ตอนที่ 584 รอติดตามชม
‘โปเยโปโลเย’ กำลังจะออกฉายในวันที่ 2 เมษายนนี้ และงานโปรโมตก็ได้เริ่มขึ้นนานแล้ว งบประมาณสามสิบล้านไม่ถือว่าเยอะเกินไป เพียงพอที่จะทำให้ผู้ชมทั่วประเทศจำนวนมากรู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังจะเข้าฉายแล้ว
เมื่อเทียบกับ ‘สงครามเทพอัคคี’ กับ ‘ตำนานดินแดนศักดิ์สิทธิ์’ ภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มใหญ่สองเรื่อง ‘โปเยโปโลเย’ อยู่ในจุดที่ด้อยกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย เฉินเฟยมีเดียก็ไม่อยากเสียเงินโปรโมตก้อนโตเพื่องานนี้ พยายามถ่อมตัวไม่มากก็น้อย
ดังนั้นตอนที่ลู่เฉินประกาศเป้าหมายสั้นๆ ในบล็อกว่า ‘รายได้ตั๋วหนังในประเทศจีนทะลุห้าร้อยล้าน ยอดจำหน่ายสินค้าที่ระลึกเกินร้อยล้าน’ จึงเกิดเสียงสะท้อนดังขึ้นในวงการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สิบปีที่ผ่านมานี้ รายได้ตั๋วหนังในประเทศจีนเพิ่มขึ้นตามความร้อนแรงของตลาดภาพยนตร์ในประเทศ
หนึ่งในนั้นมีภาพยนตร์ยอดนิยมหลายเรื่องที่ใช้เงินลงทุนแค่ไม่กี่สิบล้าน ทำรายได้หลายร้อยล้าน แต่โดยพื้นฐานล้วนเป็นภาพยนตร์แนวไอดอล ส่วนใหญ่ดัดแปลงมาจากนิยายขายดีหรือไม่ก็นิยายออนไลน์ชื่อดัง
เงินลงทุนของ ‘โปเยโปโลเย’ ก็แค่ไม่กี่สิบล้านเหมือนกัน เป้าหมายรายได้ตั๋วหนังในประเทศห้าร้อยล้านดูเหมือนไม่สูงนัก แต่สถานการณ์ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะตอนนี้ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงแต่ต้นทุนต่ำมีน้อยลงเรื่อยๆ ภาพยนตร์แนวไอดอลวัยใสไม่ค่อยไหวแล้ว นับประสาอะไรกับภาพยนตร์แนวภูตผีปีศาจ!
ถ้าหาก ‘โปเยโปโลเย’ ลงทุนร้อยล้านถึงสองสามร้อยล้าน เงินต้นเพียงพอสำหรับทำสเปเชียลเอฟเฟกต์ อาศัยอิทธิพลของผลงานต้นฉบับ บางทีอาจดึงดูดการสนับสนุนจากผู้ชมได้ไม่น้อย
แต่เงินลงทุนเพียงสามสิบล้าน ต่อให้เอาเงินทุนทั้งหมดมาทำสเปเชียลเอฟเฟกต์ จะทำเนื้อหาได้กี่นาทีกัน
ไม่มีสเปเชียลเอฟเฟกต์ที่น่าตื่นตา ‘โปเยโปโลเย’ จะเอาอะไรมาดึงดูดผู้ชมภาพยนตร์ในประเทศ รสนิยมการดูของผู้ชมในประเทศแตกต่างจากผู้ชมชาวฮ่องกงเป็นอย่างมาก ภาพยนตร์แนวผีสางเทวดาเป็นภาพยนตร์ของคนดูกลุ่มเล็กๆ
การวิเคราะห์ ‘โปเยโปโลเย’ ของวังเสี่ยวซวี่มีเหตุผลมาก
เพราะฉะนั้นอะไรทำให้ลู่เฉินมั่นใจมากขนาดนี้
รายได้ตั๋วหนังห้าร้อยล้านก็ช่างมันเถอะ ยังประกาศเป้าหมายยอดจำหน่ายสินค้าที่ระลึกเกินร้อยล้านด้วยเนี่ยสิ ทำให้ทุกคนตกตะลึงอ้าปากค้างจริงๆ
คนวงในจำนวนไม่น้อยรู้สึกว่าลู่เฉินทำตัวเบ่งเกินไปหน่อย บางทีสองปีมานี้เขาเติบโตอย่างราบรื่นเกินไป ดังนั้นจึงเชื่อมั่นในอิทธิพลของตัวเองมาก แต่กลับลืมไปว่าภาพยนตร์กับละครโทรทัศน์และเพลงป็อปมันไม่เหมือนกัน
ถ้าหากลู่เฉินถ่ายทำภาพยนตร์แนวไอดอลวัยรุ่น ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องรายได้ตั๋วหนังเท่าไร
ทว่าภาพยนตร์แนวผีแฟนตาซีแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เด็กหน้าใหม่จะควบคุมได้ง่าย
แต่ก็มีบุคคลในวงการสองสามท่านที่สนับสนุนลู่เฉิน พวกเขาเคยดูภาพยนตร์ ‘โปเยโปโลเย’ จึงมีทัศนคติที่ชื่นชมและเชื่อมั่นในภาพยนตร์เรื่องนี้ และยังพูดชมลู่เฉินในบล็อกสองสามประโยค
ทว่าเสียงเหล่านี้อ่อนแออย่างเห็นได้ชัด ความคิดเห็นของคนทั่วไปล้วนคิดว่าไม่ดี
ในโพสต์ของลู่เฉินนี้ ถึงแม้เขาจะไม่ได้เอ่ยชื่อของวังเสี่ยวซวี่ แต่นักวิจารณ์ภาพยนตร์คนนี้กลับมองว่าเขาท้าทายตัวเอง ไม่ช้าจึงโพสต์ข้อความใหม่อีกอัน
เนื้อหาในโพสต์เรียบง่ายมาก แค่สี่คำเท่านั้น…รอติดตามชม!
วังเสี่ยวซวี่เป็นนักวิชาการที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ เขามีความยืนหยัดและดื้อรั้นในแบบตัวเอง ยามที่เอาจริงก็เฉียบคมมากเหมือนกัน แต่เขาจะไม่ทำตัวไร้สาระเหมือนคนอื่น อย่างเช่นพูดกับลู่เฉินว่าท้าพนันกินคีย์บอร์ด แก้ผ้าวิ่งอะไรทำนองนี้
‘รอติดตามชม’ สี่คำนี้แสดงท่าทีของเขาออกมาได้อย่างชัดเจน
ส่วนแฟนๆ ของลู่เฉิน ได้สนับสนุนโพสต์นี้ของลู่เฉินเป็นอย่างยิ่ง
“อะไรก็ไม่ต้องพูด ตั๋วหนังฉันจะซื้ออย่างน้อยห้าใบ สินค้าที่ระลึกดูก่อนค่อยว่ากัน!”
“รายได้ตั๋วหนังเกินห้าร้อยล้านเจียมตัวสุดๆ ฉันคิดว่าต้องทะลุแปดร้อยล้าน!”
“หนึ่งพันล้าน!”
“สนับสนุนเฉินของฉัน ถึงตอนนั้นฉันจะแฟนไปดู ‘โปเยโปโลเย’ ด้วยกัน”
“รายได้ตั๋วหนังกับคำชมที่ฮ่องกงดีขนาดนั้น ฉันไม่เชื่อหรอกว่าในจีนจะแย่ จะต้องทำได้แน่นอน!”
“พี่ลู่เฉิน พอจะบอกได้ไหมว่าสินค้าที่ระลึกมีอะไรบ้าง”
“สงสัยเหมือนกัน…”
จริงอย่างที่พูด ลู่เฉินตอบคำถามเกี่ยวกับสินค้าที่ระลึกที่แฟนคลับสงสัยจริงๆ วันที่สองตอนเย็นเขาอัปเดตบล็อกอีกครั้ง ปล่อยรูปภาพสิบกว่ารูปออกมา
รูปภาพทั้งหมดนี้เป็นสินค้าที่ระลึกที่เกี่ยวกับ ‘โปเยโปโลเย’ รวมทั้งโมเดลที่ผู้ชมภาพยนตร์ชาวฮ่องกงชื่นชอบที่สุด แต่ไม่ใช่รูปภาพแนวศิลป์ ทว่ามันเป็นรูปภาพสินค้าที่อยู่ในโกดัง!
ถูกแล้ว ภาพที่ถูกปล่อยออกมาจากโพสต์ของลู่เฉิน เป็นรูปภาพสินค้าที่ระลึกหลายอย่างในโกดัง นอกจากโมเดลของตัวละครต่างๆ ที่อยู่ในภาพยนตร์แล้ว ยังมีดีวีดีเพลงประกอบภาพยนตร์ นิยายภาพยนตร์ สมุดภาพที่ระลึก เครื่องประดับ ของใช้ตกแต่ง เป็นต้น มีหมดทุกอย่าง
ประเด็นสำคัญคือในโกดังใหญ่แห่งนี้ มีสินค้ากองเป็นชั้นเต็มไปหมด!
สินค้าที่ระลึกในโกดังเหล่านี้ลู่เฉินเตรียมไว้ตอนที่อยู่ฮ่องกง สั่งผลิตจากโรงงานเพื่อตีตลาดในประเทศจีนเป็นหลัก จำนวนเยอะมากกว่าเท่าตัว ตอนนี้ส่วนใหญ่ขนส่งมาถึงเมืองหลวงแล้ว
กำลังซื้อของผู้ชมชาวฮ่องกงค่อนข้างแข็งแกร่ง จำนวนผู้ชมในประเทศจีนเยอะมาก เมื่อเทียบความสมดุลแล้วดังนั้นลู่เฉินจึงตั้งเป้ายอดจำหน่ายสินค้าที่ระลึกของ ‘โปเยโปโลเย’ อยู่ที่หนึ่งร้อยล้าน
เป้าหมายนี้สามารถพูดได้ว่ามีความทะเยอทะยานมาก เพราะสินค้าที่ระลึกหลายอย่างของภาพยนตร์ฮอลลีวูดก็จำหน่ายในประเทศจีนไม่สู้ดีนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศ
แต่ความสำเร็จที่ฮ่องกง มอบความมั่นใจให้ลู่เฉินมากพอ!
และรูปภาพในโกดังเหล่านี้ ด้านหนึ่งเพื่อพิสูจน์ความมั่นใจของตัวเอง อีกด้านหนึ่งเป็นการโต้กลับความสงสัยของวังเสี่ยวซวี่…หากไม่มั่นใจว่าจะได้ต้นทุนคืน จะสั่งผลิตสินค้ามากมายขนาดนี้ไหม
อันที่จริงในบล็อกก่อนหน้านี้ ลู่เฉินได้โพสต์รูปสินค้าที่ระลึกสองสามรูป แต่รูปภาพแนวศิลป์เหล่านั้นเห็นได้ชัดว่าไม่อาจเทียบกับวิธีการ ‘อวด’ รูปสินค้าในโกดังแบบนี้ สร้างความฮือฮาให้กับแฟนคลับได้ไม่น้อย
“ว้าว! เยอะขนาดนี้เชียว ขอหนึ่งอันได้ไหม”
“โมเดลน่ารักจัง ถึงตอนนั้นฉันจะซื้อหนึ่งชุดแน่นอน!”
“เศรษฐีอยู่ที่ไหน มาเหมาซื้อแล้วแจกให้เพื่อนในกลุ่มหน่อย!”
“ซื้อๆๆ!”
สุดท้าย ลู่เฉินแสดงตัวในบล็อกว่า สินค้าที่ระลึกเหล่านี้เริ่มทยอยขนส่งไปตามร้านขายสินค้าที่ระลึกของทโรงภาพยนตร์ใหญ่ต่างๆ แล้ว จนถึงวันที่ 2 เมษายนจะจัดวางเต็มหน้าเคาน์เตอร์แน่นอน หวังว่าทุกคนจะช่วยกันสนับสนุนเยอะๆ นะครับ!
พวกแฟนคลับต้องสนับสนุนอยู่แล้ว
ความมั่นใจของลู่เฉินเกิดจากแฟนๆ ที่น่ารักและซื่อสัตย์กลุ่มนี้ของเขา เขาถ่ายทอดสดครั้งหนึ่งได้ส่วนแบ่งเงินรางวัลหลักล้าน สินค้าที่ระลึกจะขายเกินร้อยล้านไม่ได้ได้อย่างไรเล่า!
เจอการตอกกลับของลู่เฉิน วังเสี่ยวซวี่เงียบไปเลย บางทีคงจะตกตะลึงกับฝีมือการเขียนของลู่เฉิน บางทีเขาอาจจะกำลัง ‘รอติดตามชม’ อยู่ อย่างไรก็ตามไม่ได้ปะทะกับแฟนคลับของลู่เฉินอีก
ความสนใจของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
การโปรโมต ‘โปเยโปโลเย’ ยังคงดำเนินไปอย่างตึงเครียด ลู่เฉินกระทั่งแหกกฎของตัวเองออกงานเยอะขึ้น และออกรายการติดต่อกันสองสามรายการเพื่อโปรโมตภาพยนตร์
ไม่เพียงแต่ลู่เฉินเท่านั้น เฉินเฟยเอ๋อร์ก็ใช้เส้นสายและอิทธิพลของตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อโปรโมต ‘โปเยโปโลเย’ เฉินเฟยมีเดียทั้งหมดกำลังอยู่ท่ามกลางการทำงานอย่างบ้าคลั่ง
ทุกอย่างเพื่อการมาถึงของวันที่ 2 เมษายน!
…………………………………………………………………………