ตอนที่ 3 มิตร
ขณะนั้นเป็นเวลาค่ำแล้ว แพทย์เฉพาะทางที่ทำหน้าที่ตรวจคนไข้ออกเวรไปแล้ว เหล่าจางผู้เป็นคนขับรถหยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสาย ไม่นานเกินรอบรรดาแพทย์ในชุดกาวน์ก็รุดมาถึงที่
ปกติแล้ว พวกหมอออกจะสูงส่ง มีที่ไหนมาทำตัวนอบน้อมกับคนขับรถตัวเล็กๆ เช่นนี้
กู้ซีเฉียวหรี่ตามองแพทย์ใช้คีมค่อยๆ คีบเศษกรวดออกจากแผล เธอแทบไม่ต้องเดาเรื่องราวต่อจากนี้ เธอและพวกเขาพบกันโดยบังเอิญ หลังจากก้าวเท้าออกจากโรงพยาบาลก็คงไม่เวียนมาพบกันอีก เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก็รู้เบาใจขึ้นเล็กน้อย
เพียงแต่เธอไม่คิดว่า คนขับรถกลับเอ่ยถามขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อครอบครัวของเธอ?
กู้ซีเฉียวเงยหน้า แววตาของเธอเป็นประกายสดใส ผมดำนุ่มสลวยระลงมาที่บ่า ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู “ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ แค่แผลถลอกนิดหน่อย พวกคุณกลับไปเถอะ อีกเดี๋ยวฉันกลับเองได้ค่ะ”
จะโทรหาที่บ้านกู้อย่างนั้นหรือ ซูหว่านเอ๋อร์คงบีบคอเธอตายเป็นแน่ กู้จู่ฮุยก็ไม่อินังขังขอบเมื่อเป็นเรื่องเธอ ส่วนกู้ซีจิ่น ภายนอกดูห่วงใย แต่ทว่าในใจคงต้องการให้เธอตายอยู่สิไม่ว่า ฉะนั้นการจะโทรไปที่บ้านหรือไม่โทรนั้นต่างกันด้วยหรือ อย่างมากที่สุดการโดนรถชนคงเป็นการตอกย้ำความเป็นตัวซวยของเธอในสายตาคนตระกูลกู้ พวกเขาไม่มีทางส่งคนมาต่อให้เป็นคนรับใช้ก็ตามที
ภายใต้แสงไฟ หญิงสาวยังคงดูงดงามแม้ใบหน้าจะซีดเซียวเพราะอาการเจ็บป่วย ร่างบอบบางชวนให้คนเห็นรู้สึกเวทนา
เหล่าจางยังไม่ทันเอ่ยตอบ พยาบาลที่กำลังเช็ดแผลก็กล่าวแทรกขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “บาดเจ็บขนาดนี้แล้วจะไม่ให้เรียกพ่อแม่มาได้ยังไง เธอคงจะทะเลาะกับที่บ้านมาใช่หรือเปล่า ช่วงวัยต่อต้านงั้นสิ ฉันเข้าใจ กลับไปยอมรับผิดซะเถอะ คนเป็นพ่อเป็นแม่ถึงปากร้ายแต่ใจดีนะ พวกเขาทำงานเหนื่อยยากแสนเข็ญทุกวัน เธออย่าทำให้พวกเขาต้องเป็นห่วงเลยจะดีกว่า…”
พยาบาลพร่ำพูดไม่เว้นวรรค เสียงเจื้อยแจ้วทำเอากู้ซีเฉียวเริ่มปวดหัว
พยาบาลยุคนี้ใส่ใจคนไข้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“แม่ฉันเสียแล้วค่ะ” กู้ซีเฉียวชำเลืองไปทางพยาบาลคนนั้นก่อนจะกล่าวต่อ “ส่วนพ่อก็ยุ่งเกินกว่าจะมาสนใจเรื่องฉัน”
“หา ฉันขอโทษนะ” พยาบาลผงะไปก่อนจะสำนึกได้ว่า ตนเองพูดสิ่งที่ไม่ควรออกไป แต่ในชั่วสั้นๆ กลับมีคติธรรมนำครอบครัวอีกประมาณล้านเรื่องผุดขึ้นในหัวแทนที่ เธอมองไปที่กู้ซีเฉียวด้วยแววตาเห็นอกเห็นใจ “งั้นเธอ…”
ดวงตาดำขลับของกู้ซีเฉียวสงบนิ่ง เธอเลิกสนใจคนตรงหน้าและจัดการความคิดในหัวตัวเองต่อ เธอย้อนกลับมาในช่วงที่ตัวเองอายุสิบแปดอีกครั้ง มาพร้อมกับเจ้าระบบที่ดูพึ่งพาไม่ค่อยได้ ซ้ำร้ายพอกลับมาก็โดนรถชนอีก เหตุใดทุกสิ่งที่เกิดขึ้นถึงมีแต่เรื่องร้ายกันนะ
เธอเองก็คิดไม่ตกทำได้เพียงใช้นิ้วขาวซีดสองนิ้วนวดที่ขมับ
พยาบาลสาวคนนั้นขบคิดกับตัวเองครู่หนึ่ง อดใจไม่ไหวต้องกล่าวต่อ เธอเป็นพยาบาลฝึกหัดที่เพิ่งจบการศึกษาได้ไม่นาน ขาดประสบการณ์และไร้เดียงสา ในใจของเธอยังยึดมั่นต่อคุณธรรมของตนคิดว่าตนควรจะโน้มน้าววัยรุ่นหลงทางคนนี้
แต่พวกที่หลงคิดว่าตนเองหวังดีเช่นนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากเอามีดมาปักที่กลางอกของอีกฝ่ายมิใช่หรือ
ขนาดเหล่าจางยังเริ่มหมดความอดทน เขาเตรียมจะเอ่ยปรามพยาบาลสาว
เพียงแต่เขายังไม่ทันกล่าวก็ได้ยินเสียงเอี๊ยดอ๊าดแผ่วเบา ร่างสูงโปร่งผลักประตูเข้ามา การมาถึงของเขาทำให้ทั้งห้องเย็นวาบทันใด บรรยากาศในห้องอัดแน่นไปด้วยแรงกดดันไร้รูป
แผ่นหลังของนางพยาบาลเย็นเยือก ความหวาดกลัวที่ไม่อาจบรรยายไต่คืบบนสันหลัง เธอสงบปากฉับพลันและเร่งมือทำงานของตัวเองก่อนจะลนลานออกไป
เมื่อประตูปิดลง กู้ซีเฉียวเงยหน้ามอง ภาพที่เธอเห็นคือโครงหน้าด้านข้างที่งดงามปานสลัก
เขายืนอยู่ตรงนั้น ร่างสูงโปร่งทรงสง่า ภูมิฐานยากจะปิดบัง แต่ทว่ารอบกายกลับมีพลังงานรุนแรงไออวลชวนให้คนรอบข้างรู้สึกหวาดผวา
จากมุมที่เธอนั่ง ชายหนุ่มผู้นี้คมคายประหนึ่งภาพวาด คิ้วเป็นทรงได้รูปช่วยลดทอนความเย็นชาบนใบหน้า ขับเน้นความงดงามที่เจือไปด้วยความอ่อนโยน
เธอไม่เคยเห็นชายคนใดโดดเด่นเช่นนี้มาก่อน แม้แต่นางพยาบาลสาวยังชะงักงัน
เจียงซูเสวียนเห็นว่ากู้ซีเฉียวทำแผลเรียบร้อยแล้วจึงหยิบชาร์ตขึ้นมาดู ใบหน้าเรียวเย็นชาไม่แสดงอารมณ์ แต่แล้วคิ้วหนาก็ขมวดมุ่นราวกับมีคลื่นใหญ่ก่อตัวกลางทะเลอันเงียบสงบ แววตาของชายหนุ่มล้ำลึกคล้ายกับฉาบด้วยชั้นหิมะหนาเย็นเยือก แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงท่าทีเกรี้ยวกราด แต่ถึงอย่างนั้นก็มีน้อยคนนักที่จะกล้าสบตาตรงๆ
เนิ่นนานกว่าเขาจะส่งแผ่นชาร์ตให้เหล่างจางเพื่อให้เขาไปรับยา
เดิมทีเหล่างจางตั้งใจจะติดต่อครอบครัวของเด็กสาวคนนี้ เพราะการปล่อยให้เด็กผู้หญิงอยู่ในโรงพยาบาลเพียงลำพังคงไม่เหมาะนัก แต่เด็กผู้หญิงคนนี้กลับดื้อรั้นเอาการ ไม่ยอมให้ความร่วมมือ
และที่เขาร้อนใจกว่านั้นคือคุณเจียงที่รออยู่ด้านล่าง เพราะความจริงแล้ว คืนนี้เขาได้รับหน้าที่ให้ไปส่งคุณเจียงที่สนามบิน หากเกิดข้อผิดพลาดประการใด เขาเองก็คงรับผลที่ตามมาไม่ไหวเช่นกัน แต่เมื่อเห็นว่าคุณเจียงเดินตามเข้ามาและไม่มีทีท่ากล่าวโทษ เขาถึงรู้สึกโล่งใจ เดินไปรับยาแต่โดยดี
เมื่อในห้องไม่มีใครอื่น เจียงซูเสวียนจึงมองตรงไปที่กู้ซีเฉียว
เขามองเธอ ดวงตาสุกใสสะท้อนแสงโคมไฟ เปล่งประกายวาววาม
เวลาเคลื่อนไปนานกว่าเขาจะเอ่ยปาก “เธอเป็นใคร”
สายตาของเจียงซูเสวียนราวกับมีพลังที่สามารถทะลุทะลวงทุกสิ่งได้ เหมือนกับว่าสามารถอ่านความคิดของคนตรงหน้าแม้ซ่อนอยู่ในส่วนลึก
เขาทราบดีว่ารถของเขาขับชนคน เพียงแต่เรื่องนี้อยู่นอกเหนือจากการคาดการณ์ของเขา ในตอนนั้นเขาเองก็นั่งอยู่ในรถด้วย ด้วยพลังการรับรู้ของเขากลับไม่รู้สึกเลยว่าด้านหน้ามีคนยืนอยู่ อีกทั้งหญิงสาวผู้นี้ยังมีพลังจิตแกร่งกล้า แกร่งกล้าถึงขนาดที่เขาเองยังรู้สึกหวั่นเกรง
พลังจิตระดับสูงขนาดนี้ เทียบกับเด็กๆ ในตระกูลพวกนั้น ไม่รู้ว่าเธอจะมีพรสวรรค์พิเศษมากกว่ากี่เท่า คนพวกนั้นคงรู้ว่าเขาสนใจสิ่งใด ถึงได้จงใจให้เด็กผู้หญิงคนนี้มาปรากฏตัวต่อหน้าเขาใช่หรือเปล่า
ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เจียงซูเสวียนมองเด็กสาวด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์
เสียงเย็นดังขึ้นเหนือศีรษะ กู้ซีเฉียวเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยแววตาสงสัย
แววตาใสแจ๋วประหนึ่งแววตาของเด็กน้อยมองตรงมาไม่หลบหลีก
เจียงซูเสวียนพูดไม่ออกชั่วขณะ เขาเผลอกำมือป้องปากกระแอมไอแผ่วเบากลบเกลื่อนความประหม่า เด็กสาวนัยน์ตาสดใสดูไม่เหมือนคนพวกนั้นเลยสักนิด ในวินาทีนั้นเขาเริ่มรู้สึกดีต่อเธอ “ฉันหมายความว่า ในเมื่อเธอไม่อยากกลับบ้าน ก็ไปพักที่บ้านของฉันสักสองสามวันก็แล้วกัน”
เด็กหลายคนมีปัญหากับครอบครัว แต่การที่เด็กดีเชื่อฟังเลือกที่จะหนีออกจากบ้านต้องเป็นเพราะพบเจอความทุกข์หนักหนาเพียงใดถึงได้ตัดสินใจเช่นนี้? เจียงซูเสวียนรู้สึกรู้สึกแย่ไม่น้อย
กู้ซีเฉียวเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ เดิมทีเธอตั้งใจจะปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นเงาร่างเบื้องหน้า ร่างกายของเธอกลับรู้สึกเบาสบาย
หญิงสาวยังไม่ทันตอบสนอง จู่ๆ ร่างของเธอก็ถูกร่างกายแข็งแรงโอบรัดและยกขึ้นอย่างนุ่มนวล ลมหายใจสดชื่นอบอวลอ้อยอิ่ง
เธอช้อนตามองด้วยความตกใจ แต่จากมุมนี้เธอเห็นเพียงกรามได้รูปที่ดูเย็นชา เธอคิด เขาคงเคยชินกับการทำตัวเผด็จการสินะ ไม่ให้โอกาสคนปฏิเสธเลยสักคำ
อีกอย่าง แม้แววตาของเขาจะดูลุ่มลึก แต่ก็อบอุ่นในเวลาเดียวกัน
กู้ซีเฉียวเม้มปาก ขนตายาวหลุบลงเล็กน้อยเพื่อซ่อนความรู้สึกในแววตา
ร่างในอ้อมแขนเบาหวิว ปืนยาวยังหนักกว่าร่างของเธอเสียอีก เจียงซูเสวียนขมวดคิ้ว หวนคิดถึงชาร์ตคนไข้เมื่อครู่ ร่างกายอ่อนแอ โลหิตจาง สมองได้รับการกระทบกระเทือนเล็กน้อย บาดแผลรุนแรง สภาพร่างกายไม่เหมือนกับเด็กในรุ่นราวคราวเดียวกัน
นี่โตมาอย่างไรเนี่ย?
กู้ซีเฉียวยังอยู่ในภวังค์ เสียงระบบดังขึ้นในสมอง [ติ๊ง! ระบบตรวจพบว่า ชายผู้นี้มีเจตนาดี เป็นคนซื่อตรง จัดประเภทอยู่ในหมวดหมู่มิตรโดยอัตโนมัติ]
มิตร? เธอเข้าใจความสามารถใหม่ของระบบได้ในทันที หญิงสาวหลับตาฉับพลัน ดำดิ่งลงไปในระบบเพื่อตรวจสอบสิ่งที่เรียกว่าหมวดหมู่มิตร