ตอนที่ 15 ห้องถ่ายทอดสดที่คึกคัก
ลู่เฉินขึ้นเวทีอีกครั้ง และร้องเพลงอีกสองเพลง
เขาไม่ได้เลือกร้องเพลงเธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉันและเพลงซินเดอเรลล่าอีก เขาเลือกเพลงรักที่ตัวเองถนัด แล้วก็ได้รับเสียงปรบมืออย่างล้นหลามตามเคย หลังจากลงจากเวทีเขาพูดคุยกับลูกค้าที่คุ้นเคยกันเล็กน้อย
“เสี่ยวลู่ สองเพลงแรกนายร้องได้ดีมากเลย!”
ลูกค้าเก่าคนหนึ่งเอ่ยชมไม่หยุดปาก “เขียนเพลงได้ดี เก่งจริงๆ! ถ้าฉันเปิดบริษัททำเพลงนะ ฉันจะต้องดึงนายมาเซ็นสัญญาให้ได้!”
ลูกค้าคนอื่นในโต๊ะเดียวกันหัวเราะ “ตอนนี้เพลงใหม่ดีๆ มีน้อยมาก ฟังหนุ่มรุ่นใหม่กับนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปพวกนั้น มีแต่โคฟเวอร์มาจากเพลงญี่ปุ่นเกาหลี ยุโรปอเมริกา แนวเพลงก็เหมือนออกมาจากพิมพ์เดียวกันไปหมด”
“นั่นน่ะสิ เพลงที่เพราะจริงๆ ถึงจะเป็นเพลงในยุคปี 80-90”
“เหอะๆ นายบอกว่าเพลงเก่าดี แต่คนอื่นจะบอกว่านายหัวโบราณเอา!”
“จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ได้ ความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน…”
ลู่เฉินส่วนใหญ่ฟังอย่างเดียว พูดโต้ตอบบ้างเป็นบางครั้ง บรรยากาศในบาร์เดย์ลิลลี่ดีอยู่เสมอ ความสนิทสนมระหว่างลูกค้ากับนักร้องค่อนข้างกลมเกลียว ทุกคนนั่งล้อมวงพูดคุยเหมือนเพื่อน ไม่มีความกดดันใดๆ
มองดูเวลาเลยสี่ทุ่มไปแล้ว เขาลุกขึ้นยืนขอตัวออกมา ลูกค้าไม่ได้รั้งเขาให้อยู่ต่อ
บาร์ย่านทะเลสาบโฮ่วไห่เป็นธุรกิจกลางคืน ช่วงเวลาทองอยู่ที่ประมาณห้าทุ่มถึงตีสอง แต่เวลานี้เป็นเวลาขึ้นร้องของนักร้องที่เซ็นสัญญา ลู่เฉินไม่จำเป็นต้องรับหน้าที่เป็นบริกรอีกแล้ว เขาจึงไม่ต้องอยู่ต่ออีก
เขาไปที่แผนกบัญชี รับเงินค่าจ้างการแสดงของตัวเอง
เงินค่าร้องเพลงกับเงินรางวัลของนักร้องหลักถูกคิดรวมกัน ลู่เฉินร้องเพลงห้าเพลง หนึ่งเพลง 30 หยวน ทั้งหมดก็ 150 หยวน ส่วนเงินส่วนแบ่งจากรางวัล 70% แบ่งมาแล้วได้ 2,150 หยวน
2,300 หยวน เป็นเงินที่ลู่เฉินหาได้ในคืนนี้
ถ้าหาเงินได้เท่านี้ทุกวัน เดือนหนึ่งได้สักหนึ่งแสนหยวนคงไม่ใช่ฝันลมๆ แล้งๆ แต่มันเป็นไปไม่ได้
