Perfect Superstar – ตอนที่ 820 ท่าทีสูงส่ง

Perfect Superstar

ตอนที่ 820 ท่าทีสูงส่ง

เมื่อเทียบกับความกังวลของลู่ซี ลู่เฉินกลับไม่ได้แยแสนัก

เฉินเฟยมีเดียรุ่งเรืองมาจนถึงทุกวันนี้ แค่ความสำเร็จหรือความล้มเหลวของภาพยนตร์เพียงเรื่องเดียวส่วนได้ส่วนเสียไม่มากพอที่จะเขย่ารากฐานได้ และการที่เขามีชื่อเสียงและฐานะอย่างทุกวันนี้ ก็ไม่ได้มีคู่ปรับที่จะสั่นคลอนมันได้เท่าไรด้วย

แน่นอนว่าภาคแรกของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ นั้นสำคัญมาก ยอดจำหน่ายตั๋วของภาพยนตร์เรื่องนี้จะส่งผลโดยตรงต่อผลประโยชน์ของสองภาคหลัง นอกจากนี้ยังเป็นสนามรบแรกของโปรเจกต์ผลงานกำลังภายในของลู่เฉินอีกด้วย ต้องประสบความสำเร็จเท่านั้น ห้ามล้มเหลวอย่างเด็ดขาด

แต่ลู่เฉินกลับไม่คิดว่า ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ จะเป็นภัยคุกคามต่อ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ แม้ว่ายอดจำหน่ายตั๋วของฝ่ายแรกจะสูงมาก แต่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการขโมยความสนใจเกี่ยวกับภาพยนตร์กำลังภายในไป

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่ว่าจะตัดต่อตัวอย่างภาพยนตร์ได้โด่นเด่นแค่ไหน และไม่ว่าการประชาสัมพันธ์ทางออนไลน์จะร้อนแรงเพียงใด ท้ายที่สุดแล้วยอดจำหน่ายตั๋วภาพยนตร์ก็มีส่วนร่วมมาจากผู้ชม และคำพูดจากปากต่อปากของผู้ชมก็คือตัวกำหนดยอดจำหน่ายตั๋ว!

ในจุดนี้ลู่เฉินมีความมั่นใจใน ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เต็มเปี่ยม

เพื่อเตรียมตัวสำหรับภาพยนตร์กำลังภายในเรื่องใหม่นี้ เขาสร้างทีมตระกูลลู่อย่างอุตสาหะ ใช้เวลาเกือบสองปีในการเตรียมตัว ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อสร้างทีมสเปเชียลเอฟเฟกต์ กระทั่งเพื่อค้นหาคนที่มีความสามารถถึงกับสร้างรายการประกวดคัดเลือกอีกด้วย

‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ หรือจะพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือบริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาวที่ลงทุนสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ว่าจะร่ำรวยและมีอิทธิพลเพียงใด จะเหมือนกับเฉินเฟยมีเดียที่เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ได้อย่างไร

ยิ่งกว่านั้น กระแสของกำลังภายในแนวใหม่ ลู่เฉินก็เป็นคนริเริ่มขึ้นมา สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์กำลังภายใน เขาไม่เพียงแต่ใช้ความทรงจำมากมายในโลกแห่งความฝันเท่านั้น แต่ยังมีความเข้าใจและความคิดที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอีกด้วย

ลู่เฉินไม่สงสัยในความแข็งแกร่งของบริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาว และเชื่อว่าคู่ต่อสู้คนนี้สามารถสร้างภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่ยิ่งใหญ่ได้

แต่ภาพยนตร์กำลังภายใน…

ลู่เฉินยิ้มเอ่ยว่า “พี่ กว่าจะถ่ายทำ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เสร็จยังต้องใช้เวลาอีกสองเดือน บวกกับขั้นตอนหลังการถ่ายทำอีก อย่างเร็วที่สุดของเราก็น่าจะเป็นช่วงวันชาติจีนถึงจะเข้าฉายได้ ไม่ได้ชนโรงกับพวกเขาโดยตรง ไม่ต้องไปผสมโรงและตื่นเต้นไปกับเขาหรอก”

“ให้พี่เฟยปลอบใจแฟนคลับไปก่อน เราก็ควรมีท่าทีที่สูงส่งพอ การทะเลาะวิวาทเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นเลย ยอดจำหน่ายตั๋วของพวกเขาขายดี อันที่จริงแล้วมันก็ดีสำหรับเราด้วยนะ เราไม่จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อชื่อเสียงอันจอมปลอมนี้หรอก”

ไม่ว่าจะเป็นในวงการบันเทิงก็ดี หรือแม้แต่ในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ก็ตามที แท้จริงแล้วมันคือวงเวียนแห่งชื่อเสียงและผลประโยชน์ วงเวียนแห่งความถูกและผิด การทะเลาะวิวาทต่อสู้กันอย่างรุนแรงดุเดือดมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ตอนนี้บริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาวได้สร้างชื่อเสียงเสียใหญ่โต ไม่มีอะไรมากไปกว่าเพื่อชื่อเสียงและผลประโยชน์ อีกอย่างยังได้เหยียบเฉินเฟยมีเดียก้าวขึ้นสู่ที่สูงด้วย

ลู่เฉินไม่ได้ตั้งใจจะถกเถียงให้ยืดเยื้อในเวลานี้ เพราะการถ่ายทำ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ กำลังเข้าสู่ช่วงสำคัญ มาฟุ้งซ่านกับเรื่องพวกนี้ ได้ไม่คุ้มเสียอย่างแน่นอน

บางทีอีกฝ่ายอาจอยากให้เขาลงสนามด้วยตัวเอง!

ภายใต้การโน้มน้าวของลู่เฉิน ลู่ซีใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว และเธอก็ตระหนักว่าคำพูดของลู่เฉินนั้นสมเหตุสมผล

“งั้นก็ได้ ฉันจะปรึกษากับทางหลี่เฟยอวี่สักหน่อย จะจัดการอย่างใจเย็นให้มากที่สุด”

หลี่เฟยอวี่เป็นเพื่อนเพียงหนึ่งเดียวที่ลู่เฉินรู้จักระหว่างที่เป็นมดงานอยู่ในปักกิ่ง การเปลี่ยนแปลงชะตากรรมชีวิตของลู่เฉินมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาด้วย ตั้งแต่ลู่เฉินเริ่มมีชื่อเสียงและเริ่มต้นอาชีพการงาน ก็ไม่เคยลืมเพื่อนคนนี้เลยสักครั้ง

ในยุคแรกๆ หลี่เฟยอวี่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของลู่เฉินช่วยในการถ่ายทอดสด ต่อมาได้รับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์และการตลาดในสตูดิโอ ตอนนี้ได้เป็นผู้อำนวยการแผนกประชาสัมพันธ์ออนไลน์ของเฉินเฟยมีเดีย รับผิดชอบในการจัดการงานที่เกี่ยวข้องกับแฟนคลับ เช่น กลุ่มแฟนคลับขุนศึกตระกูลลู่ เทียปาทางการ ฟอรัม กลุ่มเฟยซวิ่น เป็นต้น

ลู่เฉินเอ่ย “อืม อีกอย่างช่วยนัดสื่อมาสัมภาษณ์ผมทีพวกเราควรออกมาพูดอะไรสักหน่อย”

ลู่ซีตอบรับ

เขาวางสายลู่ซีเรียบร้อย เฉินเฟยเอ๋อร์และมู่เสี่ยวชูจูงมือกันเดินเข้ามา

เฉินเฟยเอ๋อร์ถาม “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ คุยโทรศัพท์ตั้งนานแน่ะ”

ลู่เฉินยิ้มเอ่ย “พี่โทรมาน่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไว้เรากลับไปแล้วค่อยคุยกันเถอะ ที่นี่ลมแรงเกินไป”

มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรจริงๆ ทางนี้ลู่เฉินกำหนดแนวทางเบื้องต้นในการจัดการสถานการณ์แล้ว ส่วนทางนั้นก็อยู่ภายใต้การจัดการของลู่ซี เฉินเฟยมีเดียทำให้แฟนคลับส่วนใหญ่สงบลงได้อย่างรวดเร็วผ่านทางทีมสนับสนุน และไม่ได้ทำให้เรื่องลุกลามใหญ่โตขึ้นไปอีก

ถ้าเปลี่ยนเป็นคำพูดของหลี่เฟยอวี่ในกลุ่มทางการก็คือ ขุนศึกตระกูลลู่ของเราจะต้องมีท่าทีสูงส่ง และไม่ทะเลาะเบาะแว้งกับคนอื่น

แฟนๆ ของลู่เฉินส่วนใหญ่เป็นวัยหนุ่มสาว แต่เทียบกับสาววัยรุ่นอายุสิบกว่าปีเหล่านั้นแล้ว มีเหตุผลและวุฒิภาวะมากกว่ากันไม่น้อย ดังนั้นทุกคนจึงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

แน่นอนว่ายังมีแฟนคลับส่วนน้อยที่ไม่ยอมฟังเลย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดคลื่นกระทบอะไรมากนัก

ส่วนทางบริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาวและฮั่วเฟยเยวี่ยเมื่อได้ผลประโยชน์แล้วจึงหยุด และไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นซ้ำอีก อีกอย่างแฟนคลับของลู่เฉินนั้นมีมากเกินไป ถ้าคิดอยากจะล่วงเกินจริงๆ ละก็ เมื่อ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ เข้าฉายอาจถูกพวกเขาคว่ำบาตร เป็นการได้ไม่คุ้มเสียอย่างแน่นอน

แต่ทว่าแฟนคลับของฮั่วเฟยเยวี่ยบางส่วนเห็นว่าขุนศึกตระกูลลู่ยอมลดธงสงบไป ก็รู้สึกภาคภูมิใจนึกว่าตัวเองเอาชนะได้

ผู้เดียวที่รู้สึกผิดหวังก็คือ สื่อที่กลัวว่าฟ้าดินสงบจนเกินไปพวกนั้น รวมถึงคนวงในบางส่วนที่มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นชอบดูเรื่องสนุกๆ

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ลู่เฉินอยู่ในกองถ่ายชั่วคราวที่เขาฮว่าซาน ได้ให้สัมภาษณ์กับวารสาร ‘เล่าเรื่องภาพยนตร์’

‘เล่าเรื่องภาพยนตร์’ เป็นวารสารภาพยนตร์มืออาชีพที่หาได้น้อยมากในประเทศ ก่อตั้งมาเกือบสามสิบปีแล้ว มีอิทธิพลอย่างมากในหมู่แฟนภาพยนตร์ และได้เปิดตัวเว็บไซต์ของตัวเองเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา บัญชีทางการในบล็อกล่างฉาวมียอดแฟนคลับมากกว่าห้าล้านคน

นับตั้งแต่เปิดกล้อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ทีมงานได้ปฏิเสธการสัมภาษณ์กับสื่อ และการถ่ายทำก็ถูกเก็บเป็นความลับ จึงไม่มีข่าวออกมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว

ในครั้งนี้ ‘เล่าเรื่องภาพยนตร์’ ได้รับการติดต่อจากเฉินเฟยมีเดียเอง จึงรีบส่งทหารชั้นยอดไปยังฮว่าซานทันที หวังจะขุดค้นข้อมูลเกี่ยวกับ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ จากแหล่งข้อมูลโดยตรง

ปัจจุบันภาพยนตร์กำลังภายในกำลังเป็นกระแสร้อนแรง มีหนังประเภทเดียวกันอย่างน้อยถึงสามเรื่องเข้าฉายในโปรแกรมภาพยนตร์ฤดูร้อน ทั้งในและนอกวงการต่างก็ให้ความสนใจ โดยเฉพาะ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ถูกจับตามองและมีผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนให้ความสนใจ

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนทาง ‘เล่าเรื่องภาพยนตร์’ ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ฉบับเต็มของลู่เฉินในวารสารฉบับล่าสุดและบนเว็บไซต์ ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายในวงการและสื่ออื่นๆ ทันที

แต่กลับทำให้พวกเขาผิดหวัง ‘เล่าเรื่องภาพยนตร์’ ไม่ได้เผยแพร่ข้อมูลเด็ดมากนัก ทั้งลู่เฉินและทีมงาน ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ แสดงออกอย่างถ่อมตน เพียงแค่บอกว่าการถ่ายทำเป็นไปอย่างราบรื่น โดยพื้นฐานแล้วสามารถรับประกันได้ว่าจะเข้าฉายในช่วงวันชาติจีน และจะไม่มีเหตุการณ์เลื่อนวันออกฉายอีกครั้งอย่างแน่นอน

สำหรับคู่แข่งอย่าง ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ นั้น ลู่เฉินใช้ข้ออ้างว่าไม่ค่อยทราบรายละเอียด เป็นเหตุผลในการปฏิเสธแสดงความคิดเห็น และไม่ได้สนใจว่าชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของหนังกำลังภายในแนวใหม่เรื่องแรกจะถูกพรากไป

เมื่อเทียบกับคำพูดกล้าได้กล้าเสียของลู่เฉินในพิธีเปิดกล้อง เพียงไม่นานก็เกิดเสียงหนึ่งแพร่กระจายในวงการ ว่ากันว่าการถ่ายทำของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ประสบกับปัญหามากมาย ภายใต้การแข่งขันที่ดุเดือดของคู่แข่งอย่าง ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ความมั่นใจของเขามีไม่มากพอ บางทีภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะล้มเหลวไม่เป็นท่าแล้วก็ได้!

สำหรับคำพูดประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นลู่เฉินหรือเฉินเฟยมีเดียต่างก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ และไม่ว่าโลกภายนอกจะมีข่าวลืออย่างไร ก็ยังคงรักษามาดนิ่งไว้เช่นเคย

…………………………………………………………………….

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Status: Ongoing
ชีวิตของลู่เฉินดั่งมรสุมรุมเร้า ทว่าสวรรค์ยังคงเมตตาคนสู้ชีวิต ความทรงจำและความสามารถจากในความฝัน จะช่วยปูทางให้เขากลายเป็น Perfect Superstar เอง!ลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปีจำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาลวันหนึ่งเขาฝัน…เป็นความฝันที่ยาวนานมากโลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกันนักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระเขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝันเมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมาเป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท