ตอนที่ 295 ระยะห่างที่ไกลที่สุดในโลก
ระยะห่างที่ไกลที่สุดในโลก ไม่ใช่ระยะทางระหว่างความเป็นกับความตาย
แต่เป็นการที่ผมยืนอยู่ตรงหน้าคุณ แต่คุณกลับไม่รู้ว่าผมรักคุณ
ระยะห่างที่ไกลที่สุดในโลก ไม่ใช่ผมที่ยืนอยู่ตรงหน้าคุณ แต่คุณกลับไม่รู้ว่าผมรักคุณ
แต่เป็นความรักจนหลงใหล กลับไม่อาจบอกรักคุณได้
ระยะห่างที่ไกลที่สุดในโลก ไม่ใช่ผมไม่อาจบอกรักคุณ
แต่เป็นคิดถึงคุณจนหมดทั้งหัวใจ กลับต้องปิดบังซ่อนไว้ในส่วนลึก
ระยะห่างที่ไกลที่สุดในโลก ไม่ใช่ผมไม่สามารถบอกว่าผมคิดถึงคุณ
แต่เป็นคนรักกัน กลับไม่ได้อยู่ด้วยกัน
ระยะห่างที่ไกลที่สุดในโลก ไม่ใช่คนรักกันแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
แต่เป็นเห็นอยู่แล้วว่ารักกัน กลับทำเป็นไม่สนใจ
…
ระยะห่างที่ไกลที่สุดในโลก เหมือนระยะห่างของนกกับปลา
คนหนึ่งบินอยู่กลางท้องฟ้า
อีกคนแหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทร!
…
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016 วันแห่งความรัก เวลา 23.17 น.
ลู่เฉินเขียนบทกลอนลงในบล็อกของตัวเอง บทกลอนที่มีชื่อว่า ‘ระยะห่างที่ไกลที่สุดในโลก’
ในช่วงท้ายของบทกลอนเขาเขียนว่า ‘ขอมอบบทกลอนนี้ให้แก่แฟนละครอันเหนียวแน่นของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ หวังว่าทุกท่านจะมีคนรักครองคู่ รักแท้จะไม่เหินห่างไปตามระยะทาง!’
เนื่องจากตอนจบของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ คืนนั้นบล็อกของลู่เฉินจึงเป็นจุดสนใจของคนนับไม่ถ้วน เมื่อบทกลอนนี้ถูกปล่อยออกไป มันจึงดึงดูดการคลิกเข้าชม มีการคอมเมนต์และการแชร์ต่อมากมายในทันที
จนถึงวันนี้ความสามารถอันโดดเด่นของลู่เฉินในทางดนตรีไม่เป็นที่สงสัยอีกแล้ว เขาไม่เพียงร้องเพลง ยังเขียนเนื้อร้องและทำนองอีกด้วย ผลงานทั้งหมดออกมาจากมือของเขาเอง ไม่เคยยืมมือของคนอื่น
ละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ทำให้คนอื่นเห็นถึงความสามารถด้านวรรณกรรมและการแสดงของเขา ในฐานะดาราดวงใหม่ที่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ลู่เฉินก้าวเข้าสู่ความโด่งดังอย่างเป็นที่ยอมรับ
แต่ผู้ที่ชอบวิจารณ์ก็ยังมีอยู่วันยังค่ำ ไม่ว่าจะอิจฉาหรือตาร้อนก็ตาม หรืออาจจะมีจุดประสงค์อื่น ในบล็อกมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่ขาด หลักๆ คือการโจมตีนิยายเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ของเขาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งเลือดเย็น หน้าซื่อใจคด ทั้งชอบเล่นกับอารมณ์ของคน…มีคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นนักวรรณกรรมตำหนินิยายของลู่เฉินว่าไม่คู่ควรให้เขาอ่าน
สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ ลู่เฉินไม่เคยสนใจ
เมื่อคนดังย่อมมีเรื่องมาก ถ้าเขาเป็นคนไม่มีชื่อเสียง ใครจะมาสนใจวิจารณ์เขา ในเมื่อก้าวเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงแล้ว อยากให้มีแต่คนชอบนั้นคงเป็นเรื่องเพ้อฝัน!
เขาตั้งใจทำงานของตัวเอง พยายามในธุรกิจของตัวเอง
ส่วนบทกลอน ‘ระยะห่างที่ไกลที่สุดในโลก’ บทนี้ เป็นบทกลอนที่แท้จริงบทแรกของเขา
ในโลกแห่งความฝันของเขา กลอนบทนี้มีเรื่องราวมากมาย ผู้แต่งดั้งเดิมนั้นมีหลายคนแต่ละคนมีความเห็นที่แตกต่างกัน จากนั้นหลังจากเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตแล้วก็เกิดเป็นภาคต่างๆ หลายเวอร์ชัน จนกลายเป็นบทกลอนคลาสสิคที่คุ้นหูของใครหลายๆ คน
ลู่เฉินนำมาใช้เป็นการโปรโมตครั้งสุดท้ายให้กับละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ด้วยความคิดถึงและความเคารพ
บนโลกนี้มีความห่างที่ไกลกว่าการตายจากกัน ไม่ใช่เวลาในอดีตกับปัจจุบัน ไม่ใช่ห้วงแห่งจักรวาล แต่เป็นระยะห่างที่ก้าวข้ามไปได้ยาก ระยะห่างของใจกับใจ
ความเป็นกับความตายเป็นระยะห่างที่ไม่อาจเข้ากันได้ตลอดกาล แต่การอยู่ใกล้แค่เพียงเอื้อมมือกลับห่างเหินเหมือนคนแปลกหน้าเป็นระยะห่างที่ไกลยิ่งกว่าของคนที่รักข้างเดียวกับคนที่ตัวเองรัก
หากรักกันแต่ไม่อาจใกล้ชิดกัน คนมีความรักไม่อาจครองคู่ เป็นความน่าเสียดายสุดแสน
ระยะห่างระหว่างคนรัก เห็นอยู่ว่ารักกันแต่ทำเป็นไม่ใส่ใจ เป็นความขัดแย้งที่น่าเจ็บปวด ทิ้งห่างจากความจริงใจ เปรียบกับระยะทางที่ห่างไกลแล้วหัวใจอันเย็นชานั้นร้ายยิ่งกว่า มันเป็นการดูหมิ่นความรัก เหมือนกับกำลังขุดคูน้ำขวางกั้นตัวเองกับคนที่รักอย่างไม่มีทางข้ามไปได้ ปฏิเสธความรักผลักไสให้ห่างออกไปสุดขอบโลก
เดิมทีระยะห่างทำให้เกิดความสวยงามได้ แต่ระยะห่างชนิดนี้กลับเป็นความห่างไกลที่น่าเจ็บปวดที่สุด
ลู่เฉินอยากให้ละครเรื่องนี้ อยากให้กลอนบทนี้ทำให้ทุกคนเข้าใจว่า การมีความรักที่ได้อยู่ร่วมกันกับคนรักนั้นมีคุณค่าและหายากเพียงใด ต้องรู้จักทะนุถนอมรักษา ถึงจะไม่เสียใจภายหลังเมื่อสูญเสียไป
เขาอยากให้วันวาเลนไทน์ปีนี้เป็นวันที่มีความหมายแตกต่างเพราะตัวเขาเอง
การบอกต่อบทกลอนอันไพเราะต้องใช้เวลาเหมือนกับบ่มสุรา แต่สำหรับแฟนคลับโดยเฉพาะแฟนคลับตัวยงแล้ว บทกลอน ‘ระยะห่างที่ไกลที่สุดในโลก’ ย่อมให้ความรู้สึกที่พิเศษต่อพวกเขาและพวกเธอ กระทบเข้าไปในจิตใจของพวกเขาและพวกเธอในพริบตา
โดยเฉพาะหลังจากดูตอนจบของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ แล้ว
ความรู้สึกยิ่งลึกซึ้งเป็นพิเศษ
“ระยะห่างที่ไกลที่สุดในโลก ไม่ใช่การที่ผมยืนอยู่ตรงหน้าคุณ แต่คุณกลับไม่รู้ว่าผมรักคุณ!”
“เสี่ยวหลาน ผมรักคุณ!”
“อยากร้องไห้เลย ลูกพี่ลู่เฉินนิสัยไม่ดี ทำไมทำอย่างนี้!”
“นี่เป็นวันแห่งความรักที่เศร้าใจที่สุดที่เคยประสบมา”
“ฉันรู้สึกว่าบทกลอนนี้ของเจ้าของบล็อกมีความหมายว่า ให้พวกเราดูแลรักษาคนข้างกายให้ดี พึงรู้ว่าความรักที่แท้จริงนั้นหายาก”
“กลอนดีไม่ต้องอธิบาย”
แฟนคลับมากมายทิ้งข้อความไว้ใต้บทกลอนของลู่เฉิน มีการคอมเมนต์ กดไลก์ และกดแชร์ต่อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
บางคนไม่ได้ฟังเพลงของลู่เฉิน ไม่ได้ดูละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ แต่เมื่อเห็นบทกลอน ‘ระยะห่างที่ไกลที่สุดในโลก’ ที่ถูกแชร์ต่อมา ต่างรู้สึกถึงความหมายที่ลึกซึ้ง
ในยุคปัจจุบันนี้ นักแต่งกลอนเป็นเหมือนคนอีกจำพวกหนึ่งที่แตกต่างจากคนทั่วไป กระทั่งถูกคนหยิบยกไปล้อเล่น
โดยเฉพาะกลอนในยุคปัจจุบัน ในสายตาของใครหลายคนกลอนเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครชอบและน่าเบื่อ จัดเป็นสิ่งที่เขียนเล่นเพื่อความสนุกของตัวเอง หรือยิ่งกว่านั้นคือถูกหาว่าแค่เคาะปุ่มเอ็นเทอร์เป็นก็เขียนกลอนได้แล้ว
ยุคแห่งบทกลอนได้จากไปนานแล้ว สิ่งบันเทิงหลากหลายเติมเต็มชีวิตของคนยุคปัจจุบัน จิตใจของพวกเขาไม่ต้องการการท่องกลอนขับลำนำเพื่อความพอใจอีกต่อไปแล้ว
และบทกลอนที่ดีจริงๆ บทกลอนที่สามารถกระทบเข้าไปถึงจิตวิญญาณของคนได้ ก็ใกล้จะสูญหายไปหมดแล้ว!
บทกลอน ‘ที่ระยะห่างไกลที่สุดในโลก’ ของลู่เฉินทำให้ผู้คนตาสว่าง หลังจากอ่านและซึมซับความหมายแล้ว คนที่เข้าใจบทกลอนยิ่งตกตะลึง
อย่างไรก็ตามบทกลอนที่ดีต้องค่อยๆ ดื่มด่ำ ดังนั้นนอกจากแฟนคลับแล้ว คำวิจารณ์จากคนอื่นกำลังบ่มเพาะอยู่ แต่แรงสั่นสะเทือนได้เกิดขึ้นแล้ว ทั้งยังส่งต่อกันอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ
หลังจากปล่อยบทกลอนนี้ลงบล็อกไปแล้ว ลู่เฉินไม่ได้ตามดูบล็อกของตัวเองต่อ เขาปิดคอมพิวเตอร์ แล้วลงมือปรุงอาหารมื้อดึกด้วยตัวเองเพื่อบรรเทาความหิว จากนั้นเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอุ่นให้สะใจ
วันวาเลนไทน์ปี 2016 ผ่านไปแบบนี้เอง
ก๊อกๆ!
ตอนที่เขาเตรียมจะล้มตัวลงนอนพักบนเตียง จู่ๆ ประตูห้องก็มีเสียงเคาะ
ดึกป่านนี้แล้วใครนะ
ลู่เฉินไม่ได้คิดมาก เขาเดินตรงไปเปิดประตู
ครู่หนึ่งผ่านไป ร่างบางกระโดดพุ่งเข้าสู่อ้อมอก กลิ่นหอมหวานอันคุ้นเคยเตะจมูก
ลู่เฉินกอดแขกที่ไม่ได้เชื้อเชิญคนนี้ไว้ตามสัญชาตญาณ ได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบาที่ทำให้คนมัวเมาดังขึ้นข้างหู
“ฉันรักนาย!”
หลังจากฟังจบ ลู่เฉินรู้สึกเหมือนเขาได้ครอบครองทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้เอาไว้หมดแล้ว
ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
………………………………………………………………………………..