ตอนที่ 32 บาร์บลูโลตัส
วันเสาร์ที่ 23 เดือนพฤษภาคม ท้องฟ้าแจ่มใส
ท้องฟ้าราวกับเพิ่งถูกชะล้างให้สะอาด สะอาดจนเหลือเชื่อ ท้องฟ้าสดใสไม่มีการปนเปื้อนของก้อนเมฆ ทำให้รู้สึกเหมือนไม่ใช่ความจริง
ต่อให้หลายปีที่ผ่านมาเมืองหลวงจะได้รับการขจัดมลพิษสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มที่ ทำให้หลุดพ้นฉายา ‘เมืองหมอกพิษ’ มานานแล้วก็ตาม แต่ท้องฟ้าแบบนี้ก็ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักในวันปกติ ทำให้จิตใจของผู้คนรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันที
ถึงแม้จะยังไม่ถึงฤดูร้อนมากที่สุด แต่พวกสาวๆ ในเมืองต่างก็สวมเสื้อผ้าฤดูร้อนสวยงามเรียบร้อยแล้ว กระโปรงสั้นพลิ้วไหวเดินไปตามถนนเส้นใหญ่ เผยความสาวสดใสและขาเรียวยาวของพวกเธออย่างเต็มที่
“ต้าเฉิน!”
หลี่เฟยอวี่ถือกระเป๋าหนังวิ่งหอบฮั่กเข้ามา แล้วหันไปพูดบ่นกับลู่เฉินที่กำลังยืนชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามอยู่ริมถนน
“พวกเรารีบไปกันเถอะ ถ้าไปสายเดี๋ยวก็ถูกคนอื่นยึดที่นั่ง!”
‘ต้าเฉิน’ เป็นชื่อเรียกใหม่ที่เพื่อนนักเรียนรุ่นพี่เสี่ยวเฟยใช้เรียกลู่เฉิน เดิมทีเขาเรียกมั่วซั่วมาตลอดว่า ‘ซูเปอร์สตาร์’ ‘เสี่ยวลู่’ ‘พี่น้อง’ แต่ตอนนี้นึกถึงฐานะที่ไม่เหมือนเดิมของลู่เฉินแล้ว ดังนั้นจากการคิดพิจารณาอย่างลึกซึ้งของเขา สุดท้ายจึงตั้งชื่อที่คิดว่ามีความหมายลึกซึ้งมากที่สุด
จากวิธีการพูดของหลี่เฟยอวี่ คนที่มีตำแหน่งฐานะจะใช้คำว่า ‘ต้า’ หรือไม่ก็ ‘ท่าน’ แต่ลู่เฉินตอนนี้ยังไม่ถึงระดับ ‘ท่าน’ แต่คำว่า ‘ต้า’ นั้นไม่มีปัญหา เวลาเรียกก็ไม่มีใครดูถูก
จากชื่อลู่เฉินเรียกว่าต้าลู่ก็ไม่เพราะ คนอื่นก็เข้าใจผิดได้ง่าย ดังนั้นจึงเรียกว่าต้าเฉิน
ลู่เฉินรู้สึกจนปัญญากับเรื่องนี้จริงๆ แต่จะทำอย่างไรได้ ก็ปากของหลี่เฟยอวี่เป็นปากของนักขาย ฉายาปากนักขายเป็นหนึ่งในเจ็ดอาวุธของการทำงาน มีหรือที่เขาจะพูดชนะ เพราะฉะนั้นจึงได้แต่ปล่อยให้เลยตามเลย
“ฉันพูดสามรอบแล้ว ที่นั่งของพวกเราจัดไว้เรียบร้อยแล้ว…”
ลู่เฉินเหนื่อยใจ “ไม่ถูกคนอื่นแย่งหรอก ถ้าไปตอนนี้จะเร็วไปหน่อย”
บาร์บลูโลตัสในโฮ่วไห่จะจัดกิจกรรมเทศกาลดนตรีคาร์นิวัลไนท์ในคืนนี้ ผู้สนับสนุนหลักก็คือบริษัทชิงอวี่มีเดีย ได้ยินว่าจัดงานใหญ่มาก อลังการมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ และยังเชิญคนในวงการมาไม่น้อย
ลู่เฉินได้เป็นนักร้องรับเชิญเช่นกัน ตอนนั้นคนของบาร์บลูโลตัสถามเขาว่ามีความต้องการอะไรบ้าง เขาครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดว่าต้องการที่นั่งวีไอพี ในขณะเดียวกันก็อยากให้บาร์บลูโลตัสอนุญาตให้เขาถ่ายทอดสดออนไลน์ในงานเทศกาลดนตรี
ถูกแล้ว คืนนี้รายการห้องถ่ายทอดสดลู่เฟยก็คืองานไลท์บลูมิวสิคคาร์นิวัลออฟไนท์!
ความคิดนี้เกิดขึ้นตอนที่เฉินเจี้ยนหาวบอกข่าวการรับเชิญกับลู่เฉินตั้งแต่แรกแล้ว วันนี้รูปแบบเนื้อหาในการถ่ายทอดสดออนไลน์จึงอลังการมากขึ้น มัวแต่นั่งดีดกีตาร์ร้องเพลงเล่าเรื่องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทุกวัน บรรดาแฟนคลับจะเบื่อกับรูปแบบเดิมได้ง่ายมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องคิดลูกเล่นใหม่ๆ ออกมา
เขาจะเสนอการแสดงดนตรีในงานไลท์บลูมิวสิคคาร์นิวัลออฟไนท์ ถือว่าเป็นลูกเล่นที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย!
เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ลู่เฉินไม่ลังเลที่จะบอกคนของบาร์บลูโลตัสว่าเขายอมทิ้งค่าตอบแทนในการแสดง
เขาเชื่อว่าเงินรางวัลของบรรดาแฟนคลับสามารถชดเชยได้มากพอ
ทว่าอีกฝ่ายก็ใจกว้าง ไม่เพียงแต่ยอมรับความต้องการของลู่เฉิน นอกจากนี้ยังจ่ายค่าตอบแทนจำนวนไม่น้อยด้วย!
เทศกาลดนตรีคาร์นิวัลไนท์ของบลูโลตัสไม่เคยห้ามบันทึกการถ่ายทำ กระทั่งยังเป็นฝ่ายนำคลิปของงานโพสต์ลงในอินเทอร์เน็ตเพื่อให้คนอื่นได้ชื่นชม ด้วยเหตุนี้จึงมีผลชักจูงผู้ชมให้เข้าร่วมงานได้มากขึ้น
ดังนั้นลู่เฉินจึงได้ที่นั่งวีไอพีมาอย่างราบรื่น และตัวเขาก็ไม่นั่งที่ตำแหน่งนี้ แต่กลับให้หลี่เฟยอวี่นั่งแทน
เพราะว่าการถ่ายทอดสดจากสถานที่จัดงานจำเป็นต้องมีคนช่วยเหลือ เสี่ยวเฟยเหมาะสมที่สุด และเป็นตัวเลือกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
หลังจากหลี่เฟยอวี่รู้ก็ดีใจยกใหญ่ แถมยังเริ่มเตรียมงานล่วงหน้าสองวัน
ความจริงการจัดการถ่ายทอดสดนอกสถานที่นั้นง่ายมาก ใช้โทรศัพท์ 4G เครื่องเดียวก็ทำได้แล้ว แต่หลี่เฟยอวี่กลับไม่ประมาทเลยสักนิด นอกจากมีกล้องความละเอียดสูงกับไมค์คุณภาพสูงแล้ว เขายังซื้อชุดขาตั้งกล้อง กล่องใส่กล้อง ตัวกรองความถี่เสียงและอื่นๆ เป็นต้น
แน่นอนว่าลู่เฉินเป็นคนออกเงินซื้อของพวกนี้ เพราะวันหลังต้องได้ใช้อยู่แล้ว
“รีบทำเวลา ไปเตรียมตัวก่อน”
หลี่เฟยอวี่หัวเราะฮ่าๆ พลางพูดว่า “ฉันได้ยินคนอื่นพูดมานานแล้วว่าเทศกาลดนตรีของบาร์บลูโลตัสสนุกมาก เสี่ยวเหม่ยเคยไป ครั้งนี้ฉันบอกเธอว่าได้เป็นแขกวีไอพีและจะไลฟ์สดในงาน เธอบอกว่าจะดูการไลฟ์ของพวกเราคืนนี้!”
เขาพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มชื่นบาน เผลอโผล่หางของตัวเองออกมาโดยไม่รู้ตัว
ลู่เฉินถามอย่างสงสัยว่า “เสี่ยวเหม่ยลาออกแล้วไม่ใช่เหรอ นายยังติดต่อกับเธออีกเรอะ”
เสี่ยวเหม่ยเป็นพนักงานต้อนรับของศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร เป็นผู้หญิงที่สวยมีเสน่ห์มีคนตามจีบมากมาย หลี่เฟยอวี่ก็เป็นหนึ่งคนในนั้นที่แอบชอบเธอ
จะว่าไปแล้วตอนแรกที่หลี่เฟยอวี่ลองถ่ายทอดสด ก็ได้รับอิทธิพลมาจากเสี่ยวเหม่ย ได้ยินว่าหลังจากที่ถ่ายทอดสดเธอก็ทำกำไรได้หลายหมื่น แม้แต่งานในศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรก็ไม่อยากทำแล้ว จะไปทำอาชีพการถ่ายทอดสดแทน
“อย่าพูดถึงเลย!”
หลี่เฟยอวี่พูดอย่างเสียดาย “ห้องถ่ายทอดสดของเสี่ยวเหม่ยทำผิดกฎถูกปิดไปแล้ว เธอเลยไม่ได้ลาออก”
ถึงแม้จะเป็นน้ำเสียงที่เสียดาย แต่ใบหน้าของเขาไม่มีความเสียดายเลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับดีใจมาก
ลู่เฉินกลั้นหัวเราะไม่อยู่ ไม่ได้พูดอะไรอีก
เสี่ยวเหม่ยที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อนคนนั้นไม่เหมาะสมกันอย่างเห็นได้ชัด แต่หลี่เฟยอวี่ชอบเธอ เขาเองจึงไม่อยากพูดอะไรมาก
“แท็กซี่!”
หลี่เฟยอวี่โบกมือเรียกรถแท็กซี่คันหนึ่งที่เพิ่งขับผ่านมาเมื่อครู่
ทั้งสองคนเดินทางมาที่โฮ่วไห่ด้วยกัน คนขับรถแท็กซี่ในเมืองหลวงไม่มีใครไม่คุ้นเคยพื้นที่แถบนั้น หลังจากบอกที่อยู่แล้ว เขาก็ขับรถมาจอดที่ลานจอดรถด้านนอกบาร์บลูโลตัสอย่างรวดเร็ว
แต่เดิมบาร์บลูโลตัสเป็นโรงงานเล็กๆ ที่อยู่ริมถนน ต่อมาหลังจากที่มีการปรับปรุงผังเมืองจึงกลายเป็นสภาพอย่างในปัจจุบันนี้ ด้านหน้าของบาร์คือถนนคนเดินที่คึกคัก ด้านหลังคือคลื่นน้ำดั่งหยกเขียวกระเพื่อมอยู่ในทะเลสาบที่ขุดขึ้น
ไม่เหมือนบาร์เดย์ลิลลี่ ลานจอดรถทั้งหมดของบาร์บลูโลตัสจะเชื่อมต่อกับถนนยางมะตอยทั้งสองเลน เพราะฉะ นั้นการเข้าออกจึงสะดวกสบายมาก ไม่ว่าจะเป็นวันปกติหรือวันหยุดเทศกาล หากไปช้าก็แทบจะไม่มีที่นั่ง กิจการดีมากทีเดียว
สิ่งที่ทำให้คนอิจฉามากที่สุดก็คือ บ้านหนึ่งหลังกับพื้นที่จอดรถขนาดใหญ่ และสิทธิ์ในการถือครองที่ดิน เถ้าแก่ฉางเหว่ยของบาร์บลูโลตัสซื้อไว้นานแล้ว ถ้าหากเขาล้างมือขายกิจการทิ้งก็ยังใช้เงินไม่หมดไปสามชาติ!
แต่ฉางเหว่ยไม่เคยมีความคิดเช่นนี้ เขาทุ่มเทมากในการบริหารบาร์ของตัวเองมาตลอด ประพฤติตนอย่างมีสัจจะและกล้าหาญชาญชัย เวลาที่คนในวงการกล่าวถึงต่างต้องยกนิ้วโป้งชื่นชม
เทศกาลดนตรีคาร์นิวัลไนท์เริ่มต้นเวลาหนึ่งทุ่มตรง ตอนนี้ยังไม่ถึงห้าโมง ก็มีคนมากมายที่มาเร็วเหมือนกับพวกเขาสองคน มีบางคนที่ทำอาชีพเดียวกันกับลู่เฉิน ทว่าส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชมเสียมากกว่า
สถานที่จัดงานและเวทีถูกจัดไว้เรียบร้อยแล้ว แสงไฟ เครื่องเสียงแล้วก็หน้าจอ LED ขนาดยักษ์ที่มีลูกเล่นไม่น้อย ทีมงานหลายคนกำลังง่วนอยู่กับการแก้ไขงานช่วงสุดท้ายเพื่อเตรียมระบบการทำงาน
เมื่อลงรถตรงหน้าปากทาง หลี่เฟยอวี่มองด้วยสายตาตื่นตะลึง
“สุดยอด นี่มันคือจัดงานคอนเสิร์ตชัดๆ!”
พื้นที่ของลานจอดรถใหญ่มากพอ ต่อให้จัดเป็นเวทีส่วนหนึ่ง ก็บรรจุผู้ชมได้สองสามพันคนโดยไม่มีปัญหา และโฮ่วไห่ทั้งหมดก็มีเพียงที่นี่ที่สามารถจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ขนาดนี้ได้
“ไม่ทราบว่าทั้งสองท่านมาร่วมงานแสดงใช่ไหมครับ”
ทีมงานที่อยู่หน้างานคนหนึ่งเดินเข้ามาหา แล้วถามอย่างมีมารยาท
“ใช่ครับ!”
ลู่เฉินหยิบบัตรสมาชิกกับบัตรวีไอพีออกมาให้อีกฝ่ายตรวจสอบ เทศกาลดนตรีคาร์นิวัลไนท์ของบาร์บลูโลตัสถูกจัดขึ้นหลายครั้งแล้ว จัดงานอย่างมีระเบียบมากมาตลอด หากไม่มีบัตรสมาชิกหรือบัตรเข้าชมก็จะเข้าไปข้างในไม่ได้
กระทั่งเขายังสังเกตเห็นรถตำรวจสีน้ำเงินขาวสองคันจอดอยู่ไกลๆ น่าจะส่งมาจากสถานีตำรวจท้องที่
หลังจากทีมงานตรวจบัตรแล้ว จึงพูดว่า “เชิญตามผมมาทางนี้ครับ”
จากการนำทางของทีมงาน ลู่เฉินกับหลี่เฟยอวี่ทั้งสองคนจึงเดินผ่านลานจอดรถ เข้าไปในบาร์บลูโลตัส
รูปแบบการตกแต่งของบาร์บลูโลตัสโอ่อ่าหรูหรากว่าบาร์เดย์ลิลลี่มาก แค่ความยาวของบาร์ที่มีรูปทรงเป็นคลื่นก็ยังยาวกว่าของบาร์เดย์ลิลลี่ถึงสองเท่า เหล้ามากมายลานตาที่จัดวางอยู่บนตู้เหล้า แก้วเหล้าที่คว่ำอยู่แต่ละใบสว่างพร่างพราวภายใต้แสงไฟที่สาดส่อง
บาร์ถูกแบ่งเป็นชั้นบน ชั้นกลาง ชั้นล่างรวมสามชั้น เวทีการแสดงรูปตัว T จัดตามรูปแบบสากลเป็นอย่างมาก หน้าจอยักษ์ที่เป็นฉากหลังมีขนาดอย่างน้อย 500 นิ้ว ตกแต่งอุปกรณ์เครื่องเสียงและแสงไฟต่างๆ สวยงามประณีตได้อย่างน่าทึ่ง
เนื่องจากเป็นกิจกรรมตอนกลางคืน ดังนั้นข้างในนี้จึงไม่เปิดให้บริการ ห้องโถงใหญ่ชั้นล่างสุดถูกจัดเป็นด้านหลังเวทีชั่วคราว เพื่อจัดให้เป็นเขตรองรับนักร้องกับวงดนตรีที่มาร่วมแสดง
ตำแหน่งของนักแสดงของบาร์เดย์ลิลลี่อยู่ฝั่งขวาติดกับเวที โต๊ะเหล้าสามตัวต่อกันเป็นโต๊ะยาว ทำให้มีพื้นที่ไม่น้อย
ตัวแทนการแสดงของบาร์เดย์ลิลลี่ไม่ได้มีลู่เฉินเพียงคนเดียว แต่ดูเหมือนสมาชิกวงดนตรีกับพี่น่ายังมาไม่ถึง นักร้องคนอื่นๆ ของบาร์ก็ยังมาไม่เยอะเท่าไร
หลังจากลู่เฉินวางกีตาร์ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก็เดินไปที่โซนวีไอพีชั้นสองกับหลี่เฟยอวี่
…………………………………………………………………………