ตอนที่ 338 ตบรางวัลหนึ่งล้าน
เพลง ‘ข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาเธอ’ เพลงนี้ ลู่เฉินแต่งขึ้นมาเพื่ออัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์
อัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นผลงานที่เปลี่ยนสไตล์ของเธอ กำหนดตำแหน่งชัดเจนมาก นั่นก็คือทิ้งสไตล์เพลงหวานในอดีต เปลี่ยนเป็นเพลงรักทั้งหมด
ไม่ว่านักร้องคนไหน โดยเฉพาะนักร้องที่มีชื่อเสียงแล้ว การเปลี่ยนสไตล์ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เพราะพวกแฟนเพลงต่างคุ้นชินกับสไตล์ที่กำหนดไว้ของเธอมานานแล้ว สร้างคนที่ชื่นชอบเพลงของเธอได้กลุ่มใหญ่แล้วก็ดันเปลี่ยนอย่างกะทันหัน ยากที่คนจะปรับตัวได้ ปกติมักจะมีคนที่ว่านอนสอนง่าย หรือไม่ก็ปรับตัวไม่ได้กระทั่งเกิดความรู้สึกไม่ชอบโดยสัญชาตญาณ เป็นผลทำให้การยอมรับลดลง
ในประวัติศาสตร์ของวงการเพลงป็อป ตัวอย่างที่เปลี่ยนสไตล์แล้วล้มเหลวก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไป และด้วยเหตุนี้จึงมีนักร้องบางคนฟุบลงไม่มีทางฟื้นขึ้นมาได้อีก แต่ก็มีบางคนที่ยืนหยัดต่อไปทว่ากลับไม่มีคนติดตาม บางคนก็กลับไปเดินทางเก่า แต่พบว่าตัวเองไม่มีทางไปแล้ว
เพราะฉะนั้นถึงแม้จะเป็นเฉินเฟยเอ๋อร์ ก็ยังระมัดระวังและรอบคอบสำหรับอัลบั้มใหม่ชุดนี้ เธอยอมเลื่อนเวลาออกอัลบั้มออกไปแต่จะไม่ยอมให้มีจุดบกพร่องเด็ดขาด เพื่องานนี้เธอปฏิเสธงานออกรายการ งานโชว์ และงานพรีเซ็นเตอร์ต่างๆ เป็นจำนวนมาก แล้วประจำการอยู่ในห้องบันทึกเสียงของเฟยสือเรคคอร์ดอย่างใจจดใจจ่อ
ในฐานะแฟนหนุ่มของเฉินเฟยเอ๋อร์ ลู่เฉินจึงไม่อาจผลักภาระให้คนอื่นได้ ช่วยเธอทำอัลบั้มใหม่ให้เสร็จสมบูรณ์อย่างเต็มที่
อันที่จริงจากเพลงหวานเปลี่ยนเป็นเพลงรัก การข้ามสไตล์ไม่ได้ใหญ่มาก ถ้าหากเฉินเฟยเอ๋อร์ในฐานะราชินีเสียงหวานอยากจะร้องเพลงแนวรึทึมแอนด์บลูส์ แบบนั้นถึงจะยากระดับนรกแตก เมื่อก่อนเธอเคยมีผลงานเพลงรักเหมือนกันดังนั้นระดับการยอมรับของพวกแฟนคลับยังถือว่าสูงมาก
ที่สำคัญอยู่ที่ตัวของอัลบั้มต่างหาก เมื่อไม่มีผลงานที่แข็งแกร่งกระทั่งผลงานคลาสสิคเป็นหลักยึด แล้วจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร
ดังนั้นลู่เฉินจึงแต่งเพลงให้เฉินเฟยเอ๋อร์ถึงหกเพลงเต็มๆ
เพลง ‘ข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาเธอ’ คือหนึ่งเพลงในนั้น
ทำนองเพลงของเพลงนี้มีความสวยงามเปี่ยมไปด้วยอารมณ์รักที่เข้มข้น มาพร้อมกับความรู้สึกเศร้าระคนความสับสนเล็กน้อย เผยการดึงดันไล่ตามความรักออกมาเบาๆ น่าประทับใจเป็นอย่างมาก
เฉินเฟยเอ๋อร์มีเสียงร้องที่ไพเราะดั่งเสียงสวรรค์ เส้นเสียงของเธอมีความใสเฉพาะตัว พวกแฟนเพลงแค่ฟังก็รู้ว่านี่คือเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ชัดเจน
เธอถนัดที่สุดคือเพลงหวานที่ไพเราะเสนาะหู คนที่ได้ฟังรู้สึกเหมือนอาบลมในฤดูใบไม้ผลิ อบอุ่นสดชื่นสราญรมย์
ยามที่เธอร้องเพลงรัก ลักษณะพิเศษของเส้นเสียงไม่ได้เกิดความเปลี่ยนแปลง แต่โทนเสียงที่ทุ้มต่ำลงดูอ่อนโยนนุ่มนวลขึ้นหลายส่วน ทั้งยังมีพลังดึงดูดเล็กๆ ทำให้อารมณ์ที่แฝงอยู่ในผลงานถูกปล่อยออกมาอย่างสมบูรณ์
โดยเฉพาะการร้องเพลงและดีดกีตาร์ของราชินีคนนี้ แฟนคลับมากมายนับล้านที่อยู่ในห้องถ่ายทอดสดต่างฟังอย่างเคลิบเคลิ้ม
“…
เมืองที่ไม่คุ้นเคย
กับมุมที่คุ้นเคย
เคยปลอบใจซึ่งกันและกัน
และก็เคยทอดถอนใจด้วยกัน
ไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับจุดจบแบบไหน
ในพายุทรายที่อยู่ทั่วท้องนภา
ทอดมองเธอไกลออกไป
ฉันเจ็บปวดรวดร้าวไม่อาจควบคุมตัวเองได้
ปรารถนาที่จะส่งไกลพันลี้
จนถึงปลายสุดของภูเขาและสายน้ำ
อยู่คู่เคียงเธอตลอดไป!
…”
พอร้องถึงท่อนฮุกที่ส่งอารมณ์สูงสุด เฉินเฟยเอ๋อร์เพิ่มแรงมากขึ้น รวมทั้งการดีดกีตาร์ด้วย เป็นความความละมุนละไมที่เพิ่มความเข้มแข็งและแน่วแน่ที่จะไม่เสียใจในภายหลัง ยกระดับอารมณ์เพลงให้พุ่งสูงขึ้น
หนึ่งอัลบั้มมีสิบเพลง ไม่ว่าจะเป็นผลงานเพลงไหนเฉินเฟยเอ๋อร์ก็ฝึกซ้อมซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ ‘ข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาเธอ’ เพลงนี้ ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเช่นกัน ดังนั้นถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในห้องอัดเสียงแบบมืออาชีพ และไม่ได้อยู่บนเวทีใหญ่สวยงามสะดุดตา เธอก็ยังคงร้องออกมาในสไตล์ของซูเปอร์สตาร์ดังอย่างแท้จริงเหมือนเดิม
ลู่เฉินเอนกายพิงอยู่ตรงเปียโน จ้องมองเฉินเฟยเอ๋อร์ดีดกีตาร์ร้องเพลงตาไม่กะพริบ นัยน์ตาสีดำเป็นประกาย สลัดทิ้งความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสอง สิ่งที่เขามองเห็นคือนักร้องคนหนึ่งที่เปลี่ยนไปอย่างสวยงาม
น่าประทับใจเหลือเกิน!
เสียงร้องเพลงของเฉินเฟยเอ๋อร์เหมือนดั่งเวทมนตร์บางอย่าง สามารถทะลุผ่านที่กั้นของช่องว่าง ส่งเข้าไปในหูของเหล่าแฟนคลับที่กำลังฟังเธอร้องเพลงอยู่ เข้าไปถึงหัวใจของพวกเขาและพวกเธอ
ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดของลู่เฉินล้นทะลักเยอะขึ้น ไม่นานก็ทะลุสองล้านแล้ว
หนึ่งในนั้นรวมถึงผู้ดูแลระดับสูงของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ อีกหลายคน
พวกเขาก็เข้ามาฟังเพลงเช่นกัน
ความจริงที่ลู่เฉินเข้ามาถ่ายทอดสดตอนกลางคืนกะทันหัน ทุกฝ่ายของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ รับรู้ได้ทันที ผู้ดูแลรีบลงโฆษณาในหน้าแรกของเว็บ เพื่อดึงดูดความสนใจของแฟนคลับขาจรจำนวนมาก
ตอนแรกแฟนคลับที่ดูลู่เฉินถ่ายทอดสดออนไลน์มีประมาณหนึ่งล้านห้าแสนคน แต่หลังจากที่เฉินเฟยเอ๋อร์ปรากฏตัว พลันระเบิดจำนวนขึ้นในเวลาสั้นๆ สองสามนาที แฟนคลับหลายคนที่ได้รับข้อมูลกรูกันเข้ามาดูความคึกคัก ล้นทะลักจนเซิร์ฟเวอร์แทบระเบิด
ตอนนี้ ‘จิงอวี๋ทีวี’ มีการถ่ายทอดสดรอบพิเศษของดาราดังจำนวนไม่น้อย แต่คู่รักดาราที่ออกมาถ่ายทอดสดด้วยกันนั้นถือว่าเป็นครั้งแรก และยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่าลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นคู่รักที่มาแรงมากที่สุดในวงการอยู่ในขณะนี้
ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นบล็อก หน้าเว็บ ฟอรัม หรือกลุ่มเฟยซวิ่น…ถูกส่งต่ออย่างรวดเร็ว คนมากมายนับไม่ถ้วนที่ไม่เคยเล่น ‘จิงอวี๋ทีวี’ มาก่อนต่างก็กดลิงก์เข้ามา
แต่ในสถานการณ์ที่มีผู้ชมออนไลน์อยู่มากขณะนี้ ภายในห้องถ่ายทอดสดของลู่เฉินกลับสะอาดสะอ้าน ทุกคนรับชมอย่างมีมารยาทและทำตามกฎระเบียบ ไม่มีคอมเมนต์สดที่รบกวนสายตามากนัก
แต่ก็มีบางคนที่ตื่นเต้นมากเกินไป หรือจงใจเขียนคอมเมนต์ก่อความวุ่นวาย ก็จะถูกผู้ดูแลเตะออกไปเลย
แม่งเอ๊ยเฉินเฟยเอ๋อร์ร้องเพลงก็ยังกล้ามาก่อกวน บล็อกแม่งไม่ต้องบอกมันเลย!
การถ่ายทอดสดของคู่รักดาราที่ไม่มีการซักซ้อมล่วงหน้าครั้งนี้ สำหรับ ‘จิงอวี๋ทีวี’ แล้วคือการโปรโมตที่สวรรค์สรรค์สร้างให้กันชัดๆ ปกติจ่ายเงินมากมายใช่ว่าจะได้ผลลัพธ์เช่นนี้ ฝ่ายทางการจะไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาทำลายเด็ดขาด
น่าเสียดายที่เฉินเฟยเอ๋อร์เข้ามาเล่นสนุกๆ ชั่วคราวเท่านั้น ไม่ได้อยากเล่นนานๆ
พอร้องเพลงจบ เธอจึงยิ้มและพูดกับไมค์เสียงหวานว่า “ข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาเธอ หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ แล้วก็อัลบั้มใหม่ของฉันจะออกจำหน่ายสัปดาห์หน้า ครั้งนี้ทุกคนอย่าลืมมาช่วยกันอุดหนุนนะคะ!”
ราชินีแห่งวงการเพลงคนนี้กำหมัดแสดงความเคารพอย่างซุกซน จากนั้นก็คืนกีตาร์ให้ลู่เฉิน
พวกแฟนคลับในห้องถ่ายทอดสดระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง!
“โอ๊ยๆๆๆ~”
“พี่เฟยเอ๋อร์อย่าไป ร้องเพลงให้พวกเราฟังอีกเพลงนะ!”
“เพราะมากจริงๆ ร้องอีกเพลงได้ไหม”
“อยู่ต่อเถอะ คุกเข่าขอร้องแล้ว!”
“อัลบั้มของคุณฉันขอเหมาหมดเลย ขอแค่ร้องอีกสักเพลงนะ ร้องไห้แป๊บ…”
“555~ ฉันอยากฟังอีกรอบ!”
“อยากฟังอีกรอบ+1”
คำขอร้องอ้อนวอนต่างๆ นานา ล้วนเป็นเพราะอยากให้เฉินเฟยเอ๋อร์ร้องเพลงต่อ แต่พวกแฟนคลับอีกจำนวนมากกลับใช้การกระทำเพื่อรั้งเอาไว้…ตบรางวัล!
พวกลูกบอลปลาอะไรนั่นอ่อนเกินไป ของเล่นเด็กชัดๆ พวกคนรวยต้องให้เรือบรรทุกเครื่องบินสิ
เรือบรรทุกเครื่องบินผ่านหน้าจอไปลำแล้วลำเล่า แน่นขนัดเต็มสายตา มากจนถึงขั้นน่ากลัว!
ผู้ดำเนินรายการมากมายใน ‘จิงอวี๋ทีวี’ มีหลายคนที่ถ่ายทอดสดหนึ่งถึงสองปีก็ยังไม่เคยได้เรือบรรทุกเครื่องบินสักลำ แต่เฉินเฟยเอ๋อร์แค่ออกมาร้องเพลงให้ฟังหนึ่งเพลงเท่านั้น กลับได้เรือบรรทุกเครื่องบินหลายร้อยลำไปอย่างสบาย
อันที่จริงเงินที่ได้จากการตบรางวัลเหล่านี้สามารถทำให้ผู้จัดรายการที่มีชื่อเสียงหลายคนดีใจแทบลมจับ แต่เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไร เธอเข้าใจการถ่ายทอดสดออนไลน์แค่เล็กน้อยเท่านั้น จึงไม่รู้สึกถึงความน่ากลัวของการตบรางวัล
แต่ความอบอุ่นเป็นมิตรของเหล่าแฟนคลับ เธอยังคงสัมผัสได้อย่างชัดเจน
“ขอบคุณทุกคนจริงๆ ถ้าอยากฟังมากกว่านี้ งั้นก็มาซื้ออัลบั้มกันนะคะ!”
ราชินีเฉินเคยเจอมาทุกรูปแบบ ซาบซึ้งก็ส่วนซาบซึ้ง เธอไม่ได้ทำตามความปรารถนาของแฟนคลับ เพราะร้องเพลงที่สองจบ ทุกคนก็จะขอให้ร้องเพลงที่สามอีกแน่นอน แล้วก็ไม่จบไม่สิ้น
เธอฉลาดมากที่โปรโมตอัลบั้มใหม่ของตัวเองอีกครั้ง จากนั้นก็หายไปเลย!
ภายในห้องถ่ายทอดสดเกิดความเศร้าใจคร่ำครวญกันระงมในทันที
ลู่เฉินกลับมานั่งที่อีกครั้ง กระแอมหนึ่งทีแล้วกล่าวว่า “ขอบคุณการสนับสนุนของทุกคนครับ ถ้างั้น เพลงนี้ผมจะร้องให้ทุกคนฟังอีกรอบนะครับ!”
พวกแฟนคลับโอดครวญไปตามประสา แต่ก็รู้ว่าไม่สามารถฝืนได้ ถึงแม้จะมีเสียงไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็เข้าใจ
เพื่อปลอบอารมณ์ของทุกคน ลู่เฉินจึงร้องเพลง ‘ข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาเธอ’ อีกครั้ง
บทเพลงนี้ในความทรงจำของโลกความฝันของเขา เคยถูกนักร้องที่มีชื่อเสียงหลายคนนำไปคัฟเวอร์ โชว์สไตล์ที่แตกต่างกัน มีเอกลักษณ์และอรรถรสที่หลากหลาย กลายเป็นผลงานเพลงคลาสสิคที่มีคุณค่าเหนือกาลเวลา
เป็นการร้องเพลงเล่นกีตาร์เหมือนกัน เมื่อเทียบกับความนุ่มนวลของเฉินเฟยเอ๋อร์แล้ว ลู่เฉินค่อนข้างร้องดิบกว่าและเหมือนผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชน เพิ่มความเข้มข้นของอารมณ์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น มาพร้อมกับกลิ่นอายของเพลงบัลลาดนิดๆ
ซึ่งไพเราะเหมือนกัน
สำหรับแฟนคลับนับล้าน ได้ฟังเพลงใหม่ที่ร้องด้วยสไตล์ที่ไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิงเช่นนี้ เป็นเรื่องสนุกและเพลิดเพลินใจมากที่สุด เป็นประสบการณ์ที่ทรงคุณค่ายิ่งนัก!
จนกระทั่งห้าทุ่มกว่า ลู่เฉินถึงสิ้นสุดการถ่ายทอดสด สุดท้ายก็ร้องเพลงจนคอแห้ง
แน่นอนว่าเขาได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไปไม่น้อย ลำพังแค่ส่วนแบ่งจากการตบรางวัล ก็ได้เกินหนึ่งล้านขึ้นไป
ถึงแม้ตอนนี้โลกทัศน์ของลู่เฉินจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างใหญ่หลวง โปรเจกต์ที่เล็งไว้มีมูลค่าระดับนับล้านหรือหลายร้อยล้าน แต่รายได้พิเศษก้อนนี้ก็ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะอุทานถึงความอบอุ่นและกระตือรือร้นของแฟนคลับไม่หยุด
แต่ในหนึ่งล้านนี้ อย่างน้อยเกินครึ่งหนึ่งก็มาจากเฉินเฟยเอ๋อร์
“เยอะขนาดนี้เลยเหรอ”
เฉินเฟยเอ๋อร์อ่านบทละครอยู่ในห้องนอนยังไม่ได้เข้านอน ได้ยินรายงานของลู่เฉิน จึงรู้สึกตกใจเช่นกัน
เงินพวกนี้หาง่ายเกินไปหรือเปล่า
เธอโผล่หน้าไม่ถึงสิบนาทีเท่านั้น ที่สำคัญคือเป็นการหารายได้ผ่านอินเทอร์เน็ตในบ้านของตัวเอง
ลู่เฉินล้มตัวลงนอนข้างกายเธอ ยิ้มเอ่ยว่า “รอให้เงินเข้าบัญชีก่อน ผมจะโอนให้คุณครึ่งหนึ่ง”
“ต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอ”
เฉินเฟยเอ๋อร์กลอกตาใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์…ราชินีอย่างเธอจำเป็นต้องสนใจเงินเล็กน้อยพวกนี้ไหม
ด้วยความสัมพันธ์ของทั้งสองคนไม่ต้องแยกกันใช้จ่ายชัดเจนขนาดนี้ก็ได้
ลู่เฉินยืนกรานไม่ยอมเกาะผู้หญิงกินเด็ดขาด เขาคิดครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “งั้นเอาแบบนี้ ผมจะเอาเงินก้อนนี้เก็บไว้ในบัตรอีกใบหนึ่ง วันหลังพวกเราออกไปเที่ยวหรือกินข้าวก็ใช้บัตรใบนี้ คุณคิดว่ายังไง”
เฉินเฟยเอ๋อร์ตาเป็นประกาย แม้แต่บทละครก็ยังวางไว้ข้างๆ “กองทุนรักใช่ไหม ไอเดียนี้ไม่เลว!”
…………………………………………………………………………