พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 60

ตอนที่ 60

Ch.60 – บทที่ 5 ตอนที่ 7

Provider : รินคะน้า

 

บทที่5ตอนที่7

 

 

เมื่อฟีโออัดพลังเวทย์ไว้ทั่วร่างกายของเขา เขาก็พุ่งเข้าหาโนโซมุทันที หยิบยันต์แผ่นหนึ่งออกมาและเทพลังเวทย์ลงไป ยันต์ส่องแสงสว่างและก็หายไป และจากนั้นก็มีพลังเวทย์ห่อหุ้มร่างกายเป็นเวทย์เสริมพลัง

 

 

「เอาล่ะ ถ้างั้นมาลองกันดูหน่อยไหม!」

 

 

「อึก!」

 

 

ฟีโอฟาดกระบองใส่โนโซมุทันที โนโซมุที่พยายามจะหลบและลังเลกับแรงกดดันที่พุ่งเข้ามาแทบจะมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวของเขาเลย

 

 

อย่างไรก็ตามฟีโอยังคงฟาดกระบองต่อไปแต่โนโซมุก็เอาดาบกันได้บ้างแล้ว ฟีโอที่เสริมพลังจนแข็งแกร่งกว่าโนโซมุ ทำให้โนโซมุถึงกับเซ

 

 

「อาาาา เอาอีก เอาอีก!」

 

 

ฟีโอหยิบยันต์ออกมาและใช้งานมันทันทีจากนั้นเกิดมวลลมต่อหน้าเขา และพุ่งเข้าหาโนโซมุ

 

 

「อึกกก!!」

 

 

โนโซมุไม่มีเวลามาลังเลอีกแล้ว ตัวโนโซมุที่เซไปก็ต้องกระโดดถอยหลังเพื่อลดแรงกระแทกของลมที่พุ่งเข้ามาและเบี่ยงมันไปด้านข้างเพื่อให้แรงกระแทกมันน้อยลง

 

 

อย่างไรก็ตามเขาอยู่เฉยๆไม่ได้แล้วเพราะแรงกระแทกที่ทำให้กระเด็นไปกับพื้นนั่นทำให้เขาเริ่มเจ็บปวดตามตัว

 

 

โนโซมุพบเห็นเงาพุ่งเข้ามา เขารีบหลบออกไปด้วยท่าทางร้อนรน

 

 

ทันทีที่โนโซมุหลบไปกระบองของฟีโอก็ฟาดลงที่พื้น หากช้าเพียงก้าวเดียวเละแน่ๆ

 

 

「ยังไม่หมดหรอกน้า~」

 

 

ฟีโอยังคงไล่ตามต่อไป

 

 

ไม้กระบองที่ถือด้วยมือทั้งสองนั้นหมุนไปรอบๆโดยมีลำตัวเป็นจุดศูนย์กลางและเริ่มผลักสิ่งรอบๆไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะไม่ได้รุนแรงเท่าดาบของมาร์ แต่ไม้กระบองที่ได้รับแรงเหวี่ยงจากการหมุนมันเพียงพอที่จะโจมตีต่อเนื่องได้

 

 

「ย๊ากกกก!!」

 

 

โนโซมุคิดว่าเขาจะถูกมันกลืนกินไปแล้วแม้ว่าพยายามจะรับมันตรงๆ เขาพยายามปัดป้องการโจมตีของมันเหมือนกับตอนที่ฝึกกับไอริส

 

 

อย่างไรก็ตามการโจมตีต่อเนื่องของฟีโอยังคงไม่หยุด พายุที่โหมกระหน่ำกำลังรุนแรงขึ้นละพยายามเข้าหาโนโซมุด้วยความเร็วที่มากขึ้น

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นไม่ได้มีการโจมตีของกระบองมาเพียงอย่างเดียว

 

 

「นี่แหนะ!」

 

 

「!!」

 

 

หมัดของฟีโอเข้าไปที่แก้มของโนโซมุ นอกจากนี้การหมุนของเขายังกระแทกเข้ากับลำตัวของโนโซมุอีก โนโซมุกระโดดถอยหลังและลังเลว่าจะเตะสวนกลับไปดีรึไม่

 

 

เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ใช้เพียงไม้กระบองแต่ยังใช้หมัดและลูกเตะได้อีกด้วย ในแง่หนึ่งมันคล้ายกับเทคนิคดาบที่โนโซมุใช้

 

 

เทคนิคการใช้ดาบของโนโซมุคือการต่อสู้ที่ครอบคลุมไม่ใช่เพียงแค่ใช้ดาบเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการใช้ฝักดาบและศิลปะการต่อสู้ด้วย ซึ่งฟีโอเองก็ทำในลักษณะเดียวกัน

 

 

อย่างไรก็ตามฟีโอนั่นไม่เหมือนกับโนโซมุ ที่ฟีโอสามารถใช้ยันต์ได้ เห็นได้ชัดว่าโนโซมุนั้นพึ่งพาคิเพียงอย่างเดียว

 

 

「ต่อมาก็ไอนี่」

 

 

「!!」

 

 

เมื่อโนโซมุเผยให้เห็นช่องว่างฟีโอก็ดึงยันต์ออกมาหลายใบและเปิดใช้งานอย่างรวดเร็ว

 

 

เสียงฟ้าร้องนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นและสายฟ้าก็ถูกยิงมาที่โนโซมุประมาณสามได้

 

 

สายฟ้าสามลูกที่ถูกปล่อยเข้ามาหาโนโซมุราวกับ หมาเฝ้ายามนั่น โนโซมุกระโดดหลบไปด้านข้างทันทีด้วยก้าวพริบตา

 

 

「หนอย!!」

 

 

สายฟ้าที่พุ่งลงมาชนกับพื้นและกระจายไปทั่วและโนโซมุที่โดนสายฟ้านั่นก็ช้าลงเล็กน้อย

 

 

หลังจากที่โนโซมุเคลื่อนไหวช้าลง ฟีโอหยิบยันต์ออกมาอีกครั้งและยิงลูกไฟมาสามลูกมาทางนี้

 

 

(เวรเอ้ย! ท้ายที่สุดแล้วก็แพ้การต่อสู้ระยะไกลจริงๆ!!)

 

 

ฟีโอและโนโซมุเผชิญหน้ากัน เทียบกันแล้วฟีโอที่ถนัดการโจมตีระยะไกลได้เปรียบเห็นๆ

 

 

ลูกไฟอีกสามลูกพุ่งเข้าหาโนโซมุ แต่เขาก็ใช้ “ก้าวพริบตา -ดาบเริงระบำ-”หมุนตัว 90 องศาและพุ่งเข้าหาฟีโอ

 

 

「โอ้ววว」

 

 

ฟีโอทำเสียงตกใจเล็กน้อยกับการเปลี่ยนท่าทางของโนโซมุ

 

 

เนื่องจากลูกไฟที่ถูกยิงไปถูกเบี่ยงวิถีจนบินออกนอกทิศทาง

 

 

ฟีโอเอามือล้วงลงไปในกระเป๋าอีกครั้ง

 

 

(คิดว่าจะยอมให้ทำงั้นเหรอ!)

 

 

โนโซมุเร่งความเร็วพยายามไม่ให้เขาใช้ยันต์เพื่อปิดช่องว่างแต่ว่า……。

 

 

「ฟู่!」

 

 

「เอ๊ะ!?」

 

 

มันไม่ใช่ยันต์ที่เขาใช้ แต่เป็นมีดสั้นที่ฟีโอหยิบออกมาจากกระเป๋าและขว้างใส่โนโซมุ

 

 

แทบจะไม่มีใครจับตามองได้ทัน แต่โนโซมุเองก็เห็นการเคลื่อนไหวนั่นและปัดด้วยดาบ แต่ในระหว่างนี้ฟีโอก็เตรียมยันต์พร้อมกับใส่พลังเวทย์ลงไปเรียบร้อยแล้ว และโยนมันใส่โนโซมุ

 

 

「เอาล่ะ เอาเข้าไปเพิ่มอีกน้า~」

 

 

ฟีโอโยนยันต์มาด้านหน้าและทำให้เกิดมวลลมด้านหน้าเขาและพุ่งเข้าหาโนโซมุเป็นเกลียว เป็นเวทย์เช่นเดียวกับไอริส

 

 

ถึงกระนั้นผมก็ก้าวต่อไปโดยไม่หยุด มวลลมที่พุ่งเข้าหาผมกำลังจะฉีกร่าง แต่โนโซมุก็บิดตัวหลบก่อนที่จะโดนมวลลมด้วย”ก้าวพริบตา-ดาบเริงระบำ”

 

 

ก้อมลมพัดผ่านร่างของเขาตัดผ่านเครื่องแบบมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเขาไม่สนใจและก็เข้าหาฟีโอทันที

 

 

「อูวววว!」

 

 

ฟีโอรับดาบของโนโซมุด้วยกระบอง

 

 

กระบองของฟีโอที่ทำมาจากโลหะเพื่อให้ทนต่อเขี้ยวของสัตว์อสูร รับดาบของโนโซมุได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ฟีโอไม่รู้ว่าโนโซมุสามารถฟันมันทิ้งได้ในครั้งเดียว

 

 

ฟีโอที่รู้ตัวว่าคิดผิดก็พยายามจะขว้างมีดและเวทย์ใส่โนโซมุหวังจะหยุดเขา

 

 

「ฟู่!!」

 

 

โนโซมุฟันดาบออกไป พลิกดาบและบีบเข้าลำตัว

 

 

ไม่มีโอกาสให้เข้าหา แต่ดาบที่ฟันเข้าไปนั้นค่อยๆไล่ต้อนศัตรู

 

 

โนโซมุตัดสินใจจบเกมส์ในเทิร์นเดียว เพราะเขามีพลังกายที่น้อยกว่า แต่ว่าการโจมตีของเขาเป็นการโจมตีต่อเนื่องที่สามารถกดดันคู่ต่อสู้ได้อย่างแน่นอน และความหงุดหงิดของศัตรูเองก็เพิ่มมากขึ้น

 

 

(อืม ผมจะทำมัน หากเป็นกรณีนี้มันอาจจะดูเกินเป็นคนห้อง 10 ก็เถอะ)

 

 

「……เทททททททททเฮะ!!」

 

 

ฟีโออารมณ์เสียเล็กน้อยเมื่อเขาถูกโนโซมุไล่ต้อน แต่ไม่นานก็สงบอารมณ์ได้

 

 

ฟีโอรู้สึกประทับใจกับฝีมือของโนโซมุขณะที่เขารับการโจมตีต่อเนื่องอย่างใจเย็น แต่ทันใดนั้นเขาก็ตกใจกับสิ่งที่ขวางหน้าเขาและทำเป็นอันตรายอย่างมาก ข้างหน้าฟีโอคือขาของโนโซมุที่เตะออกมาเป็นวงกลม

 

 

นอกจากนี้โนโซมุยังก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขาที่เตะมาและกวาดดาบไปในทิศตรงข้าม

 

 

「เหอะ!」

 

 

อย่างไรก็ตามแม้ว่าฟีโอจะตกใจ แต่เขาก็ใช้กระบองกันการโจมตีทันที

 

 

อย่างไรก็ตามสำหรับโนโซมุแล้วสิ่งที่ฟีโอยอมรับคือแผนที่วางมาอย่างดี เขาชักดาบกลับไปและพุ่งเข้าหาฟีโอทางด้านข้าง

 

 

เขาหลับตาลงชั่วขณะและเคลื่อนไหวเร็วขึ้นและเข้ามาใกล้ๆ

 

 

「อะไรกัน!?」

 

 

ชั่วขณะหนึ่งฟีโอก็ถูกโจมตีจากด้านข้างเพราะเขามองไม่เห็นโนโซมุ และพยายามหันไปหาเขา แต่โนโซมุเอาฝักดาบระงับการเคลื่อนไหวของเขาไว้

 

 

「ย๊าาาาาาาาาาาาก!!」

 

 

「หนอยยยยยยยยย!!」

 

 

เขาเหวี่ยงดาบทั้งๆยังงั้น แต่ฟีโอก็ตอบสนองต่อการโจมตีของโนโซมุได้ ปล่อยมือข้างหนึ่งที่ถือกระบองแล้วหันหลังกลับเพื่อหลบการฟันของโนโซมุ

 

 

บางทีเขาอาจจะหนักแล้วว่าหากก้าวหลบคงไม่พ้น ฟีโอกระโดดถอยหลังและหยิบยันต์ออกมา

 

 

เมื่อเปิดใช้งานเสียงฟ้าร้องก็ดังขึ้นระหว่างฟีโอและโนโซมุ

 

 

มันเป็นเวทย์ที่ถูกแปรเปลี่ยนจากพลังเวทย์ที่ส่งเข้าไปเป็นเวทย์ธาตุต่างๆ แต่โนโซมุเองก็บุกอย่างไม่ลดล่ะ

 

 

「อา อันตราย!」

 

 

「อึก!!」

 

 

อย่างไรก็ตามฟีโอไม่ได้ใช้ยันต์อีกต่อไป เขาลุกขึ้นมาและเกิดความตึงเครียดระหว่างทั้งสอง

 

 

◇◆◇

เมื่อโนโซมุและฟีโอเข้าใส่กันไอริสและเหล่าเพื่อนๆของเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากชมการต่อสู้ของทั้งสอง

 

「จะทำยังไงดีล่ะ!? ซีน่า!」

 

มิมุรุถามด้วยความหงุดหงิด

 

「ทำยังไงเหรอ…ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน!?ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าฟีโอแข็งแกร่งขนาดนี้!」

 

ณ ตอนนี้ฟีโอกำลังสู้อยู่กับโนโซมุ

 

 

ซีน่าและคนอื่นๆก็ได้แต่มองความสามารถของโนโซมุตอนสู้กับสัตว์อสูรสีดำไปแล้ว ฉันเองก็คิดว่าฟีโอเองก็คงอยากจะรู้ความสามารถของเขา เหมือนดั่งพวกเขา

 

 

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่ในสถานการณ์แบบนี้ มีความลังเลมากมายในตัวโนโซมุและด้วยเหตุนั้นเขาใช้คิออกมาไม่ได้ แต่เมื่อพิจารณาจากคำพูดของซีน่าแล้ว ฟีโอก็เคยบอกว่าเขาซ่อนความสามารถของตัวเองไว้

 

 

ขณะที่ซีน่าและเหล่าเพื่อนๆกำลังเร่งรีบแต่ไอริสกลับมีท่าทีสงบนิ่งและคิดว่าจะทำยังไงกับสถานการณ์ปัจจุบัน

 

 

เห็นได้ชัดว่าช่องว่างระหว่างฟีโอกับโนโซมุมันค่อนข้างใหญ่มาก และซีน่ากับคนอื่นๆก็ดูเหมือนจะอารมณ์เสียมากๆ

 

「……ทอม ดูเหมือนว่าเขาจะเรียนอยู่ห้องเดียวกับพวกเธอสินะ เขาเป็นคนทำจริงๆงั้นเหรอ?」

 

「มะไม่แน่ใจ ปกติเขามักจะทำตัวสบายๆเสมอเลยและไม่ยอมแสดงด้านซีเรียสให้เห็น เขาจึงไม่ค่อยเข้ากันได้ดีกับอาจารย์อินด้ามากนักและซีน่าด้วย แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ใช่คนที่จะทำเรื่องแบบนี้แบบบุ่มบ่าม?」

 

「ถ้าอย่างงั้น…ทำไม?」

 

「ไม่รู้หรอกนะว่ามีเหตุผลอะไร!ตอนนี้จำเป็นต้องหยุดหมอนั่นให้ได้!!」

 

ทอมตอบคำถามของไอริส แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ประเภทที่จู่ๆก็เข้ามาโจมตีตามใจอยาก

ทิม่าทำท่าทางสับสน มาร์เองก็บอกว่าควรทำอะไรสักอย่างกับสถานการณ์ในตอนนี้แน่นอนสถานการณ์ในตอนนี้ค่อนข้างแย่

 

「……นั่นสิ ไม่รู้ว่าเขาเล็งโนโซมุทำไม แต่ตอนนี้ควรจะหยุดหมอนั่นให้ได้ก่อน」

 

「……นั่นสินะ ไอ? แม้ว่าฉันจะทำลายบาเรียแต่มันก็ฟื้นฟูทันทีเลยนะ?」

 

「เกี่ยวกับเรื่องนั้นขึ้นอยู่ว่าจะทำลายหินเวทย์เขาได้ไวแค่ไหน ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ของเขาเองด้วย และจากรูปลักษณ์ภายนอกมันทำงานได้อย่างรวดเร็ว」

 

อย่างที่ไอริสพูดคือรากฐานของบาเรียคือหินเวทย์ที่เขามีในครอบครอง เครื่องมือเวทย์เป็นแบบธรรมดาที่จะดูดพลังเวทย์เมื่อถูกใช้งานเพื่อสร้างบาเรีย ฉันไม่คิดว่ามันจะทนทานขนาดนั้นและดูเหมือนว่าสามารถบดขยี้ได้ด้วยมือเปล่าได้(หินเวทย์)

 

「วิธีทำลายบาเรียก็คือทำให้บาเรียมันพังไปเรื่อยๆจนกว่าพลังเวทย์จะหมด?」

 

「อืม แต่ว่าไม่รู้มันจะสร้างขึ้นใหม่ได้กี่ครั้งกันแน่ มันเร็วกว่าถ้าทำลายหินเวทย์นั่นได้」

 

ทอมเสนอวิธีออกมาว่าให้พังบาเรียจนพลังเวทย์หมด แต่ไอริสตัดสินใจว่าทำลายหินเวทย์นั่นโดยตรงจะดีกว่า

 

 

เป็นความจริงที่ว่าจะเสียพลังเวทย์ไปมากสำหรับเตรียมการ แต่ดูเหมือนว่าใช้หินเวทย์ที่มีคุณภาพดีพอตัวเลย

 

 

แม้ว่าจะขึ้นอยู่กับฟีโอแต่จำนวนครั้งที่สามารถฟื้นฟูได้เราก็ไม่รู้ว่ามีเท่าไรกันแน่

 

 

ปัญหาคือหินเวทย์นั่นอยู่ในกระเป๋าของฟีโอ

 

「……อยากให้ทุกคนฟังสักนิดหนึ่ง」

 

ทุกคนที่นั่งอยู่ที่นั่นต่างตั้งใจฟังไอริสพูด

◇◆◇

เมื่อไอริสและเหล่าเพื่อนๆพยายามจะทำลายบาเรีย โนโซมุและฟีโอยังคงจ้องมองกันตาไม่ลดละ

 

(โจมตีไม่ได้……ต้องตัดสินด้วยสิ่งนี้แล้ว……หากใช้วิชาออกไปละก็แย่แน่ๆ……)

 

(ตอนนี้เริ่มกลัวแล้วสิ…ยังไงก็ตาม…ไม่คิดเลยนะว่าจะมาได้ไกลขนาดนี้เนี่ย……หมอนั่นจะมีท่าโจมตีที่ดีกว่านี้อีกรึเปล่าน้อ?)

 

ในขณะที่โนโซมุพยายามเลี่ยงการใช้คิ และใช้แค่วิชาดาบอย่างเดียว แต่ถึงงั้นฟีโอเองที่ไม่ได้เห็นเขาใช้คิก็โดนกดดันอย่างหนัก

โดยพื้นฐานแล้วโนโซมุด้อยกว่าด้านความสามารถทางกายภาพแก่ฟีโอ แต่ว่าโนโซมุมีวิชาดาบและทักษะต่างๆที่ใช้ไล่ประกบฟีโอได้อย่างไม่ขาดสาย

 

 

「……ตกใจเลยนะเนี่ย ไม่คิดว่าจะทำได้ถึงขนาดนี้ พูดตรงๆเลย」

 

ฟีโอชมโนโซมุออกมาจากใจ สำหรับเขาแล้วทักษะของโนโซมุนั้นยอดเยี่ยม

 

「……นี่แล้วเหตุผลอะไรที่ทำให้นายต้องทำแบบนี้ด้วย?」

 

โนโซมุถามอีกครั้งว่าทำไมถึงทำแบบนี้

 

「……นั่นสิน้า~」

 

「……」

 

ฟีโอทำท่าทางครุ่นคิดเล็กน้อย โนโซมุเฝ้ารอคำตอบ

 

「อืม ก็นะถ้าอยากคุยต่อ ก็แสดงออกมาให้มากกว่านี้สิ」

 

ฟีโอพูดแบบนั้นแล้วดึงยันต์ออกมาสองใบ ส่งพลังเวทย์ลงไปและโยนขึ้นไปในอากาศ

รอยแตกของสายฟ้าฟาดเข้าที่กระบองของฟีโอ

กระบองที่ถือถูกห่อหุ้มด้วยสายฟ้า มันกลายเป็นกระบองสายฟ้าโดยสมบูรณ์

ความกดดันเพิ่มขึ้นทันทีและโนโซมุก็รู้สึกกดดันอย่างมาก

 

「อย่างที่เห็นนี่เป็นเทคนิคลับของข้าน้อย หากยังยืนหยัดรับสิ่งนี้ได้โดยยังมีชีวิตอยู่ละก็ ข้าน้อยจะพูดทุกสิ่งทุกอย่างที่โนโซมุอยากจะได้ยิน……」

 

โนโซมุหรี่ตาลงพร้อมกับคำพูดของฟีโอ เกิดความเงียบชั่วครู่ แต่โนโซมุก็ตอบโต้ด้วยการยื่นดาบไปข้าง

 

「ดูเหมือนว่าจะมีทางนี้ทางเดียวเท่านั้นสินะครับ!!」

 

โนโซมุรับข้อเสนอ ฟีโอเองก็ดูดีใจกับการที่เขารับข้อเสนอนั่น

ฟีโอเริ่มเหวี่ยงไม้กระบองที่มีสายฟ้าปกคลุม มันหมุนด้วยความเร็วสูงและก็กลายเป็นคลื่นพายุขนาดใหญ่สายฟ้าทั้งสองก็มารวมกันที่ปลายไม้กระบอง

 

「เอาล่ะน้า~โนโซมุ!」

 

ฟีโอก้าวเข้ามาพร้อมๆกับคำประกาศก้อง

เขาบิดตัวไปมามากขึ้นพร้อมกับแรงเหวี่ยงอันมหาศาลและพุ่งเข้าทางด้านซ้ายของโนโซมุ

โนโซมุเองก็ชักดาบออกมาในขณะที่ตึงเท้าไว้ที่พื้นจนแน่น แต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงฟ้าร้องรวมตัวที่ปลายกระบองและระเบิดออกอย่างรวดเร็ว และความเร็วของไม้กระบองก็เร็วขึ้น

 

「ย๊าาาาาาาาาาาาาห์!!」

 

กระบองของฟีโอเร่งความเร็วขึ้นและพยายามจะเป่าโนโซมุให้กระเด็น แต่โนโซมุดึงดาบออกมาพร้อมกับใส่จิตวิญญาณลงไปเขาฟันลงไปในแนวทแยงของกระบองนั่น

 

(ไม่ว่าจะวิธีไหน หากไม่ทำมันให้ดีก็โดนบดขยี้เพียงฝ่ายเดียว……)

 

ดาบกับกระบองเข้าปะทะกัน เสียงโลหะกระทบจนเกิดเสียงดังแสบหู

ฟีโอฟาดมันมาตรงๆ  แต่หลังจากนั้นเองความแข็งแกร่งทางกายของฟีโอก็หายไป

อย่างไรก็ตามโนโซมุรู้ดีการรับตรงๆไม่สามารถเอาชนะได้แน่ เขาบิดร่างกายด้วยแรงมหาศาลขณะที่ทิ้งจุดศูนย์ถ่วงลงบนพื้นในขณะที่ดาบและกระบองเข้าปะทะกัน

จากนั้นการเหวี่ยงกระบองก็กระเด็นไปทางด้านหลัง โนโซมุเองก็หมุนร่างกายตามเขาไป

ฟีโออยู่ในสภาพไร้การป้องกันในขณะที่ยังคงเหวี่ยงอยู่ยังงั้น และพอโนโซมุพยายามจะเหวี่ยงดาบไปในทิศทางตรงกันข้ามนั่นเอง

 

「เสร็จผมล่ะ!!」

 

「หวานหมูน่า! โนโซมุ!!」

 

เมื่อได้ยินคำพูดของฟีโอ โนโซมุก็แทบจะไม่เชื่อในสายตาตัวเอง

เสียงฟ้าร้องดังขึ้นทางด้านหลังของฟีโอ เศษซากของยันต์กระจายไปตามลม เกิดบอลสายฟ้าขึ้นอย่างรวดเร็วและวิ่งผ่านราวกับเป็นวิถีกระสุนตามโนโซมุ

 

「เอะ!?」

 

โนโซมุดึงดาบกลับมาและป้องกันบอลสายฟ้าที่เข้ามาใก้ล แต่ดาบนั่นที่โดนสายฟ้าก็ส่งกระแสไฟฟ้าช็อตตามร่างกายของโนโซมุ

 

「อ๊ากกกกกกกกกกก!!」

 

ตามปกติแล้ว ฟีโอไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือและกระบองเขาก็บินมาทิศทางตรงกันข้ามพร้อมกับสายฟ้าฟาดอีกครั้งหนึ่ง

 

「อั่ก!!」

 

โนโซมุพยายามทรงตัว แต่เขากันการโจมตีไม่ทันทำให้ต้องกระโดดถอยหลังและเอาฝักกันการโจมตีแทน

 

「อ่อก!!」

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุกระเด็นไปตามแรงเหวี่ยงของไม้กระบอง

แรงกระแทกนั่นทำให้ร่างกายเขาหายใจไม่ออกและสติหายไปชั่วครู่ ดวงตากลายเป็นสีขาว แต่อย่างใดก็ตามพยายามที่จะอยู่เฉยๆ

ในที่สุดเมื่อกระแทกลงกับพื้น สายตาเริ่มพร่ามัวราวกับพบพายุทราย และแทนที่จะรู้สึกว่าหมดสติไปแต่มีอาการชาเข้ามาแทรกแซงไปทั่วทั้งร่าง

 

「อ่อก อะเฮือก……」

 

เขาอาเจียนออกมา แต่สติของเขายังคงอยู่

 

(อั่ก!!)

 

ฝันสีเลือดมันย้อนกลับมาในหัวเขาอีกครั้งหัวใจเริ่มเต้นดัง “ตึกตัก” เป็นแรงกระตุ้นอันรุนแรงที่ทำให้เขารู้สึกคลื่นไส้และอยากจะอาเจียนออกมา

ไม่เพียงแต่ฟีโอที่อยู่ตรงหน้า แม้แต่ไอริสและคนอื่นๆความรู้สึกอยากจะอาเจียนมันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่โนโซมุกัดริมฝีปากแน่นและอดทนต่อมัน

เขาส่ายหัวเพื่อสลัดภาพนั่นทิ้งไป นัยน์ตาสีแดงที่ครอบคลุมดวงตาเริ่มจางลงและเขาพยายามลุกขึ้นโดยใช้ดาบเป็นไม้เท้า ขาของผมสั่นเทา แต่ผมก็ยืนขึ้นมาได้อย่างมั่นคง

 

(อาจารย์ขอบคุณครับ……สินะ? อย่างน้อยสติของผมก็เริ่มจะดีขึ้นมากแล้ว……)

 

โนโซมุกำลังนึกถึงประโยคของอาจารย์ที่เคยพูดอยู่ในหัวของเขา บางทีอาจเป็นเพราะสติแตกเมื่อกี้ทำให้เกิดคำถามแบบนั้นขึ้นมา ตอนที่ผมฝึกทุกๆหนึ่งชั่วโมงจะโดนถามแบบนี้เสมอ

 

「อาาาา!!」

 

อย่างไรก็ตาม มันเป็นเหตุการณ์เหลือเชื่อสำหรับฟีโอ ไม่ว่าจะมีกำลังมากแค่ไหน ก็ไม่น่าจะลุกขึ้นยืนได้สักพักจากแรงกระแทกอันรุนแรงเมื่อกี้นี้

 

「……เอาจริงดิ?」

 

ฟีโอยืนขึ้นโดยไม่พูดอะไรอีกต่อไป ในขณะนั้นก็เกิดเสียงคำรามและเสียงของบางสิ่งที่แตกเป็นเสี่ยงๆรอบตัวผม

◇◆◇

「พร้อมกันรึยังคะ?」

 

ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างเห็นด้วยกับไอริส

 

「ทิม่า มาร์ ฝากด้วยนะ」

 

「อา」

 

「เข้าใจแล้ว」

 

พวกเธอเริ่มใส่พลังเวทย์ลงไปอีกครั้งเพื่อใช้เวทย์ “หอกหินเริงระบำ”เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้

มาร์เองก็ดึงดาบเล่มใหญ่ออกมา ซึ่งเป็นความสามารถของเขาที่สร้างคมดาบวายุขึ้น

ทันทีที่ทิม่าร่ายเวทย์เสร็จหอกหินก็ถูกสร้างมาเรียบร้อยและเมื่อเธอปล่อยเวทย์ออกไปหอกหินก็เข้ากระแทกกับกำแพงด้วยเสียงอันดัง

 

「อะไรกัน!?」

 

อย่างไรก็ตามเกิดรูขนาดใหญ่และมันกำลังจะปิดลงด้วยเวทย์ของฟีโอ แต่มาร์เองก็พุ่งเข้าหารูนั่นก่อนที่มันจะปิดสนิท

 

「ใครจะยอมกัน!」

 

มาร์แทงดาบขนาดใหญ่ที่มีคมดาบวายุไปในรูของบาเรียและใส่พลังลงไปในดาบใหญ่จากนั้นลมก็ขยายรูของบาเรียเป็นวงกลมอีกครั้ง

 

「ตอนนี้แหละ!!」

 

「ดีมาก มาร์คุง!」

 

นอกจากการใช้ดาบของมาร์แล้วไอริสเองก็ร่ายเวทย์ด้วยความสามารถของเธอ “ปรับใช้ทันที”กระสุนเวทย์ปรากฏขึ้นในอากาศและโจมตีฟีโอผ่านบาเรียนั่น

 

「อั่ก!!」

 

ฟีโอหมุนกระบองฟาดกระสุนเวทย์เหล่านั้น แต่ถึงกระนั้นกระสุนเวทย์ของไอริสมีพลังเวทย์มากและแม่นยำสูง

ฟีโอปัดกระสุนเวทย์ออกไปได้แต่ไอริสก็ยิงกระหน่ำเข้าไปทำให้ฟีโอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

 

(อาาาาา! สถานการณ์นี่มันชวนหงุดหงิดจริงๆ!!)

 

ฟีโอที่กำลังฟาดกระสุนเวทย์ของไอริส แสดงใบหน้าบิดเบี้ยว

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่กระสุนเวทย์ยิงเข้ามา ฟีโอที่ฟาดกระสุนเวทย์เหล่านั้นก็รู้สึกชาที่แขนและไม้กระบองก็หล่นลง

 

「หนอยยยยยยยยย!」

 

ฟีโอที่ทำกระบองหล่นกำลังหลบกระสุนเวทย์จำนวนมาก

 

「อะไรกัน!!」

 

เมื่อฟีโอหันไปทางแสงที่ส่องไสวอีกครั้งก็พบกับซีน่าที่กำลังถือคันธนู

อันที่จริงเธอบรรจุลูกศรพลังเวทย์สูงเอาไว้และกระสุนเวทย์ของไอริสก็มีไว้หยุดการเคลื่อนไหวฟีโอเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นไปตามขั้นตอน จู่ๆก็มีร่างหนึ่งโผล่มาต่อหน้าฟีโอซึ่งมันมีรูปร่างผิดแผกจากกระสุนเวทย์ลูกอื่นๆ

 

「งายยยยยยยย ฟีโอ!」

 

「……เอะ มิมุรุ!」

 

มิมุรุที่เข้าหาฟีโอเธอลอดผ่านรูของบาเรียออกมา ขณะที่ฟีโอกำลังเสียท่าก็โดนลูกศรของซีน่าเล็งไว้

เมื่อเธอดึงมีดสั้นออกมา เธอฟันทะลุเสื่้อหน้าของฟีโอและหยิบหินเวทย์ออกมา

 

「ขอโทษน้า~ แต่ว่าขอเจ้านี่ละกัน!」

 

「เฮ้ย ดะ เดี๋ยวก่อน! ไอนั่นมัน!!」

 

มิมุรุไม่สนใจฟีโออีกต่อไป เธอฟันลงไปที่หินเวทย์นั่นและก็โยนทิ้งไป

ม่านแสงที่ปกคลุมพวกไอริสหายไป บาเรียหายไปแล้ว

 

「นี่มันชักจะแย่แล้วแหะ!!」

 

ฟีโอตระหนักได้ถึงข้อเสียที่เขาสูญเสียบาเรียไปแล้ว เขาตัดสินใจหนีทันทีและเริ่มที่จะหนี แต่ทันใดนั้นตัวเขาก็ลอยขึ้น

 

「……อาเระ?」

 

น่าแปลงที่เขามองไปที่เท้ากลับไม่พบพื้นดิน และมีรูขนาดใหญ่อยู่ตรงนั้น

 

「นะนี่มันอะไรกานนนนนนนนนนนนนนน~~!!」

 

โดยธรรมชาติเขาไม่สามารถหนีจากแรงโน้มถ่วงได้ ดังนั้นเขาจึงตกลงไปในหลุมพร้อมกับเสียงกรีดร้อง

◇◆◇

「ขอบคุณทุกคนนะ ขอให้โชคดี……」

 

ทำทักทายอันแสนว่างเปล่าของฟีโอที่กำลังพร่ามัวในท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ตกดิน

มีเพียงคอของเขาที่โผล่มาถึงพื้นดินและลำตัวถูกฝังเอาไว้

 

「แต่ว่าทอมตามได้สวย เกือบจะพลาดไปแล้วไง」

 

「เอ่อก็ผมคิดว่าน่าจะจับเขาไว้ก่อนมันก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอ? แต่ว่าเวทย์ที่ใช้ก็เป็นเวทย์ง่ายๆเองนะ……」

 

「ไม่หรอก เป็นการตัดสินใจที่ดีแล้วล่ะฉันเองก็ทำพันธสัญญาวิญญาณไม่ได้ด้วย……」

 

อันที่จริงหลุมที่ปรากฏขึ้นเป็นเวทย์ของทอม เขาคิดว่าฟีโอกำลังหนีก็เลยร่ายไว้ล่วงหน้า

มันเป็นเวทย์ที่สร้างรูตรงเท้านั่นแหละ แต่ว่าก็เป็นหลุมพรางชั้นดี

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้โนโซมุกำลังให้ไอริสใช้เวทย์รักษา

 

「……เอ๋?ซีน่าใช้เวทย์วิญญาณได้ด้วยเหรอ? ข้าน้อยไม่เคยเห็นตอนที่เราเรียนด้วยกันเลยนะ?」

 

「ไม่สำคัญหรอก ยิ่งไปกว่านั้น ทำไมถึงทำแบบนี้!」

 

เมื่อพยายามโดนรบเร้าขอให้ใช้เวทย์วิญญาณให้ดูซีน่าก็รีบเบี่ยงประเด็น อย่างไรก็ตามทุกคนก็สงสัยเหมือนกันที่จู่ๆก็มาท้าโนโซมุแบบนี้ ทุกคนต่างจ้องมองไปทางฟีโอ

โนโซมุเองก็อยากรู้เหตุผลเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงจ้องมองด้วยความกดดัน

 

「……เอ่อสำหรับมุมมองของโนโซมุอาจจะดูไร้เหตุผล แต่ว่าแค่อยากรู้จักนายก็เท่านั้นเอง」

 

ฟีโอพูดแบบนั้นแล้วก็เล่าต่อ

 

「สถาบันโซลมินาติเป็นสถาบันที่เน้นคะแนนเป็นหลักใช่ไหมล่ะ」

 

ฟีโอพ่นลมหายใจออกมา สีหน้าของดูแตกตื่น และพูดด้วยท่าทางจริงจัง

 

「ถึงอย่างนั้น ตัวข้าน้อยเองก็ตื่นเต้นหรอกในตอนแรก และก็สนุกที่ได้เห็นคนแกร่งๆ แต่สุดท้ายก็เบื่อขึ้นมา……」

 

ฟีโอที่ถูกฝังอยู่ในดินก็ยังทำตัวสบายๆและจ้องมองไปทางโนโซมุด้วยตาเปล่งประกาย

 

「ตอนนั้นก็สบตากับนายเข้า! “เจ้าหญิงเทพธิดาทมิฬ”กับ“การสั่นพ้องของธาตุทั้งสี่” ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้พวกเธอเลยด้วยซ้ำ! แต่ว่าหลังจากได้ยินว่าโนโซมุโดนเรียกให้ไปกินข้าวด้วยกันวันนั้นข้าน้อยก็คิดว่า “น่าสนใจจริงๆ”!! ก็เลยช่วยไม่ได้ต้องทำแบบนั้น~。พยายามทำสิ่งต่างๆมากมายเลยล่ะ~~」

 

ฟีโอขำออกมาด้วยใบหน้าพึงพอใจ

 

「……กล่าวอีกนัยหนึ่งทำเรื่องนี้เพราะความสนใจส่วนตัว?」

 

「อ่า ถ้าให้พูดตามจริงไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ~~」

 

ฟีโอยืนยันคำถามของไอริส ซึ่งอาจจะทำให้ปวดหัวกับคำพูดเหล่านั้น และพยายามกุมขมับ

 

「……แล้วนาย……」

 

「ไม่อยากจะเชื่อเลย……」

 

「ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า……」

 

ไอริสและซีน่าต่างเครียด โนโซมุก็ขำแห้งออกมา

 

「โนโซมุ ทำไมนายถึงได้ขี้เกียจขนาดนี้!ตามเรื่องราว หมอนี่เป็นคนพานายไปหลังสถาบันนะ!」

 

「อืม แต่ว่านะยังไงสักวันหนึ่งเหตุการณ์นั้นก็ต้องเกิดขึ้นอยู่ดีแม้ฟีโอจะไม่ได้ทำก็ตามนะครับ」

 

(ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่รู้เรื่องผมเป็นดราก้อนสเลเยอร์……)

 

มาร์บ่นกับท่าทางของโนโซมุ แต่โนโซมุก็โล่งอกที่เรื่องเป็นดราก้อนสเลเยอร์ยังไม่ความแตก

 

「……แล้วจะเอายังไง?โนโซมุคุงต้องเป็นคนตัดสินใจกับสถานการณ์นี้นะ……」

 

「อ่านั่นสินะ ก็ไม่เป็นอะไรหรอก แม้จะมีช่วงเวลาที่ลำบากไปบ้าง แต่ดูไม่เป็นอันตรายสักหน่อย…ผมคิดว่าบางทีทำเกินไปด้วยซ้ำ……」

 

「โอ้วววว!อย่างที่คิดเลยโนโซมุ! นายนี่มันโครตคนดี~~!!」

 

ฟีโอกำลังพูดอะไรดีๆ แต่โนโซมุไม่สนใจ และเขาก็ไม่คิดว่าจะได้รับการยกโทษให้เช่นนี้

 

「……แต่ว่ามันก็ดูเกินไปจริงๆใช่ไหมละความสามารถนั่น……」

 

「……เอ๊ะ? จะว่ายังไงดีรู้สึกไม่ดีแล้วแหะ……」

 

ความรู้สึกตึงเครียดเริ่มล่องลอยไปในบรรยากาศพร้อมกับคำพูดของโนโซมุ

 

「นี่ ทุกคน!!」

 

「คุณโนโซมุ! ขอบคุณที่รอนะคะ!!」

 

ในเวลานั้นเองเสียงของมิมุรุและโซเมียก็ดังขึ้นมา มีถุงบางอย่างอยู่ในมือของเธอด้วย

 

「อาเระ? ไปไหนกันมาเหรอทั้งสองคน?」

 

「อ้อ พอดีมีเรื่องอยากจะถาม……」

 

มิมุรุและโซเมียรีบวิ่งไปหาโนโซมุและยื่นถุงให้กับเขา ผมได้ยินเสียงดังๆมาจากในถุงอาจจะเพราะมีอะไรบางอย่างอยู่ข้างใน

 

「ค่าาา! โนโซคุง แบบนี้โอเคไหม!?」

 

「อืม ขอบคุณนะทั้งสองคน」

 

「อาโน…คือว่าจะเอามันมาทำอะไรเหรอ?」

 

「เอ๋?ก็ไว้ลงโทษจิ้งจอกแสนเจ้าเล่ห์ตรงหน้านี่ไง」

 

โนโซมุมองย้อนกลับไปทางฟีโอแล้วค่อยๆเดินเข้าไปหาเขา สิ่งที่อยู่ในกระเป๋านั่นกระตุ้นความกลัวของฟีโอแปลกๆ

 

「……เน่โนโซมุ มีอะไรอยู่ในนั้นอะ?」

 

「……มีแมลงมากมายหลากหลายชนิดภายในป่าแห่งนี้ แตกต่างจากคนมีทั้งตัวที่มีพิษและไม่มี ถึงกระนั้นแมลงทั้งหลายเหล่านั้นก็มีประโยชน์ในการทำยา ดังนั้นก็ขอทดสอบหน่อยแล้วกันละนะฮะฮะะฮะฮะะฮะฮะฮะะฮะฮะฮะฮะฮะ……」

 

「……เอ่อ อภัยให้ข้าน้อยด้วยเถอะ……」

 

เขาไม่ฟังคำพูดของฟีโอและโนโซมุเปิดปากถุงและวางไว้บนหัวของฟีโอ โดยธรรมชาติแมลงมากมายกำลังบิดตัวอยู่บนหัวเขา

 

「ย๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา! อะไรอะ! ตัวอะไร! ทั้งเหนียว ทั้งเยิ้ม และเย็นจัดๆเลยอ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาากกกกกกกกกก……」

 

เสียงกรีดร้องของฟีโอดังลั่นไปทั่ว

แมลงหลายตัวคลานอยู่บนหัวของเขา แค่ลองนึกภาพก็ขนลุกแล้ว และที่จริงผู้หญิงพวกนี้ก็เป็นคนวางแผนแก้เผ็ดหาใช่ผม ใบหน้าของมิมุรุและโซเมียที่จับแมลงเหล่านั้นมากำลังมีรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมอยู่

 

「หวาาาาาาาาาา มารอบๆคอแล้วโว้ยยยยยยยยยยย!! อุหวากกกกก! มีบางอย่างเข้าไปในหูข้าน้องแล้วววว!! อาาาาา! จมูก อะไรเข้าจมูกไปแล้วอาาาาาาา!」

 

「เอาล่ะ พระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว พี่เองก็ควรกลับบ้านได้แล้วล่ะนะคะ」

 

「นะนะนี่ โนโซมุคิดจะทำอะไรน่ะ?」

 

「เอะ? ปล่อยไว้เฉยๆก็ได้นี่? นอกจากรูปลักษณ์และสัมผัสชวนสยิวแล้วไม่มีอะไรอันตรายหรอก(แน่นอนว่าต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอะนะ……)」

 

ด้วยปฏิกิริยารอบตัวโนโซมุ เขาตอบคำถามออกไปด้วยความโล่งอก แต่รอยยิ้มของเขาทำให้มาร์ถึงกับเหงื่อออก

 

「นะนั่นสินะ ฮะฮะฮะ?」

 

「เอาล่ะ ไปกันเถอะครับ ถ้าแข็งแกร่งละก็เดี๋ยวก็หลุดออกมาได้เองแหละ」

 

ขณะพูดเช่นนั้นโนโซมุก็เดินกลับบ้าน

คนอื่นๆต่างมองด้วยความเห็นอกเห็นใจ แต่ไม่มีใครคิดจะช่วย และพวกเขาก็เริ่มออกจากชานเมือง หลายๆคนก็หลีกเลี่ยงที่จะหันกลับไปมอง

 

「……จริงๆแล้ว แกโกรธมากเลยสินะเนี่ยโนโซมุ」

 

มาร์บ่นเช่นนั้นพร้อมกับเสียงกรี๊ดลั่นที่ดังมาจากด้านหลัง โนโซมุทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยิน

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท