ตอนที่ 546 สองขั้ว
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์อย่างเป็นทางการวันแรก ได้สัดส่วนการฉาย 37.5%
ยอดขายบ็อกซ์ออฟฟิศ 7.5 ล้านหยวน !
ผลบ็อกซ์ออฟฟิศเท่านี้เป็นแชมป์บ๊อกซ์ออฟฟิศของวันอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งยังสร้างสถิติภาพยนตร์ฮ่องกงที่ทำรายได้วันแรกได้มากที่สุดในรอบ 13 เดือนที่ผ่านมา
ยอดขายตั๋วถล่มทลายทำให้หวาก้วนพิคเจอร์สและซิงอี้เอนเตอร์เทนเมนต์มีความเชื่อมั่นมากขึ้น โฆษณาที่ลงตามสื่อต่างๆ มีแต่จะเพิ่มไม่มีลด การโปรโมตยังทำอย่างจัดหนักจัดเต็ม
สื่อต่างๆ ที่ได้รับผลประโยชน์ช่วยโปรโมตเป็นอย่างดี บอกว่าเป็นภาพยนตร์แฟนตาซีเรื่องแรกที่เป็นการร่วมทุนของบริษัทจีนกับฮ่องกงบ้างละ ดีกว่าหนังฮอลลีวูดบ้างละ เป็นหนังผีแบบใหม่บ้างละ ล้วนเป็นคำชื่นชมที่ไม่ต้องเสียเงิน ยกยอปอปั้นจนลอยขึ้นฟ้า
ดาราฮ่องกงที่ร่วมแสดงภาพยนตร์ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ต่างออกมาแสดงความยินดีในบล็อก พระเอกของเรื่องอย่างเจียงเหว่ยได้ใจเต็มเปี่ยม ประกาศในบล็อกว่าตัวเองประเมินบ็อกซ์ออฟฟิศของเรื่อง ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ต่ำเกินไป
ยอดขายบ็อกซ์ออฟฟิศจำนวนห้าสิบล้านไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นเพียงการเริ่มต้น!
แหล่งพื้นที่โปรโมตอันสำคัญอีกแห่งคือในบล็อกและฟอรัมเกาะฮ่องกง มีบล็อกและโพสต์ชื่นชมภาพยนตร์ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ จำนวนมากหลั่งไหลเข้ามา ส่วนใหญ่บอกว่าเป็นความคิดเห็นหลังจากดูหนังของผู้ชมทั่วไป
“เนื้อเรื่องยอดเยี่ยม สเปเชียลเอฟเฟกต์โดดเด่น คุ้มค่าที่จะเสียเงินไปดูในโรงหนัง!”
“คิดไม่ถึงว่าในฮ่องกงของเราจะมีหนังที่ทำเอฟเฟกต์ได้ดีขนาดนี้ ต้องกดไลก์แล้ว”
“เมื่อวานพาแฟนสาวไปดู จองตั๋วตั้งแต่หลายวันก่อน คุ้ม!”
“ผมก็พาแฟนไปดูเหมือนกัน แฟนสาวบอกว่าสนุกมาก อยากดูอีกรอบ”
“สุดยอด สุดยอดมากๆ…”
คอมเมนต์ชื่นชมในบล็อกและฟอรัมมากมายเช่นนี้ ทำให้คนรู้สึกว่าเสียดายที่ไม่ได้ไปดู กอปรกับมีกิจกรรมจับฉลากที่ทางบัญชีทางการของภาพยนตร์จัดขึ้น กระแสโน้มเอียงในโลกออนไลน์ไม่ได้น้อยกว่าความเป็นจริงเลย
แต่แตกต่างกับผู้อ่านที่ได้รับการกระตุ้นจากหนังสือพิมพ์และนิตยสารต่างๆ เท่านั้น ในโลกออนไลน์อันกว้างขวางไม่ใช่ทุกคนที่จะถูกหลอกซื้อหรือถูกกล่อมให้โอนอ่อนตาม เสียงคัดค้านกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้!
“เมื่อวานได้ดู ’พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ แล้ว ผมบอกได้คำเดียวว่าเงินสามสิบห้าหยวนละลายไปกับสายน้ำ”
“สเปเชียลเอฟเฟกต์ของ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ไม่เลวก็จริง แต่เนื้อเรื่องอเนจอนาถจนทนดูไม่ได้ ตรรกะของเรื่องสับสน แย่!”
“ไม่โม้ไม่ใส่ความ ผมดูได้ครึ่งเดียวก็ลุกออกมาพร้อมกับแฟนสาวแล้ว น่าเบื่อ”
“ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ก็งั้นๆ ไม่เห็นจะดีอย่างที่สื่อประโคมข่าวเลย มีแค่สเปเชียลเอฟเฟกต์ที่ผ่าน”
“ฉันอยากบอกว่าดูจบแล้วผิดหวังมาก นี่เป็นหนังผีแฟนตาซีที่ลงทุนเป็นร้อยล้านจริงเหรอ”
“เนื้อเรื่องบัดซบ…”
เสียงคัดค้านเหล่านี้ปรากฏขึ้นครั้งแรกในห้องภาพยนตร์โทรทัศน์ของฟอรัมเกาะฮ่องกง
ห้องภาพยนตร์โทรทัศน์ในฟอรัมเกาะฮ่องกงเป็นห้องที่มีความเคลื่อนไหวมากแห่งหนึ่ง สมาชิกที่ลงบัญชีเข้าใช้มีมากถึงหลายแสนราย ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ชอบดูหนังและละคร การโพสต์และคอมเมนต์ค่อนข้างว่องไว
หนังเรื่องใหม่ลงโรง อยากรู้ว่าผู้ชมมีปฏิกิริยาอย่างไร ห้องภาพยนตร์โทรทัศน์ในฟอรัมเกาะฮ่องกงนั้นเป็นแหล่งที่รู้ได้เร็วที่สุด เมื่อคัดกรองไอดีที่มาทำการตลาดออกไป คำวิจารณ์ของสมาชิกในห้องล้วนเป็นความจริง สามารถสะท้อนความรู้สึกของกลุ่มคนวัยหนุ่มสาวมีต่อหนังเรื่องนั้นได้
แน่นอนว่าในพื้นที่วิพากษ์วิจารณ์อันสำคัญย่อมต้องมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ของบริษัทการตลาดอยู่ไม่น้อย ทว่าต่อให้มีไอดีที่ชมเชย ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ มากแค่ไหน ก็ไม่อาจลบล้างเสียงต่อต้านเหล่านี้ได้
สิ่งสำคัญคือคำวิจารณ์ดีๆ ส่วนใหญ่มาจากไอดีเล็กๆ หรือไอดีการตลาด ส่วนคำวิจารณ์ว่าแย่นั้นมาจากสมาชิกอาวุโสเป็นหลัก ความน่าเชื่อถือของทั้งสอง ฝ่ายหนึ่งสูงอีกฝ่ายหนึ่งต่ำ แต่คนที่ติดตามในฟอรัมหลายๆ วันจะรู้ดี
เสียงเหล่านี้สะท้อนต่อไปยังบล็อกอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์มากมายตามมา
ดังนั้นในโลกอินเทอร์เน็ตความคิดเห็นต่อภาพยนตร์ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ จึงแบ่งเป็นสองขั้วอย่างชัดเจน
คนที่บอกว่าดีกับคนที่บอกว่าไม่ดีล้วนมีมาก ทั้งสองฝ่ายโต้เถียงกันไม่สิ้นสุด ทำให้ชาวเน็ตที่อยู่ตรงกลางไม่รู้จะคล้อยตามฝ่ายไหน
คืนวันที่ 15 ตอนสามทุ่ม หวังต้ง นักวิจารณ์ภาพยนตร์ชื่อดังของฮ่องกงได้โพสต์บทวิจารณ์ในบล็อกส่วนตัว
หัวข้อหลักของโพสต์นี้คือ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’
“สเปเชียลเอฟเฟกต์อันตระการตากลบเกลื่อนเนื้อเรื่องที่จืดชืดไปหมด เรื่องราวที่สับสนของหนังกลายเป็นความอัปยศ มีเพื่อนร่วมโรงหนังเดียวกับผมหลายคนเดินออกก่อนหนังจบ”
“สเปเชียลเอฟเฟกต์ของ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ไม่ได้ดีจนทำให้คนมองข้ามจุดด้อยเหล่านี้ แม้สื่อจะออกมาช่วยโฆษณาว่าหนังเรื่องนี้ดีกว่าหนังฮอลลีวูด แต่มันไม่ใช่หนังคลาสสิคในแบบฉบับป็อปคอร์น แค่เลียนแบบคนอื่นแต่ทำไม่ได้เรื่องเท่านั้น!
“ผู้กำกับคงอยากเปลี่ยนเนื้อเรื่องที่น่ากลัวเป็นเรื่องความรักอันรวดร้าว เพิ่มเนื้อเรื่องอันสบสนเข้าไปอีก นักแสดงส่วนใหญ่เป็นหนุ่มหล่อสาวสวย แต่ทักษะการแสดงกลับยังไม่โดดเด่นพอ!”
“ผมเดินถือตั๋วเข้าไปในโรงหนังพร้อมกับความคาดหวัง แต่กลับได้รับความผิดหวังมาแทน…”
นักวิจารณ์ชาวฮ่องกงเกิดขึ้นมากมายหลังจากภาพยนตร์ฮ่องกงเข้าสู่ยุคทอง ตอนนั้นสื่อมีอิทธิพลสูง แต่เมื่อเข้าสู่ยุคออนไลน์ บนโลกอินเตอร์เน็ตที่ใครๆ ก็เป็นนักวิจารณ์ภาพยนตร์ออกมาโพสต์บทความบนอินเตอร์เน็ตได้ นักวิจารณ์ภาพยนตร์ก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ
นักวิจารณ์ภาพยนตร์ที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่กลายเป็นปากเสียงให้กับบริษัทการตลาด ไม่แตกต่างจากผู้ช่วยโฆษณาทางออนไลน์มากนัก และยิ่งไม่มีกฎระเบียบมากขึ้น
แต่ยังมีนักวิจารณ์ภาพยนตร์ที่มีจรรยาบรรณหลงเหลืออยู่ หวังต้งเป็นหนึ่งในนั้น เขาเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงในฮ่องกง แต่สนใจติดตามการพัฒนาของภาพยนตร์ฮ่องกงมาโดยตลอด และเขียนบทวิจารณ์ภาพยนตร์ให้กับนิตยสารและหนังสือพิมพ์หลายฉบับ
แตกต่างจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์ที่ทำเป็นธุรกิจ หวังต้งเขียนบทวิจารณ์โดยไม่ได้รับเงินจากบริษัทใด ดังนั้นคำวิจารณ์ของเขาซื่อตรงและยุติธรรม ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลต่อกลุ่มคนมากมายในฮ่องกง
โดยเฉพาะกลุ่มคนอายุสามสิบถึงสี่สิบปี ชอบอ่านบทวิจารณ์ภาพยนตร์ของเขาเป็นพิเศษ
แน่นอนว่าบทวิจารณ์ภาพยนตร์ของหวังต้งไม่ได้ไร้ที่ติ เขาเข้าข้างภาพยนตร์ที่มีศิลปะวัฒนธรรมมากกว่าภาพยนตร์เพื่อการค้า ดังนั้นภาพยนตร์ที่มียอดบ็อกซ์ออฟฟิศสูงๆ มักจะถูกเขาหักล้าง
ส่วนภาพยนตร์ตลกคอมเมดี้ที่เรียกว่าแนว ‘ฮาขี้เล็ด’ หรือ ‘ครอบครัวหรรษา’ นั้น ยิ่งถูกหวังต้งวิจารณ์ว่าไม่คุ้มค่าเงินสักหยวน ทำให้เขากลายเป็นคนที่ไม่ได้รับความนิยมในวงการภาพยนตร์ฮ่องกง
แม้เขาจะถูกเกลียด แต่หวังต้งก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงรูปแบบการวิจารณ์ของตัวเองเลย ผู้ผลิตภาพยนตร์ที่ได้รับคำชื่นชมย่อมดีใจที่ได้รับคำชมฟรี ส่วนผู้ผลิตภาพยนตร์ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ อย่างหวาก้วนพิคเจอร์สและซิงอี้เอนเตอร์เทนเมนต์ย่อมไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง
ผู้ที่ออกมาตอบโต้คนแรกคือพระเอกของ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ อย่างเจียงเหว่ย เขาโพสต์ด่าหวังต้งในบล็อกส่วนตัวบอกว่าคำวิจารณ์ของหวังต้งเป็นการใส่ความ ได้เงินจากคนอื่นแล้วมาเหยียบย่ำ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ เขาใช้คำพูดที่ค่อนข้างรุนแรง
แต่แล้วเจียงเหว่ยก็ลบโพสต์ออกจากบล็อกของตัวเองอย่างรวดเร็ว แต่คำกล่าวโทษของเขาต่อหวังต้งยังสร้างความโกลาหลขึ้นในโลกอินเทอร์เน็ต และทำให้ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ กลายเป็นคำค้นหาที่มาแรงที่สุดในบล็อกเกาะฮ่องกง
…………………………………………