ตอนที่ 193 คุณคิดว่าคุณเป็นใคร
ลู่เฉินไม่เคยวิ่งวิบากจริงๆ
แต่ผลของการฝึกออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรือนร่างของเขายิ่งสมบูรณ์แบบ
ความเร็วในการวิ่งของเขา ความยืดหยุ่นและปฏิกิริยาความว่องไวสูงขึ้น เมื่อก่อนท่าทางที่เขาทำไม่ได้ ตอนนี้ทำได้อย่างสบาย รับมือกับการวิ่งวิบากได้โดยไม่กดดัน
จากความทรงจำของโม่หรานทำให้การถ่ายทำของลู่เฉินรู้สึกเหมือนกับได้ซักซ้อมมาเป็นพันเป็นหมื่นครั้งแล้ว ทำได้ถึงระดับมาตรฐานที่ต้องการในการถ่ายทำโฆษณา
ผู้กำกับเพิ่งบอกไป ในเนื้อหาเดียวกับที่บอกหวางไห่ ในสมองของลู่เฉินได้สร้างรูปแบบขึ้นมา เขาเพียงแต่เคลื่อนไหวตามรูปแบบนั้น
เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดมาก
แค่คิด เขาก็ทำได้!
ในสายตาของคนอื่น น่าตื่นตาตื่นใจราวกับเขาเป็นเทวดา
เสียงชื่นชมดังจากรอบข้าง กลุ่มคนที่มุงดูอยู่มีชาวต่างชาติที่ยกนิ้วโป้งให้ลู่เฉิน ตะโกนว่า “Good!”
การวิ่งวิบากเป็นกีฬาของต่างประเทศที่เข้ามาสู่ประเทศจีน คนต่างชาติรู้จักมากกว่า พวกเขายังชมเชยการแสดงที่น่าตื่นตาของลู่เฉิน หลายคนยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูป
วันนี้เป็นวันหยุดเทศกาลวันชาติจีนวันที่สอง โรงถ่ายหนังจินหลิงมีนักท่องเที่ยวมากมาย หลายคนคิดว่าลู่เฉินกำลังถ่ายภาพยนตร์ คนทั้งด้านนอกด้านในมุงดูกันเป็นร้อย ทำให้ผู้ที่ดูแลกองถ่ายต้องทำงานกันอย่างหนัก
การมุงดูกองถ่ายละครภาพยนตร์เป็นจุดเด่นของการท่องเที่ยว ถ้าโชคดีจะได้พบกับนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์มาร่วมแสดง และนักท่องเที่ยวยังมีโอกาสได้เป็นฉากหลังหรือนักแสดงจำเป็นได้ด้วย
บางคนจำลู่เฉินได้ ร้องเรียกชื่อเขาขึ้นมา
อืม เป็นผู้หญิง
ลู่เฉินยิ้มโบกมือให้เธอ แล้วถ่ายงานของตัวเองต่อไป
การแสดงที่ดีเหนือความคาดหมายของลู่เฉิน ทำให้ผู้กำกับจงประหลาดใจและดีใจ เขาอาศัยจังหวะที่ดี เร่งให้ลู่เฉินเข้าฉากถ่ายจนจบ
สิ่งที่ทำให้ผู้กำกับพูดไม่ออกคือ นอกจากฉากออกกำลังกาย ลู่เฉินแสดงในฉากธรรมดาทั่วไปได้โดยไร้ที่ติ เช่นฉากที่วิ่งลงบันไดตามแฟนสาว ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงอารมณ์ร้อนรุ่มกระวนกระวายใจได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีอาการแข็งเกร็งแบบดาราหน้าใหม่เลย
ผู้กำกับจงรู้ว่าลู่เฉินเป็นนักร้องที่เยี่ยมยอด ถ้าคนที่ไม่รู้อาจคิดว่าลู่เฉินจบการศึกษาด้านการภาพยนตร์มา!
นี่ทำให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างรวดเร็ว ฉากส่วนใหญ่ถ่ายเสร็จในครั้งเดียว
การถ่ายโฆษณาไม่เหมือนกับการถ่ายภาพยนตร์หรือละครโทรทัศน์ เงื่อนไขไม่ได้สูงนัก แต่ผู้กำกับจงรู้สึกว่าลู่เฉินสามารถเข้าร่วมการถ่ายภาพยนตร์ได้เลย ด้วยรูปลักษณ์ของเขาและความสามารถทางการแสดงที่น่าแปลกใจ จะเป็นนักแสดงไอดอลได้ไม่ยากเย็น
แต่ผู้กำกับจงไม่ได้สบายใจกับเรื่องนี้นัก
เพราะพอฉากของลู่เฉินถ่ายเสร็จ นางเอกของโฆษณายังมาไม่ถึง!
มองนาฬิกาเวลาปาเข้าไปใกล้เที่ยงแล้ว ยังไม่เห็นเงาของซุนซาน ฉากร่วมของพระเอกกับนางเอกถ่ายไม่ได้ อารมณ์ตื่นเต้นดีใจของผู้กำกับจงเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวทันใด
ตามแผนเดิมของเขาคือถ่ายให้เสร็จภายในหนึ่งวัน เตรียมการทุกอย่างพร้อมสรรพ เช่นพนักงานของทีมถ่ายทำที่ครบถ้วน ฉากและกลุ่มนักแสดงเข้าประจำที่หมดแล้ว
คิดไม่ถึงว่านางเอกจะเบี้ยว จากเดิมน่าจะมาถึงก่อน 9 โมงเช้า ตอนนี้ 11 โมงกว่าแล้ว!
ผู้กำกับจงด่าพ่อล่อแม่ เขาหันไปต่อว่าผู้ช่วย
ผู้ช่วยที่น่าสงสาร เขาโทรศัพท์ไปเร่งหลายรอบแล้ว ฝ่ายนั้นบอกแต่ว่าใกล้ถึงแล้ว
สุดท้ายเธอไม่มาโทษเขาได้เหรอ?
ซุนซานมาถึงกองถ่ายก็เที่ยงแล้ว สายไปสามชั่วโมงเต็ม
การมาของดาราสาวระดับกลางคนนี้ไม่ใช่ย่อย ยิ่งใหญ่กว่าลู่เฉินเป็นไหนๆ
เธอนั่งรถลินคอล์นคันยาวสีขาว ประกบท้ายด้วยรถเบนซ์สีดำ
ยังไม่มีใครก้าวลงจากรถคันนี้ รถอีกคันกลับมีคนลงมาเตรียมปรนนิบัติแล้ว รู้สึกว่าเธอดูยิ่งใหญ่กว่าดาราซูเปอร์สตาร์ตัวจริงเสียอีก ช่างเป็นที่น่าจับตามองของคนที่เดินผ่านไปมา
นักท่องเที่ยวบางคนคิดว่ามีดาราใหญ่มา อยากจะล้อมเข้ามาถ่ายรูป แต่ถูกคนติดตามของซุนซานกันไว้
ดาราสาววัยรุ่นสวมเสื้อผ้าทันสมัย กระโปรง รองเท้ากระเป๋าและเครื่องประดับล้วนเป็นของแบรนด์เนม
ตอนที่ลู่เฉินเห็นรูปร่างของเธอ ไม่ได้ดีเหมือนรูปในอินเทอร์เน็ตเลย
ผู้กำกับจงรู้สึกหนักอึ้ง รีบนำลู่เฉินมาแนะนำตัว “นี่คือคุณลู่เฉิน…”
ลู่เฉินยิ้มเล็กน้อย “คุณซุนซาน สวัสดีครับ”
เขาไม่ได้ยื่นมือออกไปให้เธอจับ เพราะตามมารยาท สถานการณ์แบบนี้ควรให้ฝ่ายหญิงยื่นมือออกมาก่อน
แต่ซุนซานไม่ได้คิดจะจับมือกับลู่เฉินอยู่แล้ว เธอยื่นมือมาถอดแว่นกันแดดออก ขมวดคิ้วถามว่า “นี่มันอะไรกัน ทำไมถึงหาตัวพระเอกที่สูงขนาดนี้มา โฆษณาชุดนี้จะถ่ายต่อยังไง”
ซุนซานความสูงยังไม่ถึง 160 เซนติเมตร แม้สวมรองเท้าส้นสูงแล้วยังต่างจากลู่เฉินมาก
เวลาเธอมองลู่เฉินต้องเงยหน้า ไม่สบอารมณ์ยิ่ง!
ตัวสูงเกินไปเหรอ
มุมปากของลู่เฉินกระตุก ไม่รู้จะพูดอะไร…นี่มันเหตุผลไร้สาระอะไรของเธอ!
ผู้กำกับจงตกตะลึง รีบอธิบาย “ไม่เป็นไรหรอกครับ พวกเราถ่ายโฆษณาเฉยๆ คุณสองคนไม่ต้องยืนเทียบกัน ดังนั้นไม่มีผลอะไร”
เขารู้ว่าดาราให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์มาก เช่นคนที่ตัวเตี้ยมักจะไม่ยืนถ่ายรูปคู่กับคนตัวสูง คนท้วมจะไม่ยืนคู่กับคนผอม คนผอมกลับชอบไปยืนคู่กับคนท้วม…
แต่ตอนนี้เป็นการถ่ายโฆษณาเท่านั้น กล้องถ่ายทั้งสองพร้อมกันน้อยมาก ถ้ามัวแต่กังวลเรื่องปัญหาความสูง ก็ยังมีหลายวิธีใช้แก้ปัญหาได้
แต่ซุนซานกลับงี่เง่าอยู่นอกเหนือจากการควบคุมของผู้กำกับจง
“ไม่ได้ ไม่ได้ ฉันอยากเปลี่ยนคู่ ไม่อย่างนั้นโฆษณาชุดนี้ฉันไม่ถ่าย!”
พูดไป เธอใช้สายตาหยิ่งยะโสมองลู่เฉิน ราวกับอยากให้ลู่เฉินรู้สึกไม่ดีแล้วถอนตัวไปเอง!
“คู่ของฉัน หน้าตาดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องสง่างามเทียบเท่ากับฉันด้วย!”
ตั้งใจหาเรื่องกันชัดๆ!
ความรู้สึกอันเฉียบคมของลู่เฉินบอกว่าดาราสาวคนนี้ไม่ปกติ
ทั้งสองไม่เคยเจอกันมาก่อน ตามหลักแล้วไม่ควรจะเคืองแค้นกัน แต่โลกนี้มีเรื่องมากมายที่ยากจะอธิบาย ไม่แน่ว่าซุนซานอาจไม่ชอบหน้าเขาเป็นทุนเดิมก็ได้
ลู่เฉินไม่ทะเลาะกับเธอ แบบนั้นมันดูต่ำเกินไป
เขาหันหลังกลับเดินออกไป…เอาเป็นว่าคนที่ต้องเดือดร้อนไม่ใช่เขาแน่
แน่นอนว่าลู่เฉินไม่ได้ล้มเลิก เขาแค่ขี้เกียจสนใจซุนซานเท่านั้นเอง
จำเป็นด้วยเหรอ!
ผู้กำกับจงเริ่มร้อนใจ ร้อนรนไปหมดแล้ว
เขาอยากคุยกับซุนซานด้วยเหตุผล สุดท้ายถูกผู้จัดการของฝ่ายหลังขัดขวางไว้
ทั้งสองแข็งข้อต่อกัน
ลู่เฉินให้พนักงานยกเก้าอี้มาให้เขานั่ง ไม่เดือดเนื้อร้อนใจควักมือถือออกมาอ่านบล็อก
ลู่เฉินนั่งอย่างสงบนิ่ง เพราะสัญญาพรีเซนเตอร์เซ็นไปนานแล้ว เงินมัดจำก็ได้โอนเข้าบัญชีของออฟฟิศเขาเรียบร้อย เขาไม่มีทางถูกยกเลิกสัญญา และไม่ได้เป็นฝ่ายผิด แล้วจะต้องกังวลอะไร?
หลังจากเลื่อนบล็อกดูไปสิบกว่านาที หลี่เฟยอวี่วิ่งเข้ามาแอบกระซิบบอกเขาว่า
ที่แท้ซุนซาน มีความสัมพันธ์กับรองประธานของเซินฉีคนหนึ่ง ได้เซ็นสัญญาเป็นพรีเซนเตอร์ไว้อยู่ก่อนแล้ว
เธอเคยยื่นข้อเสนอ พระเอกโฆษณาเธอจะเป็นคนเลือกเอง
สุดท้ายไม่ได้อย่างที่หวัง
เซินฉีเซ็นสัญญากับลู่เฉินผ่านทางบริษัทโฆษณาอิ๋นหม่า
ข่าวของหลี่เฟยอวี่ผู้ช่วยของผู้กำกับจงแอบบอกมา ทุกคนกำลังวิจารณ์เรื่องนี้กันอยู่!
ลู่เฉินเข้าใจแล้ว
รู้อยู่แล้วว่าเธอต้องมีเบื้องหลัง น่าจะเป็นเพราะตัวเขาเองมาขวางทางเธอ เธอสบโอกาสจึงก่อเรื่อง
เมื่อครู่เขาไม่ได้ตอบโต้กับฝ่ายนั้นเป็นวิธีที่ฉลาดที่สุดแล้ว ไม่เช่นนั้นหากทะเลาะกันอาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามจับจุดอ่อนได้ ด้วยอำนาจเบื้องหลังของเธอ เขาไม่อาจลบล้างได้!
แค่การถ่ายโฆษณา ทำไมต้องทำให้ยุ่งยากซับซ้อนด้วย?
ลู่เฉินมองผู้กำกับที่กำลังตกที่นั่งลำบาก เขาได้แต่ส่ายหัวรู้สึกเหนื่อยหน่าย
วงการบันเทิงช่างซับซ้อนเสียจริง!
ตอนนั้นเอง เขาเห็นรถบีเอ็มสีบรอนซ์เงินเข้ามาจอดที่ข้างทาง
ประตูเปิดออก หญิงสาวสวมชุดกระโปรงยาวสีขาว กับแว่นตากันแดดอันใหญ่ลงมาจากรถ มองซ้ายมองขวา
ลู่เฉินชะงัก
แม้ใบหน้าจะถูกแว่นกันแดดปิดบังไปครึ่งหนึ่ง แต่เขาจำเธอได้อย่างง่ายดาย
ลู่เฉินรีบลุกขึ้นเดินไปหาทันที
หญิงสาวชุดสีขาวเห็นลู่เฉิน ยิ้มหวานออกมา ก้าวเท้าเดินเข้าไปหาเขา
ซุนซานสังเกตเห็นเช่นกัน เธอบุ้ยปากบอกผู้กำกับจงว่า “คุณไม่ต้องพูดแล้ว เอาเป็นว่าถ้าลู่เฉินอะไรนี่เป็นพระเอกฉันจะไม่ถ่าย ถ้าคุณรู้สึกว่าเสียเวลาก็หาคนอื่นมาแทนก็แล้วกัน!”
“นี่ไม่ใช่มาอีกคนแล้วเหรอไง ฉันเห็นว่าเธอเหมาะมาก”
ใบหน้าของเธอเผยรอยยิ้มประชดประชัน ท่าทางเอาเรื่องไม่ยอมความ
ผู้กำกับจงเกือบโมโหซุนซานตาย สายตาหันไปมองหญิงสาวชุดกระโปรงขาวคนนั้น
เขารู้ดีถึงเบื้องหลังของซุนซาน รู้ว่าเหตุผลที่ฝ่ายนั้นไม่เกรงกลัว ไฟโทสะในใจได้แต่กดข่มไว้
ไม่เช่นนั้นหากสูญเสียลูกค้ารายใหญ่อย่างเซินฉีไป ก็เหมือนกับทุบหม้อข้าวตัวเอง
ผู้กำกับจงรู้ดีว่า ตอนแรกที่ทางเซินฉีเลือกลู่เฉิน ไม่ใช่คนที่ซุนซานเสนอ จะต้องเกี่ยวข้องกับการเมืองภายในของผู้บริหารบริษัทเซินฉี
สุดท้ายตอนนี้คนที่โชคร้ายที่สุดคือเขาเอง!
ถ้าเป็นไปได้ ผู้กำกับจงอยากตบหน้าซุนซานผู้เหิมเกริมที่สุด เขาไม่กลัวว่าจะหาคนมาแสดงแทนไม่ได้ ต่อให้ต้องเป็นหญิงสาวชุดกระโปรงขาวที่มาหาลู่เฉินคนนั้นก็ตาม…
ดูเหมาะกว่าซุนซานเสียอีก!
รูปร่างของเธอดีมาก พอเหมาะกับลู่เฉิน!
ตอนที่ซุนซานพูดเธอไม่ได้กดเสียงให้เบาลง ลู่เฉินกับหญิงสาวคนนั้นได้ยินอย่างชัดเจน
หญิงสาวชุดกระโปรงขาวหยุดเดิน มองซุนซานยิ้มๆ ถามว่า “ให้ฉันถ่ายแทน? ก็ได้นะ”
ซุนซานยิ้มเยาะ พูดประชดเสียงดัง “ให้คุณถ่าย? คุณคิดว่าคุณเป็นใคร”
รูปร่างของหญิงสาวชุดกระโปรงขาวดีมาก ขายาวเรียวสวย ผิวขาวเนียนเหมือนดอกบัว ใบหน้าถูกแว่นกันแดดบังไว้ ยังมองออกว่าเป็นสาวงามคนหนึ่ง
ซุนซานไม่ยอมรับว่าเธออิจฉาตาร้อน…ตัวเธอเองก็เป็นดารานะ!
หญิงสาวชุดกระโปรงขาวถอดแว่นกันแดดออก ยิ้มถามลู่เฉินว่า “ฉันถ่ายไม่ได้เหรอ”
ลู่เฉินยิ้มแห้ง
เห็นใบหน้าที่แท้จริงของหญิงสาวแล้ว ซุนซานตะลึงค้าง นิ่งอึ้งไปเลย
ไม่เพียงแต่เธอ ทั้งผู้กำกับจง ผู้ช่วยและคนอื่นๆ ต่างตกตะลึงเช่นกัน!
ราวกับทุกคนถูกสาปให้เป็นหิน!
……………………………………………………………………………………………