Perfect Superstar – ตอนที่ 165 ซื้อแล้วแน่นอน!

Perfect Superstar

ตอนที่ 165 ซื้อแล้วแน่นอน!

ชุยเจิ้งจื้อทานอย่างเอร็ดอร่อยและนอนหลับสบาย

ครึ่งเดือนที่ผ่านมาเขาต้องวิ่งไปร่วมรายการหลายเมืองมาตลอด ขณะเดียวกันก็โปรโมทอัลบั้มของตัวเองไปด้วยตารางงานถูกจัดแน่นเอียดทุกวัน ร่างกายเหนื่อยล้าไปหมดแล้ว จึงต้องการพักผ่อนอย่างจริงจัง

ในที่สุดอัลบั้มชุดแรก ‘Pantera’ ได้ออกจำหน่ายบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ยอดขายดีมากอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นเขาจึงสามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจสักที เพิ่มพลังเพื่อรับมือกับงานที่จะมาต่อจากนี้

จนกระทั่งเวลาเก้าโมงเช้า เขาถึงได้ตื่นขึ้นมา

บิดขี้เกียจอย่างสบาย ชุยเจิ้งจื้อใส่เสื้อคลุมตัวนอกแล้วเดินไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำ

ตอนเช้าไม่มีการเรียกไปออกรายการ ดังนั้นเขาจึงไม่รีบร้อน

“พี่ครับ!”

หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้ว ชุยเจิ้งจื้อจึงนั่งอยู่หน้าโต๊ะหนังสือที่อยู่ข้างนอก แล้วเปิดคอมพิวเตอร์

ขณะเดียวกันก็เรียกพี่สาวของตัวเอง “ผมตื่นแล้ว อาหารเช้ากินอะไรเหรอครับ”

ขณะที่กำลังเปิดคอมพิวเตอร์

ชุยเจิ้งจื้ออยากจะดูยอดขายอัลบั้มแรกของตัวเองอย่างอดใจไม่ไหวแล้ว และจะได้เขียนบล็อกโพสต์สักสามอัน

เขาปลดกระดุมเสื้อออกสองเม็ดเผยแผ่นหน้าอก เตรียมถ่ายรูปสองรูปแล้วโพสต์ พร้อมใส่ประโยคซึ้งๆ เชื่อว่าบรรดาแฟนคลับจะต้องกรี๊ดแน่นอน จากนั้นก็ค่อยขอการสนับสนุนจากแฟนคลับ

แน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะบดขยี้คู่แข่งของตัวเอง จึงคิดว่าจะใช้ประโยคอะไรดี ทางที่ดีต้องตลกหน่อย

ใบหน้าของชุยเจิ้งจื้อเผยรอยยิ้มออกมา

เหล่าแฟนคลับเรียกรอยยิ้มที่เขาฝึกมานับพันครั้งว่า ‘รอยยิ้มเทพบุตร’ และคุ้นชินมานานแล้ว

แม้ว่าจะไม่มีใครอยู่ข้างกายก็ตาม

“มาแล้ว!”

ระบบคอมพิวเตอร์เพิ่งจะเข้าหน้าเดสก์ท็อป ชุยซิ่วอินก็ยกถาดอาหารเดินเข้ามา “ฉันเห็นนายนอนหลับลึกมากจึงไม่ปลุก สองสามวันที่ผ่านมาคงเหนื่อยมากสินะ ลองชิมโจ๊กเป๋าฮื้อที่นายชอบที่สุดดูสิ ใช้เวลาเคี่ยวตั้งสองชั่วโมง”

ชุยเจิ้งจื้อกำลังอารมณ์ดี แล้วยิ้มเอ่ยว่า “วางตรงนี้เถอะครับ ผมขอดูยอดขายก่อน…”

“เอ่อ…”

ชุยเจิ้งจื้อลังเลเล็กน้อย วางถาดอาหารลงแล้วเอ่ยว่า “ทานอาหารเช้าก่อนดีกว่า เดี๋ยวค่อยดูก็ได้”

ชุยเจิ้งจื้อมีความรู้สึกไวมาก จึงฟังออกว่าเสียงของพี่สาวมีความผิดปกติ เขาจึงขมวดคิ้วถามว่า “เป็นอะไรครับ”

ชุยซิ่วอินฝืนยิ้มออกมา แล้วตอบว่า “ไม่มีอะไร นายทานอาหารเช้าก่อน”

“ไม่!”

ชุยเจิ้งจื้อส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “พี่จะต้องเกิดเรื่องแน่นอน…”

เขาใจสั่น “เกี่ยวกับยอดขายอัลบั้มของผมใช่ไหม ยอดขายไม่ดีเหรอ”

ชุยซิ่วอินรีบพูดว่า “ไม่ใช่ ยอดขายของนายสูงกว่าลู่เฉิน!”

แบบนี้ผิดปกตินะ!

ชุยเจิ้งจื้อไม่ใช่คนโง่ ยอดขายอัลบั้ม ‘Pantera’ สูงว่าลู่เฉินมาก แต่ทำไมต้องเน้นย้ำเป็นพิเศษ!

สีหน้าของพี่สาวยิ่งผิดปกติ

เขาจึงไม่ซักถามต่อ จับเมาส์เปิดหน้าเบราว์เซอร์ ล็อกอินเข้าเว็บไซต์เฟยซวิ่นอย่างรวดเร็ว

ชุยเจิ้งจื้อเห็นชาร์ตยอดจำหน่ายหน้าแรกของเว็บไซต์เฟยซวิ่นเป็นสิ่งแรก และอัลบั้ม ‘Pantera’ ก็อยู่อันดับหนึ่งจริงๆ

ถึงแม้จะเพิ่งออกจำหน่ายเย็นวันอังคาร แต่อัลบั้มชุดแรกของเขาก็มียอดขายที่ดีมาก จนถึงตอนนี้ใช้เวลาทั้งหมดสิบสี่ชั่วโมง ก็มียอดขายถึง 47,852 ชุดแล้ว!

ระยะเวลาเพียงครึ่งวัน ก็ขายได้เกือบห้าหมื่นชุด เป็นที่ตกลงแน่นอนว่าขายดิบขายดี!

สำหรับในประเทศนั้น จำนวนการดาวน์โหลดของแท้ปริมาณมากในเฟยซวิ่นมิวสิค การดาวน์โหลดจ่ายเงินเกินหนึ่งแสนครั้งถือว่าเป็นที่นิยม หากเกินสามแสนถือว่าขายดิบขายดี วันแรกก็ทะลุห้าหมื่นชุด หากจะทะลุสามแสนของยอดขายทั้งหมดก็ไม่มีปัญหา

ใบหน้าของชุยเจิ้งจื้อเผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง

ไม่เห็นต้องลนลาน!

แต่วินาทีต่อมา รอยยิ้มของเขาพลันหยุดนิ่ง ราวกับถูกเสกให้กลายเป็นก้อนหินด้วยเวทมนต์

เพราะสิ่งที่ชุยเจิ้งจื้อเห็น คืออัลบั้มของลู่เฉิน ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ จัดอันดับอยู่ข้างล่างของตัวเอง ยอดขายคือ 40,970 ชุด!

ห่างกันแค่เจ็ดพันชุดเท่านั้น!

เป็นไปได้อย่างไร!

ชุยเจิ้งจื้อไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง อดยื่นมือขยี้ตาไม่ได้ เพราะสงสัยว่าจะเกิดภาพลวงตา

ในสายตาของเขา อัลบั้มชุดแรกของลู่เฉินสามารถขายได้สองหมื่นชุดก็ถือว่าเก่งแล้ว หนึ่งหมื่นถือว่าปกติมากตอนนี้เพิ่งจะสิบสี่ชั่วโมง จะเป็นไปได้อย่างไรที่ยอดขายทะลุสี่หมื่นจนเกือบใกล้ตัวเองขนาดนี้

ทันใดนั้นชุยเจิ้งจื้อก็นึกถึงปัญหาหนึ่ง แล้วพูดเสียงหนักว่า “บริษัทซื้อให้ผมไปเท่าไร”

การซื้อชาร์ตไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่อะไร เพื่อสร้างสถานการณ์ยอดขายยอดนิยม บริษัทเอเจนซี่จัดหานักแสดงมักจะทุ่มเงินลงไปเพื่อซื้อยอดขาย ก่อนที่อัลบั้มของนักร้องจะวางจำหน่ายล่วงหน้าสองสามวัน เพื่อเป็นค่าธรรมเนียมในการโฆษณาโปรโมท

เนื่องจากเป็นการจ่ายเงินจริง ดังนั้นเว็บไซต์เพลงแต่ละแห่งจึงไม่สนใจพฤติกรรมการซื้อชาร์ต กระทั่งสมาคมนักดนตรีจีนก็ยังยอมรับไปโดยปริยาย ซึ่งถือว่าเป็นกฎลับในวงการ

