พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 20

ตอนที่ 20

บทที่2ตอนจบพาร์ทจบส่วนที่ 1

พลังเวทย์ปกคลุมไปทั่วทั้งคฤหาสน์ของตระกูลฟรานซิส

พลังเวทย์เข้าโอบล้อมพวกโนโซมุจนทำให้เกิดอาการง่วงอย่างรุนแรงเข้าโจมตีพวกเขา

「อึก!อะ!」

อาการง่วงนอนของโนโซมุถูกสลัดทิ้งไปเมื่อเขาเปิดใช้งานพลังจิตวิญญาณทั่วร่าง มองไปรอบๆฉากรอบๆนั้นเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

「นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่เนี่ยค่ะ?」

โซเมียถามพี่สาวของเธอ

「บางทีนี่เป็นบาเรียเวทย์………ส่วนผลของมันก็คือ」

บาเรียเวทย์เป็นหนึ่งในในการใช้เวทย์ที่จะสร้างพื้นที่รอบๆที่ถูกปลุกไปด้วยพลังเวทย์เป็นอาณาเขต

มีผลอยู่เป็นระยะเวลานานและขึ้นอยู่กับผู้ใช้ที่เป็นคนร่าย แต่โดยทั่วไปแล้วมันเป็นเวทย์ที่ใช้เวลาเตรียมการค่อนข้างนานพอตัว

นอกจากนี้หากยิ่งมันแสดงผลนานเอฟเฟกต์ของมันก็จะน้อยลงตามระยะเวลา

เมื่อมองไปที่มาร์และคนอื่นๆ มาร์ ไอริส และทิม่าดูท่าทางจะยังไหวอยู่ แต่อิน่านั้นหอบหายใจรุนแรง

「ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่จู่ๆก็ทำแบบนี้ อย่างไรก็ตามๆที่สัญญาเอาไว้กระผมจะสกัดวิญญาณของคุณหนูโซเมียออกจากเตาหลอมให้เองครับ」

โนโซมุสงสัยในคำพูดของชายชราที่ชื่อรูกาโต้นี่

「……สกัดวิญญาณของฉันออกมา……………หมายความว่ายังไงคะ?」

โซเมียถามรูกาโต้ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ไอริสเองก็ทำท่าทางโกรธมาก

จากมุมมองของพวกเขาแล้วชายชราตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับพวกน่าสงสัย

「ก็ตามที่กระผมได้กล่าวไป สัญญาที่ทำไว้เมื่อ 300 ปีก่อนของตระกูลวาเซียร์ตที่จะให้ความช่วยเหลือตระกูลฟรานซิสที่มีอยู่ในขณะนั้น ในเวลานั้นทางเราก็ได้มอบเตาหลอมวิญญาณนี่ให้เพื่อเป็นการช่วยเหลือ มันคือสัญญาที่ได้พูดคุยกันในตอนนั้นครับ」

ชายชราคนนั้นหยิบแผ่นหนังเก่าๆออกมาจากอกและกางออกให้พวกโนโซมุได้เห็น ในแผ่นหนังนั่นระบุไว้ว่าตระกูลวาเซียร์ตจะให้ความช่วยเหลือตระกูลฟรานซิสเพื่อโชคลาภครั้งใหญ่และได้มอบอุปกรณ์เวทย์เป็นเตาหลอมวิญญาณให้กับตระกูลฟรานซิสเป็นการยืมใช้ชั่วคราว ยังไงก็ตามเพื่อปกป้องสัญญานี่จะไม่ให้ทั้งสองตระกูลเป็นฝ่ายถือสัญญาด้วยตัวเองแต่จะมีตัวกลางหากตระกูลใดผิดสัญญา ผู้ที่เป็นผู้นำตระกูลคนปัจจุบันจะต้องเป็นคนรับผิดชอบสัญญานั่นด้วยตัวเองนอกจากนี้มันยังมีตราประจำตระกูลของตระกูลฟรานซิสที่มีแต่หัวหน้าตระกูลที่ใช้ได้อยู่ด้วย

「ก็เพราะเหตุนี้แหละครับ………………」

「พี่คะ…………」

ไอริสและโซเมียต่างตกใจเพราะเนื้อหาในสัญญาไม่มีการปลอมแปลงใดๆ

「ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ช่วยทำสัญญาให้เสร็จสมบูรณ์ด้วยนะครับ」

「ดะ เดี๋ยวก่อน!」

รูกาโต้พูดเช่นนั้นพร้อมกับหยิบลูกบอลสีดำออกมาจากอกของเขา เมื่อเห็นบอลตรงหน้ามันเหมือนกับนรกที่ถูกจองจำจากนั้นเองเขาก็เริ่มจะใช้เวทย์มนต์

ลูกบอลสีดำนั่นมีอะไรที่เหมือนกับชีพจรกำลังเต้นอยู่พลังเวทย์ที่ไหลเข้าไปในนั้น ทำให้คลื่นปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของลูกบอลนั่น แสงสีดำนั่นก็เริ่มปรากฏขึ้นที่แขนของโซเมียเช่นกันราวกับว่ามันกำลังทำพันธสัญญาอยู่

ถัดมานั้นเองแสงสีดำที่ประดับอยู่นั้นก็พุ่งออกมากลายเป็นเงาดำที่โผล่ออกมาจากความมืดมิด

ภาพของเงานั้นเป็นรูปร่างของยมฑูตสีดำ

เป็นโครงกระดูกสีดำที่สวมฮู้ดคลุมสีดำ ดวงตาแดงก่ำและในมือถือเคียวที่สูงกว่าลำตัวมันเป็นสัญลักษณ์ของยมฑูต

「เจ้าหมอนี่ก็เป็นเหมือนตัวแทนผู้ควบคุมการทำสัญญาและเป็นคนที่นำพาดวงวิญญาณ เจ้านี่จะเป็นคนนำทางวิญญาณของท่านโซเมียครับ」

「อ่าาาาาาาา ไม่น้าาาาาาาาาาาาาาาา!」

เมื่อรูกาโต้วางสัญญานั่นลงพร้อมกับลูกบอลสีดำโซ่นั่นก็โผล่ออกมาจากใต้ผ้าคลุมของยมฑูตและผูกมัดโซเมียเอาไว้ ยมฑูตนั่นยกเคียวของมันพร้อมกับพยายามฟันลงมาที่เธอ…………。

「ไม่ยอมให้ทำแบบนั้นหรอกน่า!!」

ไอริสปลดปล่อยพลังเวทย์ออกมาโซ่สีดำปรากฏขึ้นมาพร้อมกับเข้าไปจับยมฑูต

เวทย์ป้องกัน“โซ่สีดำพันธนาการ”

ความเร็วในการทำงานของมันรวดเร็วมากแม้จะเป็นเวทย์ธาตุมืดระดับกลางแต่เธอก็เปิดใช้ด้วยความเร็วสูง

เธอใช้เวทย์ได้โดยไม่ต้องร่าย

「อืมความเร็วในการใช้งานแบบนั้น เป็นเพราะ “การปรับใช้ทันที”งั้นเหรอครับเนี่ย」

ความสามารถ“ปรับใช้ทันที”

ความสามารถที่ทำให้ผู้ใช้เวทย์สามารถใช้เวทย์ได้ตามใจคิดโดยไม่ต้องใช้คำร่ายหรือสร้างพิธีกรรมต่างๆให้วุ่นวาย

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าพลังนั่นจะไม่เพียงพอจะหยุดเคียวของยมฑูตได้ โซ่ที่มัดนั่นแตกขาดเป็นเสี่ยงๆ

「บ้าเอ้ย!」

ไอริสดึงดาบที่เอวออกมาและก็เริ่มเข้าไปรับการโจมตี มันตวัดเคียวในมือพยายามที่จะโจมตีใส่โซเมีย……。

「หนอยแน่!ทิม่าสนับสนุนที!!」

「อืม!」

อย่างไรก็ตามยมฑูตไม่เคลื่อนไหว

เวทย์ธาตุทั้งสี่ถูกร่ายอยู่รอบๆยมฑูตนั่นวงเวทย์ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือหัวของมัน

เพียงแค่นั้นก็เพียงพอที่จะซื้อเวลาให้ไอริสได้ปล่อยเวทย์ลูกใหญ่แล้วซึ่งเป็นเวทย์ป้องกัน

เวทย์มนต์นั่นถูกใช้งานทันที“พันธนาการแห่งธาตุทั้งสี่”。

ธาตุทั้งสี่หลอมรวมเข้าด้วยกันจากนั้นก็สร้างเป็นพื้นที่กังขังกลายเป็นพื้นที่วงกลมขนาดใหญ่

「กล่าวอีกนัยหนึ่งเป็นเวทย์ที่ยอดเยี่ยมมีธาตุแต่ละธาตุต่างไหลเวียนอยู่และทำให้เกิดการยับยั้งอันแข็งแกร่ง กระผมที่อยู่มานานแล้วไม่เคยเห็นเวทย์เช่นนี้เลย ท่านไอริสนี่ช่างยอดเยี่ยมจริงๆครับ ความสามารถในการ “ปรับใช้ทันที”ก็ใช้งานได้อย่างง่ายดาย แต่ว่าเวทย์แค่นั้นหยุดยั้งหมอนี่ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้นคับ」

รูกาโต้ชมทั้งสองด้วยความจริงใจ

「ไม่ว่ายังไงการได้หยุดหมอนั่นไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีหรอกนะครับ。」

พลังเวทย์อันมากมายที่รูกาโต้รวบรวมมานั้น ได้ตัดสินแล้วว่าไอริสกับทิม่าเป็นภัยคุกคามต่อสัญญาเขาจึงต้องกำจัดทิ้ง

รูกาโต้ยื่นมือซ้ายไปในอากาศจากนั้นใช้นิ้วชี้ กระสุนเวทย์จำนวนมากหลั่งไหลออกมาและมันก็ทะลุไหล่ของทิม่าไป

◇◆◇

「คิย๊าาาาาาาาาาาา!」

ฉันตกใจกับกระสุนเวทย์ที่ทะลุผ่านไหล่ของฉันไป เสื้อผ้านั้นฉีกขาดพร้อมกับแผลที่ปรากฏขึ้นมา

แต่ฉันไม่มีเวลามามัวสนใจรักษาตัวเองถ้าฉันไม่รักษาวงเวทย์ ชีวิตของโซเมียจะตกอยู่ในอันตราย!

น้องสาวของเพื่อนรักและเพื่อนที่ฉันรักมากที่สุด

ตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็กนั้นไม่มีใครแม้จะอยากเข้าใกล้ฉันแม้แต่น้อย

ฉันที่ไร้ซึ่งเพื่อนไร้คนคุย

ฉันยังจดจำภาพในวันนั้นได้ ตัวตนของฉันที่พลังเวทย์มากมายมหาศาลได้ตื่นขึ้น ตัวฉันที่ไม่สนใจสิ่งใดได้แต่เหม่อลอยอยู่ในชั้นเรียน

ฉันเป็นคนพูดน้อยและมักจะคุยกับตัวเองอยู่เสมอ ช่องว่างระหว่างเพื่อนร่วมชั้นนั้นกว้างมากนัก……。

ตอนนั้นเองไอจังก็เข้ามาคุยกับฉันจนได้มาเป็นเพื่อนกัน ตอนนั้นฉันก็ได้พบกกับโซเมียจังด้วย

ทั้งสองคนต่างเจิดจรัสไม่เหมือนตัวฉันที่อยู่ท่ามกลางความมืดมิด ดวงตาที่ส่องประกายทอแสงยามค่ำคืน เปรียบดั่งดาวดวงแรกที่ส่องประกายนำพาเหล่านักผจญภัย โซเมียเปรียบเสมือนพระอาทิตย์ที่ฉายแสงทอดลงมาท่ามกลางความมืดมิด

