ตอนที่ 504 ไม่กลัวความท้าทาย
นับตั้งแต่ที่เริ่มคบกับเฉินเฟยเอ๋อร์ ลู่เฉินก็รู้สึกว่าถูกคนเกลียดและอิจฉาริษยา
ในฐานะนักร้องระดับราชินีเพลงที่ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการเพลงป็อปของประเทศจีนมาอย่างยาวนาน เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสามารถหรือนิสัยรูปร่างหน้าตา ล้วนเป็นบุคคลอันดับต้นๆ ของวงการอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงมีคนตามจีบเยอะเป็นธรรมดา
และคนที่มีความมั่นใจและความสามารถที่ตามจีบเธอนั้น ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
ทว่าต่างจากคนในวงการที่มองความรักเหมือนเป็นเรื่องกินข้าวดื่มน้ำธรรมดา เฉินเฟยเอ๋อร์ระวังตัวมากในด้านของความรัก ถึงแม้จะเคยมีข่าวฉาวออกมาสองสามครั้ง แต่สุดท้ายก็ถูกพิสูจน์ว่าหากไม่ใช่ข่าวปลอมก็ถูกคนนำมาสร้างกระแส
ดังนั้นตอนที่เปิดเผยความรักของเธอกับลู่เฉิน จึงเป็นที่ฮือฮาในวงการเป็นอย่างมาก
พวกคนที่ตามจีบเธออย่างยากลำบาก หากจะพูดว่าในใจไม่รู้สึกแคร์หรือเคียดแค้นเลย มีน้อยมากจริงๆ
เพียงแต่ลู่เฉินคิดไม่ถึงว่า เขามาฮ่องกงแล้วยังจะเจอคนที่เคยตามจีบเฉินเฟยเอ๋อร์อีก
“อยากจะลองสั่งสอนชุยซิ่งเสียนหน่อยไหม”
เมื่อออกมาจากโรงแรมเก็นติง หลี่มู่ไป๋ก็รู้สึกคึกคักอย่างจะลอง “ให้เขารู้ว่าพวกเราไม่ได้หาเรื่องได้ง่ายๆ นะ”
ภายใต้การดำเนินการของหลิ่วเจิ้งหาว เจี่ยงเฉิงหวายกน้ำชาขอโทษยอมรับผิด และยังจ่ายเงินสิบล้านหยวนเพื่อเป็นการขอโทษ ทั้งสองฝ่ายจึงจับมือจบกันด้วยดี งานเลี้ยงครั้งนี้จึงสิ้นสุดลงแค่นี้
ส่วนกรณีที่หงหวากำลังเผชิญหน้าอยู่นั้น ก็ไม่เกี่ยวกับลู่เฉินแล้ว
อย่างไรก็ตาม จบแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน
ทว่าคุณชายสามแห่งตระกูลหลี่ผู้นี้กลัวว่าโลกจะวุ่นวายไม่พอ “กล้าใช้พี่เฟยเอ๋อร์มาเป็นประเด็น พวกเราไปต่อยมันเลย!”
ลู่เฉินกลั้นหัวเราะไม่อยู่ “ช่างเถอะ”
เขาติดหนี้ตระกูลหลี่ไม่น้อย ถ้าหากปล่อยให้หลี่มู่ไป๋ไปจัดการชุยซิ่งเสียนอีก อย่างนั้นก็เหมือนคนไม่รู้ความ
แม้ว่าจะโต้กลับชุยซิ่งเสียน ลู่เฉินก็อยากใช้กำลังของตัวเอง!
หลี่มู่ไป๋ไม่พอใจ “จะปล่อยเขาไปอย่างนี้เหรอ”
ลู่เฉินส่ายหน้า “ไม่ พวกเราคอยดูต่อไป!”
เขาอยากจะโต้กลับ ดังนั้นก็ต้องโต้กลับด้วยภาพยนตร์กำลังถ่ายทำอยู่ ขอเพียง ‘โปเยโปโลเย’ ได้โควตานโยบายสนับสนุน และเตะ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ที่เป็นคู่แข่งออกไปได้ นั่นก็คือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่แล้ว
เรื่องนี้ทำให้ลู่เฉินตระหนักได้ว่า เขาไม่เพียงแต่ต้องถ่ายทำภาพยนตร์ออกมาให้ดีเท่านั้น แต่ยังต้องทำความเข้าใจสถานการณ์ของคู่แข่งอีกด้วย
เรื่องสืบข่าว ลู่เฉินยกให้เป็นหน้าที่ของเฉินเหวินเฉียง
เขาหยิบซองที่มีเพียงเช็คเงินสดสิบล้านออกมา แล้วยื่นให้หลี่มู่ไป๋
หลี่มู่ไป๋อดไม่ได้ที่จะกลอกตาใส่เขา “ทำอะไร”
ลู่เฉินเอ่ยว่า “ก็ให้นายไง เรื่องนี้นายออกแรงเยอะที่สุด จะให้ช่วยฟรีๆ ไม่ได้หรอกมั้ง”
หลี่มู่ไป๋ชูนิ้วกลางให้เขา “ผมขาดเงินพวกนี้นักเหรอ”
ลู่เฉินหัวเราะแล้วกล่าวว่า “พี่สาวของนายโทรมาหาฉัน อย่าฝืนนักเลยรับไปเถอะ ระหว่างพวกเราไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันแล้ว”
เมื่อความลับเปิดเผยหลี่มู่ไป๋จึงวางมาดไม่ถูก ยิ้มหน้าเจื่อนแล้วเอ่ยว่า “พี่สาวของผมงกมากจริงๆ สั่งให้ผมมาเปิดบริษัทที่ฮ่องกงแต่ให้เงินผมแค่สองสามล้าน กินข้าวกับเพื่อนยังไม่พอเลย!”
ลู่เฉินหัวเราะฮ่าๆ ยัดซองจดหมายใส่มือของเขา “นายเอาไปใช้ก่อน ไม่พอค่อยมาเอาจากฉันอีก”
หลี่มู่ไป๋หัวเราะฮิๆ เก็บซองจดหมายอย่างเขินอายเล็กน้อย
มิตรภาพระหว่างทั้งสองคน ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นเกรงใจกันอีก นับประสาอะไรกับเงินแค่สิบล้านหยวนเท่านั้น
ดึกมากแล้ว แต่ชีวิตยามกลางคืนของคุณชายสามแห่งตระกูลหลี่เพิ่งจะเริ่มต้น ได้เงินแล้วก็โทรศัพท์เรียกหาเพื่อน
ลู่เฉินแน่นอนว่าไม่สามารถไปเที่ยวเป็นเพื่อนได้ เขาให้จางเสี่ยวฟางขับรถไปส่งตัวเองที่บ้านแถวอ่าวน้ำตื้น
พอถึงบ้าน เฉินเฟยเอ๋อร์ยังไม่นอน กำลังบำรุงหน้าอยู่
เธอเป็นคนสวยตั้งแต่เกิด ผิวพรรณดีกว่าคนส่วนใหญ่แน่นอน แต่ไม่ว่าใบหน้าของใครก็ไม่อาจต่อต้านกาลเวลาได้ ความสาวไม่อาจอยู่ยงคงกระพัน จึงต้องบำรุงดูแลเพื่อชะลอความแก่ชรา
โดยเฉพาะนักแสดงที่ต้องแต่งหน้าเป็นประจำ การดูแลผิวพรรณเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิตประจำวัน
“กลับมาแล้วเหรอ”
เธอกำลังมาส์กหน้า เอ่ยถามเสียงอู้อี้ “เรื่องเป็นยังไงบ้าง”
ลู่เฉินถอดเสื้อโค้ทออก สวมกอดแฟนสาวจากนั้นก็นั่งลงขอบเตียง พลางกล่าวว่า “จบกันด้วยดี”
เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ยว่า “ปรองดองกันจะเกิดทรัพย์ แต่จะว่าไปแล้ว พวกเขาทำแบบนี้มีจุดประสงค์อะไรกันแน่ อยากจะร่วมถือหุ้นลงทุนทำภาพยนตร์หรือว่าลงทุนกับสตูดิโอของนายเหรอ”
ลู่เฉินลังเลเล็กน้อย แต่ก็ตอบไปตามความเป็นจริง “คนอื่นยุยงครับ”
“คนอื่นยุยงเหรอ”
เฉินเฟยเอ๋อร์ตกใจ เธอดึงแผ่นมาส์กหน้าลงมา แล้วถามว่า “รู้ไหมว่าเป็นใคร”
มีศัตรูไม่น่ากลัว อยู่ในวงการบันเทิงก็เหมือนกับการเข้าไปอยู่ในถังย้อมสีขนาดใหญ่ ถ้าไม่อยากทำความชั่วกับคนเลวเช่นนั้นก็ต้องผิดใจกับคนอื่นแน่นอน แต่ที่น่ากลัวก็คือศัตรูที่อยู่ในที่ลับ มักจะแทงคุณในยามที่วิกฤตเสมอ
เฉิยเฟยเอ๋อร์เดบิวต์มาสิบกว่าปี เคยเห็นความชั่วร้ายของจิตใจคนในวงการมาก่อน ดังนั้นจึงให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ
“เป็นหวาก้วนพิคเจอร์ส…”
ลู่เฉินจึงต้องอธิบายว่า “พวกเขาก็ถ่ายทำภาพยนตร์ที่ฮ่องกงเหมือนกัน ชื่อเรื่องคล้ายกับพวกเรา หยิบข้อมูลมาจาก ‘เรื่องประหลาดจากห้องห้องหนังสือ’ เหมือนกัน ดังนั้นจึงเกิดการแข่งขันโดยตรง”
“หวาก้วนพิคเจอร์ส?”
เฉินเฟยเอ๋อร์ขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยว่า “ฉันเคยเจอผู้จัดการใหญ่ของหวาก้วนมาก่อน แต่ชุยซิ่งเสียนคนนี้…”
เธอส่ายหน้า นัยน์ตาเผยแววตาดูถูกหยามเหยียดออกมา “คิดว่าตัวเองใหญ่มาก รู้สึกว่าตัวเองดีไปหมด”
“ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว…”
ลู่เฉินยิ้มพลางดึงเธอเข้ามากอดอยู่ในอ้อมอก “ที่รัก พวกเรารีบพักผ่อนกันเถอะ!”
ขณะที่พูด เขาก็จูบริมฝีปากที่หอมหวานของเฉินเฟยเอ๋อร์
เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะคิกคัก ยื่นมือบังริมฝีปากของเขา “ฉันยังไม่ได้อาบน้ำนะ!”
ลู่เฉินจึงได้แต่ปล่อยเธออย่างอาลัยอาวรณ์
เฉินเฟยเอ๋อร์ค่อยๆ ลุกขึ้นเดินไปที่ห้องน้ำ เดินได้สองสามก้าวแล้วจึงหยุด นัยน์ตามองย้อนกลับมาส่งสายตากระชากวิญญาณให้ลู่เฉิน “จะอาบด้วยกันไหมล่ะ”
ลู่เฉินดีใจมาก กระโดดลุกขึ้นพรวด
ทั้งคืนเต็มไปด้วยรู้สึกดูดดื่มและหลงใหล
วันถัดมา การถ่ายทำ ‘โปเยโปโลเย’ ดำเนินต่อไป เฉินเฟยเอ๋อร์เริ่มแสดงดีขึ้นเรื่อยๆ จำนวนฉากที่พลาดน้อยมากจนน่าสงสาร ผู้กำกับวั่นเสี่ยวเฉวียนรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
ตอนนี้เรื่องยุ่งยากถูกแก้ไขหมดแล้ว การดำเนินงานของกองถ่ายจึงราบรื่นมาก บวกกับขวัญกำลังใจของทีมงานที่สูงขึ้น คาดว่าจะสามารถถ่ายทำเสร็จทั้งหมดภายในเวลาที่กำหนด
และตอนบ่ายวันเดียวกันนั้น เฉินเหวินเฉียงก็หยิบเอกสารฉบับหนึ่งมาให้ลู่เฉิน
เอกสารฉบับนี้นับว่ามีข้อมูลละเอียดมากจนลู่เฉินตกใจไม่มากก็น้อย เพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่า ตอนนี้มีบริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์ของประเทศจีนมากกว่ายี่สิบบริษัทที่กำลังถ่ายทำอยู่ในฮ่องกง เมื่อรวมกับบริษัทภาพยนตร์ท้องถิ่นของฮ่องกงที่ถ่ายทำเสร็จแล้วหรือเพิ่งเริ่มถ่ายทำอยู่ ภาพยนตร์ที่ร่วมขอโควตานโยบายสนับสนุนในปีหน้าอย่างน้อยก็มีเป็นร้อยเรื่อง การแข่งขันจึงดุเดือดมากอย่างแน่นอน
ตามข้อมูลที่เฉินเหวินเฉียงทำความเข้าใจมา ภาพยนตร์ที่มีแนวคล้ายกับ ‘โปเยโปลเย’ นอกจาก ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ของหวาก้วนพิคเจอร์สแล้ว ยังมีภาพยนตร์ใหม่อีกหลายเรื่องที่กำลังถ่ายทำอยู่ เช่น ‘ตำนานรักนิรันดร์’ ‘แรงรักนางจิ้งจอก’ เป็นต้น
‘โปเยโปโลเย’ กำลังเผชิญหน้ากับแรงกดดันของศัตรูที่แข็งแกร่ง มันจะสามารถโดดเด่นท่ามกลางภาพยนตร์ประเภทที่คล้ายกัน ได้รับบัตรผ่านอันล้ำค่านี้หรือไม่ ยังไม่อาจรู้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ลู่เฉินไม่กลัวความท้าทาย!
…………………………………………………………………………