ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 302 ชีวิตมันไม่ง่าย…เด็กๆ แสดงฝีมือ

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 302 ชีวิตมันไม่ง่าย…เด็กๆ แสดงฝีมือ

ตอนที่ 302 ชีวิตมันไม่ง่าย…เด็กๆ แสดงฝีมือ

แม้เพลงและท่าเต้นจะดูแปลกพิลึกไปหน่อย แต่ก็สร้างบรรยากาศได้ดี หากแขกที่มายังหอนางโลมพากันเต้นท่านี้และร้องเพลงนี้ด้วยกัน ภาพที่ออกมาจะต้องมีความสุขมากแน่ๆ

ต้องยอมรับว่าแม่เล้าคนนี้มีหัวการค้าจริงๆ ความคิดในหัวนางใกล้เคียงกับการเต้นดิสโก้ในบาร์สมัยใหม่แล้ว

ระบบตัวน้อยเต้นสามเพลงติดกันจนเมื่อยทั้งมือทั้งเท้าไปหมดแล้ว นางมองไปยังน้องทั้งสามด้วยสายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง โดยหวังว่าพวกเขาจะเข้าใจในการทำงานหนักของนาง

น้องทั้งสามคนมองพี่สาวเต้นแล้วก็รู้สึกมึนงง ทว่าเสี่ยวฉวนเอ๋อร์มีไหวพริบดี หลังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็เข้าใจเจตนาของระบบตัวน้อย

นางกำลังถ่วงเวลา!

เมื่อระบบตัวน้อยหันไปมองพวกเขา เขาก็พยักหน้าเบาๆ จากนั้นจับมือเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ และเอ่ยกับแม่เล้าด้วยใบหน้าเย็นชา “ข้ากับน้องสาวรำกระบี่ได้ ตอนนี้จะรำกระบี่คู่ให้ดู”

ดวงตาของแม่เล้ายิ่งสว่างวาบขึ้น ราวกับว่าอีกเดี๋ยวจะมีดาวดวงหนึ่งโผล่ออกมา

รำกระบี่ได้! นี่มันดีเกินไปแล้ว!

จากนี้ไปในหอนางโลมของพวกนางจะมีการแสดงใหม่แล้ว รำกระบี่คู่ นี่เป็นความภาคภูมิใจสองเท่าที่ไม่มีใครเทียบได้ไม่ใช่หรือ?

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ไม่เข้าใจความหมายของพี่ชาย ทว่านางก็เชื่อพี่ชาย จึงเชื่อฟังเขาและรำกระบี่ด้วยกันกับเขา

ตอนนี้ไม่มีกระบี่ให้ใช้ เด็กทั้งสองจึงกำมือ แสร้งทำเป็นถือกระบี่อยู่ในมือ ร่ายรำทุกท่วงท่าอย่างลื่นไหล

แม่เล้าอดมองอย่างตะลึงงันไม่ได้ นางนึกถึงภาพหนึ่งได้แล้ว

นักดนตรีบรรเลงเพลงอยู่ด้านข้าง เสียงกู่ฉินอันไพเราะทรงพลัง เคาะลงบนหัวใจของผู้คน บนเวทีมีการร่ายรำกระบี่ยาวคู่อันยอดเยี่ยมงดงาม เรียกลูกค้ามารวมกันอยู่ล่างเวที จากนั้นก็โยนเงินขึ้นไปบนเวทีอย่างต่อเนื่อง

เมื่อคิดเช่นนี้ แม่เล้าก็หัวเราะอย่างโง่เขลาขึ้นมาอีกครั้ง เยี่ยมไปเลย พบสมบัติอีกคู่หนึ่งแล้ว!

