Perfect Superstar – ตอนที่ 583 สงครามน้ำลาย

Perfect Superstar

ตอนที่ 583 สงครามน้ำลาย

‘วีกลีมูฟวี่ทอล์ก’ เป็นหนึ่งในรายการดังของอี้หว่างวิดีโอ จะปราฏอยู่บนหน้าแรกทุกสัปดาห์ เพราะฉะนั้นยอดกดดูจึงค่อยข้างสูง ยอดวิวภายในวันเดียวเป็นล้านวิว มีกลุ่มชาวเน็ตที่ดูเป็นประจำ

ดังนั้นหลังจากออกอากาศ ‘วีกลีมูฟวี่ทอล์ก’ ตอนของวันที่ 26 มีนาคม ไม่ช้าก็ถูกคนแชร์ไปยังบล็อกรวมถึงฟอรัมทันใดนั้นเหล่าแฟนคลับของลู่เฉินก็ ‘ระเบิด’ ทันที!

ช่วงนี้เนื่องจากกรณีการเสนอรายชื่อเข้าชิงรางวัลสุวรรณหงส์ เป็นผลทำให้กลุ่มแฟนคลับลู่เฉินที่มีขุนศึกตระกูลลู่เป็นหัวใจหลักรู้สึกไม่พอใจมาก หลายคนรู้สึกโกรธแทนไอดอลของพวกเขา แต่กลับหาที่ระบายไม่ได้

ตอนนี้ได้เห็นวังเสี่ยวซวี่ดูถูก ‘โปเยโปโลเย’ ในรายการ กระทั่งบอกเป็นนัยว่ารายได้ตั๋วหนังของ ‘โปเยโปโลเย’ในฮ่องกงเป็นของปลอม แล้วทุกคนจะทนได้อย่างไร

ความโกรธที่เดิมทีอัดอั้นเอาไว้ กลับกลายเป็นปืนใหญ่ที่พุ่งใส่วังเสี่ยวซวี่ระเบิดดังตูม!

สนามรบหลักก็ต้องเป็นบล็อกล่างฉาวอยู่แล้ว แฟนคลับจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนเขียนคอมเมนต์โจมตีวังเสี่ยวซวี่ในช่องแสดงความคิดเห็น

“แค่ดูตัวอย่างหนัง ‘โปเยโปโลเย’ ก็รู้ว่าผลลัพธ์ไม่ดีแล้ว คนวิจารณ์หนังเป็นกันง่ายมากใช่ไหม”

“ไม่รู้ก็อย่าพูดจาส่งเดช ‘โปเยโปโลเย’ ทำรายได้เกินร้อยล้านที่ฮ่องกงทำไมจะเชื่อไม่ได้”

“รบกวนอย่าเป็นตัวแทนของผู้ชมส่วนใหญ่ คุณพูดว่าพวกเราไม่ชอบก็จะไม่ชอบหนังแนวผีเหรอ”

“คนวิจารณ์หนังเฮงซวย พูดจาซี้ซั้ว!”

“ขอโทษนะ ฉันอยู่ที่ฮ่องกงเคยดู ‘โปเยโปโลเย’ แล้ว รายได้ของเขามันดีจริงๆ”

“ไม่มีหลักฐานก็พูดมั่ว ระวังลู่เฉินจะฟ้องว่าคุณหมิ่นประมาท!”

“’โปเยโปโลเย’ ทิ้งห่าง ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ไปสิบถนนแล้ว รายได้ตั๋วหนังในประเทศจีนไม่แย่แน่นอน”

“ระวังถูกตบหน้านะ…”

จุดสำคัญที่แฟนคลับรุมระเบิดใส่ อยู่ที่วังเสี่ยวซวี่สงสัยการทำรายได้ของ ‘โปเยโปโลเย’ ที่ฮ่องกง โดยเฉพาะยอดจำหน่ายสินค้าที่ระลึกของ ‘โปเยโปโลเย’ เขาไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นในรายการเขาจึงแสดงท่าทีเยาะเย้ยดูถูกอย่างชัดเจน

พูดตามความเป็นจริง เลี่ยงประเด็นรายได้ตั๋วหนังไปก่อน ความสงสัยของวังเสี่ยวซวี่ที่มีต่อยอดจำหน่ายสินค้าที่ระลึกของ ‘โปเยโปโลเย’ ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล เพราะตลาดส่วนนี้โดยทั่วไปแล้วถูกภาพยนตร์ฮอลลีวูดควบคุมอย่างแน่นหนา

คนในวงการของประเทศจีน แน่นอนว่ารวมถึงชาวฮ่องกง ใช่ว่าจะไม่รู้ถึงผลประโยชน์มหาศาลของสินค้าที่ระลึกจากภาพยนตร์ ทว่าสิ่งของเหล่านี้อยากจะเลียนแบบก็เลียนแบบไม่ได้ ไม่ใช่ว่าไม่มีคนเคยบุกเบิกตลาดส่วนนี้ แต่ผลที่ได้กลับต้องหัวแตกเลือดไหลซิบทุกครั้งไป

ตัวอย่างที่เคยขาดทุนก็มีเยอะแยะ คนในวงการจึงสูญเสียความมั่นใจ ต่อให้เป็นภาพยนตร์ที่มีรายได้เกินร้อยล้าน ก็ไม่คิดที่จะลงทุนด้านสินค้าที่ระลึก กินส่วนแบ่งจากรายได้ตั๋วหนังก็พอใจแล้ว มากสุดก็แค่ออกโปสเตอร์ภาพถ่ายหรือแผ่นเสียงอะไรพวกนี้

ด้วยความเข้าใจที่วังเสี่ยวซวี่มีต่อตลาดภาพยนตร์ในประเทศจีนรวมถึงฮ่องกง ดังนั้นจึงไม่เชื่อว่าลู่เฉินจะทุ่มเงินเตรียมทำสินค้าที่ระลึกไว้ล่วงหน้า…เว้นเสียแต่ว่าเขาสามารถทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ รู้ว่าภาพยนตร์ของตัวเองจะดังมาก

การผลิตสินค้าที่ระลึกหลายอย่างจำเป็นต้องใช้เวลาเตรียมสินค้านานมาก สิ่งของหลายอย่างที่เกี่ยวข้องมีกระบวนการที่ซับซ้อน เช่น การออกแบบ การพิมพ์ การแปรรูป บรรจุภัณฑ์ เป็นต้น ดังนั้นตอนที่โปรโมตว่า ‘โปเยโปโลเย’ ในฮ่องกงสามารถขายสินค้าที่ระลึกได้มากกว่าสี่สิบล้าน ยากที่คนจะเชื่อได้จริงๆ…เพราะต้องเตรียมสินค้าล่วงหน้ามากแค่ไหน

วังเสี่ยวซวี่วิเคราะห์ตามเหตุผลทั่วไป มั่นใจว่าข้อมูลการจำหน่ายเป็นของปลอม แต่กลับไม่รู้ว่าความมั่นใจของลู่เฉินอยู่ที่ไหน

คอลัมนิสต์ควบตำแหน่งนักวิจารณ์ภาพยนตร์คนนี้ก็เป็นที่รู้จักจากปลายปากกาที่เฉียบคม และพูดจาขวานผ่าซากตรงไปตรงมาอยู่เสมอ เมื่อเจอระเบิดของแฟนคลับลู่เฉินจำนวนนับหมื่นนับพัน เขาก็ไม่หดตัวเป็นเต่าปิดฟังก์ชั่นการแสดงความคิดเห็นเหมือนบล็อกทางการของรางวัลสุวรรณหงส์ แต่โต้กลับโดยไม่ยอมอ่อนข้อให้เช่นกัน

วังเสี่ยวซวี่อัปเดตบล็อกของตัวเองเป็นอย่างแรก เขียนบทความที่มีตัวหนังสือนับพันตอบกลับโดยใช้น้ำเสียงคลางแคลงสงสัย และยังตอกกลับคอมเมนต์ของชาวเน็ตที่โจมตี โดยใช้คำที่ค่อนข้างรุนแรง

ในโพสต์บล็อกใหม่ เขาอ้างอิงข้อมูลและตัวอย่างจริงเป็นจำนวนมาก มาพิสูจน์ว่า ‘โปเยโปโลเย’ จะมีตลาดที่ไม่ใหญ่นักในประเทศจีน และยังเผชิญหน้ากับภาพยนตร์ฮอลลีวูดอีกสองเรื่องที่รอเสียบอยู่หน้าหลัง คงไม่มีผลงานอะไรแน่นอน มากสุดก็แค่ได้อั่งเปาจากแฟนคลับไม่กี่คน การจำหน่ายสินค้าที่ระลึกยิ่งเป็นเรื่องตลก!

วังเสี่ยวซวี่พูดเสียดสีว่า ‘โปเยโปโลเย’ เลือกออกฉายในช่วงเวลานี้ นอกจากพิสูจน์ว่าลู่เฉินลุ่มหลงมึนเมาไปกับความสำเร็จก่อนหน้า โดยทั่วไปแล้วก็คือแกว่งเท้าหาเสี้ยน ความเป็นจริงจะสั่งสอนบทเรียนให้ลู่เฉินอย่างหนัก

สำหรับแฟนคลับของลู่เฉิน วังเสี่ยวซวี่ยิ่งไม่เกรงใจ กล่าวหาโดยตรงว่าเป็น ‘มือรับจ้างโพสต์’ เป็น ‘ม็อบชาวเน็ต’

วังเสี่ยวซวี่มีท่าทีที่แข็งกร้าวขนาดนี้ บวกกับการตอบสนองที่แดกดันถากถาง ทำให้การต่อสู้ที่ปะทุขึ้นในบล็อกนี้รุนแรงมากยิ่งขึ้น แฟนคลับของลู่เฉินเข้าไปมีส่วนร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบต่อลู่เฉินพอสมควร

ควรทราบว่าวังเสี่ยวซวี่เป็นคนในวงการครึ่งหนึ่ง เขามีเพื่อนและเส้นสายของตัวเองในวงการบันเทิงและวงการวรรณกรรม เมื่อเผชิญกับการประดังล้อมเข้ามาของแฟนคลับที่เยอะขนาดนี้ จะต้องมีคนมาช่วยพูดสนับสนุนเขาแน่นอน

บล็อกเกอร์ชื่อดังหลายคนได้แสดงการสนับสนุนวังเสี่ยวซวี่ในบล็อกของตัวเองทั้งแบบชัดเจนและแบบคลุมเครือ คิดว่าการวิจารณ์ของเขาที่มีต่อ ‘โปเยโปโลเย’ นั้นถูกต้อง กระทั่งแอบบอกเป็นนัยว่ามีคนอยากฉวยโอกาสสร้างกระแสด้วยเหตุนี้

สงครามน้ำลายครั้งนี้ทำให้คีย์เวิร์ดของโปเยโปโลเยขึ้นสู่หน้าแรกของบล็อกล่างฉาวทันที

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ลู่เฉินที่อยู่ดีๆ ก็พลอยซวยไปด้วยไม่อาจอยู่เฉยต่อไปได้

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลู่เฉินให้ความสำคัญกับกลุ่มแฟนคลับของตัวเองเป็นอย่างมาก งานใหญ่ส่วนหนึ่งของสตูดิโอลู่เฉินในตอนแรก ก็คือการบริหารจัดการแฟนคลับ

แฟนคลับคือความสำเร็จของดารา ดาราที่ไม่มีแฟนคลับก็ไม่มีค่าอะไร แต่มีแฟนคลับบางกลุ่มที่นำพาความยุ่งยากมาสู่ดารา อย่างเช่นการต่อสู้ในบล็อกครั้งนี้ ในสายตาของคนนอกคิดว่าลู่เฉินมีเอี่ยวด้วยแน่นอน

แน่นอนว่าลู่เฉินจะไม่พูดอะไรเลยก็ได้ หรือไม่ก็เขียนอะไรลวกๆ แสดงตัวสักสองสามประโยค แต่แบบนี้จะทำให้หัวใจของพวกแฟนคลับลู่เฉินที่สนับสนุนเขาอย่างกระตือรือร้นรู้สึกเสียใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้…แฟนคลับมากมายล้วนเป็นคนอ่อนไหวและเปราะบาง

ดังนั้นหลังจากที่พิจารณาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน และขอความคิดเห็นจากฝ่ายสื่อและประชาสัมพันธ์ของบริษัทในขณะเดียวกัน วันที่ 28 เวลาสองทุ่ม ลู่เฉินได้โพสต์ข้อความใหม่ในบล็อกของตัวเอง

เนื้อหาในโพสต์นี้ระบุว่า อย่างแรกเขาขอขอบคุณการสนับสนุนของแฟนๆ ที่มีต่อตัวเอง และขอบคุณทุกคนที่รัก ‘โปเยโปโลเย’ ขณะเดียวกันก็หวังว่าทุกคนจะมีสติกับคำวิจารณ์ที่ไม่มีประโยชน์ อย่าใช้คำด่าที่ไม่สุภาพบนอินเทอร์เน็ตอย่างกำเริบเสิบสาน เพราะทุกคนมีอิสระที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเอง แต่ความอิสระนี้ไม่ควรที่จะไม่มีขอบเขต

ย้อนกลับไปในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ลู่เฉินรู้สึกภาคภูมิใจและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เพราะภาพยนตร์เรื่องแรกที่เขาเป็นคนเขียนบทเอง กำกับเอง และแสดงเองสำเร็จเป็นรูปธรรม แถมยังได้ผลลัพธ์กับคำชมที่ไม่เลวจากฮ่องกง

ตอนนี้ ‘โปเยโปโลเย’ กำลังจะออกฉายในประเทศจีน ได้พบกับแฟนคลับจำนวนมาก ถึงแม้จะเจอความกดดันที่ยิ่งใหญ่จากภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มใหญ่ถึงสองเรื่อง แต่เขาก็มั่นใจว่าจะสามารถทำให้เป้าหมายที่ตัวเขาตั้งไว้ให้ ‘โปเยโปโลเย’ กลายเป็นจริงได้

นั่นก็คือรายได้ตั๋วหนังในประเทศจีนทะลุห้าร้อยล้าน ยอดจำหน่ายสินค้าที่ระลึกเกินร้อยล้าน!

…………………………………………………………………………

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Status: Ongoing
ชีวิตของลู่เฉินดั่งมรสุมรุมเร้า ทว่าสวรรค์ยังคงเมตตาคนสู้ชีวิต ความทรงจำและความสามารถจากในความฝัน จะช่วยปูทางให้เขากลายเป็น Perfect Superstar เอง!ลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปีจำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาลวันหนึ่งเขาฝัน…เป็นความฝันที่ยาวนานมากโลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกันนักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระเขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝันเมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมาเป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท