ตอนที่ 374 สงครามเย็นช่วงสั้นๆ
ตอนที่ 374 สงครามเย็นช่วงสั้นๆ
หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่บริเวณสนามฝึกยิงเป้าแล้ว เฉียวเยี่ยนก็หยิบของสีดำจากอกนางออกมา ซึ่งเป็นปืนพกแบบเก็บเสียงของนางเอง
แม้ตอนนี้จะเป็นเวลากลางคืน ทว่าแสงจันทร์กระจ่างจนเป้าที่อยู่ในระยะไกลยังมองเห็นได้ชัดเจน นางจึงใช้โอกาสตอนที่มีคนน้อยสอนวิธียิงปืนให้องค์รัชทายาทของนาง และค่อยซื้อปืนให้เขาในวันพรุ่งนี้
มู่ฉินเจินมองปืนกระบอกนั้นในมือนาง มันทั้งแปลกแต่ก็คุ้นเคย ดูเหมือนปืนฉีดน้ำที่พวกเด็กๆ เล่น แต่ไม่ได้ใหญ่เท่าปืนฉีดน้ำ
หรือภรรยาเขานัดเขามาที่นี่เพื่อเล่นน้ำกลางดึก?
ก่อนที่เขาคิดไปต่างๆ นาๆ จบ เฉียวเยี่ยนก็เข้าประเด็น
“ในมือข้านี้คือปืนพก เป็นอาวุธที่อันตรายถึงชีวิตอย่างยิ่งในโลกของพวกเรา”
ขณะกล่าว นางก็บรรจุกระสุนปืนพก จากนั้นเล็งไปที่เป้าหมาย เหนี่ยวไกปืน ลูกกระสุนพุ่งออกไปทันที
แม้จะเป็นปืนพกเก็บเสียง แต่ในสนามฝึกยิงเป้าอันเงียบสงบ เสียงยิงยังคงดังก้องในยามราตรี
สายตาของมู่ฉินเจินเฉียบแหลมกว่าคนทั่วไปมาก ภายใต้แสงจันทร์ เขาสามารถมองเห็นวัตถุรูปวงรีที่ยิงออกมาจากปากกระบอกปืนได้อย่างชัดเจน
วัตถุนั้นพุ่งตรงไปยังเป้าตรงข้ามด้วยความเร็วอันน่าอัศจรรย์ เป้าหญ้าฟางที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถูกแรงกระแทกอันทรงพลังกระเด็นไปข้างหลัง พร้อมกับวัตถุนั้นเจาะทะลุกลางเป้าไป
พลังทำลายล้างนี้รุนแรงกว่าธนูทั่วไปหลายร้อยเท่า อีกทั้งยังมีขนาดเล็ก จึงไม่ง่ายที่จะถูกพบและต่อต้านได้!
เฉียวเยี่ยนเห็นแววตกใจในดวงตาของเขาก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจ และอธิบายต่อ “สิ่งที่ยิงออกมาจากปากกระบอกปืนเมื่อครู่เรียกว่าลูกกระสุน ทำมาจากโลหะผสมพิเศษ หลังจากลูกกระสุนถูกยิงออกไป มันก็เจาะทะลุกะโหลกของมนุษย์ได้”
“และเพราะพลังทำลายร้างรุนแรงของปืน ในโลกก่อนหน้าของข้า คนธรรมดาจึงล้วนห้ามใช้ปืน มีเพียงบุคคลพิเศษเท่านั้นที่สามารถพกติดตัวได้”
“แต่โชคดีที่ข้ามีระบบ ซึ่งซื้อมาจากร้านค้าของระบบ”
……
นางแนะนำความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับปืนให้มู่ฉินเจินฟัง ดวงตาของมู่ฉินเจินเป็นประกาย ดูอยากลองทำเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าอยากจะลองมาก
เฉียวเยี่ยนอยากจะหัวเราะ ไม่มีผู้ชายคนไหนสามารถรอดพ้นการล่อลวงของปืนไปได้จริงๆ หากนางคุยกับเขาเกี่ยวกับอาวุธสมัยใหม่ เกรงว่าเขาอาจจะขอให้นางซื้อระเบิดปรมาณูมาก็ได้
แล้วก็ยังมีรถ นี่เป็นสิ่งของโปรดปรานของผู้ชายเหมือนกัน หากนางสามารถซื้อรถมาจากร้านค้าได้ รับรองได้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่วางมือแน่
น่าเสียดายที่รถเป็นวัตถุที่ดูโจ่งแจ้งเกินไปในโลกนี้ หากนางขับรถไปตามท้องถนน ต้องถูกมองว่าเป็นสัตว์ประหลาดแน่
มู่ฉินเจินรับปืนพกมา และลูบมันอย่างระมัดระวัง ราวกับกำลังศึกษาว่าเหตุใดเจ้าสิ่งเล็กๆ นี้ถึงได้มีอันตรายถึงตายได้
ตามท่าทางที่เฉียวเยี่ยนแนะนำ เขาเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วราบรื่น เล็งไปที่เป้าตรงข้าม และลั่นไกอย่างคล่องแคล่ว
เมื่อปืนอยู่ในมือตัวเอง เขาถึงได้รู้สึกว่ามันมีพลังมากเพียงใด เมื่อเห็นเป้าถูกเจาะทะลุ เขายังเดินไปตรงหน้าเป้าเพื่อยืนยันอย่างระมัดระวัง
องค์รัชทายาทที่ได้จับปืนเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ก็มิปาน ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับทั้งคืน แถมยังถือปืนเพ่งดูอย่างพินิจ ประหนึ่งจ้องมันผลิดอกออกมา
เช้าวันรุ่งขึ้น เฉียวเยี่ยนยังไม่ตื่น แต่เขาก็ตื่นขึ้นมาศึกษาปืนต่ออีกครั้ง
ชายผู้นี้มีความสามารถอย่างมากในด้านนี้ หลังจากถอดส่วนประกอบปืนแล้วก็ประกอบขึ้นใหม่อีกครั้ง และทำความเข้าใจแต่ละส่วนของปืนมาทั้งเช้า
เมื่อเฉียวเยี่ยนตื่นขึ้นมา พลิกตัวหันไปก็เห็นคนของนางกำลังถอดส่วนประกอบปืนออกและประกอบเข้าใหม่ ประกอบใหม่เสร็จก็ถอดออก
แม้ความเร็วจะไม่เร็วเท่าคนที่ได้รับการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ กระนั้นกลับไม่มีชะงักหรือข้อผิดพลาดใดๆ เลย
นางส่ายหัวอย่างจนใจ เมื่อระบบตัวน้อยตื่นขึ้นมา ก็ใช้คะแนนไปจำนวนมากเพื่อซื้อปืนพกให้เขา
ด้วยคะแนนในตอนนี้ของนางจึงยังคงซื้อได้แค่ปืนพก ส่วนปืนอื่นๆ ที่มีพลังทำลายล้างสูงนั้นยังซื้อค่อนข้างยากอยู่
อีกอย่างนางไม่คิดจะซื้อมันเช่นกัน ของสิ่งนั้นมันโดดเด่นเกินไป พลังการทำลายล้างก็สูงเกินไป ไม่ง่ายที่จะปิดซ่อน
มู่ฉินเจินที่ได้รับของขวัญปิติยินดีอย่างหาได้ยาก รอยยิ้มในดวงตาของเขาแสดงให้เห็นว่าเขามีความสุขมาก
แต่ความสุขอยู่ได้ไม่นาน ก็ถูกเฉียวเยี่ยนสาดทำลายด้วยน้ำเย็นหนึ่งอ่าง
เฉียวเยี่ยนถือโอกาสเอ่ยเงื่อนไขออกมาว่าอยากจะพาระบบตัวน้อยไปเมืองหานกวน
มู่ฉินเจินมองไปที่ดวงตาน้อยที่รอคอยของนาง ก็ปฏิเสธอย่างง่ายดาย
“ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป!”
เฉียวเยี่ยนพลันอารมณ์เสีย และยืนกรานที่จะไป
“ข้ารู้ว่าท่านเป็นห่วงข้า แต่ท่านต้องเชื่อว่าข้ามีความสามารถที่จะปกป้องตัวเองได้ อีกอย่างก่อนหน้านี้ก็ไม่มีอะไรมาทำร้ายแม้กระทั่งเส้นผมของข้าได้ แถมยังก่อกวนกองทัพแคว้นเป่ยจนอยู่ไม่เป็นสุขอีกด้วย?”
“ท่านปล่อยให้ข้าเอาแต่ใจครั้งนี้ได้ไหม ข้ามีระบบ ต่อให้ท่านไม่เชื่อข้า แต่ไม่อาจไม่เชื่อสูตรโกงใช่หรือเปล่า? ข้ากับระบบสามารถแทรกแซงเข้าไปในกองทัพของศัตรูได้ เป็นไส้ศึกให้พวกท่านได้ แบบนี้อัตราการสูญเสียในสงครามของเราก็จะลดลงมาก”
ทั้งสองโต้เถียงกันเนิ่นนาน แต่งงานกันมานานหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่มีเรื่องที่พวกเขาเห็นไม่ตรงกันมากเช่นนี้
สิ่งที่ควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว เฉียวเยี่ยนเม้มปากแห้งผากอย่างน้อยใจ ในขณะที่มู่ฉินเจินกำลังครุ่นคิดสิ่งที่นางเพิ่งพูดไปอย่างเงียบๆ
เขาเข้าใจเหตุผล แต่แค่ไม่อยากให้นางไปเสี่ยงอันตราย
ตลอดทั้งบ่าย พวกเขาสองคนไม่พูดอะไรกันเลย ระบบตัวน้อยกับเกาจัวหยวนตกใจมากจนอ้าปากค้างเมื่อเห็นสถานการณ์นี้
ไม่ได้สิองค์รัชทายาท! หลายปีมานี้ ในที่สุดก็กล้าแข็งข้อขึ้นมาแล้ว และไม่คิดเลยว่าจะกล้าต่อต้านกับภรรยา!
แค่ไม่รู้ว่าจะถูกลงโทษให้คุกเข่าบนกระดานซักผ้าตอนกลางคืนโดยที่พวกเขาไม่รู้หรือเปล่า
สุดท้ายสงครามเย็นช่วงสั้นๆ ระหว่างทั้งสองก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของมู่ฉินเจิน ในคืนนั้นเององค์รัชทายาทก็เจรจาสงบศึกกับภรรยา
แม้การตัดสินใจนี้ต้องใช้ความกล้าหาญเป็นอย่างมาก แต่ภรรยาของเขาพูดถูก เขาควรจะเชื่อใจนาง
เฉียวเยี่ยนนอนซุกตัวอยู่บนเตียงแสร้งทำเป็นหลับ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเขาเข้ามา ก็กำมือแแน่น
นางรู้สึกว่าการเมินเฉยต่อเขาในวันนี้เป็นการกระทำเกินเหตุไป ถึงอย่างไรเขาก็เป็นห่วงตัวเอง ในตอนที่ขบคิดว่าจะขอโทษอย่างไรนั้น มือใหญ่อบอุ่นกลับโอบรอบเอวนาง และกระชับกอดจนแผ่นหลังนางแนบชิดกับทรวงอกอันอบอุ่นของเขา
“ยังโกรธอยู่อีกหรือ? ข้าตกลงแล้วดีหรือไม่ ไม่โกรธแล้วนะ”
เสียงของเขาทุ่มต่ำและอ่อนโยน ทำให้เฉียวเยี่ยนรู้สึกผิดเล็กน้อย องค์รัชทายาทของนางเป็นคนดีขนาดนี้ นางทำสงครามเย็นกับเขาได้อย่างไร!
นางหันกลับมา ยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขา จูบที่แก้มเขา และเอ่ยขอโทษด้วยเสียงต่ำ “ข้าขอโทษ เป็นข้าเองที่เอาแต่ใจ”
มู่ฉินเจินยิ้มบาง และจูบหน้าผากนาง “ฮูหยินจะผิดได้อย่างไร หากผิดก็เป็นความผิดของข้าเอง”
“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการช่วยข้า อยากช่วยตัวประกันที่ถูกขังอยู่เหล่านั้น และทำให้เจ้าเจ็บปวดใจ ข้าจะโทษเจ้าได้อย่างไร”
ทั้งสองกอดกันพูดคุยหัวเราะคิกคักกันสักพัก ก็กลับมาเป็นคู่รักที่รักกันปานจะกลืนทันที
เฉียวเยี่ยนนึกขึ้นได้ว่าเขาเพิ่งพูดตกลงให้ตัวเองไปเมืองหานกวน จึงถามด้วยความประหลาดใจ “เหตุใดท่านถึงคิดได้และปล่อยข้าไป?”
มู่ฉินเจินถอนหายใจยาว และเอ่ยติดตลก “เฮ้อ ช่วยไม่ได้ ใครให้ภรรยาของข้าไม่สนใจข้ากัน”
เฉียวเยี่ยนยิ้มและผลักเขาสองครั้ง จงใจตีหน้าขรึม “พูดให้มันจริงจังหน่อย!”
มู่ฉินเจินเอ่ยจริงจังขึ้นมาจริงๆ “ข้าให้เจ้าไปจริงๆ แต่ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”
“ท่าน?”
ดวงตาของเฉียวเยี่ยนเบิกกว้างด้วยความตกใจ ไม่ใช่ว่านางไม่ต้องการให้เขาไป แต่ในฐานะผู้บัญชาการที่ต้องอยู่ควบคุมกองทัพ หากเขาไปกับนาง พวกทหารนับหมื่นนายจะทำอย่างไร?
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ยอมจบสงครามเย็นแล้วนะ แต่มีเงื่อนไขว่าจะไปด้วย เฉียวเยี่ยนจะทำไงดีเนี่ย
ไหหม่า(海馬)