เสี่ยวฉวนเอ๋อร์พาน้องสาวรำกระบี่เป็นเวลาหนึ่งเค่อ ก่อนจะหยุดลงอย่างเหนื่อยล้า และซื้อเวลาให้กับเฉียวเยี่ยน และคนอื่นๆ ได้

พวกพี่ๆ แสดงกันเสร็จแล้ว ก็ถึงตาเสี่ยวอันอัน

เมื่อครู่ระบบตัวน้อยได้แอบกระซิบบอกสถานการณ์กับเสี่ยวอันอันแล้ว เสี่ยวอันอันก็เตรียมพร้อมที่จะแสดงอย่างเชื่อฟัง

นางขี้อาย และยืนอยู่ต่อหน้าแม่เล้าอย่างเชื่อฟัง ท่าทางทั้งน่ารักทั้งน่าสงสารนั้นช่างทำให้คนเอ็นดูนัก

แม่เล้ามองคนตัวเล็ก ในใจก็มีลู่ทางการทำกิจการอื่นๆ อยู่

เด็กทั้งสี่มีนิสัยแตกต่างกัน ลูกสาวคนโตสุดมีนิสัยร่าเริง เด็กหญิงที่รำดาบได้มีนิสัยกล้าหาญ น้องคนสุดท้องผู้น่ารัก และเด็กชายนิสัยเย็นชาคนนั้น หากเลี้ยงทั้งสี่คนแบบแตกต่างกัน เช่นนั้นนางก็จะมีคณิกาชั้นสูงสี่คนในเวลาเดียวกัน เรียกเม็ดเงินมาให้อย่างไม่จบสิ้น!

นางสำรวจเสี่ยวอันอันเสร็จ ก็เอ่ยถาม “หนูน้อย เจ้ามีความสามารถอะไรหรือ?”

เสี่ยวอันอันรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย และตอบด้วยเสียงแผ่วเบา”ข้าร้องเพลงได้”

แม่เล้าฟังอย่างเงียบๆ เสี่ยวอันอันรวบรวมความกล้า และร้องขึ้นมาอย่างไพเราะอ่อนหวาน “รักที่เจ้าเดินคนเดียวในตรอกมืด รักท่าทางเจ้าไม่ยอมคุกเข่าฝืนทน รักที่เจ้าต่อต้านความผิดหวังอับจน ไม่ยอมหลั่งน้ำตาสักหน…”

(เพลง 孤勇者 ผู้กล้าหาญที่โดดเดี่ยว )

แม่เล้าได้ยินเนื้อเพลงนี้ก็ตกใจมาก เด็กน้อยคนนี้ ไม่คิดเลยว่าจะร้องเพลงได้เขย่าปฐพีสะเทือนธาราถึงเพียงนี้!

ในหัวนางหวนนึกถึงครึ่งชีวิตแรกของตัวเองโดยไม่รู็ตัว มันไม่ใช่เนื้อเพลงนี้หรอกหรือ?

นางซัดเซพเนจรอยู่ในความมืด ทำกิจการที่โลกไม่รู้จัก ถูกทางการตามล่าไปทุกหนทุกแห่งก็ไม่เคยยอมแพ้ ก็แค่เดินคนเดียวในตรอกมืด และต่อต้านความผิดหวังอับจน!

ช่างน่าประทับใจจริงๆ !

เพลงนี้แต่งขึ้นเพื่อนางจริงๆ !

แม่เล้าแอบซาบซึ้งใจอย่างลับๆ เมื่อเด็กทั้งสามที่เหลือเห็นเช่นนี้ ก็รีบช่วยสนับสนุนเสี่ยวอันอันทันที และร้องเพลงไปกับนาง

“ไปไหม? เข้ากันไหม? เสื้อคลุมที่ขาดรุ่งริ่งตัวนี้!”

“สู้ไหม? สู้สิ! ด้วยฝันอันต่ำต้อยที่สุด!”

……

เพลงนี้ระบบตัวน้อยสอนน้องทั้งสามคนร้อง ได้ยินมาว่าเพลงนี้กำลังเป็นที่นิยม แม้นางจะทำภารกิจอยู่ในสมัยโบราณ ทว่าก็ยังต้องเป็นระบบตัวน้อยที่ทันสมัย

เด็กทั้งสี่ร้องเพลงอย่างใจจดใจจ่อ เสียงร้องของพวกเขาดังก้องอยู่ในคุกใต้ดินว่างเปล่า คนเฝ้าที่อยู่ข้างนอกก็อดเงี่ยหูตั้งใจฟังไม่ได้

แม่เล้าฟังจนรู้สึกฮึกเหิม และรู้สึกมีเลือดสูบฉีดอยู่ในอก

น่าประทับนัก!

นางคือผู้กล้าหาญโดดเดียวที่เดินอยู่ในความมืด นางต้องต่อสู้กับทางการที่ไม่สนใจคนรอบข้าง นางต้องการต่อสู้ให้ถึงที่สุด!

หากพวกเด็กๆ รู้ว่าพวกเขาร้องเพลงปลุก ‘วิญญาณแห่งการต่อสู้’ ของแม่เล้า ก็คงไม่รู้ว่าควรร้องไห้หรือหัวเราะดี

แม่เล้าลุ่มหลงในเพลงผู้กล้าหาญที่โดดเดี่ยว ถึงกับหาคนมาบันทึกเนื้อเพลงไว้ จากนี้ไปนางต้องให้คนในหอร้องเพลงนี้ให้คุ้นชิน เพลงนี้คือเพลงต่อสู้ที่แต่งมาเพื่อนาง!

นางให้เด็กๆ ร้องเพลงนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกครั้งที่ฟังก็จะยิ่งรู้สึกฮึกเหิมขึ้น สุดท้ายก็ร้องตามด้วยกัน

เด็กทั้งสี่ร้องจนเสียงแหบแห้ง ในหัวมีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาพร้อมกัน ‘มันไม่ง่ายเลยที่เด็กอย่างพวกเขาต้องแสดงฝีมือ’

ยากเกินไปแล้ว เหตุใดแม่มดเฒ่านี้ไม่รำคาญเลยล่ะ? พวกเขาเหนื่อยใจที่จะร้องแล้วนะ!

ในที่สุดหลังจากเล่นเพลงเป็นครั้งที่ห้า แม่เล้าก็ถูกลูกน้องคนหนึ่งเรียกออกไปอย่างเร่งรีบ

เมื่อนางกำลังจะจากไป ใบหน้าของนางฉายแววประหลาดใจแวบออกมาเล็กน้อย จึงสั่งคนให้ลงกลอนประตูและรีบจากไป

ระบบตัวน้อยเดาว่าโฮสต์และคนอื่นๆ หาตำแหน่งพวกเขาเจอแล้ว จึงเรียกเฉียวเยี่ยนอย่างกระตือรือร้น

เฉียวเยี่ยนและคนอื่นๆ มาถึงหอนางโลมแล้วจริงๆ หอนางโลมที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอชิงผิง…หอเยี่ยนชุน

ตอนนี้พวกเขากำลังค้นหาภายในหอไปทั่ว ทุกซอกทุกมุมไม่มีเว้น ทั้งยังตามหากลไกห้องลับต่างๆ ระบบตัวน้อยบอกไว้ว่าแม่เล้ามาเจอพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงมุ่งเน้นไปที่การค้นหาห้องของแม่เล้า

แต่ห้องของแม่เล้ามีลูกสมุนเฝ้าอยู่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไป เฉียวเยี่ยนเห็นเช่นนี้ จึงสั่งคนให้ลากพวกเขาออกไป แล้วถีบประตูเข้าไป

แต่ทันทีที่ประตูถูกถีบเปิดออก ฉุ่ยเหนียง แม่เล้าหอเยี่ยนชุนก็ออกมาจากด้านหลังม่านอย่างเร่งรีบ นางสวมแค่ชุดจงอี เส้นผมยังคงมีน้ำเกาะ ครั้นเห็นพาคนมาค้นหา ก็มีสีหน้าไม่พอใจทันที “แม่นางท่านนี้ ข้ากำลังอาบน้ำอยู่ในห้อง ท่านพาบุรุษบุกเข้ามามากมาย คงไม่อยากบีบให้ข้ากระโดดลงไปในแม่น้ำหรอกใช่ไหม?”

แม่เล้าไม่รู้ว่าคนตรงหน้านางคือซู่หวางเฟย จึงชักสีหน้าใส่เฉียวเยี่ยน

เฉียวเยี่ยนกระตุกยิ้มเยาะ ไม่พูดไร้สาระอะไรกับนางมาก เพียงแค่โบกมือ เจ้าหน้าที่ด้านหลังก็กรูกันเข้ามา บีบให้แม่เล้าออกไป และค้นหาข้างใน

แม่เล้าทำตัวโง่เขลาทันที ร้องตะโกนอยู่ในห้องไม่รู้จบ แต่กลับไม่มีใครสนใจนาง เมื่อนางเห็นว่าสถานการณ์ดูท่าไม่ดี ในตาก็ฉายแววตื่นตระหนกออกมา มือกำไว้แน่น และแสร้งทำเป็นสงบ

เฉียวเยี่ยนจ้องไปที่แม่เล้าเขม็ง ไม่ยอมพลาดสีหน้าที่นางแสดงออกมาเลยแม้แต่น้อย เมื่อเห็นนางเก็บซ่อนความตื่นตระหนกไว้อย่างดี ก็รู้ว่าตัวเองมาหาถูกที่แล้ว

ก่อนเข้าหอนางโลม นางกับมู่ฉินเจินแบ่งทหารออกเป็นสองกลุ่ม นางรับหน้าที่นำคนไปค้นหอนางโลม ในขณะที่มู่ฉินเจินนำคนไปล้อมหอนางโลมอยู่ไม่ไกล

ตามที่ระบบบอก พื้นที่ของวังใต้ดินนั้นใหญ่มาก จะต้องมีทางหลบหนีมากมาย จึงต้องล้อมไว้อย่างแน่นหนา

แม่เล้ารู้สึกสงสัยอยู่ในใจ เมื่อคืนพวกเขามาค้นหารอบหนึ่งแล้ว แต่วันนี้มาค้นหาอย่างองอาจอีกครั้ง อีกทั้งยังเลือกห้องนางโดยเฉพราะ เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้อะไรบางอย่าง

แต่ที่อยู่ของพวกนางถูกซ่อนไว้เป็นความลับมาตลอด เป็นไปไม่ได้ที่จะรั่วไหลออกไป พวกเขารู้ได้อย่างไรกัน?

พวกทหารหากลไกห้องลับทั่วทุกที่ และตรวจสอบทุกอย่างในห้องอย่างละเอียด แม่เล้ายิ่งเห็นเช่นนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงอยากใช้ความวุ่นวายนี้หลบหนีไป

เฉียวเยี่ยนจ้องมองนางตลอดเวลา เมื่อเห็นว่านางกำลังจะหนี จึงตรงเข้าไปขวางทางนางไว้

นางหัวเราะเยาะ”เหตุใดไม่โวยวายต่อล่ะ? จะไปโดดน้ำมิใช่หรือ? นี่คิดจะหนี?”

แม่เล้ายิ้มเจื่อนๆ “นายหญิงพูดถึงอะไรกัน? ข้าก็แค่จะออกไปดูก็เท่านั้น”

เฉียวเยี่ยนเดินบีบเข้าไปหานางทีละก้าว สายตาเฉียบคมของนางทำให้แม่เล้าต้องหลบสายตา “เหตุใดมามา*ถึงได้ประหม่าไปเสียแล้วล่ะ? หรือทำเรื่องอะไรที่ไปเจอคนไม่ได้?”

(*妈妈 สรรพนามแทนตัวแม่เล้า)

แม่เล้าโกรธจัด ยืดอกขึ้นก่นด่านาง “นายหญิงท่านนี้ ข้ากับท่านไม่ได้มีความแค้นใดต่อกัน เหตุใดต้องใส่ร้ายข้าเช่นนี้ด้วย?”

เฉียวเยี่ยนแค่นเสียงเย้ยหยัน น้ำเสียงเย็นเยียบไปจนถึงกระดูก “เจ้าจับลูกของเปิ่นเฟยไป ยังมีหน้าบอกว่าเจ้าไม่มีความแค้นอะไรกับเปิ่นเฟย? ทำไม อยากให้เปิ่นเฟยรู้สึกขอบคุณเจ้าหรือ?”

เมื่อแม่เล้าได้ยินเช่นนี้ นางก็ตกใจมาก ไม่คิดเลยว่าคนตรงหน้าจะเป็นซู่หวางเฟย!

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ร่วมมือกันดีมากเด็กๆ ถ่วงเวลาไว้จนแม่มาช่วยทันแล้ว

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท