โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ – ตอนที่ 58 อัปเกรดระบบ

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

ตอนที่ 58 อัปเกรดระบบ

“เธอมาสอบเข้ามหา’ลัยกับเขาด้วยแฮะ” กู้ซีจิ่นพูดพลางยิ้มให้เธอราวกับระหว่างทั้งสองคนไม่เคยมีความขัดแย้งใดๆ มาก่อน

กู้ซีเฉียวขี้เกียจจะสนใจอีกฝ่ายจึงหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อดูเวลา กู้ซีจิ่นในตอนนี้ดูแปลกไป แต่ก็อธิบายไม่ถูกว่าแปลกไปตรงไหน

กู้ซีจิ่นเองเองก็ไม่ได้คิดว่าอีกฝ่ายจะรับคำ ยังคงพูดเองเออเองต่อไป “ทำไมเธอยังต้องมาสอบเข้ามหา’ลัย ด้วยล่ะ เธอควรจะไปเรียนที่ประเทศเอ็มกับฉันนี่นา แม่ช่วยหาโรงเรียนดีๆ ไว้ให้พวกเราแล้ว รอแค่เธอคนเดียว ใช่ไหมล่ะ น้องสาว”

เธอมองไปที่กู้ซีเฉียว ส่วนลึกในดวงตาพลันปรากฏหมอกมืดหม่นกลุ่มหนึ่งมารวมกันอย่างรวดเร็ว

เธอในตอนนี้แม้แต่ที่ๆ คนเยอะๆ ก็ยังไม่กล้าไป เกือบทุกคนที่พบล้วนมองเธอด้วยแววตาเย้ยหยัน นั่นทำให้จิตใจของเธอยิ่งบิดเบี้ยว กระทั่งคิดอย่างเหลวไหลว่าเรื่องทั้งหมดไม่ควรเป็นเช่นนี้ ทุกสิ่งไม่ควรเป็นแบบนี้ ทั้งหมดนี้เดิมควรจะต้องเป็นกู้ซีเฉียวที่แบกรับ!

แต่คนที่ควรจะต้องมาแบกรับทุกอย่างแทนเธอกลับมาสอบเข้ามหา’ลัย แบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นเช่นนี้

ความเย็นชาในดวงตาของกู้ซีจิ่นเข้มข้นมากขึ้นไปอีก แต่ใบหน้ากลับปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยน “น้องสาว เธอไปประเทศเอ็มกับพี่เถอะ ระบบการศึกษาที่นั่นดีกว่าที่หัวซย่าหลายเท่านัก เธอต้องชอบแน่ๆ”

“กู้ซีจิ่น เธอ…บ้าไปแล้วหรอ” กู้ซีเฉียวหรี่ตา เอ่ยถามอย่างสงสัย

ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ก็เหมือนกับแทงใจดำของกู้ซีจิ่นเข้าเต็มๆ ท่าทีอ่อนโยนพลันเปลี่ยนน่าหวาดผวา “เธอกล้าดียังไงมาพูดแบบนี้ เธอมันก็แค่ลูกนอกสมรสที่มาจากบ้านนอกจนๆ ต่อให้เธอเข้าสอบแล้วยังไงมันจะช่วยปิดบังความชั้นต่ำของเธอได้เหรอ ถ้าคุณปู่ไม่ได้พาเธอกลับมามีหรือที่เธอจะมีปัญญามาอยู่ตรงนี้ได้”

“จำได้ว่าหลายวันก่อนเธอก็เคยพูดแบบนี้กับฉัน เธอบอกว่าฉันจะต้องโดนไล่ออก ชื่อเสียงฉาวโฉ่ แต่เธอดูฉันในตอนนี้สิ” กู้ซีเฉียวพูดพลางยิ้มออกมา ทั้งเนื้อทั้งตัวราวกับมีแสงส่องประกาย รูปโฉมงดงาม ริมฝีปากสีอ่อนยกยิ้มบาง “คนที่อดเข้าสอบคือเธอต่างหาก ชื่อเสียงฉาวโฉ่ก็เป็นเธอต่างหากล่ะ กู้ซีจิ่น”

เมื่อพูดจบเธอก็เดินผ่านไปโดยไม่สนใจกู้ซีจิ่นอีก

กู้ซีจิ่นจ้องเงาหลังของกู้ซีเฉียวเขม็งฟันขาวกัดริมฝีปากจนแตก แต่เธอกลับไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด

ใช่แล้ว เป็นอย่างที่กู้ซีเฉียวพูดไว้ไม่ผิด และเพราะเป็นเช่นนี้เธอถึงยิ่งเกลียดกู้ซีเฉียว

หลังจากที่เกิดเรื่องนั้นขึ้น กู้ซีจิ่นที่เคยมีชื่อเสียงสูงส่ง มากพรสวรรค์กลับต้องร่วงหล่นลงสู่โคลนตม ความภาคภูมิใจทั้งหมดที่เคยมีกลับหายวับไปจนหมดสิ้น สายตาของคนที่รู้จักเธอเปลี่ยนไปเป็นขยะแขยงรังเกียจเธอแทบจะทั้งนั้น

แต่ลูกนอกสมรสชั้นต่ำอย่างกู้ซีเฉียวกลับกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนแทนเธอ!

และที่ทำให้เธอรับไม่ได้ที่สุดก็คือการที่ซย่าจื่อจวิ้นไม่ติดต่อเธออีกเลย เธอรู้ดีว่าซย่าจื่อจวิ้นเป็นคนรักษาสัญญาขนาดไหน เขาย่อมไม่เป็นฝ่ายขอยกเลิกงานแต่งงานกับเธอก่อนแน่ๆ แต่ตอนนี้ตระกูลซย่าต่างไม่พอใจเธอเป็นอย่างมาก แม้แต่ซย่าจื่อหลานเองก็ไม่ยอมติดต่อเธอ เธอกลัว กลัวว่าท้ายสุดแล้วแม้แต่เขาก็จะไม่ต้องเธออีกต่อไป!

คุณปู่เตรียมส่งเธอไปชุบตัวที่เมืองเอ็ม เธอรู้ดีว่าคุณปู่กำลังเร่งบ่มเพาะคนเก่งเพื่อมาต่อยอดธุรกิจ แต่เธอจะไม่ยอมปล่อยให้โอกาสสืบทอดธุรกิจตระกูลกู้หลุดมือไป เพราะหากในมือมีอำนาจก็ย่อมไม่ถูกคนอื่นควบคุม ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไปเรียนต่อเมืองนอก

รอให้เธอสืบทอดกิจการตระกูลกู้ได้เมื่อไหร่ วันนั้นเธอจะอยู่เหนือกว่าทุกคน

กู้ซีจิ่นยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง ใบหน้าผุดรอยยิ้มแปลกประหลาดที่ทำเอาคนที่เห็นหวาดกลัว นักเรียนรอบๆ ที่เห็นดังนั้นล้วนพากันเดินอ้อมเธอไป ส่วนเธอเองก็ไม่ได้สนใจคนอื่นแต่เดินไปอีกด้านราวกับวิญญาณล่องลอย

เมื่อกู้ซีเฉียวเดินไปถึงรถก็พอดีกับที่เจียงซูเสวียนยื่นมือมาเปิดประตูให้เธอพอดี เขาเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่ที่กู้ซีจิ่นมาดักรอกู้ซีเฉียวอยู่ที่หน้าประตูแล้วแต่ไม่ได้เอ่ยถามอะไร ก่อนจะเปลี่ยนประเด็นสนทนาว่า “เซ่าหยวนบอกว่าอยากจะเลี้ยงข้าวเธอฉลองที่เธอสอบเสร็จได้อย่างราบรื่นเธออยากไปไหม”

“…” กู้ซีเฉียวคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ เจียงซูเสวียนจะเอ่ยถามเช่นนี้ เธอคิดครู่หนึ่ง “ไม่ไปดีกว่า ฉันอยากกลับบ้านไปนอน ไว้พรุ่งนี้ได้ไหม ให้เขามาเจอ เดี๋ยวฉันทำอาหารเอง”

“เธอน่ะหรอ” เจียงซูเสวียนเอ่ยถามขณะรถจอดติดไฟแดง ดวงตาราวกับหยกดำฉาบไปด้วยความประหลาดใจ

อันที่จริงเขาก็ไม่ได้อยากให้กู้ซีเฉียวไปกินข้าวกับอินเซ่าหยวน เขารู้ดีว่าสถานที่ที่อินเซ่าหยวนชวนเธอไปกินข้าวนั้นเป็นที่อโคจรขนาดไหน เจียงซูเสวียนไม่อยากให้กู้ซีเจียวต้องเข้าไปแปดเปื้อนด้วยเลยสักนิด แต่คิดไม่ถึงเช่นกันว่ากู้ซีเฉียวจะกลับเอ่ยปากว่าจะลงมือทำอาหารเลี้ยงเขาด้วยตัวเธอเอง?

เขาเหลือบมองมือขาวเรียบเนียนทั้งคู่ของเธอแล้วอดสงสัยไม่ได้ว่าคนอย่างเธอแม้แต่เกลือกับน้ำตาลอาจจะแยกไม่ออกเลยด้วยซ้ำ ทำไมถึงกล้าจะลงมือทำอาหารเลี้ยงคนอื่นๆ

“ใช่ เดี๋ยวฉันเรียกเพื่อนๆ มาอีกสักสองคน” กู้ซึเฉียวยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าวิธีนี้ดีที่สุด เธอหรี่ตาครุ่นคิดว่าตั้งแต่กลับมาเกิดใหม่ก็ไม่เคยลงมือทำอาหารเองเลย หวังว่าจะไม่ได้แย่จนกินไม่ได้

เจียงซูเสวียนสตาร์ทรถ ปลายคางเย็นชาเชิดขึ้นเล็กน้อย “เธอทำได้จริงหรอ”

“นี่ พี่อย่าดูถูกกันแบบนี้สิ” กู้ซีเฉียวยืดตัวตรง คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย น้ำเสียงงามสง่าแฝงด้วยความลำพองใจ “ฉันทำอาหารเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว เอ่อ … แต่จะว่าไปก็ไม่ได้ลงมือทำอาหารเองมานานแล้ว ถ้าพรุ่งนี้ทำแล้วกินไม่ได้เดี๋ยวค่อยว่ากันก็แล้วกัน”

น้ำเสียงตอนท้ายฟังดูไม่ค่อยมั่นใจนัก ขนตายาวหลุบลงปิดบังแววตาของเธอเอาไว้ สีหน้าไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่

คิ้วของชายหนุ่มค่อยๆ คลายลง ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มจางๆ “ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ฉันจะคอยเตือนพวกเขาเองว่า อืม… ต่อให้ไม่อร่อยก็ต้องกิน”

กู้ซีเฉียวเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ดวงตาดำขลับสะท้อนแสงแดดดูสว่างใส เธอเอ่ย “ตอนขับรถอย่าพูด”

“ได้เลยครับ” ริมฝีปากบางเม้มเล็กน้อยเอ่ยกลั้วหัวเราะ

ในเมื่อตัวเองเป็นคนออกไอเดียก็ต้องเป็นคนจัดการลงมือทำ ตกกลางคืนกู้ซีเฉียวจึงล็อกห้องและเริ่มศึกษาเรื่องการทำอาหาร

ระบบในร่างคนตุ้ยนุ้ยที่อยู่ในห้วงแห่งความว่างเปล่ากำลังนั่งขัดสมาธิรอจนกู้ซีเฉียวเขียนบางอย่างเสร็จจึงเอ่ยถาม “เฉียวเหม่ยเหริน วันนี้สอบเสร็จแล้วนี่”

“แล้วยังไง” เมื่อกู้ซีเฉียวทำภารกิจเสร็จแล้วก็ออกมาจากพื้นที่เสมือนจริง ก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องกระจก

“ก็ … ก็ … เธอลืมไปแล้วเหรอ” ระบบอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา

กู้ซีเฉียวปูผ้าใบลงไปชั้นหนึ่ง ริมฝีปากยกยิ้มบางๆ แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา “ก็ได้ อัปเกรดใช่ไหม ฉันจำได้หรอกน่ะ”

เธอกำลังติดต่อไปหาเซียวอวิ๋นและอู่หงเหวิน

เซียวอวิ๋นได้ยินว่ากู้ซีเฉียวจะเลี้ยงข้าวตนก็ตอบรับเสียงเรียบแล้วเอ่ยถามที่อยู่ของเธอ

แต่เมื่อโทรไปหาอู่หงเหวินนั้น เธอกลับต้องทนฟังเขาร่ายเรื่องไร้สาระยกใหญ่ “เมื่อตอนบ่ายตอนที่สอบเสร็จฉันก็กะว่าจะโทรหาเธออยู่พอดี แต่พอดีที่บ้านเรียกกินข้าวด้วย ต้องทนฟังลูกพี่ลูกน้องพูดอวดนั่นอวดนี่จนตอนนี้ฉันเบลอไปหมดแล้ว ดีที่เธอโทรมาช่วยชีวิตฉัน … โธ่เว้ย เดี๋ยวค่อยคุยกันใหม่นะ พ่อฉันเดินมาตามแล้ว”

เขาวางสายไป กู้ซีเฉียวได้แต่นิ่งงัน …

ผ่านไปครู่เดียวก็มีเสียงเตือนข้อความของโทรศัพท์เธอดังขึ้น

‘บ้าเอ๊ย ฉันลืมถามที่อยู่บ้านเธอ‘

กู้ซีเฉียวลูบจมูกกำลังจะส่งที่อยู่ไปให้เขา แต่ขณะเดียวกันในสมองก็มีเสียงเครื่องกลดังขึ้น [หักคะแนน 100 คะแนนสำเร็จแล้ว ระบบกำลังทำการอัปเกรด ระหว่างนี้ทางโฮสต์จะไม่สามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่เสมือนได้ ภารกิจทุกอย่างจะถูกระงับ]

จากนั้นก็มีเสียงเตือนของระบบดังขึ้นมาอีก [เฉียวเหม่ยเหริน ระบบต้องใช้เวลาสามวันในการอัปเกรด ระหว่างนี้พ้นที่เสมือนกับระบบร้านค้าต่างๆ จะไม่สามารถใช้งานได้ ระหว่างนี้ที่ฉันไม่อยู่ก็ดูแลตัวเองดีๆ รอฉันกลับมาคุณก็จะมีกระเป๋าเพิ่มเป็นสิบใบแล้ว]

เมื่อระบบพูดจบกู้ซีเฉียวก็พบว่าตัวเองโดนตัดขาดการติดต่อกับระบบในทันที เธอยื่นมือไปลูบผ้าใบ สายตานิ่งเรียบ เสียงเครื่องกลนั่นน่าจะไม่ใช่เสียงจากระบบแน่ๆ ดูท่าระบบเองก็กำลังถูกควบคุมอยู่เช่นกัน

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

Status: Ongoing
ชาติก่อนเธอเผาตัวตายเพราะถูกทรยศ ชาตินี้เธอย้อนกลับมาเพื่อเขียนอดีตของตนใหม่อีกครั้ง! นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีที่นางเอกมีระบบสุดเทพที่ทำได้ทุกอย่าง!กู้ซีเฉียว ลูกนอกสมรสไร้ค่าจากบ้านนอก ส่วนเกินในสายตาของคนในตระกูลจวบจนวาระสุดท้ายเธอก็ยังเป็นเช่นนั้น ไร้ซึ่งศักดิ์ศรีใดๆแต่ชาตินี้เธอจะเขียนอนาคตของตนขึ้นใหม่จะไม่มีเด็กสาวน่าสมเพชไร้ความสามารถคนเดิมอีกต่อไป มีเพียงหญิงสาวผู้เป็นอัจฉริยะรอบด้าน!เพราะสิ่งที่เธอนำกลับมาด้วยหลังความตายไม่ใช่เพียงพรสวรรค์ดั้งเดิมแต่เป็น ‘ระบบ’ สุดโกงที่จะช่วยแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้เพียงแลกแต้มคะแนนสะสม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท