ตอนที่ 468 เสนอชื่อหกรางวัล
ข่าวดีที่เฉินเฟยเอ๋อร์พูดถึงคืองาน ‘โกลบอลไชนีสมิวสิคโกลเด้นอวอร์ดส์’ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 ธันวาคม ในกรุงปักกิ่ง
ก่อนหน้าปี 2016 งานประกาศรางวัลของวงการเพลงป็อปจีนหลักๆ แล้วมีสามงาน ได้แก่ ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ‘ไชนีสออริจินัลมิวสิคอวอร์ดส์’ และ ‘ท็อปไชนีสมิวสิคอวอร์ดส์’
สองงานแรกมีอิทธิพลสูงกว่า ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างมากกว่า เมื่อ ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ กับ ‘ไชนีสออริจินัลมิวสิคอวอร์ดส์’ มารวมตัวกัน จึงเรียกได้ว่าเป็นการผนึกกำลังที่เข็มแข็ง
งานพิธีมอบรางวัลที่รวมกันเป็น ‘โกลบอลไชนีสมิวสิคโกลเด้นอวอร์ดส์’ เป็นรางวัลอันยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของวงการเพลงป็อปจีนอย่างไม่ต้องสงสัย ส่งผลให้รางวัล ‘ท็อปไชนีสมิวสิคอวอร์ดส์’ ที่ทางสถานโทรทัศน์เซียงหนานเป็นผู้จัดขึ้นกลายเป็นเศษสวะทันที
ปีนี้เป็นการเริ่มต้นของรางวัล ‘โกลบอลไชนีสมิวสิคโกลเด้นอวอร์ดส์’ จึงมีความหมายเป็นพิเศษ
สำหรับงานพิธีมอบรางวัลทางดนตรีที่ประชาชนรอคอยงานนี้ คนในวงการส่วนใหญ่ทราบข้อมูลพื้นฐานแล้ว เช่นรางวัลเพลงจีนมีทั้งหมด 24 รางวัล ได้แก่ นักร้องชายและหญิงยอดเยี่ยม อัลบั้มยอดเยี่ยม เนื้อเพลงยอดเยี่ยม ทำนองเพลงยอดเยี่ยม เรียบเรียงเสียงประสานยอดเยี่ยม ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม วงดนตรียอดเยี่ยม ศิลปินกลุ่มหน้าใหม่ยอดเยี่ยม มิวสิควิดีโอยอดเยี่ยม เป็นต้น
งานนี้กำหนดให้จัดขึ้นในวันสุดท้ายของทุกปี สถานที่จัดงานคือโรงละครแห่งชาติที่ทั้งขนาดและโครงสร้างต่างรองรับงานระดับชาติได้เลยทีเดียว เป็นงานที่มีอิทธิพลต่อวงการเพลงจีนทั้งในเอเชียและทั่วโลก
งานพิธีมอบรางวัลทางดนตรีเช่นนี้ คนดนตรีที่มีอุดมการณ์ไม่มีใครอยากพลาด
แน่นอนว่าอยากเป็นหนึ่งในผู้ร่วมงานนั้นยากแค่ไหนก็พอเดาได้!
ตามที่เฉินเฟยเอ๋อร์ได้รู้ข่าวมาจากวงใน ลู่เฉินได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงหลายรางวัล รอเพียงแต่การประกาศอย่างเป็นทางการเท่านั้น
ตามกฎเกณฑ์ของ ‘โกลบอลไชนีสมิวสิคโกลเด้นอวอร์ดส์’ ทุกรางวัลจะมีผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงไม่เกินห้าคน และมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะได้รับรางวัล จะไม่เกิดเหตุการณ์ไข่แฝดหรือไข่แดงหลายใบแน่นอน
เพราะคณะกรรมการผู้ตัดสินได้รับบทเรียนมาจากรางวัลอื่นแล้ว เมื่อก่อนกิจกรรมการตัดสินรางวัลในวงการภาพยนตร์โทรทัศน์และวงการเพลงนั้นมีการแบ่งชิ้นเนื้อกันมากมาย ในเทศกาลภาพยนตร์งานหนึ่งปรากฏราชาหรือราชินีภาพยนตร์สองคนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปกติ แม้กระทั่งสามคนบนเวทีเดียวกันก็ยังมี ทำให้ทุกคนกระอักกระอ่วนใจ
การตัดสินรางวัลตามการจัดลำดับอาวุโสหรือประเภทที่ว่าเธอมีฉันก็มี ถูกคนมองว่าเป็นเรื่องน่าขยะแขยง ทำให้ความสำคัญและความน่าเชื่อถือของรางวัลลดน้อยลงมาก จนในที่สุดก็มีผู้ที่ได้รับรางวัลปฏิเสธที่จะรับรางวัล
รางวัลใหญ่แต่ละรางวัลจึงต้องมีผู้ชนะเพียงแค่คนเดียว!
เฉินเฟยเอ๋อร์เข้าวงการมาสิบกว่าปี ความสัมพันธ์และเส้นสายในวงการมีหรือที่ลู่เฉินจะเทียบได้ ดังนั้นทางลู่เฉินยังไม่ได้รับข่าวใดๆ เธอก็ได้รู้ข่าวจากวงในมาแล้ว
“นักร้องชายยอดเยี่ยม อัลบั้มยอดเยี่ยม เนื้อเพลงและทำนองเพลงยอดเยี่ยม นายถูกเสนอชื่อทั้งหมด!”
เฉินเฟยเอ๋อร์กล่าวต่อว่า “ความจริงยังไม่แน่ชัด แต่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงสี่รางวัลนี้ก็เพียงพอแล้ว”
อย่ามองว่าเป็นเพียงการเสนอชื่อ สำหรับรางวัลอันทรงคุณค่าอย่าง ‘โกลบอลไชนีสมิวสิคโกลเด้นอวอร์ดส์’ แค่นี้ก็นับว่าหาได้ยากแล้ว ต้องรู้ว่ารางวัลนี้ส่งอิทธิพลไปในวงการเพลงป็อปจีนทั่วโลก รวมถึงที่ไต้หวัน ฮ่องกง และมาเก๊า มีการเสนอชื่อแข่งขันกันอย่างดุเดือด
สี่รางวัลอันสำคัญนี้ก็คือศิลารากฐานสำหรับลู่เฉินในวงการต่อไป เรียกได้ว่ามีความสำคัญอย่างถึงที่สุด!
และอาจจะไม่ได้ถูกเสนอชื่อแค่สี่รางวัลเท่านั้น
ลู่เฉินหัวเราะ “แค่เสนอชื่อเฉยๆ อาจจะไม่ได้สักรางวัลเลยก็ได้”
เฉินเฟยเอ๋อร์ตอบ “การถ่อมตนเป็นเรื่องดี แต่ถ่อมตนมากเกินไปจะกลายเป็นการเสแสร้ง และถ้านายไม่ได้เลยสักรางวัลก็แสดงว่ารางวัลนี้ไม่น่าเชื่อถือ!”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไม่ได้ล้อเล่น เพราะเธอคิดแบบนั้นจริงๆ
ปีที่ผ่านมา ผลงานและความพยายามที่ลู่เฉินได้สร้างขึ้นในวงการเพลงป็อปเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกสายตา เขาใช้พละกำลังที่มีขับเคลื่อนทิศทางของวงการเพลง ทำให้พลังสร้างสรรค์ในประเทศกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง ไม่มีทางที่คณะกรรมการตัดสินรางวัลจะมองไม่เห็น หรือแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น
ไม่อย่างนั้นจะรับประกันได้อย่างไรว่ารางวัลอันทรงเกียรตินี้ยุติธรรมน่าเชื่อถือ?
ลู่เฉินหัวเราะ “ถ้าคุณเป็นกรรมการด้วยก็ดีสิ ใช่ละ คุณได้รับการเสนอชื่อกี่รางวัลล่ะ”
อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องอื่น รางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยมและอัลบั้มยอดเยี่ยม ถ้าไม่มีเฉินเฟยเอ๋อร์และอัลบั้ม ‘บุปผานารี’ ของเธอที่มียอดขายเกินห้าล้านแผ่นละก็คงไม่น่าเชื่อถือเช่นกัน
เฉินเฟยเอ๋อร์เอ่ย “ของฉันน้อยกว่าของนายอยู่แล้ว รางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยมเราเป็นคู่แข่งกัน”
คู่รักนักร้องแห่งวงการเพลงป็อปได้เข้าชิงรางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยมทั้งคู่ หากคณะกรรมการตัดสินรู้เรื่องการโปรโมตทางการตลาดอยู่บ้าง จะต้องไม่ปล่อยให้หัวข้อข่าวที่สามารถปั่นกระแสได้เช่นนี้หลุดลอยไปแน่นอน
ลู่เฉินเอ่ย “ปล่อยของออกมาเลย!”
เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะ “ฉันมีเหรอจะกลัวนาย ใครแพ้ ต่อไปต้องเป็นคนล้างจาน!”
ลู่เฉินรับปาก “เอาตามนี้!”
ทั้งสองคนหัวเราะขึ้นพร้อมกัน แม้ตัวจะอยู่ห่างกันเป็นพันกิโลเมตร แต่หัวใจเต็มอิ่มด้วยความหวานชื่น
เฉินเฟยเอ๋อร์บอกว่า “ฉันคิดถึงนาย”
ลู่เฉินปลอบใจ “ตอนตรุษจีนเราหยุดพักร้อนกัน ผมจะพาคุณไปเกาะบาหลีหลายๆ วัน”
เฉินเฟยเอ๋อร์ดีใจ “งั้นฉันรอตรุษจีนเลย!”
เธอดีใจกระโดดโลดเต้นราวกับเด็กสาวที่ได้ของเล่นที่รัก
เวลาที่ได้กล่าวคำพลอดรักกันช่างผ่านไปเร็วนัก
วันที่ 12 พฤศจิกายน ลู่เฉินกลับมาที่ปักกิ่งเป็นวันที่ 5 คณะกรรมการ ‘โกลบอลไชนีสมิวสิคโกลเด้นอวอร์ดส์’ ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้เข้าชิงรางวัลต่างๆ และรายชื่อผู้ตัดสินในเว็บไซต์ทางการ เป็นฉากโหมโรงเริ่มต้นงานมอบรางวัลทางดนตรีของปีนี้
ข่าวของเฉินเฟยเอ๋อร์เที่ยงตรงเสมอ ลู่เฉินถูกเสนอชื่อเข้าชิงสี่รางวัลใหญ่ ได้แก่ นักร้องชายยอดเยี่ยม อัลบั้มยอดเยี่ยม เนื้อร้องยอดเยี่ยม และทำนองยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีรางวัลโปรดิวเซอร์ยอดเยี่ยมและรางวัลขวัญใจสื่ออีกด้วย ทั้งหมดรวมเป็นหกรางวัล
ส่วนเฉินเฟยเอ๋อร์ถูกเสนอเข้าชิงรางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยม อัลบั้มยอดเยี่ยม การแสดงบนเวทียอดเยี่ยม และขวัญใจสื่อ ทั้งหมดสี่รางวัล
ในนั้นอัลบั้มยอดเยี่ยมและขวัญใจสื่อสองรางวัลนี้ทั้งสองคนเป็นคู่แข่งกัน!
แม้จะบอกว่านี่เป็นเรื่องปกติ แต่ก็เห็นได้ถึงความใส่ใจของคณะกรรมการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนรายชื่อผู้เข้าชิง ชื่อของทั้งสองคนยังอยู่ติดกัน ยิ่งดูสะดุดตาเป็นพิเศษ
รายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลได้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว ทั้งสตูดิโอของลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์รวมทั้งบัญชีทางการของแฟนคลับทั้งสองฝ่ายช่วยกันแชร์ต่อ เกิดเป็นความเคลื่อนไหวในกลุ่มแฟนคลับทันที
“โอ้โห เฉินกับเฟยของฉันต้องสู้กันแล้ว!”
“พวกเธอว่าใครจะชนะ?”
“ฉันว่านะ รางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยมน่าจะเป็นของทั้งสองคนถึงจะสมบูรณ์แบบ!”
“อย่าคิดไปเลย รางวัลนี้ไม่ให้ทั้งสองคนครองร่วมกันหรอก”
“อัลบั้ม ‘บุปผานารี’ กับ ‘เส้นทางธรรมดา’ ฉันจะสนับสนุนอัลบั้มไหนดีนะ?”
“ฉันสนับสนุนทั้งสองอัลบั้มเลย ใครได้รางวัลก็ดีใจทั้งนั้น!”
“ดีใจ+1…”
แฟนคลับของทั้งสองฝ่ายมองว่ารางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยมนั้นตกอยู่ในมือของตัวเองแล้ว สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนคลับของบุคคลอื่นที่ได้รับการเสนอชื่อเช่นกัน ทั้งในบล็อก ฟอรัม หน้าเว็บต่างๆ และกลุ่มเฟยซวิ่นเกิดเชื้อไฟปะทุขึ้นทันที
ส่วนจะใครแพ้ใครจะชนะ ต้องรอปลายเดือนหน้าค่อยมาตัดสินกันแล้ว!
………………………………