ตอนที่ 671 อย่าเสียเปรียบให้คนเกาหลี
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว หน้าที่ล้างจานมีลู่เฉินรับผิดชอบ
ส่วนเฉินเฟยเอ๋อร์กับเถียนเถียนไปพูดคุยกันอยู่ที่ระเบียงด้านนอก เฉินเฟยเอ๋อร์ยังนำชุดน้ำชาไม้หอมที่ไม่ได้ใช้มานานมากออกมา หลังจากทำความสะอาดแล้วก็เริ่มต้มน้ำชงชา
รอจนลู่เฉินจัดการถ้วยชามจนสะอาด และเก็บเข้าตู้ฆ่าเชื้อแล้ว เมื่อมาถึงก็ได้เวลาเสิร์ฟชาพอดี
เถียนเถียนเคยเรียนวิธีชงชากังฟู ทั้งมังกรเข้าถ้ำ แขวนกาน้ำค้างฟ้า ลมใบไม้ผลิล้อผิวหน้า ทุกกระบวนท่าเธอทำได้หมด ทั้งยังเป็นสาวสวยระดับแนวหน้า เมื่อเลิกแขนเสื้อยาวขึ้นเผยผิวแขนขาวเนียนเหมือนเนื้อหยก ยกกาน้ำชาดินเผาชงชาทิกวนอิม ทำให้คนดูเจริญตาเจริญใจ
คนสวยสองคนชงชา ลู่เฉินนั่งเชยชม พิงพนักเก้าอี้นุ่มแสนสบาย อาบไล้ด้วยลมเย็นยามค่ำคืน แสงไฟอันศิวิไลซ์จากบ้านเรือนเป็นหมื่นของเมืองหลวงกลายเป็นทิวทัศน์ชั้นยอด รู้สึกว่าความวุ่นวายสับสนทั้งหมดมลายไปสิ้น
สองมือของเฉินเฟยเอ๋อร์ยกน้ำชาที่ชงเสร็จมาให้ลู่เฉินถึงตรงหน้า เอ่ยเสียงหวานว่า “คุณชายลู่ ข้าน้อยขอมอบน้ำชาให้ท่าน!”
ลู่เฉินทำท่าดื่มด่ำ ดูเหมือนเป็นคุณชายตระกูลใหญ่!
เฉินเฟยเอ๋อร์เห็นแล้วหมั่นไส้ ทำท่าแหวะใส่เขาทีหนึ่ง
ลู่เฉินไม่กลัวหรอก เขาหัวเราะเหอะๆ แล้วรับถ้วยชามา ฉวยโอกาสลูบมือของเฉินเฟยเอ๋อร์ทีหนึ่ง พลางยิ้มตาหยี “เด็กดี คืนนี้อย่าลืมมารับใช้ข้าที่ห้องนอนด้วยเล่า!”
ตาบ้านี่!
เฉินเฟยเอ๋อร์ทั้งโกรธทั้งขำ ถลึงตาใส่เขาแก้เขิน “รอไปเถอะตาบ้า ฉันกับเถียนเถียนตกลงกันแล้ว คืนนี้ฉันจะนอนกับเธอ นายไปนอนที่ห้องนอนแขกแล้วกัน!”
ลู่เฉินเสียใจ “เมื่อก่อนยังชมจันทร์เป็นเพื่อนผมอยู่เลย เรียกผมว่าที่รักๆ ตอนนี้ได้ใหม่ลืมเก่าแล้ว เรียกผมว่าตาบ้า ชิ!”
เฉินเฟยเอ๋อร์อ้าปากค้าง…เคยเห็นคนที่หน้าไม่อายมาก่อน แต่ไม่เคยเห็นคนที่หน้าไม่อายขนาดนี้!
เถียนเถียนรับไม่ได้แล้ว “ช่วยด้วย พวกเธอสองคนจะสวีทกันก็อย่าเอาฉันไปเกี่ยวด้วยได้ไหม ขอบคุณ!”
ลู่เฉินหัวเราะเหอๆ
น่าเสียดายที่โลกนี้ ไม่มีใครรู้จักมุกตลกใน ‘ไซอิ๋ว เดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน’!
จู่ๆ เขาก็คิดว่าจะถ่ายทำภาพยนตร์คลาสสิคเรื่องนี้ที่อยู่ในโลกของความฝันดีหรือไม่
แล้วเฉินเฟยเอ๋อร์จะแสดงเป็นอะไรดี? เทพธิดาจื่อเสียหรือนางมารกระดูกขาวไป๋จิงจิง? เอาเป็นว่าไม่ใช่องค์หญิงพัดเหล็กก็พอ
“นี่ๆๆ!”
เถียนเถียนเห็นลู่เฉินเหม่อลอยก็อดโบกมือไปมาตรงใบหน้าเขาไม่ได้ “คิดอะไรอยู่น่ะ”
คุณหนูเถียนไม่ค่อยพอใจตาบ้านี่ ต่อหน้าเธอกับเฉินเฟยเอ๋อร์ซึ่งเป็นหญิงสาวสวยทั้งคู่ เขากลับกล้าใจลอย คิดอะไรไปไกลแล้ว!
ลู่เฉินตื่นจากภวังค์ ยิ้มแล้วส่ายหัวว่า “ไม่ได้คิดอะไร…”
เถียนเถียนบ่น “โกหก”
เฉินเฟยเอ๋อร์รู้ดี “นายอย่าคิดฝันหวานไปล่ะ เถียนเถียนจะอยู่บ้านเราหลายวัน รอจนการเจรจากับเคจีเอสเสร็จแล้วถึงจะกลับหังโจว”
ลู่เฉินสงบใจ แล้วถามว่า “คิดหรือยังว่าจะคุยยังไง”
ลิขสิทธิ์ทั่วโลกของรายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ อยู่ในมือสตาร์แฟคตอรี เขากับเฉินเฟยเอ๋อร์ถือหุ้นส่วนใหญ่ของสตาร์แฟคตอรีอยู่ ดังนั้นการเจรจาซื้อขายลิขสิทธิ์ครั้งนี้จึงเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของทั้งคู่โดยตรง
แม้ตอนนี้ลู่เฉินจะไม่สนใจเงินทองเท่าใด เงินที่เขาหาได้ใช้ไปกี่ชาติก็ไม่มีทางหมดแล้ว แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมขายลิขสิทธิ์ของรายการ ‘เดอะวอยซ์ใช่น่า’ ไปในราคาที่ถูก
‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ซีซันแรกยังไม่จบ ยอดเรตติ้งในประเทศดีจนไม่รู้จะดียังไง การผลิตซีซันสองก็ได้กำหนดวันเวลาแล้ว สถานีโทรทัศน์เคจีเอสขอซื้อลิขสิทธิ์รายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ารายการนี้กำลังก้าวเดินไปสู่ระดับโลกเป็นก้าวแรก
การโอนลิขสิทธิ์ครั้งแรกจะกลายเป็นมาตรฐาน เกี่ยวเนื่องกับผลประโยชน์ในตอนหลัง ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังให้มาก
เมื่อคุยถึงเรื่องงาน เถียนเถียนเปลี่ยนเป็นคร่ำเคร่งขึ้น “ทางฉันกับเคจีเอสได้คุยกันในเบื้องต้น ข้อเสนอที่ทางเคจีเอสยื่นมาคือเซ็นสัญญาโอนลิขสิทธิ์เป็นเวลาห้าปี ค่าโอนปีละห้าร้อยล้านวอน รวมทั้งหมดสองพันห้าร้อยล้านวอน”
หนึ่งปีห้าร้อยล้านวอน ห้าปีสองพันห้าร้อยล้านวอน ฟังดูเป็นจำนวนตัวเลขที่สูงลิ่ว แต่หากคิดอย่างละเอียด เงินวอนของเกาหลีเมื่อคิดออกมาเป็นเงินหยวนของจีน ห้าปีจะได้เงินเพียงแค่สิบห้าล้านหยวนเท่านั้น
“ราคาต่ำเกินไป!”
ลู่เฉินกล่าวโดยไม่ต้องคิดว่า “อีกอย่างระยะเวลาของลิขสิทธิ์นานเกินไป อย่างมากแค่สามปี สองปีเป็นดีที่สุด”
เคจีเอสชื่นชอบรูปแบบรายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ จึงคิดจะนำมาสร้างเป็น ‘เดอะวอยซ์โคเรีย’ สายตากว้างไกลไม่เลว แต่ท่าทีที่ต้องการเอาเปรียบนั้นชัดเจนมาก
แม้จะบอกว่าสถานการณ์ของประเทศจีนกับเกาหลีนั้นแตกต่างกัน ตลาดไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนในจีน แต่ค่าลิขสิทธิ์ปีละสามล้านหยวนนั้นมีค่าไม่ต่างอะไรกับผักกาดหนึ่งหัว
ลู่เฉินยอมทำลายมันทิ้งกับมือ ดีกว่าขายออกไปในราคาต่ำขนาดนี้!
ถ้าเป็นบริษัทมีเดียอื่น การขายลิขสิทธิ์รายการให้กับต่างชาติโดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ของประเทศเกาหลี ไม่ว่าจะขายไปเท่าไรก็ควรค่าแก่การนำไปโอ้อวด แต่ลู่เฉินไม่เหมือนกัน เขาไม่ยอมให้คนเกาหลีมาเอาเปรียบฟรีๆ ได้
“ฉันก็คิดอย่างนี้…”
เถียนเถียนพยักหน้าตอบ “ห้าปีนานเกินไป ราคาที่เคจีเอสเสนอมาดูขาดความจริงใจ แต่ราคาทั้งหมดฉันยังต้องพูดคุยกับกลุ่มนักเจรจาอีกที เอาเป็นว่าจะไม่ยอมให้ตัวเองเสียเปรียบหรอก”
เช่นเดียวกับลู่เฉิน เถียนเถียนมีความมั่นใจมาก เพราะตอนนี้ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ กำลังดังระเบิด ยอดเรตติ้งมีแต่เพิ่มไม่มีลด จากสัญญาความร่วมมือของสตาร์แฟคตอรีกับสถานีโทรทัศน์เจ้อตง แค่รายการซีซันแรกก็สร้างกำไรให้บริษัทได้อย่างน้อยมากกว่าสามสิบล้านหยวนแล้ว
มีลิขสิทธิ์รายการดังอยู่ในมือ สตาร์แฟคตอรีก็มั่นคงดุจขุนเขา มีแต่คนที่อยากมาขอส่วนแบ่งความหอมหวานนี้ สถานีโทรทัศน์เจ้อตงผู้ซึ่งเคยลิ้มรสแล้วจึงมุ่งมั่นอยากได้ซีซันสองมาครอง ไม่แน่ว่าอาจจะทำรายได้มากกว่าเดิมหลายเท่า
เคจีเอสที่ทำตัวลับๆ ล่อๆ เธอรู้สึกไม่เข้าตาจริงๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องการขายลิขสิทธิ์ให้แก่สถานีโทรทัศน์ของต่างประเทศไม่ใช่เรื่องธรรมดา เธอก็ขี้เกียจเดินทางมาเจรจาถึงกรุงปักกิ่ง
“ข้อเสนอของทีมฉันคืออยากได้สัญญาที่เหมือนกับสถานีโทรทัศน์เจ้อตง แต่เคจีเอสไม่รับปาก”
แน่นอนว่าเคจีเอสไม่ยอมรับปาก ‘เดอะวอยซ์โคเรีย’ จะเป็นรายการที่พวกเขาผลิตและออกอากาศเอง มีหรือจะยอมแบ่งกำไรที่ได้จากยอดเรตติ้งกับสตาร์แฟคตอรี
ลู่เฉินคิดไตร่ตรองแล้วเอ่ยว่า “ไม่จำเป็นต้องไปเดิมพันเลย แต่ถ้าคุยกับเคจีเอสไม่สำเร็จ เธอลองติดต่อเคบีเอสและเอ็มบีซีได้”
เคบีเอส เอ็มบีซี เคจีเอส เป็นสามสถานีโทรทัศน์ใหญ่ของเกาหลี ทั้งสามบริษัทครองตลาดส่วนใหญ่เอาไว้ โดยออกอากาศข่าว รายการบันเทิง และละครโทรทัศน์เป็นหลัก
หากว่ากันตามขนาด ความสามารถ และส่วนแบ่งทางการตลาด เคจีเอสยังด้อยกว่าเคบีเอสและเอ็มบีซี แต่ไม่แตกต่างกันมาก
เดิมทีเคจีเอสนำเข้าละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ กับ ‘ฟูลเฮ้าส์’ สองเรื่อง ก็ทำคะแนนได้ดีแซงหน้าละครของคู่แข่งรายใหญ่ทั้งสอง ดังนั้นลู่เฉินยิ่งมีความใส่ใจในละครเรื่องใหม่เป็นพิเศษ
ทางเคบีเอสและเอ็มบีซีเคยติดต่อเฉินเฟยมีเดีย จึงยังมีช่องทางติดต่อโดยตรง
ถ้าเคจีเอสรู้ว่าสตาร์แฟคตอรีติดต่อกับเคบีเอสและเอ็มบีซี จะต้องเต้นผางแน่นอน
เถียนเถียนหัวเราะตาหยียกนิ้วโป้งให้ลู่เฉิน “เยี่ยม!”
…………………………