ต่างจากรายการราชาหน้ากากนักร้อง
รายการนี้ใช้เวลาบันทึกเทปนานหลายวัน
เนื่องจากเพลงที่นักประพันธ์เพลงเขียนขึ้นมานั้นเป็นเพลงใหม่ นักร้องจำเป็นต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยสักพัก
เพราะฉะนั้นวันเวลาหลายวันต่อจากนั้น หลินเยวียนจึงไปยังสถานที่ถ่ายทำรายการบ้างเป็นครั้งคราว
ทีมงานรายการได้จัดให้มีช่วงเวลาที่น่าสนใจมากช่วงหนึ่ง
นักร้องซึ่งไม่ถูกเลือก จะสามารถขอคำแนะนำจากนักประพันธ์เพลงแต่ละคนได้ในแต่ละรอบ เหตุผลหนึ่งก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นักร้องเกิดความกระอักกระอ่วนใจ
นั่นส่งผลให้ในทุกๆ วันจะมีนักร้องจำนวนหนึ่งมาเคาะห้องของหลินเยวียนเพื่อขอคำแนะนำ
โชคดีที่หลินเยวียนสามารถแบ่งแยกสมาธิได้ เพียงแค่ขยับปากให้คำแนะนำก็พอแล้ว
ราชาหน้ากากนักร้อง
และระหว่างที่นักร้องกำลังฝึกซ้อม
ทีมงานรายการได้นำเนื้อหาซึ่งถ่ายทำไปก่อนหน้านี้ มาตัดต่อเพื่อทำเบื้องหลังรายการเพลงของเราตอนที่หนึ่ง!
ความยาวหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ !
นี่คือวิธีการเล่นรูปแบบใหม่
เบื้องหลังของทุกตอน จะเป็นการบันทึกเทปล่วงหน้า
กระบวนการนี้น่าสนใจมาก
เพราะเป็นการนำนักร้องเบอร์ต้นห้าสิบคนมารวมตัวกัน!
สภาพแวดล้อมของวงการเพลง ปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักร้อง ทั้งหมดล้วนเป็นจุดสนใจ!
ตัวอย่างเช่นช่วงแนะนำตนเอง
ฉากต่อสู้ลับซึ่งค่อยๆ ถูกเปิดเผยระหว่างนักร้องเพื่อแย่งชิงความโปรดปรานจากนักประพันธ์เพลงก็น่าสนใจเช่นเดียวกัน!
และการแข่งขันอย่างเป็นทางการ จะดำเนินการในรูปแบบการถ่ายทอดสด และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมแบบเรียลไทม์
ผู้ชมสามารถควบคุมผลการแข่งขันได้ขณะที่กำลังรับชมรายการ!
ดังนั้น
ขณะที่เบื้องหลังรายการเพลงของเรากำลังออกอากาศ การถกเถียงบนโลกออนไลน์แทบระเบิด!
ชาวเน็ตกำลังถกเถียงกัน!
ผู้คนมากมายร้องอุทานว่า ไลน์อัปในรายการนี้อลังการงานสร้างสุดๆ !
อันที่จริงไลน์อัปราชาหน้ากากนักร้องก่อนหน้านี้ก็อลังการงานสร้างเช่นเดียวกัน
แต่เพราะนักแสดงสวมหน้ากาก ความตื่นเต้นจึงยังไม่รุนแรงพอ
ในเวลานี้นักร้องถอดหน้ากากแล้ว เปิดรายการมาผู้ชมก็เห็นนักร้องชั้นนำ ตื่นตาตื่นใจราวกับงานประกาศรางวัลดนตรีบนโลก!
นี่คือความรู้สึกของการนำตัวท็อปของวงการเพลงมากองรวมกันเลยนะ!
นอกจากนี้…
การออกแบบรายการยังกระตุ้นความสนใจจากผู้ชมได้อีกด้วย
คล้ายกับการออกแบบสคริปต์รายการเรียลลิตีโชว์
นักร้องตัวท็อปผู้สูงส่งเมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อเพลงชั้นนำนั้นไม่ได้ต่างอะไรกับคนธรรมดา!
ถึงขั้นที่แอบ…
ถ่อมตน?
เดิมทีวงการดนตรีก็เหมือนกับสถานที่ทำงานแห่งหนึ่ง!
นักร้องเปรียบเสมือนพนักงาน ส่วนนักประพันธ์เพลงคือเจ้านาย!
พนักงานทุกคนพยายามทำผลงาน เพื่อดึงดูดความสนใจจากเจ้านาย!
