากมีปัญหา ก็ต้องอยู่ที่เจ้าเด็กบ้าคนนี้แล้ว!
มู่ฉินเจินรู้สึกอายมากจริงๆ และอยากจะตะโกนใส่หญิงชราของตัวเองมากว่าช่วยหยุดถามคำถามน่าอายเช่นนี้ได้หรือไม่!
ทว่าฮองเฮาไม่รับรู้ถึงความอายของพระโอรสเลยแม้แต่น้อย พระเนตรทั้งสองลุกโชนจนแทบจะแผดเผาเขาได้
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เสี่ยวเยี่ยนไม่ได้ดื่มยาคุมหรอกเสด็จแม่ แต่ว่าอยู่ในช่วงบ้างาน ก็เลยไม่ได้ทำกิจกรรมกับลูกชายท่านเพคะ
นอกจากเจ้าท่อนไม้แล้ว ก็มีฮองเฮานี่แหละที่เอาท่านอ๋องลง ๕๕๕
ไหหม่า(海馬)