ตอนที่ 413 ความลับเล็กๆ
สำหรับดาราศิลปินคนหนึ่ง สิ่งมีค่าที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่หน้าตา พรสวรรค์ ความสามารถหรือสิ่งอื่นใด แต่คือแฟนคลับ
แฟนคลับเป็นผู้ที่ตัดสินระดับความโด่งดังและคุณค่าในตัวของศิลปิน ดังนั้นจะเพิ่มจำนวนแฟนคลับอย่างไร จะรักษาแฟนคลับผู้ภักดีเอาไว้ได้มากแค่ไหน เป็นปัญหาสำคัญของศิลปิน
ลู่เฉินเข้าวงการได้ไม่นาน แต่อาศัยเพลงและการแสดงจนประสบความสำเร็จ ภายในเวลาสั้นๆ แค่ปีกว่าก็สะสมจำนวนแฟนคลับและความนิยมได้มากมาย ทิ้งห่างศิลปินส่วนใหญ่ไปแบบไม่เห็นฝุ่น
เพียงแต่ลู่เฉินงานยุ่งมาก เขาแทบไม่รับงานโชว์ตัวทั่วไป จึงไม่ค่อยมีโอกาสได้พูดคุยกับแฟนคลับ ปกติใช้แต่บล็อกสื่อสารกับแฟนคลับเท่านั้น
ซึ่งแน่นอนว่าไม่พอ
ซูเปอร์สตาร์ตัวจริงมีกลุ่มแฟนคลับที่อยู่กันมายาวนานเป็นสิบหรือหลายสิบปี เทียบกันแล้วรากฐานของลู่เฉินยังตื้นเขิน ความนิยมและชื่อเสียงที่เขามีอยู่ในตอนนี้เหมือนกับการสร้างปราสาททราย แค่คลื่นมากระทบเบาๆ ก็ทลายลงแล้ว
ในวงการบันเทิงที่มีการแข่งขันดุเดือด สถานการณ์ที่คล้ายกันนี้พบได้บ่อย ศิลปินบางคนโด่งดังภายในชั่วข้ามคืนแล้วเงียบหายไปในไม่ช้า มีเพียงซูเปอร์สตาร์จำนวนน้อยนิดเท่านั้นที่ได้เป็นดาวค้างฟ้า
ลู่เฉินรู้จุดอ่อนของตัวเองดี ดังนั้นกิจกรรมโปรโมตอัลบั้มใหม่ครั้งนี้จึงเป็นก้าวย่างสำคัญในการบริหารสายสัมพันธ์กับแฟนคลับ
กลุ่มแฟนคลับของลู่เฉินเป็นคนวัยหนุ่มสาวเป็นหลัก ถึงมีแฟนคลับบางคนเอาแต่ใจพูดไม่รู้เรื่อง เขาก็ยังใจกว้างปฏิบัติตอบเป็นอย่างดี
“สวัสดียามเย็นครับทุกคน ผมคือลู่เฉิน”
ลู่เฉินจูงมือห่าวลู่ลู่มายืนอยู่กลางเวทีท่ามกลางแสงไฟสปอตไลต์
เขายิ้มเล็กน้อย “ขอบคุณพวกคุณมากครับที่มาพบกันในวันนี้!”
“กรี๊ด!”
เสียงกรี๊ดดังถล่มทลายอยู่ด้านล่างเวที แฟนคลับมากมายออกแรงตีกระบองลม ทั้งยังชูป้ายไฟชื่อลู่เฉินสูงๆ ทำให้บรรยากาศในงานคึกคักที่สุด
รอจนเสียงเงียบสงบลง ลู่เฉินพูดต่อว่า “ทุกคนคงแปลกใจ และกำลังเดาว่าน้องสาวคนที่ยืนอยู่ข้างผมเป็นใครกัน”
เขาพูดถึงห่าวลู่ลู่
ห่าวลู่ลู่หน้าแดงก่ำ ทั้งตื่นเต้นทั้งประหม่าจนพูดไม่ออก รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝันอยู่
ตอนที่ลู่เฉินพาเธอออกมายืนท่ามกลางแสงไฟ แฟนคลับหลายคนทั้งอึ้งทั้งแปลกใจ
เพราะพวกเขาไม่รู้จักห่าวลู่ลู่ ไม่รู้ว่าทำไมลู่เฉินถึงพาเธอขึ้นมาบนเวที
เล่นลูกเล่นนิดหน่อยแล้วลู่เฉินก็เฉลยออกมา “น้องสาวคนนี้มีชื่อว่าห่าวลู่ลู่ เมื่อกี้เธอเดินหลงทางเข้าไปด้านในอย่างไม่ระวัง ถูกผมเก็บได้ พวกคุณรู้จักเธอไหมครับ”
มีคนรู้จักเธอจริงๆ “ห่าวลู่ลู่!”
ลู่เฉินอาศัยจังหวะตอนนี้กล่าวต่อว่า “ดีจังเลย ขอเชิญผู้ปกครองมารับเธอกลับไปด้วยครับ”
แฟนคลับหัวเราะกันใหญ่
ทุกคนเข้าใจในทันทีว่า ห่าวลู่ลู่ต้องเป็นแฟนคลับของลู่เฉินที่ใจกล้าบุกเข้าไปถึงหลังเวที
ส่งห่าวลู่ลู่ลงจากเวทีไปพบกับเพื่อนของเธอแล้ว นับว่าลู่เฉินจัดการเรื่องวุ่นวายเล็กน้อยให้ผ่านพ้นไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เขานั่งลงบนเก้าอี้สูงที่ตั้งเตรียมไว้กลางเวที ปรับไมโครโฟนไร้สายที่คาดหัวให้พอดี จากนั้นหยิบกีตาร์ขึ้นมาจากข้างเก้าอี้
เขากอดกีตาร์เอาไว้แล้วลองเสียงดู
เขาจ้องมองแฟนคลับที่อยู่ด้านล่างเวที ยิ้มแล้วพูดว่า “วันนี้ก่อนเริ่มการแสดง ผมขอบอกความลับเล็กๆ ให้กับทุกคนฟังก่อนนะครับ เกี่ยวกับกีตาร์ตัวนี้”
เสียงพูดคุยของแฟนคลับเงียบลงทันใด ทุกคนตั้งใจฟังที่ลู่เฉินพูด
“กีตาร์ตัวนี้ตอนวันเกิดอายุ 18 ของผม น้องสาวผมเป็นคนซื้อให้เป็นของขวัญ เธอใช้เงินเก็บทั้งหมดที่มีอยู่ของเธอเพื่อซื้อมัน”
“แม้ว่าวันนี้ผมสามารถซื้อกีตาร์ที่แพงกว่าเป็นสิบเท่าได้ แต่ในใจของผมไม่มีอะไรมีค่าไปกว่านี้อีกแล้ว มันเป็นคู่หูที่ต้องดูแลทะนุถนอมให้ดีที่สุด”
“มันอยู่เคียงข้างผมมาตลอด ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดมาด้วยกัน”
“วันนี้ผมตั้งใจนำมันมาด้วย…”
“ผมเล่าเรื่องกีตาร์ตัวนี้ให้ทุกคนฟังเพราะอยากบอกกับทุกคนว่า พวกคุณและเพื่อนๆ ของคุณมีคุณค่าที่สุดในใจของผม คู่ควรแก่การทะนุถนอมดูแลที่สุดเช่นกันครับ ขอบคุณที่ทุกคนสนับสนุนผมมาโดยตลอดครับ!”
ลู่เฉินลุกขึ้นยืนใหม่อีกครั้ง แล้วพูดเสียงดังว่า “เพลง ‘เส้นทางธรรมดา’ นี้ ขอมอบให้ทุกคนครับ!”
ฮู้วววว~
เสียงปรบมือดังสนั่นไปทั่วทั้งห้องจัดงาน ตามด้วยเสียงดนตรีที่ดังขึ้น จอขนาดใหญ่ด้านหลังลู่เฉินปรากฏมิวสิควิดีโอเพลง ‘เส้นทางธรรมดา’
“ร่อนเร่วนเวียนอยู่บนถนน เธอจะไปไหม via via เย่อหยิ่งถือดีแต่เปราะบาง…”
“ฉันเคยข้ามผ่านภูเขาและมหาสมุทร เคยพานพบผู้คนนับไม่ถ้วน ฉันเคยมีพร้อมทุกสิ่ง…”
เพลง ‘เส้นทางธรรมดา’ เป็นเพลงเปิดงานแฟนมีตติ้งในคืนนี้ แม้ใช้เพลงโปรโมตเป็นเพลงเริ่มงาน แต่เมื่อร้องเพลงนี้อีกครั้ง ลู่เฉินยังคงถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างเต็มที่
ตลอดเส้นทางที่ผ่านมายังปรากฏชัดเจนราวกับเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า บางครั้งลู่เฉินแยกไม่ออกว่าตัวเองกำลังอยู่ในโลกของความเป็นจริงหรือความฝัน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก
เขาเคยมีช่วงเวลาที่วกวนหลงทาง และเคยมีช่วงเวลาที่หวาดกลัว กลัวว่าวันหนึ่งตื่นขึ้นมาแล้วทั้งหมดจะเป็นแค่ความฝัน ตัวเองยังใช้ชีวิตแบบเดิมต้องทำงานใช้หนี้ เป็นมดงานชั้นล่างสุดในเมืองหลวง
แต่ลู่เฉินในวันนี้ ค้นพบเส้นทางของตัวเองแล้วจริงๆ เขาจะไม่หลงทาง จะไม่หวาดกลัวอีกต่อไป เขามีความฝันและความทะเยอทะยาน ต้องการปกป้องดูแลครอบครัวและคนรัก
ต่อให้ทางข้างหน้าจะมีแต่อุปสรรค เขาก็จะไม่กลัว!
“ท่ามกลางความสับสน นี่คือฉันเอง มีเพียงเส้นทางเดียวที่ต้องเดิน!”
นอกจากแฟนคลับหลายร้อยคน กล้องถ่ายทำที่อยู่เบื้องหลังของแถวคนดูจับจ้องอยู่ที่ลู่เฉินเช่นกัน อัดเก็บภาพของเขาเอาไว้ จากนั้นส่งผ่านอินเทอร์เน็ตเข้าไปยังห้องไลฟ์สดใน ‘จิงอวี๋ทีวี’ ที่ตอนนี้มีแฟนคลับเป็นล้านคนรับชมอยู่หน้าจอมือถือและคอมพิวเตอร์
แฟนคลับผู้โชคดีที่ได้รับบัตรเชิญมาในงานแฟนมีตติ้งเป็นเพียงแฟนคลับส่วนน้อย แฟนคลับส่วนใหญ่ต้องใช้วิธีนี้มาเข้าร่วมงานที่จัดว่าเป็นงานแสดงดนตรีครั้งนี้ เพื่อฟังเสียงร้องสดของลู่เฉิน
‘จิงอวี๋ทีวี’ เป็นอีกหนึ่งผู้ร่วมงานที่อยู่ในแผนงานโปรโมตอัลบั้มใหม่ของลู่เฉิน เพื่อไลฟ์สดบรรยากาศการพบปะแฟนเพลงในครั้งนี้และที่จะจัดขึ้นในอีกหกเมืองใหญ่ ทาง ‘จิงอวี๋ทีวี’ ได้ลงโฆษณาในหน้าแรกของเว็บไซต์ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว
ดังนั้นเมื่อการไลฟ์สดเริ่มต้นขึ้น ผู้ชมออนไลน์จึงทะลุล้านคนอย่างง่ายดาย ก้าวไปสู่จำนวนที่สูงยิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลี่เฟยอวี่เป็นผู้ควบคุมการไลฟ์สดอยู่ที่สตูดิโอในเมืองปักกิ่ง ทำให้บรรยากาศในห้องไลฟ์สดร้อนระอุอยู่ตลอดเวลา
ฉะนั้นอย่ามองว่างานแฟนมีตติ้งเป็นเพียงงานเล็กๆ สู้งานอีเวนต์หรืองานโชว์ตัวสินค้าที่มีผู้ชมมากมายไม่ได้ เพราะความจริงแล้วจำนวนแฟนคลับที่สนับสนุนลู่เฉินอยู่นั้นมีจำนวนมหาศาล!
…………………………………………