เพราะลูกค้าของบาร์เดย์ลิลลี่ไม่ใช่พวกลูกเศรษฐีที่ใช้เงินมือเติบ เงินรางวัลที่ให้สมเหตุสมผลมาก เมื่อคืนกับคืนนี้ที่ลู่เฉินได้เงินรางวัลมากกว่า 2,000 หยวนขึ้นไป ทั้งหมดเป็นเพราะฝีมือการร้องเพลงของเขาพัฒนาขึ้นราวกับเกิดใหม่ ทั้งยังมีเพลงผลงานใหม่สองเพลงที่นำออกมาร้องให้ทุกคนรู้สึกแปลกใหม่และประทับใจ
แต่ความความตื่นเต้นนี้ย่อมอยู่ได้ไม่นาน ดังนั้นในสถานการณ์ปกติ ทุกเดือนเขาจะหาได้อย่างมาก 10,000 หยวนขึ้นไป ถ้าอยากได้มากกว่านี้ต้องออกไปหาข้างนอก ไปร้องเพลงที่บาร์อื่นร่วมด้วย
หากพูดถึงด้านรายได้เพียงอย่างเดียว นักร้องในบาร์ขอแค่มีสถานที่ที่มั่นคงอยู่ได้ ก็ถือว่าเป็นอาชีพที่ไม่เลวเลย อย่างน้อยในเมืองหลวงที่เป็นพื้นที่บ่อเงินบ่อทองแบบนี้ ทำงานหาเงินเลี้ยงชีพได้สบายไม่มีปัญหา
ปัญหาอยู่ที่งานลักษณะนี้มีคนทำได้นานน้อยมาก ส่วนใหญ่จะตั้งความหวังไว้ที่การสร้างชื่อเสียงอยากโด่งดังกันทั้งนั้น เมื่อฝันสลายคงทำได้เพียงกลับไปสู่จุดเดิมเงียบๆ หรือจมหายไปเลย
ลู่เฉินเองก็มีความหวัง ความฝันของเขายิ่งใหญ่
เขาออกมาจากบาร์ นำเงินไปฝากที่ตู้ ATM บนถนนคนเดิน จากนั้นวิ่งไปที่สถานีรถไฟใต้ดินใกล้ๆ
เมื่อกลับมาถึงห้องเช่าชั้นใต้ดิน เป็นเวลาห้าทุ่มพอดี
เวลาระดับนี้ถือว่าเร็วมากแล้ว ตอนดึกในรถไฟใต้ดินคนไม่มากนัก ไม่เช่นนั้นถ้าเป็นเวลากลางวัน จำนวนคนเบียดเสียดแน่นขบวนรถ คงไม่สามารถเดินทางได้คล่องตัวแบบนี้
หลี่เฟยอวี่ไม่อยู่บ้าน คืนสุดท้ายของสุดสัปดาห์เป็นเวลาแฮปปี้ของเขา
ดังนั้นการแสดงสดออนไลน์คืนนี้ เขาต้องพึ่งตัวเองแล้ว
หลังจากเปลี่ยนไมโครโฟนกับกล้องเว็บแคม เขาเปิดคอมพิวเตอร์ เข้าเว็บไซต์ ‘ลานแสงดาว’ ลงชื่อบัญชีและรหัสผ่านของตัวเองในหน้าหลัก แล้วเข้าสู่ ‘ห้องถ่ายทอดสดของลู่เฟย’ อย่างรวดเร็ว
แม้คอมพิวเตอร์ของลู่เฉินจะเก่ามากแล้ว แต่การเข้าถึงหน้าเว็บไซต์แสดงสดออนไลน์ยังไม่มีปัญหา บนหน้าจอปรากฏภาพของเขาชัดเจน
“ฮัลโหล! ฮัลโหล!”
ลู่เฉินพูดทักทายใส่ไมโครโฟน ทดสอบการติดตั้งว่าราบรื่นดีไหม
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ บนหน้าจอปรากฏกล่องข้อความเด้งขึ้นมาหลายอัน
“ฉางเจียง ฉางเจียง ฉันคือหวงเหอ!”
“ได้ยินแล้ว ได้ยินแล้ว ในที่สุดลูกพี่ก็ปรากฏตัว ปล่อยให้พวกเรารอตั้งนาน!”
“โปรยดอกไม้แสดงความยินดี!”
“เมียจ๋า รีบมาดูพ่อรูปหล่อเร็ว!”
“…”
ลู่เฉินเพิ่งสังเกตเห็นตอนนี้เองว่าบนหน้าจอมีคนดูอยู่ถึง 427 คน หมายถึงว่ามีคน 400 กว่าคนกำลังรอดูเขาถ่ายทอดสด ดังนั้นแถบความคิดเห็นจึงปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว
แม้ในเบื้องต้นเขาประกาศไปแล้ว บอกว่าเขาจะถ่ายทอดสดตอนห้าทุ่มตรง แต่นึกไม่ถึงว่าจะมีคนเข้ามารอดูมากมายขนาดนี้ เขาตื่นเต้นมากแล้วยังรู้สึกตื้นตันนิดหน่อยด้วย
“ขอโทษจริงๆ ครับ…”
ลู่เฉินรีบพูด “ผมเพิ่งเลิกงาน ไม่ได้คำนวณเวลาให้ดี ทำให้ทุกคนรอนานเลย ขอโทษครับขอโทษ!”
เขาเพิ่งพูดจบ ข้อความก็มาเพิ่มมากกว่าเดิมทันที
“คนไลฟ์สดยังต้องทำงานในคืนวันสุดสัปดาห์ด้วยเหรอ บริษัทไหนช่างไร้มนุษยธรรม!”
“นั่นน่ะสิ พวกเราจะโทรศัพท์ไปร้องเรียนหน่วยตรวจสอบให้!”
“แล้วยังทำงานถึงห้าทุ่มอีก จะมากเกินไปแล้วนะ!”
“น่าสงสารพี่รูปหล่อ!”
“…”
ลู่เฉินทำหน้าไม่ถูก รีบอธิบายว่า “ผมร้องเพลงอยู่ในบาร์แถวทะเลสาบโฮ่วไห่ครับ จัดว่าเป็นนักร้องในบาร์ครับ เวลาทำงานคือตอนกลางคืน ก็เลยกลับมาดึก”
“โฮ่วไห่? ฉันไปบ่อยนะ อยู่บาร์ไหน ทำไมเหมือนไม่เคยเห็นคนจัดรายการเลย!”
“เป็นนักร้องในบาร์นี่เอง มิน่าถึงร้องเพลงเพราะขนาดนี้!”
“พวกนายเลิกพูดมากได้แล้ว รีบให้เขาร้องเพลงเถอะ หูของฉัน**จนทนไม่ไหวแล้ว!”
“**ขนาดนั้นเลย? งั้นเอาคอตตอนบัดแหย่หน่อย จะดีขึ้นเอง”
“ฮ่าๆๆ…”
ลู่เฉินมองดูความครึกครื้นบนหน้าจอแล้วรู้สึกมีความสุข ความว้าวุ่นใจในครั้งแรกของการถ่ายทอดสดหายเป็นปลิดทิ้งอย่างรวดเร็ว อารมณ์ผ่อนคลายลงไม่รู้ตัว
บรรยากาศในห้องถ่ายทอดสดกับในบาร์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่เมื่อคุ้นชินแล้วก็ดีมากจริงๆ
ยอดผู้เข้าชมออนไลน์พุ่งสูงขึ้น จาก 425 กลายเป็น 725 ในทันใด มีคำทักทายบนแถบข้อความเข้ามาไม่หยุด
นี่เป็นความรู้สึกที่ไม่อาจสัมผัสได้จากการแสดงในบาร์ นี่แหละเสน่ห์ของโลกออนไลน์!
“เอ๋? ฉันรู้สึกว่าผู้ออกอากาศจะเปลี่ยนห้องไปแล้ว ไม่ใช่ห้องเดิมของพี่เฟยนี่นา!”
“เปลี่ยนชื่อห้องเฉยๆ ตกใจอะไร!”
“โอ้โห ฉันกำลังบอกว่านี่เป็นบ้านของผู้ออกอากาศใช่ใหม พวกนายไม่เห็นเหรอ”
“ใช่แล้วๆ ผู้ออกอากาศพักอยู่ไหน ทำไมดูโทรมจัง!”
“น่าจะเป็นห้องชั้นใต้ดิน เมื่อก่อนฉันเคยเช่าอยู่ คล้ายๆ แบบนี้แหละ”
“เห็นใจผู้ออกอากาศจัง!”
“…”
หัวข้อสนทนาของผู้ชมเบี่ยงเบนไปมาจนไปถึงเรื่องที่พักของลู่เฉิน
เขตชุมชนเก่าหลายสิบปี แถมยังมีห้องที่ถูกสร้างไว้ชั้นใต้ดินอีก ห้องเล็กๆ แน่นอนว่าสภาพไม่ได้ดีเท่าไร
หลี่เฟยอวี่แม้จะเป็นเพื่อนบ้านของลู่เฉิน แต่เขายอมควักเงินตกแต่งห้องใหม่ มองดูแล้วสภาพดีกว่ากันมาก ไม่เหมือนห้องของลู่เฉินที่ทรุดโทรมสุดๆ
ระบบแจ้งเตือน : ความสุข 888 (เงินⅠ) มอบดาว 100 ดวงให้ผู้ออกอากาศ!
ระบบแจ้งเตือน : ซูเปอร์แมนใส่กางเกงในด้านนอก (เหล็กดำⅡ) มอบดาว 100 ดวงให้ผู้ออกอากาศ!
ระบบแจ้งเตือน : มังกรในอ่าวลึก (บรอนซ์Ⅴ) มอบดาว 100 ดวงให้ผู้ออกอากาศ!
ระบบแจ้งเตือน : พุดดิ้งคริสตัล (บรอนซ์Ⅱ) มอบดาว 100 ดวงให้ผู้ออกอากาศ!
…
ระบบแจ้งเตือน : ราชานักทำนายหลี่ไป๋ (ทองคำⅢ) มอบยานรบอวกาศ 1 ลำให้ผู้ออกอากาศ!
ยานรบอวกาศอีกแล้ว จากราชานักทำนายหลี่ไป๋คนเดิม!
ลู่เฉินยังไม่ทันร้องเพลงเลย ผู้ชมส่งดาวรางวัลให้เขามากมาย ราชานักทำนายหลี่ไป๋อีกแล้วที่มอบยานรบอวกาศหนึ่งลำให้เขา
ยานรบอวกาศหนึ่งลำไม่เพียงเท่ากับเงิน 1,000 หยวน ยังได้โอกาสในการปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนบนเว็บไซต์ครั้งหนึ่งด้วย
ในใจของลู่เฉินรู้สึกอบอุ่น เห็นได้ชัดว่าเหล่าผู้ชมมองเห็นว่าห้องเช่าของเขาเก่าทรุดโทรมซอมซ่อมากแค่ไหน จึงมอบรางวัลเพื่อเป็นการแสดงความห่วงใยและการสนับสนุน
ขณะนี้จำนวนผู้เข้าชมทะลุ 1,000 คน และเพิ่มขึ้นมากอย่างรวดเร็ว!
ลู่เฉินตั้งใจเข้าไปดูจำนวนผู้ติดตามของเขา
5,279!
นี่มันอะไรกัน?
ลู่เฉินรู้สึกไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ต้องรู้ว่าเมื่อตอนเที่ยงเพิ่งมีจำนวนบัญชีผู้ติดตามของเขาเพียง 2,722 บัญชีเท่านั้น ทำไมพอถึงตอนเย็นถึงเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว?
ลู่เฉินเพิ่งเริ่มเล่นเว็บไซต์ ‘ลานแสงดาว’ แม้จะได้หลี่เฟยอวี่สอนความรู้ใหม่ๆ ให้เขามากมาย แต่เขายังเป็นมือใหม่อยู่เลย ยังมีอีกหลายเรื่องที่เขาไม่รู้ชัดเจน ดังนั้นจึงคิดไม่ออกว่าปัญหาอยู่ที่ตรงไหน
คิดไม่ออกก็ไม่คิดแล้ว เอาเป็นว่าเป็นเรื่องดีไม่ใช่เรื่องเลวร้าย!
“ขอบคุณราชานักทำนายหลี่ไป๋นะครับสำหรับยานรบอวกาศ…”
เขาพูดออกไมโครโฟน “และขอบคุณทุกท่านด้วยที่ให้การสนับสนุน ผมจะร้องเพลงที่ผมแต่งขึ้นให้ทุกท่านฟังก่อน ชื่อเพลงว่าเธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงจะเคยได้ยิน หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะครับ”
หลังหยุดครู่หนึ่งแล้ว ลู่เฉินเอ่ยต่อว่า “คืนนี้ ยังมีเพลงที่ผมแต่งอีกเพลงมอบให้กับทุกคนด้วยครับ!”
เขาไม่ได้ดูความคิดเห็นบนบนหน้าจออีก กอดกีตาร์ไว้แล้วเริ่มร้องเพลงเธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน
“เพราะมาก!” “ซาบซึ้ง!” “อยากร้องไห้!”
เสน่ห์ของผลงานเพลงคลาสสิคแบบนี้คือเหมือนเพลงพิฆาต ไม่ว่าในบาร์เดย์ลิลลี่หรือใน ‘ลานแสงดาว’ ทั้งคนที่เคยฟังหรือคนที่เพิ่งเข้ามาในห้องถ่ายทอดสดออนไลน์ต่างถูกเสียงเพลงดึงดูดใจ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผ่านการร้องการแสดงมาหลายครั้งแล้ว ความรู้สึกอารมณ์ของเพลงที่ลู่เฉินถ่ายทอดออกมายิ่งลึกซึ้งกินใจ ทั้งยังเทคนิคการเล่นกีตาร์ที่พิเศษของเขา เพียงพอที่จะทำให้เหล่าผู้ฟังที่ไม่ได้เรียกร้องมาตรฐานที่สูงส่งนักพึงพอใจ
หลังจากร้องเพลงเธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉันจบ คำชื่นชมหลั่งไหลเข้ามา รางวัลแสงดาวมากมายวิบวับเต็มหน้าจอ!
ลู่เฉินมีแรงฮึดขึ้นมาทันที เขาร้องเพลงต่อเนื่องอีกห้าเพลง ทั้งหมดเป็นเพลงยอดนิยมสมัยใหม่ที่เขาถนัด แม้จะไม่น่าตื่นตาตื่นใจเท่าเพลงเธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน แต่ก็สามารถทำให้บรรยากาศในห้องถ่ายทอดสดคึกคักขึ้นกว่าเดิม
ระหว่างการแสดง ลู่เฉินเริ่มตอบโต้กับผู้ชมมากขึ้น ตอบคำถามหลายคำถาม
หลี่เฟยอวี่เคยบอกกับเขาว่าการเปิดเครือข่ายการแสดงออนไลน์สำคัญมาก อาศัยแค่การร้องเพลงอย่างเดียวไม่พอกระตุ้นอารมณ์ของผู้ชม ต้องพูดคุยเล่าเรื่องตลกให้ทุกคนฟังบ้าง ส่วนหนึ่งเพื่อลดช่องว่างระหว่างผู้ชมกับผู้แสดง อีกด้านหนึ่งก็เพื่อพักเสียงของตัวเองด้วย
การแสดงสดออนไลน์มุ่งแสวงหายอดแฟนคลับผู้ติดตาม เมื่อมีคนติดตามมากก็จะได้เงินมากตามไปด้วย ปริมาณผู้ติดตามของผู้ออกอากาศจะตัดสินการจัดอันดับในเว็บไซต์ออนไลน์ ผู้ชนะที่แท้จริงได้กินทุกตา!
ลู่เฉินยังขาดประสบการณ์ แต่เขายอมละทิ้งความถือตัว พูดคุยทักทายกับผู้ชมอย่างเป็นกันเอง ความจริงแล้วมันไม่ได้ยากเลย แม้จะมีคนจำนวนหนึ่งที่ตั้งใจเข้ามาก่อกวน แต่ผู้ชมส่วนใหญ่ดีมาก
การร้องเพลงแสดงสลับกับการพูดคุยเสวนากันทั้งสองฝ่าย ทำให้เวลาล่วงเลยไปจนถึงตีหนึ่ง
…………………………………………………………