ถึงอย่างไรต้นทุนการซื้อชาร์ตก็สูงมาก แค่ยอดขายอัลบั้มเต็มชุดเดียวก็ต้องจ่ายห้าหยวนแล้ว การทุ่มเงินลงไปหนึ่งแสนถึงสองแสนหยวนเพื่อให้แผ่นเสียงมียอดขายเป็นที่นิยมจึงมากพอสมควร หากมากไปกว่านี้จะถูกคนมองว่าโง่ได้ง่ายๆ

การซื้อชาร์ตนั้นมีความพิถีพันเช่นกัน มีบางคนซื้อยอดขายวันแรกหรือเจ็ดสิบสองชั่วโมง โดยเฉลี่ยแล้วจะแบ่งเป็นเจ็ดหรือสิบวัน

ก็เหมือนกับโจวเป้ยและหลิงเสี่ยวเซียวที่วางจำหน่ายอัลบั้มเมื่อสองสามวันก่อน จะต้องซื้อชาร์ตแน่ๆ ไม่อย่างนั้นความสามารถโหลยโท่ยอย่างหลิงเสี่ยวเซียว จะสามารถขายได้ห้าหมื่นภายในสามวันเรอะ

ชุยเจิ้งจื้อเซ็นสัญญากับบริษัทเฉิงเถียนเอนเตอร์เทนเม้นท์ และเฉิงเถียนเอนเตอร์เทนเม้นท์ก็มีชื่อเสียงโด่งดังมากในวงการ แค่อัลบั้มชุดนี้ชุดเดียวก็ทุ่มเงินโฆษณาโปรโมทเกือบล้านแล้ว จ่ายเงินซื้อยอดขายเล็กๆ น้อยๆ จึงเป็นวิธีการที่ต้องใช้อย่างเลี่ยงไม่ได้

ชุยซิ่วอินเงียบ

ไฟโกรธกลุ่มหนึ่งพุ่งไปที่หน้าผากของชุยเจิ้งจื้ออย่างรวดเร็ว ตัดเส้นสติสัมปชัญญะเส้นหนึ่งให้ขาดสะบั้นทันที

เขายื่นมือตบโต๊ะอย่างแรง แล้วแผดเสียงพูดว่า “พูดมา!”

ชุยซิ่วอินสั่นสะท้านไปทั้งตัว แล้วเอ่ยเบาๆ ว่า “หนึ่งหมื่น”

หนึ่งหมื่น!

สีหน้าของชุยเจิ้งจื้อเปลี่ยนเป็นบูดเบี้ยวน่าเกลียดดูไม่ได้ทันที

หากลบจำนวนการซื้อชาร์ตหนึ่งหมื่นออกไป เช่นนั้นยอดขายที่แท้จริงของอัลบั้ม ‘Pantera’ ก็ยังไม่ถึงสี่หมื่น!

ถ้าหากลู่เฉินไม่ได้ซื้อล่ะก็ ก็หมายความว่าเขาพ่ายแพ้อีกฝ่ายตั้งแต่วันแรกแล้ว!

ชุยซิ่วอินเอ่ยว่า “ลู่เฉินจะต้องซื้อชาร์ตแน่นอน ไม่อย่างนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะสูงขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้!”

เป็นแบบนี้จริงเหรอ

ชุยซิ่วอินพูดโดยไม่มั่นใจเลยสักนิด

ลู่เฉินไม่เหมือนกับชุยเจิ้งจื้อ ลู่เฉินเป็นศิลปินอิสระ เบื้องหลังของเขาไม่ได้เซ็นสัญญากับบริษัทใดๆ เปิดสตูดิโอเล็กๆ เป็นของตัวเองเท่านั้น แม้แต่จ่ายเงินโปรโมทก็ยังเสียดาย จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะทุ่มเงินหนักมาซื้อชาร์ต

ถ้าหากเขาซื้อชาร์ตเพื่ออยากจะเอาชนะชุยเจิ้งจื้ออย่างเดียว อย่างนั้นจะต้องทุ่มเงินไปเท่าไร

ลู่เฉินโง่ขนาดนั้นเหรอ

ชุยเจิ้งจื้อเหมือนกับคนที่จับฟางเส้นสุดท้าย แล้วเอ่ยว่า “ถูกแล้ว เขาจะต้องซื้อชาร์ตแน่นอน!”

เป็นไปไม่ได้ที่ลู่เฉินจะไม่ซื้อชาร์ต และเป็นไปไม่ได้ที่ยอดขายจะแซงหน้าตัวเอง!

จะต้องซื้อแน่นอน!

“เปล่า!”

ในขณะเดียวกัน ลู่เฉินที่เพิ่งออกกำลังกายเสร็จที่สวนสาธารณะในศูนย์ความคิดสร้างสรรค์หลันเทียน ก็กำลังพูดสายกับอีกฝ่ายอย่างงงๆ “ซื้อชาร์ตอะไร มีหรือจะใช้เงินมากมายขนาดนั้นไปเผาเล่น”

คนที่โทรมาหาลู่เฉินคือเฉินเจี้ยนหาว เถ้าแก่ร้านบาร์คนนี้ถามเขาว่าได้จ่ายเงินซื้อยอดขายในเฟยซวิ่นมิวสิคหรือเปล่า เขาจึงให้คำตอบปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

น่าตลกจริงๆ!

ลู่เฉินกำลังคิดจะหาเงินก้อนจากอัลบั้มอยู่ อย่างน้อยก็ต้องได้ต้นทุนกลับมา แล้วเขาจะเสียแรงทุ่มเงินทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร

ถ้าเขามีเงินจ่ายโฆษณาโปรโมทได้จะดีแค่ไหน ผลลัพธ์น่าจะดีกว่าการซื้อชาร์ตถึงสิบเท่าไม่ใช่หรือ

เฉินเจี้ยนหาวหัวเราะคิกคักอยู่ในสายแล้วกล่าวว่า “ฉันเชื่อนาย แต่ก็มีบางคนไม่เชื่อ มีคนโทรมาถามฉันถึงที่แล้วดังนั้นฉันจึงต้องโทรมาถามนาย ในเมื่อไม่มีก็ไม่เป็นไร”

พูดจบ เขาก็กดวางสายไปเลย

“ฮัลโหล!”

ลู่เฉินอยากจะถามอีกสักประโยคก็ยังไม่ทัน จึงได้แต่ยัดโทรศัพท์กลับไปในกระเป๋ากางเกงด้วยความขุ่นเคือง

แต่รู้สึกว่าเหมือนจะมีเรื่องดี!

เขากลั้นหัวเราะไม่อยู่ ก้าวขาออกไปแล้ววิ่งไปที่อาคารใหญ่ที่เป็นที่ตั้งของสตูดิโอ

กลับมาถึงสตูดิโอ ลู่เฉินเพิ่งจะก้าวเข้าประตู ก็เห็นสมาชิกทุกคนของสตูดิโอแล้ว รวมทั้งลู่ซีพี่สาวแล้วก็หลี่มู่ไป๋ที่ยืนเบียดกันเป็นแถว กำลังยิ้มหวานมองมาที่ตัวเอง

ลู่เฉินตะลึงงันทันที “พวกคุณเป็นอะไร”

ปังๆๆ!

วินาทีต่อมาก็เกิดเสียงดังระงมสามครั้งติดต่อกัน สีสเปรย์สามอันถูกหลี่เฟยอวี่ เฉินเสียงและหลี่มู่ไป๋เปิดออกพร้อมกัน แล้วแถบสีสันมีชีวิตชีวาก็ลอยไปบนเพดาน ปลิวว่อนไปทั่วแล้วลอยลงมา

ลอยติดไปที่ศีรษะและตัวของลู่เฉิน

ลู่เฉินยิ้มพูดว่า “เกิดเรื่องอะไรเหรอ”

หลี่มู่ไป๋พุ่งไปข้างหน้า กอดเขายกใหญ่และยิ้มกล่าวว่า “พี่เฉิน ขอแสดงความยินดีที่อัลบั้มของพี่ขายดิบขายดี!”

ลู่เฉินยิ้ม “ขายดีมากไหม”

เมื่อคืนหลังจากที่วางจำหน่ายอัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ ไปแล้ว เขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องยอดขายอีกเลย ควรทำอะไรแบบไหนก็ไปทำแบบนั้น เข้าไปที่ห้องถ่ายทอดสดใน ‘จิงอวี๋ทีวี’ กับบล็อกเพื่อดึงความสนใจให้ตัวเอง

รวมไปถึงการตื่นมาตอนเช้า ลู่เฉินก็ไม่ได้เปิดคอมพิวเตอร์ แต่กลับไปวิ่งออกกำลังกายข้างนอก

สภาพจิตใจของลู่เฉินดีมาก ไม่ว่ายอดขายจะสูงหรือต่ำ ไม่ว่าสุดท้ายจะได้ต้นทุนกลับคืนมาหรือไม่ เขาก็ไม่ได้สนใจเป็นพิเศษ และยิ่งไม่เดือดร้อนกังวลเพราะเหตุนี้

ไม่ว่าจะชนะหรือพ่ายแพ้ก็ไม่เป็นไร เขาได้ใช้ความพยายามของตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว ดังนั้นจึงไม่รู้สึกละอายใจ!

แต่ตอนนี้มีการเซอร์ไพรส์แสดงความยินดี ลู่เฉินจึงดีใจเป็นอย่างมาก

ใครบ้างไม่ชอบเงินเยอะๆ!

ลู่ซียิ้มแล้วเอ่ยว่า “ทุกคนมารอแกนานแล้ว รอแกกลับมาแล้วค่อยเฉลิมฉลองกัน เฟยอวี่ตั้งใจวิ่งไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตซื้อสีสเปรย์สองสามกระป๋องมาโดยเฉพาะ เพื่อเริ่มต้นงานที่ดีให้กับแก!”

ลู่เฉินยิ้มพูด “ขอบใจทุกคนนะ”

ตอนแรกที่ได้รับโทรศัพท์ซักถามจากเฉินเจี้ยนหาว เขาก็เริ่มเดา และตอนนี้เหมือนได้รับการยืนยันแล้ว

อัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ ขายดีไม่เลว!

“ไม่ใช่แค่ดีเท่านั้น แต่ขายดิบขายดีอีกต่างหาก!”

หลี่มู่ไป๋ลากเขาไปที่หน้าคอมพิวเตอร์ด้วยความดีใจ ชี้ไปที่หน้าจอแล้วพูดว่า “ดูสิ!”

ลู่เฉินมองไปที่ชาร์ตการขายประจำสัปดาห์ของเฟยซวิ่นมิวสิคทันที อัลบั้มชุดแรกของตัวเองจัดอยู่ข้างล่างชุยเจิ้งจื้อเท่านั้น ตอนนี้ยอดขายอยู่ที่ 41,137 ชุด!

สี่หมื่นกว่าชุด!

ไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงก็ขายได้เยอะขนาดนี้ หากจะพูดว่าขายดิบขายดีก็ไม่ผิดเลยสักนิด

เนื่องจากผลงานแบบนี้ มีโอกาสทำยอดขายทะลุสามแสนได้จริงๆ!

และถ้าหากขายออกไปได้สามแสนจริงๆ เช่นนั้นยอดขายทั้งหมดก็จะมากถึงสองล้านสี่แสนหยวน ส่วนแบ่งห้าสิบเปอร์เซ็นต์คือหนึ่งล้านสองแสนหยวน หักลบภาษีเงินได้จากการขายและต้นทุนการทำโฆษณาอีกสิบเปอร์เซ็นต์ อย่างน้อยก็จะทำกำไรได้หกแสนหยวน!

ดูแล้วเหมือนจะไม่เยอะมาก แต่ควรทราบว่านักร้องส่วนใหญ่ที่ขายอัลบั้มบนอินเทอร์เน็ต สามารถทำกำไรจากการโฆษณากลับคืนมาได้ก็ถือว่าสำเร็จแล้ว

แม้ว่าจะเป็นศิลปินดังอย่างถานหงและเฉินเฟยเอ๋อร์ อัลบั้มของพวกเขาจะต้องขายดีเป็นพลุแตก แต่ต้นทุนในการผลิตและโฆษณาโปรโมทก็สูงมากเช่นกัน จะอาศัยกำไรส่วนนี้เพื่อเรียกต้นทุนกลับคืนมาไม่ได้

ยอดขายออนไลน์ทำกำไรได้หลายแสน ถือว่ามหัศจรรย์แล้ว!

เพราะฉะนั้นจึงสมเหตุสมผลที่จะเฉลิมฉลอง!

ลู่เฉินหายใจเข้าลึกๆ แล้วปล่อยให้อารมณ์ตื่นเต้นดีใจปกคลุมไปทั่วร่างกายของตัวเอง

ทุ่มเทไปตั้งมากมาย ในที่สุดก็ได้รับผลตอบแทนกลับมาสักที

…………………………………………………………………………

ไอคอนเหรียญทอง

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Status: Ongoing
ชีวิตของลู่เฉินดั่งมรสุมรุมเร้า ทว่าสวรรค์ยังคงเมตตาคนสู้ชีวิต ความทรงจำและความสามารถจากในความฝัน จะช่วยปูทางให้เขากลายเป็น Perfect Superstar เอง!ลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปีจำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาลวันหนึ่งเขาฝัน…เป็นความฝันที่ยาวนานมากโลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกันนักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระเขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝันเมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมาเป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท