ตอนที่ 355 ปิดฉากอย่างสมบูรณ์
‘ลู่เฉินเซอร์ไพรส์เฉินเฟยเอ๋อร์ในงานแฟนมีตติ้ง มอบของขวัญวันเกิดให้คนรัก!’
“เพลง ‘ในเสียงเพลงของฉัน’ ราชินีซาบซึ้งน้ำตาไหล!”
‘ภาพถ่ายทอดสด พิสูจน์เรื่องราวความรักสุดโรแมนติก ลู่เฉินรีบเร่งมาฮู่ไห่เพื่อฉลองวันเกิดให้เฉินเฟยเอ๋อร์’
‘ผลผลิตมั่งคั่งทั้งเรื่องงานและความรัก รอยยิ้มและน้ำตาของเฉินเฟยเอ๋อร์’
‘เฉินเฟยเอ๋อร์…’
วันที่ 1 พฤษภาคม วันแรงงานสากล วันแรกของวันหยุดยาวในประเทศจีน สื่อน้อยใหญ่ต่างออกข่าวของลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์อีกครั้ง
ในวงการบันเทิงขณะนี้ ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์อาจจะไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ที่มีหน้ามีตามากที่สุด แต่หากพูดถึงคู่รักที่พบเห็นกันบ่อยที่สุด นั่นก็คือสองคนนี้อย่างแน่นอน
ละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ทำให้เขาและเธอกลายเป็นสุดยอดคู่รักดาราขวัญใจมวลชน ตำแหน่งยากจะสั่นคลอน
เมื่อวานเย็นเกิดเรื่องราวโรแมนติกท่ามกลางเหมยข่าตี้เซ็นเตอร์ในฮู่ไห่ กลายเป็นหัวข้อฮอตไปทั่วบล็อกแล้ว ตอนเย็นวันนั้นมีคลิปวิดีโอสดโผล่ออกมามากมาย ไม่รู้ว่าสร้างความอิจฉาหมั่นไส้ให้ใครไปกี่คนแล้ว
พวกผู้หญิงอิจฉาเฉินเฟยเอ๋อร์ที่มีแฟนรูปหล่อ ตัวสูงใหญ่ มีความสามารถ แถมยังเข้าใจความโรแมนติก
พวกผู้ชายอิจฉาลู่เฉินที่มีแฟนสาวเป็นราชินีอย่างแท้จริง สวยงามมีเสน่ห์ และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วหล้า
ส่วนพวกแฟนคลับ ก็ได้เป็นพยานพิสูจน์ความรักที่สวยงามของทั้งสองคนอีกครั้ง
เพราะการมาของลู่เฉิน หลังจากเฉินเฟยเอ๋อร์จบกิจกรรมโปรโมตที่ฮู่ไห่แล้วจึงไม่ได้กลับไปทันที แต่ฉลองวันแรงงานที่แสนหวานกับลู่เฉิน แล้วค่อยกลับเมืองหลวงในวันที่สอง
ถึงตอนนี้งานทัวร์โปรโมตทั่วประเทศของเธอเป็นอันสำเร็จ ผลที่ได้จากการโปรโมตอย่างเข้มข้นสิบกว่าวันที่ผ่านมามีความโดดเด่นมาก ยอดจองซื้อล่วงหน้ายังคงเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ และส่วนหนึ่งของแพ็กเกจซีดีที่ระลึกที่วางขายในเว็บไซต์ระดมทุนก็เริ่มทยอยส่งไปยังร้านหนังสือซินหวาทั่วประเทศแล้ว ไม่ช้าก็จะปรากฏอยู่ในมือของบรรดาแฟนคลับ
การคาดคะเนในแวดวงธุรกิจสำหรับยอดขายรวมของอัลบั้ม ‘บุปผานารี’ ได้เปลี่ยนเป็นสองร้อยห้าสิบล้านถึงสามล้านแผ่น (ชุด) แม้ว่าจะลงทุนโปรโมตด้วยเงินก้อนโต แต่กำไรที่ได้จริงก็เป็นที่ยืนยันแน่นอนแล้ว!
อาชีพร้องเพลงของเฉินเฟยเอ๋อร์เปลี่ยนแนวได้อย่างงดงามและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะเป็นคนที่เรื่องมากที่สุดก็ยังต้องยอมรับว่า การเปลี่ยนแนวของเธอไม่มีช่องโหว่ที่จะโจมตีได้ เป็นราชินีเพลงรักรุ่นใหม่สมชื่อจริงๆ
ในขณะเดียวกัน ก็มีข่าวมาจากเกาหลี
หลังจากออกอากาศผ่านไปหนึ่งเดือนกว่า เคจีเอสได้ออกอากาศละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ มาถึงตอนจบแล้ว
เรตติ้งตอนสุดท้ายคือ 39.52% ขาดอีก 0.48% ก็จะทะลุด่านใหญ่ 40% แล้ว
แต่ในฐานะละครจีนเรื่องหนึ่ง เรตติ้งเช่นนี้ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์ ที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงก็คือ เรตติ้งสี่ตอนสุดท้ายของ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ล้ำหน้าละคร ‘อำนาจราชินี’ ละครฟอร์มใหญ่แห่งปีของเอ็มบีซีไปเรียบร้อย
นี่คือสิ่งที่ทำให้เอ็มบีซีสถานีโทรทัศน์ใหญ่อันดับที่สองของเกาหลีรู้สึกอับอายมาก เพราะ ‘อำนาจราชินี’ ไม่ว่าจะด้านการลงทุน ตัวนักแสดง หรือการโจมตีโปรโมตล้วนบดขยี้ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้ทุกทาง แต่เรตติ้งสูงสุดกลับแพ้ให้กับฝ่ายหลัง และมีเพียงเรตติ้งเฉลี่ยเท่านั้นที่ยังพอจะกู้หน้ากลับคืนมาได้บ้าง
ควรทราบว่าละครจีนไม่เคยมีฐานผู้ชมในเกาหลีมาก่อน การโผล่ตัวของ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ และการท้ารบกับ ‘อำนาจราชินี’ ดูผิวเผินแล้วคือการแข่งขันระหว่างละครสองเรื่องที่แตกต่างกัน แต่แท้จริงแล้วคือการปะทะกันระหว่างสองสถานีโทรทัศน์
เอ็มบีซีไม่พอใจอยู่แล้ว กระทั่งใช้พลังมติมหาชนโจมตีเคจีเอส แต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อความสำเร็จของ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’
‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้เรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศเกาหลี 26.68% ปิดฉากลงอย่างสวยงาม!
ข่าวแพร่มาถึงประเทศจีน ในวงการเกิดความสั่นสะเทือนอย่างหนัก ส่วนพวกแฟนคลับก็ดีใจมาก
เพราะถ้าทำตามคำสัญญาเดิมที่ลู่เฉินให้ไว้ในบล็อก เช่นนั้นแฟนคลับ 2,668 คนก็จะได้ไปเที่ยวที่เกาหลีฟรี และยังเป็นการเที่ยวแพ็กคู่อีกด้วย
มีคนช่วยคำนวณให้ลู่เฉินคร่าวๆ หากยึดตามราคากรุ๊ปทัวร์ทั่วไป เขาจะต้องจ่ายเงินอย่างน้อยสิบสามล้านหยวนขึ้นไป!
เงินก้อนนี้เป็นสิ่งที่พบเห็นน้อยมากในวงการบันเทิง ถึงแม้จะเห็นว่าเวลาดาราไอดอลทำกิจกรรมโปรโมตเผลอแป๊บเดียวก็ใช้เงินหลักล้านหรือหลายสิบล้านหยวน แต่การที่จะใช้เงินตอบแทนแฟนคลับนับพันนับหมื่นนั้นจริงๆ แล้วมีน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย
ดังนั้นในวงการจึงมีคนพูดว่าลู่เฉินหน้าใหญ่เกินไป ขายลิขสิทธิ์ให้คนเกาหลีไปก็ได้ไม่เยอะ ตัวเองยังต้องออกเงินก้อนโต แบบนี้น่าขำจริงๆ
แต่คนที่พูดจาเหน็บแนมกลับไม่เห็นว่า หลังจากลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์สัญญาว่าจะให้รางวัลแล้ว จำนวนแฟนคลับของทั้งสองคนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจำนวนแฟนคลับกลุ่มขุนศึกตระกูลลู่ที่สนับสนุนลู่เฉินเพิ่มขึ้นเป็นหลักล้าน ผลประโยชน์แฝงที่ได้รับนั้นเกินกว่าเงินที่จ่ายไปสิบกว่าล้านหยวนอย่างสิ้นเชิง
วงการบันเทิงในตอนนี้ สู้กันที่เศรษฐกิจแฟนคลับ มีการลงทุนถึงจะมีผลตอบแทน นี่คือแก่นสารของการตลาดอีกประเภทหนึ่ง
นอกจากนี้ไม่ค่อยมีใครรู้ว่า หลังจาก ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ออกอากาศที่เกาหลีจบแล้ว สัญญาค่าโฆษณาแฝงของ ‘ฟูลเฮ้าส์’ ละครใหม่ที่นำทีมโดยลู่เฉินและสตูดิโอลู่เฉินนั้นโดยทั่วไปได้ตกลงเป็นที่เรียบร้อย
ลู่ซีเป็นตัวแทนของสตูดิโอลู่เฉิน พร้อมกับรถยนต์จงหวา ไชน่าโมบายล์ นาฬิกาธันเดอร์เบิร์ด เสื้อผ้าเซินฉี และสินค้าแบรนด์ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศสิบเจ็ดเจ้า ได้ลงนามในสัญญาซึ่งมีมูลค่าเกินยี่สิบสองล้านหยวน!
เนื่องจากผลประโยชน์ส่วนนี้และลิขสิทธิ์อื่นที่กุมอยู่ในมือของลู่เฉิน ไม่ได้แบ่งบันให้แก่ผู้ลงทุนคนอื่น เพราะฉะนั้นละครเรื่องใหม่ยังไม่ได้เริ่มถ่ายทำ เงินทุนที่สตูดิโอต้องลงทุนก็ได้มาครบแล้ว และยังได้กำไรแล้วด้วย
สำหรับการอนุญาตให้ใช้ลิขสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับนิยาย การ์ตูน โลโก้แบรนด์และอื่นๆ นั้นก็ยังจะสร้างผลกำไรได้มากกว่านี้
นอกจากนี้ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ยังเป็นที่นิยมเหมือนเดิม สถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่นและสองสามประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตัวแทนการค้าก็มีความประสงค์อยากนำเข้าละครเรื่องนี้ จึงพอที่จะทำกำไรได้อีกหนึ่งก้อน
ในสถานการณ์เช่นนี้ สตูดิโอลู่เฉินจึงแก้ไขปัญหาการขาดทุนทรัพย์ได้อย่างง่ายดาย ต่อให้เขาต้องออกเงินค่าท่องเที่ยวด้วยตัวเองก็ไม่มีปัญหาเลยแม้แต่นิดเดียว
‘ฟูลเฮ้าส์’ ถูกกำหนดให้ถ่ายทำอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 พฤษภาคม สถานที่ถ่ายทำก็คือประเทศจีนและเกาหลีสองประเทศ เงินลงทุนทั้งหมดมากกว่า ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ หลายเท่า
ระหว่างนี้ยังมีเรื่องอื่นแทรกเข้ามา นั่นก็คือเจ้าของบล็อกดัง ‘สำรวจบันเทิง’ คนนั้นที่ได้ท้าพนันกับลู่เฉินเอาไว้ ถึงแม้เขาจะอับอายขายหน้าไปนานแล้ว แต่หลังจากข้อมูลเรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศเกาหลีของ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ออกมา เขาก็ยังทำตามสัญญาของตัวเอง
ทว่าสถานที่ที่เขาวิ่งแก้ผ้านั้นไม่ใช่ถนนใหญ่ที่มีคนพลุกพล่าน แต่เป็นซอยเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ไร้ผู้คน ผลที่ได้จึงมีแต่เสียงหัวเราะเยาะเย้ยหยันเต็มไปหมด
และลู่เฉินก็ลืมเรื่องนี้ไปนานแล้ว เพราะเขาทุ่มพลังไปที่ขั้นตอนการถ่ายทำ ‘ฟูลเฮ้าส์’ ทั้งหมด
ในขณะเดียวกัน ก็เกิดเรื่องฮือฮาใหญ่โตในวงการภาพยนตร์โทรทัศน์
เนื่องจากผู้กำกับจางเหวินเทียนเกิดความขัดแย้งไม่ลงรอยกันกับผู้ลงทุน โปรเจกต์ภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่เดิมทีกำหนดไว้ว่าจะเริ่มถ่ายทำในปีนี้ถูกประกาศเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เท่ากับว่าถูกทิ้งลอยแพแล้ว
ดังนั้นสิ่งที่ผู้กำกับใหญ่คนนี้เคยสัญญาว่าจะให้ลู่เฉินรับบทหนึ่งในภาพยนตร์ จึงล้มเหลวไปโดยปริยาย
…………………………………………………………………………