ต้องขอบคุณทั้งสองคน ทำให้ฉันไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป

「ยังไหวอยู่อีกเหรอครับเนี่ย? ดูเหมือนจะมีพลังใจกล้าแกร่งน่าดูเลยนะครับ」

ชายชราคนนั้นพูดเช่นนั้น……นิ้วทั้งห้าของรูกาโต้มือข้างซ้ายนั่นสร้างวงเวทย์ห้าวงขึ้นมากลางอากาศ วงเวทย์แต่ละวงถูกสร้างขึ้น ณ ปลายนิ้วของเขา……。

「ยกโทษให้ไม่ได้!」

ไอจังพูดเช่นนั้นและพุ่งเข้าหาชายชราคนนั้น เขาใช้นิ้วของมือขวา 4 นิ้วสร้างวงเวทย์ขึ้นมา สองวงเวทย์เป็นเวทย์เดียวกัน แต่อีกสองอันนั้นต่างออกไป ไม่มีทางน่าการจะสร้างวงเวทย์และปรับเปลี่ยนวงเวทย์ที่ใช้ในแต่ละนิ้วเนี่ยนะ……。

ดาบสีเลือดแดงสดปรากฏขึ้นออกมาจากช่องว่างของวงเวทย์ ดาบนั่นปรากฏขึ้นต่อหน้าทั้งสอง ดาบโลหิตที่เคลื่อนไหวอย่างอิสระและโจมตีไอจังและเมื่อมองการเคลื่อนไหวอันซับซ้อนของเขาแล้วนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะใช้นิ้วสองนิ้วในการควบคุมดาบโลหิตนั่น

เมื่อคิดแบบนั้นเองกระสุนเวทย์ห้านัดก็ถูกยิงออกมาจากวงเวทย์ทั้งห้าทางมือซ้ายของรูกาโต้เข้าหาฉัน

「อั่ก! อึกกกกก! อ้าาาาาาาาาาา!」

ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่างทัศนวิสัยเริ่มขาวโพลน แต่ฉันก็พยายามควบคุมเวทย์ต่อไป

ริมฝีปากถูกคบแน่นเลือดนั้นไหลออกมาจนทั่วปาก ฉันคบฟันแน่นขึ้น

อดทนต่อความเจ็บปวดทั้งหลายร่ายเวทย์ต่อไป แม้จะเป็นการสร้างภาระให้ตัวเองเพิ่มก็ตามแต่ไม่มีทางเลือก

ไอและโซเมียที่แสนเจิดจรัสคอยนำทางฉันมาตลอด

ฉันพยายามรักษาเวทย์อย่างสุดหัวใจ ไม่ยอมปล่อยให้มันหลุดมือไปแน่ๆ ถัดมานั้นเองก็มีกระสุนเวทย์อันทรงพลังมากกว่าเดิมทั้ง 5 นัด ถูกยิงมาทางฉัน

ไอยิงเวทย์ตอบกลับและฟันเวทย์เหล่านั้นทิ้ง แต่ว่าก็มีกระสุนเวทย์อีกสามนัดจากนิ้วของมือขวามาขัดขวางและมีดาบโลหิตที่ขัดขวางเธออีกชั้น

กระสุนเวทย์ห้านัดนั้นถูกยิงออกมา ฉันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เพราะพยายามรักษาเวทย์ที่พันธนาการตัวยมฑูตไว้อย่างเต็มที่ ถ้าเสียสมาธิแม้แต่นิดเดียวเจ้านั่นหลุดออกมาแน่

ฉันตัดสินใจที่จะรักษาวงเวทย์ต่อไปแม้กระสุนเวทย์ทั้งห้าจะเข้าหาฉันก็ตาม

แต่เวทย์นั่นก็มาไม่ถึงฉันสักทีก่อนที่มันจะมาถึงตัวฉันกก็มีเงาของคนผู้หนึ่งมาช่วยกันเวทย์เหล่านั้นให้

◇◆◇

ข้าที่เห็นวงเวทย์ทั้งห้าจะโจมตีใส่ทิม่าข้าก็พุ่งเข้าไปกันการโจมตีและทำลายการโจมตีเหล่านั้นด้วยหมัดแห่งสายลม

「……มาร์คุง…………?」

เธอพึมพำชื่อของข้าออกมาด้วยความตกตะลึง

…………ตอนแรกข้าก็ไม่ค่อยชอบเธอเท่าไร ถึงแม้จะเป็นถึงแรงค์ A แต่กลับไม่มีแรงจูงใจที่จะทำอะไรสักอย่าง แถมยังทำท่าทางหวาดกลัวอีกฝ่ายที่อ่อนแอกว่าตัวเอง

อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาเห็นแสงแห่งความมุ่งมั่นของเธอที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าบอกว่า “อย่ายอมแพ้”

「……ข้าเองก็กลัว แต่ว่ามุ่งเน้นไปที่การใช้เวทย์เถอะนะ ข้าจะทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเวทย์ของหมอนั่นเอง。」

ข้าจ้องมองไปทางชายแก่นั่นและบอกเธอเช่นนั้น

ข้าส่งพลังไปที่กำปั้นทั้งสองมากขึ้นไปอีก

คิ“ฝ่ามือวายุ”

เป็นเทคนิคการใช้คิที่ทำให้มวลลมบีบอัดไว้ที่กำปั้นทั้งสอง บีบอัดจนเป็นมวลลมที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

「…………อืม!ฝากดว้ยนะ!」

เธอพูดเช่นนั้นพร้อมกับผ่อนคลายนิดหน่อย

「โนโซมุแกพาอิน่าหนีไปและไปเอาดาบของพวกเรามา。」

「อ่า!」

เมื่อตอนที่เราเข้ามาในคฤหาสน์ถูกห้ามไม่ให้เอาดาบเข้ามา

อิน่าหลับไปเพราะผลของเวทมนตร์ที่ถูกปล่อยออกมาจากชายคนนั้น หากอยู่ที่นี่ต่อไปมีแต่จะเกะกะเปล่าๆ

「แต่ว่า เก็บไว้ที่ไหนกันแน่นะครับ!」

「ที่เก็บของคือห้องเล็กๆทางด้านขวาของทางเข้าคฤหาสน์! เพราะฉะนั้นเอาสิ่งนี้ไปด้วยค่ะ!」

ไอริสโยนกุญแจให้โนโซมุดูเหมือนจะเป็นมาสเตอร์คีย์ของคฤหาสน์หลังนี้

ทั้งข้าและโนโซมุตอนนี้ต่างไม่มีอาวุธติดตัว ทิม่าและไอริสเองก็ดูท่าจะไม่สามารถสู้กับตาแก่นั่นตรงๆได้เลย เพราะฉะนั้นเหตุนี้เองเป็นเหตุที่พวกเราต้องเข้าร่วมศึกครั้งนี้ด้วย

「เข้าใจแล้ว!ทุกคนระวังตัวด้วยนะครับ!」

โนโซมุวิ่งออกไปพร้อมกับอุ้มอิน่าไว้บนไหล่ของเขา

เมื่อเห็นความแข็งแกร่งของชายชราคนนั้นร่างกายก็เกร็งโดยไม่รู้ตัว เลือดทั่วร่างกำลังไหลด้วยความเดือดพล่าน

ชายตรงหน้าทำกับคนที่มีความแกร่งแรงค์ A สองคนเป็นของเล่นแบบนี้ ท่าทางที่ดูอารมณ์ขันจนเหมือนกับจิฮัด รัลเดล นักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในสถาบันแห่งนี้

ความสามารถน่าจะอยู่ในแรงค์ S

“แรงค์ S”

เป็นแรงค์ของผู้ที่แข็งแกร่งไม่กี่คนในทวีปนี้ที่จะได้ครอบครองมัน

และอาณาจักรทั้งสองที่ถูกพูดถึงนั้น

ประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการฑูตกับประเทศอื่นๆนิดหน่อย แต่มีอำนาจทางการทหารเหลือล้น

แม้ในช่วงการรุกรานครั้งใหญ่เมื่อ 10 ปีที่แล้วพวกนั้นรับมือด้วยตัวของตัวเอง

ต่อหน้าชายผู้แข็งแกร่งขนาดนี้ ข้าเองก็ไม่สามารถข่มความกลัวได้เลย

◇◆◇

「…………แล้วกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย?」

「เจ้าตัวนั่นถูกเรียกออกมาจากลูกบอลสีดำของรูกาโต้ก็หมายความว่า…………」

「ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนี่นอกจากทำลายบอลสีดำนั้น แต่ว่าจำเป็นต้องจัดการชายคนนั้นด้วยไหม。」

ชายชราคนนั้นเป็นคนที่สามารถใช้เวทย์สิบอย่างในเวลาเดียวกัน เวทย์ที่มีในตอนนี้และการโจมตีระยะไกลของเขาไม่เห็นจำเป็นต้องใช้ของแบบนั้นเสียด้วยซ้ำ

สำหรับเขาคนนั้นเขาแพ้การต่อสู้ระยะประชิด

「แต่ว่าก็ไม่ง่ายที่จะเข้าใกล้หมอนั่นไม่ใช่รึ」

「อ่าาา ความสามารถต่างกันเกินไป。」

จนถึงตอนนี้เวทย์ที่หมอนั่นใช้ก็คือ “กระสุนเวทย์”ซึ่งเป็นเวทย์ระดับเริ่มต้น เมื่อพิจารณาจากการที่หมอนั่นสามารถควบคุมดาบโลหิตด้วยการใช้นิ้วเพียงสองนิ้ว อาจเป็นไปได้ว่าจะใช้เวทย์ที่สูงกว่าระดับนี้ได้ แต่ว่าความเร็วนั่นก็ไม่ได้ไวมากนัก

「ถึงแม้เช่นนั้นก็ยังมีโอกาสชนะได้เนี่ย!! มาร์ฝากทิม่าด้วยนะ!」

「เข้าใจแล้วน่า」

ไอริสพูดเช่นนั้น

บอกตามตรงไม่ว่าจะเป็นใคร ฉันก็คิดว่าตัวเองจะไม่แพ้ใครหน้าไหนทั้งนั้น!

ทั้งสองพยักหน้าให้กัน ชายชราคนนั้นเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มีความสามารถมากขนาดนั้นในทวีปแห่งนี้

ถ้าเขาเอาจริง เขาสามารถจัดการพวกเราได้ง่ายๆ

ชายชราคนนั้นผายมือขึ้น ราวกับกำลังเล่นออเคสตร้า

เราอ่อนกว่าทุกด้าน แต่ถึงยังงั้น………เราก็ยังมีโอกาสชนะ!!

ด้วยความมุ่งมั่นเช่นนั้น พวกเราเผชิญหน้ากับชายชราคนนั้น

◇◆◇

โนโซมุหยิบดาบของเขาและมาร์จากที่เก็บของและรีบวิ่งไปตามโถงทางเดินเพื่อกลับไปยังพื้นที่ต่อสู้ ระหว่างทางโนโซมุก็คิดถึงเรื่องของรูกาโต้

(ชายคนนั้นรูกาโต้น่าจะเทียบกับอาจารย์ได้เลย……)

ข้านึกถึงอาจารย์ของข้า

แม้ว่าเวทย์และวิชาดาบมันจะต่างกัน แต่รูกาโต้ก็มีบรรยากาศออร่าของผู้แข็งแกร่งเหมือนที่อาจารย์มี

และในเวลาเดียวกันข้าก็เชื่อมัน

(บางทีแล้ว……………………สำหรับคุณไอริสไม่น่าจะไหวแน่ๆ……)

เขาพูดเช่นนั้นเพราะเขารู้ดีถึงความแข็งแกร่งของอาจารย์ตัวเอง ตัวเขาที่ฝึกกับอาจารย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่านั่น หากเทียบความสามารถของรูกาโต้กับไอริส ข้าก็ตระหนักได้เช่นนั้นว่าไม่มีทางเอาชนะได้แน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ต้องจัดการผู้รับใช้ของรูกาโต้ด้วย

(ถ้าไม่รีบละก็!……แต่ว่าจะเอาชนะได้งั้นเหรอ?โดยไม่ใช้สิ่ง “นั้น”……)

หนทางชนะนั่นก็คือการปลด “พันธนาการ”ของตัวข้าเองออกมา

แต่ว่าความกลัวในพลังอันแข็งแกร่งนั่นก็ยังฝังลึกในจิตใจ จิตใจที่ยังคงลังเลไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้

กลัวว่าหากปลดปล่อยพลังออกมาแล้วจะถูกมองว่าเป็น “สัตว์ประหลาด”และถูกปฏิเสธ

เมื่อคิดเช่นนั้นร่างกายก็สั่นไหว กลัวว่าจะได้กลับไปใช้ชีวิตตัวคนเดียว

แล้วข้าจะต่อสู้โดยที่ไม่พึ่งพลังนั่นได้จริงๆน่ะเหรอ

「โถ่วเอ้ย!บ้าจริง!!」

ข้าเกลียดความอ่อนแอของตัวเอง ทำได้แต่วิ่งต่อไปเพื่อซ่อนความอ่อนแอนั่นเอาไว้

◇◆◇

「อ๊ากกกกกก! อ้าาาาาาาาาาาา!!」

มาร์พยายามกันการโจมตีของรูกาโต้สุดชีวิตเพื่อช่วยทิม่าให้รักษาเวทย์ไว้ เขารับการโจมตีนั้นราวกับเป็นโล่ให้กับเธอ

อย่างไรก็ตามการจะสลัดกระสุนเวทย์ด้วยมือเปล่าเช่นนี้ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน แต่ว่านั่นคือเวทย์ระดับเริ่มต้นแต่ว่าเป็นเวทย์ของแรงค์ S หมัดของมาร์ค่อยๆไหม้จนเกรียมจนเผยให้เห็นกระดูกภายใน

เขายังคงใช้กำปั้นคู่นั้นป้องกันการโจมตีไปเรื่อยๆทุกๆครั้งที่เขากันการโจมตีเลือดจำนวนมากก็จะไหลสู่พื้นสีขาว

「ย๊ากกกกกกกกกกกกกก!」

ไอริสเองก็อยู่ในสภาพเดียวกันเธอไม่แม้แต่จะเข้าใกล้รูกาโต้ได้เลย

รูกาโต้รับมือกับเวทย์ของเธอได้และสร้างวงเวทย์มาคอยรับมือกับเวทย์ของเธอ

ในเวลาเดียวกันเขาก็ยังใช้ดาบโลหิตนั่นป้องกันการโจมตีไม่ให้เธอเข้ามาใกล้ได้

◇◆◇

「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก!」

「อึก………มาร์คุง………ยังไหวไหม?」

「แฮ่ก แฮ่ก……หนวกหูน่า รีบรักษาวงเวทย์ไว้เถอะทำหน้าที่ของเธอไปซะ……」

ทิม่าถามด้วยความห่วงใย แต่ว่าผิวของเธอเองก็เริ่มซีดเพราะเสียเลือด

(ฉันจำเป็นต้องใช้สมาธิอย่างมากในการรักษาเวทย์ระดับสูงเช่นนี้)

เวทย์ของทิม่าเป็นเวทย์ชั้นสูงที่ใช้คุณสมบัติของธาตุทั้งสี่และใช้พลังเวทย์มหาศาลในการใข้งาน

นอกจากนี้ร่างกายของเธอที่โดนกระสุนเวทย์ไปหลายนัด ทำให้เธอเริ่มหมดแรงและเจ็บปวดตามร่างกาย ซึ่งมันค่อยๆกลืนกินสมาธิของเธอไปทีละนิด

ทั้งสามค่อยๆถูกผลักดันมาจนถึงขีดสุด กระสุนเวทย์จำนวนมากพุ่งเข้าหามาร์จนเขาล้มลง

「อาาาาาาาาาาาาาาาาาาาากกกก!!!」

มาร์กรีดร้องพร้อมกับกระเด็นเข้ากระแทกกับกำแพง

「มันจบแล้วครับ」

「!!」

เมื่อมาร์โดนกำจัดก็ไม่มีใครมารับเวทย์ให้ทิม่าแล้ว กระสุนเวทย์ถูกปล่อยออกมาหลายนัด

「คิย๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!」

ไม่มีทางที่เธอจะหลีกเลี่ยงมันได้เลยแม้แต่น้อย

ในเวลาเดียวกันพันธนาการต่อเนื่องก็ถูกปลดปล่อยจากยมฑูตตัวนั้น

「ทิม่า! มาร์คุง!」

「อั่ก!」「แฮ่กแฮ่ก!」

ไอริสตะโกนเรียกทั้งสองคนแต่ทั้งสองทำได้แต่อดทนกับความเจ็บปวด

「หนอย!」

เธอพยายามวิ่งเข้าไปหาโซเมียเพื่อหยุดยมฑูตตนนั้นแต่เธอก็ถูกหยุดด้วยกระสุนเวทย์

รูกาโต้ยิงกระสุนเวทย์ต่อเนื่องด้วยมือซ้ายและใช้มือขวาควบคุมดาบโลหิต ไอริสโดนขัดขวางมากกว่าเดิม

เมื่อยมฑูตตนนั้นถึงหน้าโซเมียมันก็ยกเคียวขึ้น ไม่มีใครหยุดความตายที่กำลังเข้าหาโซเมียได้อีกต่อไป ถ้าเป็นแบบนี้โซเมียต้องตายแน่ๆ

「โซเมียยยยยยยยยยยย!!!!」

「พี่คะ……」

พี่น้องต่างเรียกหาซึ่งกันและกันอย่างสิ้นหวัง ความตายที่เข้าใกล้น้องสาว ชะตากรรมของโซเมียได้รับการยืนยันแล้ว

◇◆◇

ช่วงเวลานั้นเองที่ยมฑูตกำลังเหวี่ยงเคียวด้วยแขนทั้งสองข้างนั่น

「……เอะ。」

ความคิดของทุกคนต่างหยุดนิ่งมีเงาๆหนึ่งพุ่งผ่านเข้ามาในเวลานั้น

เงานั่นพุ่งเข้าใส่ตัวยมฑูตด้วยความเร็วประกายดาบที่ถูกฟันออกมาอย่างรวดเร็วสร้างบาดแผลให้กับยมฑูตนั่นมากมาย

คิ“คมดาบผ่ามายา-หวนคืน-”

การฟันที่คมเฉือดเฉือนร่างกายของยมฑูตนั่นขาดออกเป็นสองท่อน คอร์แกนกลางของมันแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ

คอร์ร่างกายของมันแหลกสลายและหายไปราวกับหมอก ส่วนเครื่องประดับแขนที่แหลกสลายนั่นก็ปลิวไสวท่ามกลางอากาศ

「คุณโนโซมุ……?」

โซเมียพึมพำ

โนโซมุจ้องหน้ารูกาโต้โดยไม่ตอบคำถามของโซเมียเลยแม้แต่น้อย

(…………อาจารย์ครับตอนนี้ผมควรจะทำยังไงดี…………)

คำถามนั้นยังคงไร้ซึ่งคำตอบ…………。

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท