ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 367 ขโมยแกะสำเร็จ

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 367 ขโมยแกะสำเร็จ

ตอนที่ 367 ขโมยแกะสำเร็จ

เฉียวเยี่ยนเข้าไปใกล้ม้าสีดำตัวใหญ่ ขณะสายตาของทหารแคว้นเป่ยตอนนี้จับจ้องไปที่สุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดห้าตัวที่พุ่งออกมา

นั่นหมาป่ารึ?

หมาป่ากลายเป็นปีศาจ? ไล่ต้อนฝูงแกะได้!

ในเวลานี้ท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว ทว่าบริเวณโดยรอบยังคงปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกยามโพล้เพล้ ไม่อาจเห็นเยอรมันเชพเพิร์ดที่วิ่งเร็วได้อย่างชัดเจน มองแวบแรกมันก็ดูเหมือนหมาป่าดุร้ายสองสามตัวจริงๆ

เนื่องจากการปรากฏตัวของหมาป่า ความเร็วในการไล่ตามแกะของทหารแคว้นเป่ยก็ช้าลง เนื่องเพราะพวกเขากลัวถูกหมาป่ากัด!

ได้เวลาแล้ว เฉียวเยี่ยนเข้าใกล้ม้าสีดำตัวใหญ่ได้สำเร็จ ก่อนหยิบมีดสั้นที่เอวมาตัดเชือกออก พลิกตัวขึ้นม้าอย่างรวดเร็ว สะบัดบังเหียนครั้งหนึ่ง ม้าสีดำตัวใหญ่ก็ทะยานออกไป

นายพลหนุ่มคนหนึ่งกำลังจะออกคำสั่งให้ยิงฝูงแกะด้วยธนู ในเมื่อไล่ตามตัวเป็นๆ กลับมาไม่ได้ ก็ต้องยิงตายไว้สักสองสามตัว ไม่เช่นนั้นพวกเขาไม่มีอะไรจะกินจริงๆ แล้ว!

แต่ทันทีที่ออกคำสั่ง สายตาของทหารแคว้นเป่ยถูกเสียงกีบเท้าม้ารวมถึงเสียงร้องของม้าสีดำตัวใหญ่ดึงดูดเข้า

เฉียวเยี่ยนหมอบอยู่บนหลังม้าแน่นขณะที่ม้าวิ่งห้อตะบึงอย่างรวดเร็ว ลมหนาวตีปะทะจนทำให้นางปวดตา

ในเวลานี้ กองทัพแคว้นเป่ยก็เข้าใจทั้งหมด ว่าบุคคลนี้เป็นสายลับที่ซ่อนตัวอยู่ในค่ายทหารของพวกเขา!

พวกนายพลแคว้นเป่ยต่างมีแววตาวาวโรจน์ มวยผมบนศีรษะล้วนบิดเบี้ยว เห็นได้ชัดว่ารีบลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างเร่งรีบ และไม่มีเวลาหวี ตอนนี้ยังโมโหกับสถานการณ์ตรงหน้าจนมีสีหน้ามืดมน เห็นแล้วดูตลกเล็กน้อย

“ยิงมัน! ยิงมันให้ข้าเดี๋ยวนี้!”

นายพลหนุ่มแห่งแคว้นเป่ยออกคำสั่ง พวกทหารมองหาคันธนูและลูกธนูด้วยความตื่นตระหนก เมื่อครู่ตกใจกลัวกับเสียงกรีดร้องของผี จึงชักดาบใหญ่ออกมา และไม่มีเวลาคว้าคันธนูกับลูกธนูติดมาด้วย

เมื่อถึงตอนที่พวกเขาตั้งท่าชักคันธนูพร้อมเตรียมยิง เฉียวเยี่ยนก็ไปไกลแล้ว

เมื่อเห็นว่าระยะห่างค่อนข้างปลอดภัย เฉียวเยี่ยนล้วงของสีดำออกมาจากเอว ดึงบังเหียนด้วยมือเดียว พลางหันกลับไป เล็งนายพลหนุ่มแห่งแคว้นเป่ยที่กำลังกระทืบเท้าด้วยความโกรธอยู่ตรงข้าม

ทหารแคว้นเป่ยงุงงงสับสน ไม่รู้ว่าคนที่ควบอยู่บนหลังม้านั้นชี้นิ้วมาที่พวกเขาทำไม? ดูถูกพวกเขาหรือ?

ทุกคนงงงวย ในตอนที่พวกเขายังคงง้างคันธนูในมืออยู่นั้น ก็ได้ยินเสียง ‘ปุ้ง’ เหมือนเสียงของอะไรบางอย่างเจาะทะลุผ่านเนื้อ

พวกเขาหันไปมองทางต้นเสียง กลับเห็นนายพลหนูเอ๋อร์หนี่ล้มลง โดยมีรูเลือดบนหน้าผากของเขาเพิ่มมา

ทุกคนที่อยู่รอบๆ ต่างขาสั่น มองหนูเอ๋อร์หนี่ที่เบิกตากว้างนอนอยู่บนพื้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

มันคืออาวุธอะไรกันแน่ถึงมีอานุภาพทำลายล้างขนาดนี้!

ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายลงมืออย่างไร ฆ่าคนอย่างไร้ร่องรอย!

ฝูงชนอยู่ในอาการตื่นตระหนก มีบางคนมาล้อมตรวจดูลมหายใจของหนูเอ๋อร์หนี่ เขาตายแล้ว ตายอย่างน่าสยดสยอง!

แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้สติคืนมา คนที่สองก็ล้มลงไปอีกครั้ง เป็นหนึ่งในพลธนูฝีมือเยี่ยมของพวกเขา

คราวนี้พลธนูไม่มีรูอยู่ที่หัว แต่โดนเข้าที่หน้าอก เลือดสดไหลออกมาไม่หยุด

เฉียวเยี่ยนถือปืนพกเก็บเสียงไว้ และยิงออกไปติดต่อกันห้านัด ยิงโดนฝ่ายตรงข้ามสามคน สยบทหารแคว้นเป่ยที่กำลังจะยิงธนูมาใส่นางได้สำเร็จ

ปืนพกกระบอกนี้นางซื้อกับระบบก่อนออกเดินทางจากเมืองหลวงมาด้วยราคาที่สูง เสียคะแนนไปตั้งสี่แสนคะแนนทีเดียว และตัดใจใช้ไม่ลงมาโดยตลอด จึงเก็บไว้ใช้ในตอนสำคัญสร้างสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นมา

ฝูงแกะได้หนีไปไกลแล้วภายใต้การนำของแกะจ่าฝูง เฉียวเยี่ยนขี่ม้าไปยังสถานที่ที่ระบบตัวน้อยซ่อนตัว ใช้มือข้างหนึ่งจับบังเหียน เอียงตัวอยู่บนหลังม้า จับมือน้อยของระบบตัวน้อยไว้ และดึงนางขึ้นบนหลังม้า

ทหารแคว้นเป่ยรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามมีอาวุธทรงพลังมากอยู่ในมือ จึงไม่กล้าวู่วามพุ่งไปข้างหน้า ทำได้เพียงมองฝ่ายตรงหนีไปตาปริบๆ

ในเวลานี้ ระบบตัวน้อยสวมเสื้อผ้าของทหารแคว้นเป่ย และถูกห่อหุ้มไว้อย่างแน่นหนา ท่ามกลางแสงสลัวในตอนเช้ามืด พวกทหารแคว้นเป่ยไม่มีทางมองเห็นได้อย่างชัดเจน

เมื่อแม่ทัพใหญ่ซางต๋ามาถึงและเห็นคนสามคนถูกยิงตายด้วยอาวุธแปลกประหลาด เส้นเลือดข้างขมับพลันกระตุก กำหมัดแน่นจนเสียงดังกรอบแกรบ

บังอาจนัก ปล่อยให้มันทำสำเร็จอีกแล้ว!

ด้วยความโกรธ เขาจับทหารผู้น้อยคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ บีบคอด้วยฝ่ามือใหญ่ และบิดอย่างแรง คอของทหารผู้น้อยนั้นเกิดเสียงดังกร๊อบออกมา ศีรษะเอียงไปด้านข้างอย่างไร้เรี่ยวแรง มุมปากมีเลือดไหลออกมา

เมื่อเลือดเปื้อนมือของซางต๋า ความรุนแรงที่อยู่ในร่างกายเขาถึงได้ค่อยๆ สงบลงเล็กน้อย สายตาจ้องลึกไปยังทิศทางที่เฉียวเยี่ยนหลบหนี

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนหรือผี เขาก็จะจับอีกฝ่ายให้ได้ แล้วเอามาถลกหนังเลาะกระดูก!

กระโจมที่เขาพักอยู่ตั้งอยู่ใจกลางค่าย ห่างจากเขตรอบนอกไปประมาณหนึ่ง จึงไม่ได้ยิน ‘เสียงกรีดร้องของผี’ กับ ‘เงาผี’ ที่คนในกองทัพบอกเล่ากันปากต่อปาก

สิ่งที่เรียกว่า ‘ร่างผี’ ยังคงลอยอยู่บนท้องฟ้า ลอยไปตามสายลม อีกเดี๋ยวจะลอยผ่านเหนือค่ายของพวกเขาไปแล้ว ส่วน ‘เสียงกรีดเรียกของผี’ ได้หายไปนานแล้ว

ทั้งหมดนี้ ต้องเป็นโจรขโมยแกะสองคนนั้นเป็นคนทำเรื่องนี้แน่!

ความโกลาหลในค่ายทหารแคว้นเป่ยสร้างความตื่นตระหนกในฝูงชนเป็นอย่างมาก ซางต๋าจึงสั่งให้แพทย์ทหารนำอาวุธออกจากสามคนที่ถูกยิง

เขาไม่สามารถกระทำผลีผลามได้ ก่อนที่จะเข้าใจสถานการณ์อย่างชัดเจน หากกองทัพเทียนลี่ติดตั้งอาวุธลับ มันคงไม่เป็นผลดีต่อพวกเขาอย่างมาก

เฉียวเยี่ยนใช้เท้าคิดก็รู้แล้วว่าในค่ายทหารแคว้นเป่ยตอนนี้ต้องกระฉับกระเฉงมากแน่ โดยเฉพาะนายพลเหล่านั้น น่าจะปากบิดเบี้ยวกันแล้ว

ตอนนี้นางกำลังขี่ม้า และร่วมมือกับสุนัขต้อนแกะไปด้วย โดยต้อนฝูงแกะไปยังด่านหลานเยว่

ระบบตัวน้อยนั่งอยู่ด้านหน้าสุด ถูกลมหนาวต้องจนน้ำตาไหลพราก ทว่าปากกลับยังคงหัวเราะคิกคัก

คืนนี้ลุ้นระทึกมากจริงๆ ! และสนุกมากๆ !

เฉียวเยี่ยนเองก็มีความสุขเช่นกัน นางขี่ม้าไปบนทุ่งหญ้ากว้าง มองแสงสีแดงจางๆ บนขอบฟ้าตรงหน้า รู้สึกสดชื่นอยู่ในอก

พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว!

ในเวลานี้ทิวทัศน์ของทุ่งหญ้าสวยงามอย่างมาก มีคนขี่ม้าถือแส้ไล่ต้อนฝูงแกะสีขาวข้างหน้า ฉากนั้นช่างทำให้ใจคนสั่นไหวยิ่ง

หลังจากวิ่งมาเกือบหนึ่งชั่วยาม เฉียวเยี่ยนก็มองเห็นป้อมอันน่าเกรงขามของด่านหลานเยว่ตรงหน้าแล้ว รวมถึงองครักษ์ที่เฝ้าอย่างเข้มงวด

นางลดความเร็วลง ให้ระบบตัวน้อยนำคันธนูกับลูกธนูออกมาจากช่องมิติ

นางง้างคันธนูจนสุด แล้วยิงไปยังกำแพงเมือง บนหัวธนูมีกระบอกไม้ไผ่เล็กๆ ติดอยู่ ซึ่งในนั้นมีข้อความที่นางเขียนไว้

นางยังไม่พร้อมที่จะไปเจอองค์รัชทายาทของนาง อยากจะเป็นคนประสานอยู่ภายในแคว้นเป่ยก่อน หากนางปรากฏตัวตอนนี้ มู่ฉินเจินต้องขังนางเอาไว้ไม่ยอมให้นางไปเสี่ยงอันตรายแน่

คาดว่าข่าวการลอบไปเขตชายแดนของนางคงแพร่จากเมืองหลวงมาถึงด่านหลานเยว่แล้ว นางส่งจดหมายในเวลานี้ ก็ถือว่าเป็นการรายงานแก่องค์รัชทายาทของนางว่านางปลอดภัยดี

นายพลหนุ่มที่ยืนเฝ้าอยู่บนป้อมเมืองมีกลิ่นอายน่าเกรงขาม ดวงตาวาวโรจน์ดุจคบเพลิง เมื่อเห็นของสีขาวๆ ตรงหน้าวิ่งกรูกันมาทางพวกเขา ก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ

เขาโบกธงในมือ และสั่งอย่างเฉียบขาด “พลธนูเตรียมตัว!”

สิ้นเสียง พลธนูที่อยู่บนประตูเมืองง้างธนูเตรียมพร้อม รอที่จะยิงออกไป

แต่เมื่อเจ้าสิ่งสีขาวๆ เข้ามาใกล้ รวมถึงเสียงกรีดร้องที่ดังกึกก้อง พวกเขาถึงตระหนักได้ว่า แท้จริงแล้วมันคือฝูงแกะ!

นายพลหนุ่มเฝ้ากำแพงเมืองตกตะลึง แกะพวกนี้มาจากไหนกัน?

เขาเบิกตากว้างเพ่งมองอย่างระมัดระวัง พบสัตว์ที่เหมือนทั้งสุนัขทั้งหมาป่าสองสามตัวตามหลังฝูงแกะไล่ต้อนพวกมันมา

สัตว์พวกนี้เป็นปีศาจหรือ?

เขาสงสัยลังเล และรีบส่งคนไปแจ้งแก่เหล่านายพลที่อยู่ในเมืองทันที

ทันใดนั้น ลูกธนูแหลมคมดอกหนึ่งก็พุ่งตรงไปทางป้อมปราการเมือง และปักลึกอยู่บนเสาเหนือยอดป้อมปราการ

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เฉียวเยี่ยนเป็นทุกอย่างแล้ว อีกนิดเดียวจะนำทัพแทนองค์รัชทายาทได้แล้วนะ

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท