ตอนที่ 736 ไม่ว่าง
สถานีโทรทัศน์เคบีเอสของเกาหลีใต้เป็นสถานีโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุด และมีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในเกาหลีใต้ หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ออกอากาศรายการของเคบีเอส ในแง่ของความเติบโตนั้นเหนือกว่าเคจีเอสที่ร่วมมือกับเฉินเฟยมีเดียมาโดยตลอด ในบรรดาสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ทั้งสามเคจีเอสรั้งอันดับท้ายสุด
เพราะเหตุนี้เองลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ถึงได้ประหลาดใจ เคบีเอสและเคจีเอสเป็นคู่แข่งที่ดุเดือดมาก ทำไมจู่ๆ ถึงได้ส่งคำเชิญร่วมรายการมาให้พวกเขาได้
ต้องบอกก่อนว่า เคบีเอสเคยขอซื้อสิทธิ์ในการออกอากาศละครเรื่อง ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ในเกาหลีใต้ แต่ถูกเฉินเฟยมีเดียปฏิเสธ และเลือกที่จะร่วมมือกับเคจีเอสต่อไป
เหตุผลนั้นง่ายมาก เคจีเอสมีความจริงใจเต็มเปี่ยมในการร่วมงานกัน แต่คนของเคบีเอสวางตัวสูงส่งหยิ่งผยอง ทำให้ลู่เฉินรู้สึกไม่ดี เฉินเฟยเอ๋อร์เองก็เช่นกัน
การปฏิเสธไปคราวที่แล้วเท่ากับว่าเป็นการตบหน้า เป็นไปได้ไหมที่เคบีเอสถูกตบแล้วเกิดรู้สึกดีขึ้นมา ก็เลยจะมาขอร้องอ้อนวอนอีกครั้ง?
เกี่ยวกับข้อสงสัยของคนทั้งคู่ลู่ซีอธิบายด้วยรอยยิ้ม “ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของเคบีเอส เป็นคนขอมา…”
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่เคบีเอสไม่สามารถปฏิเสธได้คนนี้ ดันเป็นกลุ่มนายทุนต้าจิงที่มีชื่อเสียงในเกาหลีใต้
เกาหลีใต้เป็นประเทศที่ปกครองโดยกลุ่มผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมืองและเศรษฐกิจส่วนใหญ่ถูกควบคุมจากนายทุนห้ากลุ่ม และรัฐบาลก็ไม่เคยละความพยายามในการสนับสนุนกลุ่มนายทุนเหล่านี้ ทำให้กลุ่มนายทุนมีสถานะพิเศษในเกาหลีใต้
ในบรรดานายทุนห้ากลุ่มนี้ กลุ่มนายทุนที่มีชื่อเสียงและมีอำนาจมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยคือบริษัทซัมซุงขอบเขตธุรกิจของบริษัทครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมการค้าอิเล็กทรอนิกส์ การต่อเรือ การก่อสร้าง ปิโตรเคมี น้ำตาล สิ่งทอเส้นใยเคมี กระดาษ การเงิน การบริการ และสาขาอื่นๆ อีกมากมาย มีเครือข่ายอิทธิพลไปทั่วโลก
แม้ว่าขนาดของกลุ่มนายทุนต้าจิงจะไม่ใหญ่เท่ากับกลุ่มนายทุนซัมซุง แต่ประวัติของมันเก่าแก่มากกว่าบริษัทซัมซุงเสียด้วยซ้ำ จนถึงตอนนี้มีบริษัทในเครือ 58 แห่งและพนักงานมากกว่าหนึ่งแสนคน ทั้งยังมีความมั่นคงแข็งแรงในด้านการเงิน การค้าระหว่างประเทศ เครื่องจักร สื่อ อุตสาหกรรมการบริการ และอื่นๆ อีกมากมาย
กลุ่มนายทุนต้าจิงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของเคบีเอส และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสามของเคจีเอส!
เหตุผลที่เคบีเอสเชิญลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์เข้าร่วมรายการ เป็นเพราะคนที่ตามจีบซ่งเจียเจินพิธีกรรายการสตาร์โชว์ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ของเคบีเอส คือหลิ่วเฉิงเซี่ยนหนึ่งในทายาทของกลุ่มนายทุนต้าจิง!
ลู่ซีอธิบายอยู่หลายนาที ในที่สุดลู่เฉินก็เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา
พูดง่ายๆ หลิ่วเฉิงเซี่ยนผู้ที่มีศักดิ์เป็นทายาทของกลุ่มนายทุนต้าจิง เพื่อตามจีบซ่งเจียเจิน จึงออกมากดดันเคบีเอส และให้ฝ่ายหลังเชิญลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์มาร่วมรายการของซ่งเจียเจิน
“รายการนี้มีชื่อว่า ‘นิวสตาร์โชว์’ …”
ข้อมูลที่ลู่ซีได้รับผ่านเอสพีจีนั้นครอบคลุมมาก “หลักๆ เลยก็คือเชิญดาราดังในวงการบันเทิงมาพูดคุยโต้ตอบ เล่นเกม ร้องเพลงกับผู้ชม เป็นต้น รูปแบบรายการไม่ได้พิเศษอะไรมาก และเรตติ้งก็ไม่สูง เฉลี่ยประมาณแค่ 3% เท่านั้น”
เรตติ้งเฉลี่ย 3% นั้นเป็นไพ่ใบใหญ่ที่ได้รับความนิยมของสถานีโทรทัศน์ในประเทศจีนอย่างแน่นอน แต่ในเกาหลีใต้โดยเฉพาะในเคบีเอสนั้นค่อนข้างแย่เลยทีเดียว จัดเป็นรายการชิดขอบที่ไม่มีความน่าสนใจเลย
เฉินเฟยเอ๋อร์ขมวดคิ้วและพูดว่า “น่าเบื่อ ปฏิเสธไปซะ…”
ลู่เฉินเห็นด้วย “แค่บอกเคบีเอสไปว่าเราไม่ว่าง”
อย่างแรกเลยตารางงานแน่นจริงๆ และในความเป็นจริงเขาไม่ชอบเบื้องหลังของคำเชิญจากเคบีเอสด้วย
ใช้พวกเขาสองคนเป็นเครื่องมือของหลิ่วเฉิงเซี่ยนในการตามจีบสาว?
ลู่ซีขมวดคิ้ว “หากทำให้กลุ่มนายทุนต้าจิงขุ่นเคืองละก็…ช่างเถอะ ในเมื่อพวกเธอทั้งคู่มีความคิดเห็นตรงกัน งั้นฉันก็จะบอกเคบีเอสไปว่าไม่ว่างก็แล้วกัน”
ล่วงเกินกลุ่มนายทุนต้าจิงที่มีอำนาจในการพูดในวงการสื่อของเกาหลีใต้นั้นไม่เอื้อต่อการขยายตลาดของลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ในเกาหลีใต้ แต่แล้วยังไงล่ะ?
ตราบใดที่คุณสามารถควบคุมตลาดในประเทศได้อย่างมั่นคง ก็ทำเงินได้ไม่หวาดไม่ไหว ทั้งคู่ไม่จำเป็นต้องทนลำบากใจเลย!
ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มและสบตากัน
ลู่ซีขมวดคิ้วและพูดว่า “งั้นก็เอาอย่างนี้แล้วกัน ลู่เฉิน งานแฟนมีตติ้งเย็นนี้แกอย่าลืมไปก่อนเวลาด้วยล่ะ ส่วนเฟยเอ๋อร์เราไปกินข้าวเย็นด้วยกันนะ”
เฉินเฟยเออร์พูดยิ้มๆ “ได้ค่ะ หลังจากกินเสร็จแล้ว เราไปชอปปิงที่เยี่ยนซากันนะ ชาเนลเพิ่งออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่มา…”
หญิงสาวทั้งสองคุยกันอย่างเผ็ดร้อน
สถานการณ์เปลี่ยนไปเร็วมาก จนลู่เฉินทำตัวไม่ถูก ทำได้เพียงปลีกตัวออกไปอย่างเงียบๆ คนเดียว
ตารางงานของเขาในวันนี้เต็มหมดแล้ว ช่วงเช้าเข้าพบเฉินกั๋วจื้อเพื่อปรึกษาหารือกัน ช่วงบ่ายอัดเพลงประกอบละครใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ ช่วงเย็นยังมีงานแฟนมีตติ้งของลู่เฉินที่ ‘จิงอวี๋ทีวี’ เป็นเจ้าภาพจัดงาน
หัวข้อหลักของงานแฟนมีตติ้งคือ ‘รำลึกความประทับใจแรก’ สถานที่จัดงานคือฮอลล์หลักของศูนย์วัฒนธรรมเหม่ยเล่อในกรุงปักกิ่ง เวลาเริ่มงานคือช่วงหนึ่งทุ่ม
ทาง ‘จิงอวี๋ทีวี’ เตรียมจัดงานแฟนมีตติ้งนี้มานานสักพักแล้ว ในฐานะบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เซินไห่ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ยังเช่าสำนักงานในกรุงปักกิ่ง และส่งทีมงานชั้นยอดมาเพื่อเตรียมการทั้งหมดโดยเฉพาะ เรียกได้ว่ามาตรฐานสูงมาก
เหตุผลที่ไม่จัดที่เซินไห่นั้นก็เพื่อความสะดวกของลู่เฉิน
สำหรับ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ในปัจจุบัน ลู่เฉินคือศิลปินดาวรุ่งที่พวกเขาไม่อาจเสียไปได้ และเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่พวกเขายินดีจ่ายทุกกรณีเพื่อรั้งเอาไว้ให้ได้
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่ลู่เฉินเซ็นสัญญากับ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ทำให้ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ได้มีโอกาสเฉิดฉายขึ้นมาอีกครั้ง ไม่เพียงแต่ได้ส่วนแบ่งการตลาดที่สูญเสียไปก่อนหน้านี้กลับมาเท่านั้น ยังสร้างรูปแบบใหม่โดยให้ดารามาถ่ายทอดสดก่อนหน้าบริษัทประเภทเดียวกันทั้งหมดจนทำรายได้ถล่มทลาย
ด้วยอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของลู่เฉินในอุตสาหกรรมบันเทิง ‘จิงอวี๋ทีวี’ ก็ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดอันดับหนึ่งอันดับสองในอุตสาหกรรม ดึงดูดนักถ่ายทอดสดที่ยอดเยี่ยมมาเข้าร่วมมากขึ้น เกิดเป็นวัฏจักรเชิงบวก
อันที่จริงมาถึงตอนนี้ ‘จิงอวี๋ทีวี’ มีประโยชน์ต่อลู่เฉินน้อยมาก และลู่เฉินก็มีเวลาเข้าร่วมการถ่ายทอดสดด้วยตัวเองน้อยครั้งมาก ส่วนใหญ่แล้วล้วนเป็นทางบริษัทมาจัดการถ่ายทอดสดที่หน้างาน หากเขาจะออกจาก ‘จิงอวี๋ทีวี’ ก็ไม่นับว่าสูญเสียอะไรไปเท่าไร
และยังมีแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดอื่นๆ ที่เสนอราคามากกว่า กระทั่งเสนอหุ้นให้เพื่อชักชวนให้เขาเปลี่ยนแพลตฟอร์ม
แต่ลู่เฉินปฏิเสธคำเชิญเหล่านั้น เลือกที่จะต่อสัญญากับ ‘จิงอวี๋ทีวี’ เพราะเขาไม่เคยลืมคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับบรรดาแฟนคลับในตอนแรก
ดังนั้นจึงมีงานแฟนมีตติ้ง ‘รำลึกความประทับใจแรก’ นี้ขึ้นมายังไงล่ะ!
เมื่อตอนที่ลู่เฉินมาถึงศูนย์วัฒนธรรมเหม่ยเล่อ ทีมงานของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ได้รออยู่ก่อนแล้ว
“ผู้จัดการอู่ คุณอู่…”
ลู่เฉินลงจากรถ อย่างแรกเลยได้พบกับคนทั้งคู่ที่เขาสนิทและรู้จักเป็นอย่างดี เขายิ้มทักทาย “ไม่เจอกันนานเลยนะครับ!”
ไม่เจอกันนานมากจริงๆ!
ในปัจจุบันอู่หงหมิงเป็นรองผู้จัดการใหญ่ของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ และอู่ซานซานก็เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่ง ทั้งสองเป็นตัวแทนที่ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ส่งมายังกรุงปักกิ่งในช่วงแรกๆ เพื่อเซ็นสัญญาฉบับแรกกับลู่เฉิน
และเป็นอู่ซานชานคนนี้ที่ขุดลู่เฉินขึ้นมาจากบรรดานักถ่ายทอดสดจำนวนมาก และมอบสัญญาดีๆ ฉบับนั้นให้กับเขา!
……………………………………………………..