ตอนที่ 740 มาฮ่องกงอีกครั้ง
Ink Stone_Fantasy
ฤดูใบไม้ร่วงผ่านไป เพียงชั่วพริบตาก็เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ผู้คนที่อาศัยอยู่ในกรุงปักกิ่งก็เริ่มรู้สึกถึงความหนาวเย็นของฤดูหนาวแล้ว
เข้าช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน การถ่ายทำละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ กำลังจะสิ้นสุดลง
หลังจากกลับจากอเมริกา ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ได้ทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ไปกับการถ่ายทำละครเรื่องนี้ กอปรกับทีมงานทุกคนในกองละครให้ความร่วมมือและทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี ยิ่งใกล้ถึงช่วงสุดท้ายยิ่งราบรื่น ดังนั้นโดยรวมทั้งหมดจะเสร็จสิ้นในช่วงปลายเดือน
และละคร ‘ยัยตัวร้ายกับยายต่างดาว’ ที่ออกอากาศพร้อมกันทางสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งและสถานีโทรทัศน์เจ้อตง ก็มีเรตติ้งผู้ชมอยู่ระหว่าง 7-8% เรตติ้งสูงสุดทะลุ 10% กลายเป็นละครระดับปรากฏการณ์ในหมู่ละครระดับปรากฏการณ์
เพียงค้นหา ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ บนอินเทอร์เน็ต สามารถหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้อย่างน้อยหลายร้อยล้านรายการ จำนวนแฟนคลับในเทียปาทางการมีมากกว่า 10 ล้านคน นักแสดงนำหลักในละครนอกจากคู่พระนางแล้ว คนอื่นๆ ก็มีชื่อเสียงโด่งดังตามๆ กัน
ยกตัวอย่างเช่น ถงซินเหยาที่เพิ่งเซ็นสัญญากับเฉินเฟยมีเดียเมื่อไม่นานมานี้ ได้รับบทนักแสดงสมทบหญิงที่มีบทบาทเพียงเล็กน้อยในละคร แต่กลับได้รับความนิยมใกล้เคียงกับศิลปินหน้าใหม่ยอดนิยม และยังทำให้อัลบั้มใหม่ของเธอที่จะออกในช่วงปลายปีมาแรงอีกด้วย
ละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ได้สร้างเรตติ้งสูงสุดใหม่ในเกาหลีใต้ ทำลายสถิติสูงสุดของ ‘ละครระดับชาติ’ และกลายเป็นละครนำเข้าเรื่องแรกที่มีเรตติ้ง 50% ในเกาหลีใต้
เช่นเดียวกัน นักแสดงชาวเกาหลีใต้สองคนในละครเรื่องนี้ก็กลายเป็นหนึ่งในศิลปินชั้นแนวหน้าของเกาหลี เรียกได้ว่าพุ่งทะยานเลยทีเดียว!
นอกจากนี้ สถานีโทรทัศน์หลักในหลายประเทศรวมถึงญี่ปุ่นต่างตั้งใจจะนำเข้าละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ทำให้อิทธิพลของละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ แผ่ขยายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างกว้างขวางตามลำดับ!
สำหรับลู่เฉินแล้ว ยังมีเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนไม่น้อย อย่างแรกเลยเว็บไซต์ระดมทุนผ่านการอนุมัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอเมริกา และได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัทหลักทรัพย์ของธนาคารสองแห่ง อีกทั้งจะได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธันวาคมนี้!
ความจริงแล้วหลังจากการเจรจาในรูปแบบชักเย่อ[1]เฉินเฟยมีเดียและบลูสกายสตูดิโอก็ได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือ และเฉินเฟยมีเดียได้เข้าซื้อหุ้น 18.75% ของบลูสกายสตูดิโอด้วยเงิน 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายหลังจึงกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองนั่นเอง
หลังจากที่เฉินเฟยมีเดียเข้าถือหุ้นในบลูสกายสตูดิโอ ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันทุกรอบด้านในส่วนของสเปเชียลเอฟเฟกต์ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ ทำให้ข้อบกพร่องสุดท้ายในด้านการผลิตภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ของเฉินเฟยมีเดียถูกเติมเต็มแล้ว
สุดท้ายนี้ ทั้งลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์จะเข้าร่วมในงานเลี้ยงฉลองวันกลับคืนสู่อ้อมกอดจีน ซึ่งจะจัดขึ้นที่ฮ่องกงเซ็นจูรี่พลาซ่าในช่วงค่ำของวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ด้วย!
ฮ่องกงเป็นหนึ่งในเขตปกครองพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจหรือมนุษยศาสตร์ล้วนแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่ง มีความเจริญรุ่งเรืองและกลายเป็นมหานครนานาชาติระดับเฟิร์สต์คลาสในเอเชีย
ในช่วงเวลาเฉลิมฉลองวันกลับคืนสู่อ้อมกอดจีนอย่างยิ่งใหญ่ รัฐบาลฮ่องกงจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองต่างๆ และได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคมแล้ว งานเลี้ยงฉลองนี้มีความสำคัญมากอย่างไม่ต้องสงสัย
นอกจากศิลปินดาราในพื้นที่แล้วยังมีนักร้องและนักแสดงจากจีนได้รับเชิญ เช่น ลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ เลี่ยวเจี่ย เป็นต้น
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ลู่เฉินและเฉินเฟยเออร์บินไปถึงฮ่องกงแล้ว
ทั้งสองเข้ามาอย่างเงียบๆ ดังนั้นจึงไม่มีสื่อมากมายมาเซอร์ไพรส์ให้ตื่นตกใจ
และคนมารับที่สนามบินก็คือซือฟาง
“พี่ฟาง!”
เมื่อได้พบซือฟางอีกครั้ง เฉินเฟยเอ๋อร์โผเข้ากอดเธอแน่น หลังจากผ่านการทำหน้าที่ใน ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ร่วมกัน ทั้งสองได้สร้างมิตรภาพอันยอดเยี่ยมและแน่นแฟ้น จึงราวกับพี่น้องที่กลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน
ซือฟางเป็นคนที่ไม่เอิกเกริกมาก ดังนั้นเธอจึงพาผู้ช่วยหนึ่งคนมารับทั้งสอง และไปบ้านพักกลางขุนเขาของเธอด้วยกัน
คฤหาสน์กลางขุนเขาของซือฟางมีชื่อเสียงในฮ่องกงมาก เจ้าของเดิมคือสวี่จิ้นหยางผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงในฮ่องกง มันถูกสร้างขึ้นช่วงต้นยุค 90 ด้วยราคาหลายร้อยล้านดอลลาร์ฮ่องกง
อย่างไรก็ตามความวุ่นวายทางการเงินระหว่างประเทศในช่วงปลายยุค 90 ทำให้ทั้งตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของสวี่จิ้นหยางประสบปัญหาในการหมุนเวียนเงินทุน จำเป็นต้องขายคฤหาสน์นี้ในราคา 150 ล้าน
ในสถานการณ์ที่ไม่มีใครรับข้อเสนอดังกล่าว ซือฟางจึงเอาเงินเก็บออมทั้งหมดของตนเอง บวกกับขอกู้ยืมเงินจากเพื่อนๆ และคว้ามันมาด้วยราคา 130 ล้าน
ในเวลานั้นหลายคนคิดว่าซือฟางเสียสติไปแล้ว แต่ข้อเท็จจริงพิสูจน์ให้เห็นถึงการมองการณ์ไกลของเธอ มูลค่าของคฤหาสน์กลางขุนเขานี้ขั้นต่ำอยู่ที่ 1,000 ล้านหยวน และเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถส่งต่อได้
เคยมีเศรษฐีในฮ่องกงเสนอเงิน 1,100 ล้านให้ซือฟางเพื่อซื้อคฤหาสน์นี้ แต่ถูกซือฟางปฏิเสธไป
ลู่เฉินได้ยินชื่อเสียงของคฤหาสน์แห่งนี้มาเป็นเวลานาน วันนี้ถือว่าเป็นการเปิดหูเปิดตาอย่างแท้จริง!
คฤหาสน์หลังนี้เป็นอาคารเดี่ยวสามชั้น มีเนื้อที่มากกว่า1,000 ตร.ม. และสวนขนาดใหญ่กว่า 2,000 ตร.ม. มีครบทุกอย่าง ทั้งต้นไม้ สนามหญ้า สระว่ายน้ำ น้ำพุ และสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของอ่าววิคตอเรียได้
ซือฟางยังไม่ได้แต่งงาน ดังนั้นคฤหาสน์แห่งนี้จึงเป็นของเธอโดยสมบูรณ์ และเธอมักจะจัดงานเลี้ยงที่นี่ แขกทุกคนล้วนเป็นคนดังหรือมีชื่อเสียงในวงการทั้งนั้น
เฉินเฟยเอ๋อร์ตกหลุมรักที่นี่ในชั่วพริบตา
นั่งบนเก้าอี้ที่นุ่มสบายอาบแสงแดดอุ่นๆ ที่ไร้มลพิษ พลางจิบชาดำอินเดียที่เพิ่งชงเสร็จร้อนๆ มองออกไปเห็นทิวทัศน์อันงดงามของอ่าววิคตอเรียในระยะไกล สามารถขจัดความเหนื่อยล้าจากเที่ยวบินที่ยาวนานออกไปได้เลยทีเดียว
เธอสูดหายใจเข้าลึกพร้อมกับทำตาหยีพูดกับซือฟาง “พี่ฟางบ้านของพี่น่าอยู่มาก จนฉันอยากจะอยู่ที่นี่ซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!”
ซือฟางเม้มริมฝีปากและยิ้ม “เธอจะอยู่นานเท่าไรก็ได้ ยังไงซะที่นี่ก็มีห้องตั้งมากมายแน่ะ”
คนที่สนิทกับซือฟางจะรู้ดีว่า มีคนสามารถเข้าออกจากคฤหาสน์ของเธอไม่น้อย แต่ที่สามารถอยู่ได้นานๆ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นเอง เท่ากับว่าคนคนนี้เป็นเพื่อนรักของราชินีแห่งฮ่องกงอย่างแน่นอน
เฉินเฟยเอ๋อร์จ้องไปที่ลู่เฉินอย่างขุ่นเคือง “น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถอยู่ในฮ่องกงได้นานหลายวัน หลังจากถ่ายละครจบแล้วก็ต้องถ่ายภาพยนตร์ต่อ งานยุ่งตลอดทั้งวันเลย!”
ลู่เฉินยิ้มและเกาจมูกแก้เขิน ไม่รู้จะพูดอะไรดี
หลังจากถ่ายทำ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ แล้ว เฉินเฟยมีเดียจะเริ่มถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษร์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ในเร็วๆ นี้ ช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิคงเร่งถ่ายทำไม่ทันแน่นอน แต่ช่วงเทศกาลฤดูร้อนจะพลาดโอกาสไม่ได้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด
และภาพยนตร์กำลังภายในเรื่องนี้ เพื่อรับประกันผลลัพธ์และคะแนนบ็อกซ์ออฟฟิศ ลู่เฉินจะเล่นเป็น ‘เล่งฮุ้ชง’ และเฉินเฟยเอ๋อร์จะเล่นเป็น ‘ยิ่มเอี่ยงเอี้ยง’ เตรียมตัวถ่ายทำภาพยนตร์สองภาคติดต่อกัน ดังนั้นทุกคนจึงยุ่งมาก!
ซือฟางยิ้มพูด “พวกเธอยังหนุ่มยังสาวก็ควรจะมุ่งเน้นไปที่หน้าที่การงาน เธอก็ขอให้ลู่เฉินซื้อคฤหาสน์ไว้ที่นี่ให้เธอสิ เป็นเพื่อนบ้านกันดีจะตายไป!”
“จริงด้วย!”
ดวงตาของเฉินเฟยเอ๋อร์เปล่งประกายขึ้นมาในทันใด “ความคิดนี้ไม่เลว แต่จะว่าไปที่นี่ไม่มีคฤหาสน์ขายแล้วใช่ไหมคะ”
โดยทั่วไปคงไม่มีการสร้างคฤหาสน์หรูท่ามกลางขุนเขาเพิ่มอีกแล้ว หากต้องการซื้อทำได้เพียงแค่รับช่วงต่อจากคนอื่นๆ เท่านั้น และโดยทั่วไปไม่มีใครฝากขายตามท้องตลาด และไม่ใช่สิ่งที่จะมีเงินแล้วหาซื้อยังไงก็ได้ด้วย
ซือฟางพูดขึ้น “ฉันช่วยดูให้เธอได้นะ…”
ทั้งสองคุยกันและเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับบ้าน ทิ้งเรื่องงานเอาไว้เบื้องหลัง
โชคดีที่แขกคนสำคัญอีกคนรีบเข้ามาเสียก่อน
อีกฝ่ายเป็นหนึ่งในเพื่อนไม่กี่คนของลู่เฉินในวงการของฮ่องกง หลิวกั่งเซิง!
……………………………………………………………..
[1]การเจรจารูปแบบชักเย่อ ในด้านธุรกิจคือไม่ต้องการผู้ชนะ ทั้งสองฝ่ายต้องอาศัยซึ่งกันและกัน