ตอนที่ 258 แปลกพิลึก
หลังจากเข้าสู่ศตวรรษใหม่ อุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ภายในประเทศเติบโตอย่างพุ่งพรวด กลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
เมื่อถึงปี 2014 ละครโทรทัศน์ที่ผลิตเองในประเทศรวมทั้งละครร่วมผลิต มีปริมาณเกินสองหมื่นตอนแล้ว ถือเป็นตลาดที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดเป็นอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งคนปกติทั่วไปยากที่จะจินตนาการได้
และละครโทรทัศน์ไม่ว่าจะเป็นการผลิตเองหรือซื้อรายการละครโทรทัศน์มา การแทรกโฆษณาในตอนต้น ตอนท้าย หรือว่าตอนกลางคือการทำกำไรเรียกต้นทุนกลับคืนมาทั้งสิ้น เรตติ้งผู้ชมคือเกณฑ์มาตรฐานสำคัญที่แสดงมูลค่าของโฆษณา การสำรวจเรตติ้งผู้ชมจึงกลายเป็นกระบวนการที่ขาดไม่ได้ไปโดยปริยาย
ในอดีตช่วงที่ผลประโยชน์จากโฆษณาทางโทรทัศน์เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ มีองค์กรตรวจสอบเรตติ้งผู้ชมรายการโทรทัศน์เพิ่มขึ้นมาสิบกว่าแห่ง เนื่องจากไม่มีมาตรฐานที่แน่นอน บวกกับการดำเนินการอย่างลับๆ และการซื้อขายของคนวงในที่ผุดขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย เพราะฉะนั้นจึงเป็นเหตุให้ระบบเกิดความยุ่งเหยิง
บางองค์กรไม่มีแม้กระทั่งคุณสมบัติใดๆ แต่ก็ยังกล้าจัดอันดับเรตติ้งออกมาอย่างเปิดเผย
ความโกลาหลของตลาดทำให้ประเทศต้องออกหน้าเข้ามาแทรกแซงอย่างช่วยไม่ได้ โดยให้กรมวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อตั้งบริษัทนิวฮอไรซอน อาศัยข้อได้เปรียบจากแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่ง รับผิดชอบการสำรวจตรวจสอบเรตติ้งผู้ชมของรายการโทรทัศน์โดยเฉพาะ
ตอนนี้บริษัทนิวฮอไรซอนเป็นหน่วยงานตรวจสอบบุคคลที่สามของประเทศเพียงหนึ่งเดียว ข้อมูลการตรวจสอบของมันก็คือตัวชี้วัดของอุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ภายในประเทศ จึงไม่ต้องสงสัยถึงความมีอำนาจและความเป็นจริงของข้อมูลดังกล่าวเลย
ละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ออกอากาศครั้งแรกทางสถานีโทรทัศน์ไห่จินและเว็บไซต์เฟยซวิ่นวิดีโอ ตอนแรกของละครเรื่องนี้มียอดชมออนไลน์ในเฟยซวิ่นวิดีโอหนึ่งล้านสี่แสนกว่าๆ ทิ้งท้ายตามหลังละครที่เฟยซวิ่นผลิตเองเรื่อง ‘ท่านประธานที่รัก’ ที่มียอดชมออนไลน์มากกว่าเจ็ดล้านขึ้นไป
แต่การเปรียบเทียบข้อมูลแบบนี้ แท้จริงแล้วมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในวงการน้อยมาก
เหตุผลนั้นง่ายมาก แพลตฟอร์มนี้เป็นของเฟยซวิ่นวิดีโอ ขอแค่เขายอม อย่าว่าแต่เจ็ดล้านเลย ต่อให้ยอดชมออนไลน์เจ็ดสิบล้านก็สามารถทำได้สบายๆ
ถึงแม้เกียรติศักดิ์ของแพลตฟอร์มขนาดใหญ่จะค่อนข้างสูง แต่การเพิ่มยอดชมออนไลน์ให้ตัวเองก็เป็นเรื่องธรรมดามาก
ถ้าหากละครต้นทุนต่ำที่ซื้อเข้ามาสามารถเบียดละครต้นทุนสูงที่ผลิตเองได้ เช่นนั้นก็คงเป็นเรื่องตลกจริงๆ!
ดังนั้นถึงแม้จะเห็นยอดชมออนไลน์ แต่กลับเชื่อไม่ได้ทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นเฉินเฟยเอ๋อร์หรือว่าลู่เฉิน รวมทั้งกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์ส ก็ไม่มีใครเชื่อทั้งสิ้น
เมื่อขายลิขสิทธิ์เว็บคาสต์ออกไปแล้ว ยอดชมสูงต่ำจึงไม่เกี่ยวข้องกับรายได้ของทั้งสามฝ่ายอีกต่อไป เฟยซวิ่นวิดีโอกับกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สไม่ได้เซ็นสัญญาการพนัน ถึงแม้จะมียอดทะลุร้อยล้านในวันแรกก็ไม่ได้กำไรสักแดงเดียว
หากจะพูดให้หนักกว่านี้ ผลงานสูงต่ำมีผลกระทบต่อการถ่ายทำละครใหม่เรื่องถัดไป
แต่การจัดอันดับเรตติ้งที่ประกาศโดยบริษัทนิวฮอไรซอนนั้นเป็นคนละเรื่องกัน เรตติ้งผู้ชมสูงต่ำนี้มีผลกระทบเป็นอย่างมาก และเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของทุกคน
0.22%!
ลู่เฉินตัดสินใจก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์โทรทัศน์ โดยเริ่มจากละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เป็นพื้นฐาน เขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อความหมายของเรตติ้งผู้ชมแล้ว และค้นหาข้อมูลมาดูไม่น้อย
กล่าวโดยทั่วไป ละครใหม่เรื่องหนึ่งที่ไม่มีดาราดังร่วมทัพ ไม่มีเงินลงทุนก้อนโตสร้างกระแส เรตติ้งผู้ชมในการออกอากาศครั้งแรกสามารถบรรลุถึง 0.1% ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว มีเงินทุนให้ดำรงอยู่ต่อไป
ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เรื่องนี้ เฉินเฟยเอ๋อร์คือคนเดียวที่สามารถโอ้อวดได้ ความเป็นตัวแม่ของเธอช่วยประหยัดค่าโฆษณาของละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ไปได้เยอะมาก
แต่เฉินเฟยเอ๋อร์ก็เป็นแค่ราชินีนักร้อง ไม่ใช่ราชินีภาพยนตร์ เธอได้รับความนิยมสูงในอินเทอร์เน็ต แต่พลังดึงดูดในหน้าจอโทรทัศน์กลับด้อยกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
เพราะฉะนั้นตอนแรกไม่ว่าจะเป็นสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งหรือสถานีโทรทัศน์เจ้อตง จึงเสนอราคาของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ไม่สูงนัก…ละครใหม่คนหน้าใหม่สามารถขึ้นเวทีใหญ่ได้ถือว่าโชคดีมาก แล้วยังจะต้องการอะไรอีก
รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ไห่จินที่เจรจาสำเร็จในตอนหลัง ก็เสนอราคาไม่สูงมากเช่นกัน ทว่าได้เพิ่มสัญญาการพนันเข้าไป
และในสัญญาฉบับนี้จุดเริ่มต้นของเงินรางวัลก็คือเรตติ้งผู้ชมเฉลี่ยทั่วประเทศ 0.25%!
หากจะพูดแบบไม่เกรงใจ สถานีโทรทัศน์ไห่จินก็ไม่คิดว่าละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จะสามารถบรรลุความต้องการเช่นนี้ได้
แต่สถานีโทรทัศน์ไห่จินและแผนกภายในของบริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สก็ได้คาดเดาเรตติ้งของละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เอาไว้ว่า การออกอากาศครั้งแรกน่าจะอยู่ที่ 0.15%-0.18% ยอดเรตติ้งผู้ชมเฉลี่ยทั่วประเทศทั้งหมดยี่สิบตอนหากทำได้ถึง 0.18%-0.20% ก็ถือว่าชนะแล้ว
เรตติ้งผู้ชมรอบแรกที่เพิ่งประกาศออกมาสดๆ ร้อนๆ ถือว่าเกินความคาดหมายของคนส่วนใหญ่จริงๆ
หากยึดตามข้อมูลที่ประกาศใหม่ของบริษัทนิวฮอไรซอน ละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ อาศัยเรตติ้งผู้ชม 0.22% ถูกจัดอยู่อันดับที่หกของละครโทรทัศน์ประเภทเดียวกัน และถูกจัดเป็นอันดับที่สิบเอ็ดของละครโทรทัศน์ที่ผลิตภายในประเทศที่ออกอากาศในวันเดียวกัน
ถือว่าเป็นที่สะดุดตามาก!
แน่นอนว่าลู่เฉินดีใจมาก รู้สึกดีใจกับเรื่องที่ไม่คาดฝัน
จะว่าไปช่วงนี้เขามีแรงกดดันสูงมาก
ละครเรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้ ลู่เฉินทุ่มเทกายใจเป็นอย่างมาก และยังเป็นตัวสำคัญที่นำพาเขาก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์โทรทัศน์ ถ้าหากก้าวเท้าผิด เช่นนั้นก็จะได้รับการโจมตีที่หนักหน่วงอย่างไม่ต้องสงสัย
ลู่เฉินไม่กลัวความพ่ายแพ้ เขายังหนุ่มและมีเงินทุนมากพอ แต่เขาไม่อยากถูกคนอื่นหัวเราะเยาะมากกว่า
สิ่งที่น่าเสียดายก็คือเรตติ้งผู้ชมตอนแรก กว่าเฉินเฟยเฟยเอ๋อร์จะปรากฏตัวก็อยู่ตอนที่สาม ไม่อย่างนั้นคงจะตบหน้าจิ่งเหยาได้แน่นอน…ยอดชมออนไลน์คืออะไร เอามาเทียบกับเรตติ้งผู้ชมให้ได้ก่อนแล้วค่อยได้ใจ!
สำหรับมาตรฐานการประเมินตำแหน่งของศิลปินดาราในวงการ รายได้จากการจำหน่ายตั๋วภาพยนตร์กับเรตติ้งผู้ชมคือตัวชี้วัดที่สำคัญ
ยอดชมออนไลน์คืออะไร
เฉินเฟยเอ๋อร์เห็นเขามีสีหน้าปลื้มใจ จึงอดสาดน้ำเย็นใส่ไม่ได้ “นายอย่าเพิ่งดีใจเร็วไปนัก ให้ผ่านสัปดาห์หน้าไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
ค่าใช้จ่ายในการโปรโมตละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ช่วงก่อนหน้านี้ไม่เยอะมาก แต่กลับมีประสิทธิผลที่ไม่เลว โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมคู่รักคัฟเวอร์เพลงโชว์ในบล็อกอย่างยิ่งใหญ่ของทางสถานีโทรทัศน์ไห่จิน สามารถดึงดูดความสนใจได้มากมาย
เพราะฉะนั้นเรตติ้งผู้ชมที่ดีของตอนแรกกับตอนที่สองจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ความสงสัยใคร่รู้ของเหล่ามวลชนถูกสะกิดขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าแต่ละตอนจะน่าตื่นตาตื่นใจหรือไม่ พวกเขาจะต้องมีความคิดที่อยากจะดูต่อไปอย่างแน่นอน
สองตอนนี้ผ่านไปแล้ว ตอนที่สามและตอนที่สี่ซึ่งจะออกอากาศต่อในสัปดาห์หน้า ถึงจะเป็นเรตติ้งผู้ชมที่แท้จริง
ลู่เฉินเข้าใจหลักการนี้แล้วจึงพยักหน้า
วันถัดมาซึ่งก็คือคืนวันที่ 13 เดือนธันวาคม ตอนที่สองของละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไห่จิน
เว็บไซต์เฟยซวิ่นวิดีโอก็ออกอากาศพร้อมกัน
พอถึงตอนบ่ายวันที่ 14 หน้าโฮมเพจของเว็บไซต์ทางการของบริษัทนิวฮอไรซอนก็จัดอันดับใหม่อีกครั้ง
ละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้เลื่อนขึ้นเป็นอันดับที่สามในละครโทรทัศน์ประเภทเดียวกัน เรตติ้งผู้ชมคือ 0.26%!
จนกระทั่งตอนเที่ยงตรงของวันนี้ ยอดชมออนไลน์ทางเว็บไซต์เฟยซวิ่นวิดีโอรวมแล้วเกินแปดล้าน ถึงแม้ยอดชมออนไลน์จะรั้งท้ายละครเรื่อง ‘ท่านประธานที่รัก’ ซึ่งอยู่ที่ยี่สิบล้านขึ้นไป แต่ในความเป็นจริงได้ย่นระยะห่างของทั้งสองเรื่องเข้ามามากแล้ว
ผลลัพธ์แบบนี้ หลายคนรู้สึกคาดไม่ถึง ตกใจ อิจฉา…กระทั่งไม่อยากจะเชื่อ!
ณ ศูนย์ศิลปะยุคใหม่ในเมืองหลวง
บริษัทเป่าหลงฟิล์ม ภายในออฟฟิศห้องหนึ่งของฝ่ายผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์ จู้หมิงเหอรองผู้จัดการฝ่ายกำลังดูหน้าจอคอมพิวเตอร์
สีหน้าของเขาอารมณ์เสียหงุดหงิดมาก
ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ 0.26% / 0.24% / 003 / 009
ข้อมูลสีแดงเรียงเป็นแถวเดียวกัน สะดุดตาของเขาเป็นอย่างมาก
นี่คือข้อมูลเรตติ้งผู้ชมละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ของบริษัทนิวฮอไรซอน ตำแหน่งที่หนึ่งคือเรตติ้งผู้ชมใหม่ล่าสุด ตำแหน่งที่สองคือเรตติ้งเฉลี่ย ตำแหน่งที่สามคืออันดับของละครประเภทเดียวกัน ตำแหน่งที่สี่คืออันดับของละครที่ผลิตภายในประเทศ!
หากจะใช้ภาษาชาวบ้าน นั่นก็คือเรตติ้งของละครเรื่องนี้ดีมากๆ!
แต่อารมณ์ของจู้หมิงเหอกลับแย่สุดๆ
จู้หมิงเหอยังคงจำได้ชัดเจน ตอนที่ลู่เฉินนำบทละครมาหาเขา ถูกเขาปฏิเสธกลับไปอย่างไร
การปฏิเสธบทละครเรื่องหนึ่ง สำหรับจู้หมิงเหอเป็นงานที่ปกติมาก เพราะลู่เฉินเสนอเงื่อนไขที่สูงเกินไป เขาจึงปฏิเสธอย่างสมเหตุสมผล และใครจะว่าเขาทำไม่ถูกก็ไม่ได้
บทละครที่ลู่เฉินเสนอ เขาต้องการร่วมลงทุนและรับบทเป็นพระเอก แถมยังเลือกนางเอกกับผู้กำกับเอง…
ไม่ว่าใครก็ไม่อาจตกลง!
แต่จู้หมิงเหอกลับคาดคิดไม่ถึงว่า นางเอกที่ลู่เฉินกำหนดจะเป็นเฉินเฟยเอ๋อร์
สิ่งนี้ทำให้เขาอดหวั่นไหวไม่ได้ ตอนนั้นเขาดันปฏิเสธลู่เฉินอย่างไม่แยแส ไม่อย่างนั้นก็น่าจะพูดคุยกันได้บ้าง บางทีสถานการณ์อาจจะไม่เหมือนกัน และไม่แน่ว่าเป่าหลงฟิล์มคงจะคว้าละครเรื่องนี้ไปแล้ว
จู้หมิงเหอจึงปลอบใจตัวเองแบบนี้ว่า ต่อให้นางเอกเป็นเฉินเฟยเอ๋อร์ ละครความรักของคนเมืองแนวดราม่าแบบนี้ก็มีตลาดไม่เยอะมาก ไม่สามารถรับประกันเรตติ้งผู้ชมได้ จึงมีความเสี่ยงในการลงทุนสูง
เขาเองก็พูดกับเพื่อนร่วมงานแบบนี้
แล้วจู้หมิงเหอลืมเรื่องพวกนี้ในไม่ช้า
จากนั้นละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ก็เข้ามาอยู่ในสายตาของเขาเอาดื้อๆ หนึ่งในหัวข้อฮอตฮิตในบล็อกล่างฉาวช่วงนี้ก็คือเพลงประกอบละคร ‘ดวงตาของคุณ’ ที่ฮิตอยู่ในตอนนี้ แล้วก็ยังมีการแข่งขันคัฟเวอร์ร้องเพลงโชว์…
จู้หมิงเหออยากจะมองข้ามแต่ก็ทำไม่ได้!
ดังนั้นท่ามกลางความทุกข์ทรมานอย่างกระวนกระวายใจ เขาจึงเริ่มติดตามสถานการณ์การรับชมของละครเรื่องนี้
ตอนแรกคือ 0.22% ตอนที่สองคือ 0.26%!
ผลลัพธ์แบบนี้ทำเอาจู้หมิงเหอพูดไม่ออก รู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนวูบวาบ
ถึงแม้ไม่อยากจะยอมรับจริงๆ แต่ประสบการณ์ในการทำงานบอกเขาว่า ละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ มีโอกาสดังสูงมาก
สิ่งที่อัศจรรย์ก็คือเรตติ้งตอนที่สองเพิ่มขึ้น 0.04%เมื่อเทียบกับตอนที่หนึ่ง
อย่าดูถูกการเพิ่มขึ้นเพียงเศษสี่ส่วนหมื่นนี้ ความหมายของมันเป็นการสื่อว่า ละครเรื่องนี้สามารถดึงดูดประชาชนส่วนหนึ่งได้มากมาย พวกเขายินดีที่จะดูต่อ เป็นลางบอกเหตุว่าจะมีกระแสที่ดีมาก
ไม่อย่างนั้นในฐานะละครเรื่องใหม่ เรตติ้งตอนที่สองตกลงมาถึงจะเป็นปรากฏการณ์ที่ปกติ!
สิ่งที่ทำให้จู้หมิงเหอใจสั่นก็คือ ตอนแรกกับตอนที่สองของละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ พระเอกและนางเอกตัวจริงยังไม่ปรากฏตัวเลย เฉินเฟยเอ๋อร์ราชินีแห่งวงการเพลงที่เป็นตัวชูโรงของละครเรื่องนี้ จะปรากฏตัวในตอนที่สาม!
เขารู้ดีว่า ถ้าหากไม่เกิดความผิดพลาด เรตติ้งผู้ชมตอนที่สามของละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จะยังเพิ่มขึ้นอีก
ไม่แน่อาจจะทะลุ 0.3% ไปเลย!
เมื่อนึกถึงตรงนี้ จู้หมิงเหอจึงอดกระวนกระวายใจไม่ได้
เขาดึงเนกไทที่คอเล็กน้อย พยายามควบคุมเมาส์ปิดหน้าโฮมเพจของนิวฮอไรซอน
ตาไม่เห็นก็ไม่ต้องเจ็บใจ!
แต่พอผ่านไปสองสามนาที จู้หมิงเหอก็เปิดเบราว์เซอร์ขึ้นมาอีกครั้ง
ครั้งนี้เขาไม่ได้เข้าเว็บไซต์ทางการของนิวฮอไรซอนอีก แต่ใส่ที่อยู่เว็บของเฟยซวิ่นวิดีโอ
จู้หมิงเหอรู้ว่าละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ก็ออกอากาศในเฟยซวิ่นวิดีโอเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงอยากดูว่าผู้ชมออนไลน์ประเมินละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ว่าอย่างไรบ้าง เพื่อดำเนินการพิจารณาล่วงหน้าถึงแนวโน้มเรตติ้งในอนาคตของละครเรื่องนี้
จู้หมิงเหอในตอนนี้เวลานี้ ลืมไปแล้วอย่างหนึ่ง
นั่นก็คือหลังจากวินาทีที่เขาเริ่มปฏิเสธลู่เฉิน ละครเรื่องนี้ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเขา
ความจริงเขาไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจขนาดนี้
จึงได้แต่พูดว่าการกระทำของเขานั้นแปลกพิลึก!
…………………………………………………………………………
