Perfect Superstar – ตอนที่ 788 เป้าหมายที่ไล่ตาม

Perfect Superstar

ตอนที่ 788 เป้าหมายที่ไล่ตาม

เมืองหลวง ถนนฉางซี ร้านหม้อไฟเสฉวน

คนกินข้าวเป็นอาหาร คนในประเทศเป็นนักกินเยอะมาก ดังนั้นอุตสาหกรรมอาหารในประเทศจึงพัฒนามากเป็นพิเศษ ทั่วโลกไม่อาจเทียบเทียมได้ ขอให้เป็นร้านอาหารที่มีเอกลักษณ์นิดหน่อย ไม่ว่าร้านอาหารใหญ่หรือเล็ก มักจะมีลูกค้ามาเยือนเสมอ

สองสามปีที่ผ่านมา หม้อไฟเสฉวนที่มีเอกลักษณ์มากที่สุดในเมืองฉงชิ่งเป็นที่นิยมไปทั่วประเทศ ที่เมืองหลวงก็มีร้านหม้อไฟเสฉวนที่มีเอกลักษณ์เปิดอยู่หลายแห่ง กิจการเจริญรุ่งเรืองมาก

อย่ามองว่าอาหารเสฉวนทั้งมันทั้งเผ็ด แตกต่างจากหม้อไฟเนื้อแพะเนื้อวัวที่คนทางเหนือกินกันอยู่ประจำอย่างมาก แต่เมืองหลวงเป็นศูนย์รวมของผู้คนที่มาจากทุกพื้นที่ทั่วประเทศ บวกกับจำนวนนักท่องเที่ยวหลายสิบล้านคน ดังนั้นจึงมีลูกค้ามาอุดหนุนอยู่ไม่น้อย

และเจ้าหม้อไฟหมาล่านี้ ก็มีพิษ พอชอบแล้ว ก็เท่ากับโดนพิษ อยากกินเกือบทุกวัน

ร้านหม้อไฟเสฉวนแฟรนไชส์ถือว่ามาทันเวลาพอดี พอเข้าเมืองหลวงใช้เวลาสั้นๆ ไม่ถึงครึ่งปีได้เปิดไปแล้วสามสาขา ลูกค้าแน่นร้านแทบไม่มีที่ว่างเลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะเข้าสู่หน้าหนาวเป็นต้นมา ลูกค้าที่มาตอนเย็นแทบหาที่นั่งไม่เจอ จึงได้แต่ต่อแถวรอคิวอยู่ที่ห้องพักผ่อนด้านนอก

วันนี้เป็นวันตรุษจีนเล็ก สองสามวันก่อนเมืองหลวงและบริเวณโดยรอบอุณหภูมิลดลงมาก หิมะตกหนักสองสามครั้ง อากาศหนาวทำให้พื้นดินเป็นน้ำแข็ง ช่วงเวลาแบบนี้ถ้าได้เรียกเพื่อนๆ สี่ห้าคนมานั่งล้อมวงอยู่หน้าหม้อไฟร้อนๆ กินหม้อไฟหมาล่าที่หอมอร่อย แบบนั้นถ้าให้แลกกับได้เป็นเซียนก็ไม่เอา!

ถึงแม้จะสองทุ่มกว่าแล้ว กิจการร้านหม้อไฟเสฉวนบนถนนฉางซียังคงคึกคักเหมือนเดิม ในห้องโถงใหญ่คนนั่งเต็มทุกที่นั่ง และยังมีคนต่อคิวอยู่ในห้องพักผ่อน เตรียมตัวจะกินข้าวเย็นและอาหารมื้อดึกไปพร้อมกัน

ภายในห้องโถงใหญ่อบอวลไปด้วยกลิ่นหม้อไฟอย่างหนาแน่น เมิ่งหู่มือหนึ่งถือกาน้ำร้อน อีกมือหนึ่งถือถาดที่เต็มไปด้วยอาหาร เดินผ่านระหว่างโต๊ะอย่างคล่องแคล่วว่องไว นำอาหารมาเสิร์ฟให้ลูกค้าที่รออยู่บนโต๊ะ

เสิร์ฟอาหารเสร็จแล้ว ในที่สุดเขาก็ได้ไปนั่งหายใจในห้องพักของพนักงานเสียที จากนั้นจึงกินข้าวเติมท้องที่หิวจนร้องจ๊อกๆ

พนักงานร้านอาหารทั่วไปจะกินข้าวเวลาบ่ายสี่โมงโดยประมาณ แต่เมิ่งหู่ทั้งทำงานเก่งและกินเก่ง จึงจำเป็นต้องเพิ่มมื้ออาหาร

จะว่าไปเพิ่มมื้ออาหารเย็นนั้นแสนจะเรียบง่าย แค่ข้าวหนึ่งชามกับซุปเนื้อสับละเอียด แต่เมิ่งหู่รู้สึกพอใจมากแล้วเพราะทำงานในร้านหม้อไฟได้กินฟรีอยู่ฟรี ดังนั้นเงินที่เขาหามาได้จะเก็บเอาไว้เป็นส่วนใหญ่

เมิ่งหู่และเพื่อนนักเรียนสามสี่คนมาที่เมืองหลวงจะได้สองสัปดาห์แล้ว พวกเขาโชคดีมาก เนื่องจากพนักงานส่วนใหญ่ออกจากเมืองหลวงกลับไปฉลองตรุษจีนที่บ้าน งานบริการหลายอย่างจึงต้องการพนักงานชั่วคราวเร่งด่วน ดังนั้นจึงหางานได้อย่างรวดเร็ว

นักเรียนจากโรงเรียนเหิงหยางทั้งห้าคนรวมทั้งเมิ่งหู่ บางคนเป็นพนักงานเสิร์ฟ บางคนออกไปส่งพัสดุ บางคนออกไปส่งอาหาร อย่ามองว่าเป็นงานชั่วคราว แต่เงินเดือนที่ได้กลับไม่น้อยเลย

โดยเฉพาะการส่งอาหาร คิดจากจำนวนออเดอร์ยิ่งส่งมากยิ่งได้กำไร ช่วงตรุษจีนเงินเดือนเพิ่มขึ้นสองเท่า มีพลังดึงดูดมาก แต่เมิ่งหู่พิจารณาว่าตัวเองไม่คุ้นชินกับเมืองหลวงอย่างสิ้นเชิง และจำทางไม่ค่อยได้ ดังนั้นจึงเลือกเป็นพนักงานเสิร์ฟ

งานนี้ก็ไม่เลว นอกจากกินอยู่ฟรีแล้ว คำนวณจากเงินเดือนรายชั่วโมงเขาจะได้เงินอย่างน้อยสองร้อยหยวนต่อวัน หากอยู่ที่เมืองหลวงหนึ่งเดือนเขายังพอมีเงินห้าหกพันหยวนส่งกลับบ้านได้ แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว

“เหล่าหู่…”

เมิ่งหู่กวาดข้าวกับเนื้อคำสุดท้ายในชามเข้าปาก ประตูห้องพักพนักงานถูกคนผลักออก หลี่ตงหยางโผล่หน้าหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์เข้ามา “กะแล้วว่านายต้องมาแอบกินข้าวคนเดียวอยู่ที่นี่!”

เมิ่งหู่อดกลอกตาไปมาไม่ได้ “มีอะไร”

หลี่ตงหยางก็ทำงานในร้านหม้อไฟเสฉวนเช่นกัน เหมือนอย่างที่เขาพูด เป็นเพื่อนพี่น้องก็ต้องอยู่ด้วยกัน แบบนี้ถึงจะดูแลกันและกันได้

แต่เขาเลือกเป็นลูกมือในห้องครัว บอกว่าอยากแอบเรียนรู้วิชาการทำอาหาร ไม่แน่อนาคตตัวเองอาจจะเปิดร้านหม้อไฟ

พูดถึงความหัวไว เมิ่งหู่สู้หลี่ตงหยางไม่ได้แน่นอน

หลี่ตงหยางยื่นโทรศัพท์ในมือตัวเองดุจดังสิ่งล้ำค่า “ให้นายดูของดี!”

เมิ่งหู่หนังตากระตุกทันที มองซ้ายแลขวาโดยสัญชาตญาณ จากนั้นกดเสียงพูดว่า “นายจะบ้าเหรอ ดูไอ้นี่เวลาทำงาน ไม่กลัวถูกจับได้โดนไล่ออกหรือไง!”

ร้านหม้อไฟเสฉวนมีสวัสดิการที่ไม่เลว แต่มีกฎที่เข้มงวดมาก พนักงานชั่วคราวก็ไม่มีข้อยกเว้น

หลี่ตงหยางหัวเราะ ‘พรืด’ ออกมา เอ่ยว่า “นายคิดไปถึงไหน นายคิดว่าฉันจะให้นายดูหนังโป๊เหรอ ถ้านายอยากดูคืนนี้กลับหอฉันจะช่วยดาวน์โหลดให้นาย…”

เมื่อเห็นเมิ่งหู่ขึงตา เขาถึงหัวเราะฮิๆ เอ่ยว่า “ไม่ล้อเล่นแล้ว นายดูเดี๋ยวก็รู้”

เมิ่งหู่ไม่ค่อยเชื่อใจนิสัยของหลี่ตงหยาง แต่ก็ยังรับโทรศัพท์มาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

ผลปรากฏว่าเขารู้สึกเสียใจที่โทษเพื่อนรัก สิ่งที่หลี่ตงหยางให้เขาดูไม่ใช่…ที่ยากจะบรรยาย แต่เป็นวิดีโอในบล็อกล่าสุดของบัญชีทางการเฉินเฟยมีเดีย!

เมิ่งหู่ไม่กลับบ้านและเลือกมาเมืองหลวง จุดประสงค์หลักไม่ใช่เพื่อทำงานหาเงิน แต่มาเข้าร่วมรายการประกวด‘ชุมนุมยอดมือปราบ’ ที่จะจัดขึ้นหลังตรุษจีน ดังนั้นจึงมีความรู้สึกไวสำหรับข่าวด้านนี้

เขากับหลี่ตงหยางสมัครบัญชีบล็อกล่างฉาว กดติดตามเฉินเฟยมีเดียรวมถึงบล็อกของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีขณะเดียวกันก็ยังบันทึกรายการโปรดฟอรัมที่เกี่ยวข้องบางส่วน เพื่อที่จะทราบข่าวก่อนเป็นคนแรก

ช่วงที่ผ่านมาบัญชีทางการเฉินเฟยมีเดียได้ปล่อยวิดีโอที่เกี่ยวกับการคัดเลือกนักแสดงของภาพยนตร์ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เพื่อรักษาระดับการติดตามอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีเนื้อหาที่มีประโยชน์และใช้ได้จริงเท่าไรนัก

แต่วิดีโอที่ปล่อยออกมาเย็นนี้เป็นข้อมูลที่เยี่ยมจริงๆ มันคือขั้นตอนการทดสอบฝ่าด่านใหญ่ของการออดิชัน และลู่เฉินยังขึ้นไปทดสอบด้วยตัวเอง!

นี่คือการปล่อยข่าวจากบัญชีทางการ มีประโยชน์มากจริงๆ!

ความสนใจของเมิ่งหู่ถูกดึงดูดไปทั้งหมด เขาจ้องหน้าจอตาไม่กะพริบ กลัวว่าตัวเองจะพลาดรายละเอียดในแต่ละเฟรมไป

ถึงแม้จะมีสิทธิ์เข้าร่วมการออดิชันอย่างเป็นทางการ แต่สำหรับรายการนี้ เมิ่งหู่รู้สึกดวงตามืดหม่นทั้งสองข้าง รู้ว่า ‘ต้องผ่านเจ็ดด่าน’ แต่ ‘เจ็ดด่าน’ นี้มีอะไรบ้าง ไม่ชัดเจนเลย

ตอนนี้บัญชีทางการปล่อยวิดีโอออกมา หากไม่ฉวยโอกาสทำความเข้าใจ ก็เท่ากับทิ้งโอกาส

เมื่อดูวิดีโอสิบเจ็ดนาทีจบแล้ว เมิ่งหู่ตกอยู่ในห้วงความคิด

หลี่ตงหยางรู้สึกไม่สบายใจ ถามว่า “เหล่าหู่ นายรู้สึกยังไงบ้าง พวกเราจะทำได้ไหม”

“ทำได้อยู่แล้ว!”

เมิ่งหู่กำหมัดทันที เอ่ยว่า “สี่ด่านนี้ฉันผ่านแน่นอน!”

“แต่…”

เขาพูดเบาๆ อีกว่า “ให้เร็วเหมือนลู่เฉิน ฉันกลัวว่าทำไม่ได้…”

เด็กหนุ่มอายุสิบเก้าปีคนนี้มีสีหน้าหม่นหมอง เพราะในวิดีโอ การแสดงฝีมือและความสามารถในการตอบสนองของลู่เฉินมันน่าตกใจเกินไป เขาเองก็เป็นคนในวงการศิลปะการต่อสู้ เข้าใจความหมายที่ซ่อนแฝงอยู่ในนี้อย่างลึกซึ้ง

หลี่ตงหยางหัวเราะ ‘ฮ่า’ หนึ่งที ตบไหล่ของเขาเอ่ยว่า “ใครบอกให้นายแข่งกับลู่เฉิน เขาคือคนที่พวกเราแข่งได้เหรอ พวกเราแค่ต้องเร็วกว่าผู้เข้าแข่งขันคนอื่นก็พอ”

เมิ่งหู่พยักหน้า

แต่ในใจของเด็กหนุ่มคนนี้ กลับมองลู่เฉินเป็นเป้าหมายที่ตัวเองไล่ตาม

เขาอยากเร็วและแข็งแกร่งเหมือนลู่เฉิน!

…………………………………………………………………………

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Status: Ongoing
ชีวิตของลู่เฉินดั่งมรสุมรุมเร้า ทว่าสวรรค์ยังคงเมตตาคนสู้ชีวิต ความทรงจำและความสามารถจากในความฝัน จะช่วยปูทางให้เขากลายเป็น Perfect Superstar เอง!ลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปีจำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาลวันหนึ่งเขาฝัน…เป็นความฝันที่ยาวนานมากโลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกันนักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระเขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝันเมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมาเป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท