ตอนที่ 369 นอนอะไร ลุกขึ้นมา!
ตอนที่ 369 นอนอะไร ลุกขึ้นมา!
เฉียวเยี่ยนกลับมาอย่างไม่รีบร้อน และหาสถานที่เพื่อรับประทานอาหารดีๆ กับระบบตัวน้อย
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาพวกนางได้แต่หลบๆ ซ่อนๆ รับประทานอาหารในค่ายทหารแคว้นเป่ย จึงใช้โอกาสนี้ให้ความสำราญกับตัวเองเป็นการชดเชย
ทั้งสองหาที่นั่งบนทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ หยิบเตาแก๊สและหม้อใบน้อยออกมาจากมิติ แล้วทำหม้อไฟเนื้อแสนอร่อยกินกันจนพุงกาง
จุดเตาแก๊ส ต้มน้ำในหม้อ ใส่เครื่องปรุงหม้อไฟ รอจนเดือด จากนั้นใส่เนื้อวัวติดมัน แป้งข้าว และผักต่างๆ ลงไป
แม้ข้าวสวยที่หุงด้วยถุงให้ความร้อนจะไม่อร่อยเท่าข้าวที่หุงในหม้อ แต่ทั้งเฉียวเยี่ยนและระบบตัวน้อยก็พอใจแล้ว
เฉียวเยี่ยนมองใบหน้าดำมอมแมมและผมกระเซิงของระบบตัวน้อยแล้วก็รู้สึกปวดใจ
ในสภาพอากาศที่ลมเหนือพัดหวีดหวิว นางได้ติดตามตนไปทุกหนแห่งจนใบหน้าน้อยกลายเป็นสีแดงจากความหนาวเย็น
ระบบตัวน้อยสูดหายใจในขณะที่ถือชามและยัดอาหารเข้าปากคำใหญ่ ขณะสัมผัสได้ถึงความคิดของโฮสต์ นางก็เงยหน้าขึ้นและยิ้มให้อย่างโง่เขลา
นางไม่รู้สึกขมขื่นเลยสักนิด การได้ติดตามโฮสต์เพื่อทำเรื่องยิ่งใหญ่นั้นน่าตื่นเต้นเหลือเกิน!
ความคิดของเฉียวเยี่ยนถูกสกัดไว้ก่อนที่นางจะทันได้พูดอะไร จริงด้วย ลูกๆ ในครอบครัวนางต่างเห็นเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ เลยไม่รู้สึกกลัวอะไรทั้งนั้น
ทั้งสองกินหม้อไฟอย่างเอร็ดอร่อย ขณะที่กองทัพแคว้นเป่ยกำลังกินอาหารมื้อสุดท้ายและไม่มีมื้อหน้าให้กินอีก
พวกเขาปล้นฝูงแกะของคนเลี้ยงแกะที่อยู่ใกล้เคียงไปเกือบทั้งหมดแล้ว และตอนนี้พวกเขาก็พยายามออกไปหาอาหาร ทว่าหาไม่พบ
เห็นได้ชัดว่าเมื่อวานนี้พวกเขายังได้กินเนื้อแกะกันอย่างเอร็ดอร่อย แต่มาวันนี้กลับไม่ได้กินอีกแล้ว เหล่าทหารแคว้นเป่ยจึงโกรธแค้นคนที่มาเผาเสบียงกับปล้นแกะของพวกเขาอย่างสุดหัวใจ
ซางต๋ากลุ้มใจนักจนผมแทบร่วงหมดศีรษะ เขาได้ส่งสารถึงกษัตริย์แคว้นเป่ยเพื่อกราบทูลขอเสบียงและหญ้าอาหารสัตว์เพิ่มไปแล้ว แต่อีกไม่นานอากาศน่าจะหนาวจนแข็ง และน่าจะใช้เวลานานโขกว่าที่เสบียงทั้งหลายจะมาถึงที่นี่
ในมือของเขาคือกระสุนที่ผ่าได้จากศพของคนสามคนที่ถูกยิงเมื่อคืนนี้ หลังศึกษาอย่างละเอียดแล้ว เขาก็นึกไม่ออกเลยว่าจะมีอาวุธทรงอานุภาพใดที่จะปลิดชีพคนได้ถึงขนาดนี้
วัตถุแข็งสามชิ้นในมือของเขาทำจากวัสดุที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน มันดูคล้ายเหล็กหรือทองแดงก็จริง แต่พวกมันแข็งกว่าเหล็กและทองแดงเป็นร้อยเท่า
เมื่อถือในมือแล้วก็รู้สึกหนักมาก และดูเหมือนว่าจะมีกลิ่นดินปืนอยู่ข้างใน ส่วนหัวไม่คมมากนัก ซึ่งการจะให้มันเจาะทะลวงเข้าไปในร่างกายมนุษย์ได้ก็ต้องใช้พลังงานมหาศาล
เฉียวเยี่ยนและระบบตัวน้อยเข้าใกล้ค่ายทหารแคว้นเป่ยอีกครั้งหลังกินและดื่มเสร็จ ซึ่งม้าสีดำที่พวกนางขโมยมาก็ถูกปล่อยให้ท่องไปในทุ่งหญ้าโดยลำพัง
ขณะที่พวกนางกำลังจะถึงค่ายทหาร ระบบตัวน้อยก็ตรวจสอบสถานการณ์ภายในได้
รอบค่ายทหารมีการวางกำลังแข็งแกร่ง ทางกระโจมที่พักทาสยังมีคนเฝ้าอยู่ เดาได้ว่ามีใครบางคนรู้แล้วว่าพวกนางไม่ได้อยู่ที่นี่
ในเวลานี้พวกนางซ่อนตัวอยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำนอกค่ายทหาร และเห็นเหล่าทาสกำลังทำงานได้จากฝั่งตรงข้ามอยู่ไกลๆ
ดูเหมือนว่าเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะกลับไปที่ค่ายทหารในตอนนี้
อีกด้านหนึ่งของแม่น้ำยังคงมีทหารค้นหาสถานที่ที่ผีร้องเมื่อคืนนี้ แต่ระบบตัวน้อยได้เก็บเครื่องขยายเสียงกลับเข้ามิติแล้ว ทำให้พวกเขาไม่มีทางหาเจอต่อให้ขุดดินลึกลงไปสามฉื่อก็ตาม
และบอลลูนไฮโดรเจนเมื่อคืนนี้ก็ลอยตามกระแสลมไปที่อื่นแล้ว มองไม่เห็นแม้แต่เงาของมัน
หลังสังเกตสถานการณ์แล้ว เฉียวเยี่ยนก็พาระบบตัวน้อยถอยไปยังที่ที่ห่างจากค่ายทหารเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกค้นพบ
พวกนางพบที่กำบังจากลมแห่งหนึ่ง จึงตั้งเต็นท์เล็ก ๆ ใช้อาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราวและคอยสร้างปัญหาให้กับกองทัพแคว้นเป่ยเมื่อพบโอกาส
แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ ม้าดำตัวใหญ่ที่พวกนางปล่อยไปในตอนเช้าได้ย้อนมาหาพวกนางในตอนบ่าย ราวกับว่าต้องการจะตามพวกนางไปด้วย
เฉียวเยี่ยนทำอะไรไม่ถูก รู้สึกว่าสาเหตุที่ม้าสีดำตัวใหญ่ตามพวกเขา คงอาจเป็นเพราะนางป้อนข้าวสาลีหนึ่งถุงให้กับมันเมื่อเช้านี้
นางซื้อข้าวสาลีจากระบบ และม้าดำตัวใหญ่ก็กินอย่างมีความสุขโดยไม่สนใจว่าตัวมันถูกขโมยไปจากเจ้าของ
เฉียวเยี่ยนไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับสายพันธุ์ม้า แต่ม้าสีดำตัวใหญ่ตัวนี้ช่างงดงามและสง่าผ่าเผย มีขนดำขลับเป็นเงางาม อาจจะมีมูลค่ามากทีเดียว
เนื่องจากม้าไม่ต้องการไป นางจึงฉวยโอกาสรั้งมันไว้ใช้เป็นพาหนะ โดยให้อาหารเป็นรางวัลบ้างในบางครั้ง
ม้าสีดำตัวใหญ่ตัวนี้แสนรู้นัก ต่อให้เฉียวเยี่ยนไม่ได้ผูกมันไว้ มันก็หากินในบริเวณใกล้เคียงกับพวกนางและไม่ได้ไปไกลนัก ทั้งกินหญ้า นอนหลับ หรือไม่ก็นอนอาบแดด ใช้ชีวิตแต่ละวันอย่างสุขแสน
ระบบตัวน้อยเล่นกับม้าสีดำตัวใหญ่ และยังตั้งชื่อสุดเท่ให้มันว่าเฮยเสวียนเฟิง!
เฉียวเยี่ยนบ่นอุบ ควรเรียกมันว่าหลี่ขุยน่าจะดีกว่า
แต่เห็นได้ชัดว่าเฮยเสวียนเฟิงชอบชื่อนี้มาก ท่าทางของมันดูมีความสุขยิ่ง
เมื่อเห็นระบบเล่นกับม้าอย่างสนุกสนาน สมองของเฉียวเยี่ยนก็เกิดแรงบันดาลใจชั่ววูบขึ้นมา นางคิดออกแล้ว
ม้า! นี่เป็นอาวุธที่ยอดเยี่ยมในสนามรบอย่างหนึ่ง หากนางปล่อยม้าทั้งหมดของกองทัพแคว้นเป่ยได้…
ชั่วขณะนั้นเอง ดวงตาของนางก็เป็นประกาย แทบรอไม่ไหวที่จะโจมตีกองม้าศึกในค่ายทหาร
คืนวันนี้คือฤกษ์ดี เอ้า ถึงเวลาลงมือแล้ว!
เฉียวเยี่ยนและระบบตัวน้อยจูงเฮยเสวียนเฟิงไปที่คอกม้าในค่ายทหาร
ในคอกมีม้าศึกจำนวนมากและมีกลิ่นแรงเกินไป ดังนั้นคอกม้าจึงถูกจัดไว้นอกค่าย ห่างจากค่ายทาสที่พวกนางอยู่เมื่อก่อนหน้านี้
เมื่อมาถึงสถานที่นี้ เฉียวเยี่ยนและระบบตัวน้อยก็หยิบเครื่องมือและลำโพงขนาดใหญ่พิเศษออกมา และเตรียมที่จะทำกลอุบายเดิมซ้ำ
ครั้งนี้พวกนางไม่ได้เสแสร้งโง่เขลา แต่ต้องการจะให้ทหารแคว้นเป่ยกลุ่มนี้ตื่นขึ้น ไม่ว่าจะหลับไหลไปแล้วก็ต้องตื่นขึ้นมากลางดึก!
ลำโพงนี้มีขนาดใหญ่พิเศษสูงเท่าระบบตัวน้อย เป็นระบบแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟจนเต็มแล้ว ต่อให้เปิดใช้งานทั้งคืนก็ไม่มีปัญหาใดๆ
เมื่อทุกอย่างพร้อม ระบบตัวน้อยก็หยิบโทรศัพท์มือถือของนางออกมาเชื่อมต่อกับบลูทูธ ก่อนที่เพลงสำหรับเต้นแอโรบิกจะดังขึ้น
ลำโพงสเตอริโอถูกเปิดเสียงดังจนสุด และเมื่อเสียงเพลงดังขึ้น เฉียวเยี่ยนก็รู้สึกชาไปทั้งหู รีบก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว ในขณะที่ระบบตัวน้อยหัวเราะคิกคักอย่างตื่นเต้นจนแทบจะกระโดดขึ้น
“พับนกกระเรียนกระดาษพันตัว ผูกริบบิ้นสีแดง”
“ขอให้คนใจดีมีโชคดีทุกวัน”
ทันใดนั้น เสียงเพลงอันคึกคักก็ดังก้องไปทั่วทุ่งหญ้า จนทหารในค่ายแคว้นเป่ยที่เพิ่งผล็อยหลับไปต่างตื่นตระหนกและรีบออกจากกระโจมทันที พร้อมกำอาวุธแน่น
สถานการณ์นี้ช่างคุ้นเคยเหลือเกิน คืนนี้จะเลิกหลอนแล้วเปิดดนตรีแทนงั้นหรือ?
แต่ไอ้เพลงจังหวะมันๆ นี่มันเพลงอะไรกัน? พวกเขาไม่เคยได้ยินเพลงแบบนี้มาก่อนเลย
ค่ายทหารแคว้นเป่ยกลับมาคึกคักอีกครั้ง เหล่าทหารยืดศีรษะเพื่อดูว่าเสียงเพลงมาจากที่ใด แต่บรรยากาศไกลออกไปก็มืดสนิทเสียจนมองอะไรไม่เห็น
พวกเขาไม่ได้ผลีผลาม ยังรอคำสั่งของแม่ทัพ แต่มือของบางคนกลับสั่นอย่างควบคุมไม่ได้กับเสียงเพลง
“โชคดี ขอให้เจ้าโชคดี”
“โชคนำมาซึ่งความสุขและความรัก”
“ขอให้เราโชคดี โชคดี”
“เจริญรุ่งเรืองด้วยความโชคดีและเชื่อมต่อโลก”
เสียงเพลงดังกระหึ่มกว่าเสียงผีร้องเมื่อคืนวานเป็นหลายเท่าตัว ทุกคนในค่ายทหารล้วนได้ยินเสียง และบางคนก็รู้สึกตื่นเต้นอยากร่วมสนุกด้วย
เป็นไปได้ไหมว่าผีเมื่อคืนนี้เปลี่ยนใจแล้ว? แทนที่จะกรีดร้องกลับร้องเพลงแทน?
แต่อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย เพลงนี้มันช่างไพเราะยิ่งนัก!
ซางต๋าลุกขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียงดัง เขาตื่นตัวมากในขณะนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนยังแจ่มชัดในความทรงจำของเขา และสัญชาตญาณของเขาก็บอกเขาว่าเหตุการณ์คืนนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ที่ดีอย่างแน่นอน!
เขารีบไปที่คอกม้า และบอกเหล่าแม่ทัพให้จัดทหารคุ้มกันขณะที่เขาเดิน
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ป่วนค่ายศัตรูได้ชวนฮามากสมกับเป็นเฉียวเยี่ยนและระบบ จนทหารทั้งค่ายจะลุกขึ้นมาเต้นกันแล้ว ว่าแต่ซางต๋ารู้ทันกลนี้เสียแล้วหรือเปล่านะ
ไหหม่า(海馬)