ความรู้สึกแตกต่างอย่างชัดเจน สามารถกระตุ้นความสนใจของผู้ชมได้โดยธรรมชาติ
ราชาหน้ากากนักร้องก่อนหน้านี้เคยพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่าทีมงานรายการเข้าใจถึงจุดที่ผู้ชมสนใจจริงๆ สิ่งที่หลายคนต้องการดูจากรายการนี้คือความรู้สึกที่นักร้องชื่อดังเอาใจป่าป๊า
‘ความรู้สึกที่ดูรายการนี้ นักประพันธ์เพลงคือป่าป๊าของนักร้องจริงๆ !’
‘พวกคุณเข้าใจแล้ว นักร้องเหล่านี้พออยู่ต่อหน้านักประพันธ์เพลงธรรมดาก็วางมาด เพียงแต่พอเจอนักประพันธ์เพลงชั้นนำถึงทำให้นักร้องตัวท็อปถ่อมตัวแบบนี้’
‘พอได้เห็นจากมุมมองของพ่อเพลง รู้สึกสนุกอย่างบอกไม่ถูก’
‘ตอนเลือกคนตลกมาก ผมจะไปเลือกสาวในผับก็แบบนี้เลย ผู้กำกับก็ช่ำชองไปอีก!’
‘ฮ่าๆ ห้องสีชมพูของเซี่ยนอวี๋คึกคักมาก!’
‘…’
ทีมงานรายการใส่ฉากซึ่งนักร้องเข้าไปขอคำแนะนำจากนักประพันธ์เพลง อีกทั้งผู้ที่มาหาเซี่ยนอวี๋นั้นบ่อยครั้งมากทีเดียว ความ ถี่ที่ห้องสีชมพูของเขาจึงปรากฏในรายการจึงสูงมาก
ด้วยเหตุนี้
ชาวเน็ตจึงตั้งชื่อห้องของหลินเยวียนอย่างตลกขบขันว่า ‘ห้องชมพู’
แน่นอนว่านักประพันธ์เพลงคนอื่นก็มีนักแสดงซึ่งไม่ได้รับเลือกมาขอคำแนะนำบ่อยครั้งเช่นกัน
นักร้องเข้าไปในห้อง ทั้งยังพยายามแสดงความสามารถและพรสวรรค์ของตนเอง ด้วยหวังว่านักประพันธ์เพลงแนวหน้าเหล่านี้จะเห็นแววของตน
นอกจากนี้
การเลือกเฉินจื้ออวี่ของหลินเยวียนกระตุ้นให้เกิดประเด็นถกเถียงในหมู่ผู้คน
‘พ่อเพลงอวี๋เป็นคนอบอุ่นจริงๆ ’
‘เฉินจื้ออวี่เป็นคนแรกในราชวงศ์ปลาที่ตกรอบ ฝีมือนับว่าเป็นหนึ่งในคนที่อ่อนที่สุด แต่พ่อเพลงอวี๋กลับไม่ได้รังเกียจ มิหนำซ้ำยังเลือกร่วมงานกับเฉินจื้ออวี่ด้วย’
‘อาจารย์อิ่นตงก็น่าสนใจ เลือกคนที่ใช่ไม่เลือกคนที่แพง นี่กลายเป็นคาแร็กเตอร์ของเซี่ยนอวี๋ไปแล้วหรือเปล่า?’
ต่อให้เป็นพ่อเพลง ก็พยายามเลือกร่วมงานกับราชาราชินีเพลง
แต่การกระทำของอาจารย์เซี่ยนอวี๋ก่อให้เกิดอิทธิพลในระดับหนึ่ง การเลือกเพลงของอิ่นตงและเซี่ยนอวี๋นั้นค่อนข้างคล้ายกัน
และทั้งสองความเห็นนี้เหมือนกัน
เซี่ยนอวี๋บอกว่า ‘ให้คนที่เหมาะสมร้องเพลงที่เหมาะสม’
อิ่นตงบอกว่า ‘เลือกคนที่ใช่ ไม่เลือกคนที่แพง’
อันที่จริงทั้งแนวคิดหลักซึ่งถ่ายทอดผ่านทั้งสองความเห็นนี้เหมือนกัน
กอปรกับประโยคของอิ่นตงว่า ‘เซี่ยนอวี๋เป็นคนสอนผม’ยิ่งกระตุ้นความคิดของผู้ชมได้มากจริงๆ
ยังมีคนนึกเชื่อมโยงถึงมหาสงครามเทพเซียนเมื่อปีที่แล้ว…
หลินเยวียนพาเจียงขุยบุกล้างบางสมรภูมิ
บางทีในครั้งนี้ อิ่นตงอาจเข้าใจว่าควรเลือกตามความสามารถและสไตล์ของนักร้อง ไม่ใช่เลือกจากชื่อเสียงของนักร้องและปัจจัยอื่น
‘ทำเอาตอนนี้ผมคาดหวังกับคู่เซี่ยนอวี๋กับอิ่นตงเลย’
‘ฉันชอบวิธีการวางไพ่แบบแหวกแนวของเซี่ยนอวี๋กับอิ่นตง ทุกคนเลือกราชาราชินีเพลง ดูบ่อยจนไม่น่าสนใจ’
‘ที่จริงนักประพันธ์เพลงคนอื่นๆ ก็ใช่ว่าจะไม่เข้าใจหลักการนี้ เพียงแต่นี่คือการแข่งขันไงล่ะ’
‘การแข่งขัน แน่นอนว่าต้องเลือกนักร้องเก่งๆ มาร่วมงานด้วย นี่เป็นความคิดปกติของใครหลายคน ถ้าลองเปลี่ยนเป็นตัวเราเองก็น่าจะคิดเหมือนกัน’
‘แถมยังมีการโหวตโดยผู้ชม ราชาราชินีเพลงมีแฟนคลับเยอะ ไม่เสียเปรียบแน่นอน’
‘เพราะฉะนั้นการแข่งขันที่ทางรายการจัดก็นับว่ายุติธรรมมากแล้ว’
‘อิ่นตงกับเซี่ยนอวี๋ต่างก็ไม่ได้เลือกราชาราชินีเพลง เฉินจื้ออวี่กับซุนเหมิงเหมิงฝีมือไม่ได้ไกลกันมาก’
“…”
ทีมงานรายการบอกว่าสุ่มจับคู่ แต่ทุกคนไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่
บังเอิญขนาดนี้มีที่ไหน?
เซี่ยนอวี๋กับอิ่นตงมาเจอกันพอดีเนี่ยนะ?
แถมนักร้องที่ทั้งสองคนเลือก ก็ดันไม่ใช่ราชาราชินีเพลงเหมือนกันด้วย?
ทว่าหลังจากที่ทุกคนค้นพบความจริงแล้ว กลับรู้สึกว่าทีมงานรายการจัดการได้ดีมาก
อันที่จริงสิ่งที่ทุกคนต่อต้านไม่ใช่การแทรกแซงการแข่งขัน
สิ่งที่ทุกคนต่อต้านคือเรื่องหลังม่านซึ่งมีเจตนามุ่งเป้าโจมตี ถ้าหากทีมงานรายการเข้ามาแทรกแซงเพราะคำนึงถึงความยุติธรรมละก็ ผู้ชมยังยอมรับได้
และในเบื้องหลังรายการ
มีฉากหนึ่งซึ่งทำให้ผู้ชมระเบิดหัวเราะ
นั่นคือระหว่างที่นักร้องกำลังฝึกซ้อม
ที่จริงแล้วขณะที่นักประพันธ์เพลงควบคุมการฝึกซ้อมของนักร้อง พวกเขาจะส่ายหน้าหรือชี้แนะโดยอ้างอิงจากทฤษฎีดนตรีต่างๆ
มีเพียงเซี่ยนอวี๋ ที่ร้องเพลงผ่านไมโครโฟน จากนั้นจึงบอกกับเฉินจื้ออวี่ว่า
“ร้องแบบนี้ครับ”
สีหน้าของเฉินจื้ออวี่สับสน งุนงง ถึงขั้นที่ชักจะเริ่มสงสัยในชีวิต เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้ ในคอมเมนต์ก็สรุปได้อย่างตรงประเด็น
‘เฉินจื้ออวี่: นักประพันธ์เพลงน้องเพลงร้องเพลงเก่งกว่าผมอีก ทำยังไงดีครับ รอคำตอบครับ ด่วนมาก’
‘เฉินจื้ออวี่: คุณขึ้นไปร้องเองเลยดีกว่า!!’
‘เฉินจื้ออวี่: พูดไปพวกคุณอาจไม่เชื่อ นักประพันธ์เพลงของผมถ้าขึ้นเวทีไปร้องเพลง นักร้องคนอื่นต้องคุกเข่าคำนับ’
‘…’
แน่นอน
ประเด็นสนทนาเกี่ยวกับประพันธ์เพลงและนักร้องคนอื่นก็มีมากมายเช่นกัน
พิจารณาจากเสียงตอบรับหลังจากเบื้องหลังรายการเพลงของเราออกอากาศไป กระแสของรายการนี้…
ไม่เป็นรองราชาหน้ากากนักร้องอย่างแน่นอน!