ตอนที่ 833 ออกมาแล้ว
ณ กวงซู่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ เขตเจียงเฉิง
ในยามราตรี ความนิยมของอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ค่อยๆ คึกคักมีชีวิตชีวาและเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ
ชื่อเดิมของกวงซู่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่เรียกว่ากวงซู่อินเทอร์เน็ต เปิดมานานกว่าสิบปีแล้ว แม้กิจการร้านอินเทอร์เน็ตจะไม่ดีเหมือนก่อน และร้านอินเทอร์เน็ตหลายแห่งปิดกิจการไปแล้ว แต่การอาศัยข้อได้เปรียบของทำเลที่ตั้งและกลยุทธ์ราคาต่ำอย่างต่อเนื่อง ร้านอินเทอร์เน็ตแห่งนี้ยังสามารถอยู่รอดได้
แต่ในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว ทางเขตได้ออกประกาศปรับปรุงร้านอินเทอร์เน็ตขนาดกลางและขนาดเล็กทั้งหมดมาหนึ่งฉบับ
กวงซู่อินเทอร์เน็ตจึงเผชิญกับสถานการณ์ที่ต้องปิดตัวลง เถ้าแก่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องโอนให้คนอื่น เพื่อเลี่ยงการขาดทุนย่อยยับในตอนท้ายที่สุด
หลังจากที่เถ้าแก่คนใหม่เข้ามารับช่วงต่อ ได้ทุบอาคารพาณิชย์ที่อยู่ข้างๆ และใช้เวลาในการปรับปรุงยกระดับร้านอินเทอร์เน็ตทั้งร้าน ถึงได้มีกวงซู่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ในทุกวันนี้
ชื่อเปลี่ยนไปไม่กี่คำ แต่เห็นได้ชัดว่ายกระดับสูงขึ้นมาก แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายก็เทียบไม่ได้กับในอดีต และค่าบริการอินเทอร์เน็ตก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า ทำให้ลูกค้าเก่าที่เงินทองขาดมือตกใจหนีหาย
โชคดีที่เถ้าแก่คนใหม่ยังรู้วิธีทำธุรกิจ มีการออกโปรโมชันพิเศษหลายอย่างติดต่อกัน อย่างเช่น เติม 100 แถม 50 เติม 200 แถม 150 ทำให้หลายคนยังคงอยู่
ในหมู่ลูกค้าเก่าที่ยังคงอยู่ มีหวังผู่รวมอยู่ด้วย
หวังผู่ย้ายมาอยู่ที่นี่ปีกว่าแล้ว แม้ว่าเงื่อนไขของบ้านเช่าใหม่จะดีกว่าที่ก่อนมาก เจ้าของบ้านลากสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตมา สามารถแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านสายเคเบิลได้ฟรี แต่ความรู้สึกของการเล่นอินเทอร์อยู่ในบ้านเช่านั้นเห็นได้ชัดว่าสู้ร้านอินเทอร์เน็ตไม่ได้
ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นลูกค้าประจำในร้านอินเทอร์เน็ต แน่นอนว่าตัวเลือกแรกของเขาก็คือกวงซู่อินเทอร์เน็ตค่าเฟ่ที่อยู่ใกล้ที่สุด
รายได้จากการทำงานของหวังผู้ถือว่าใช้ได้เลย ครอบครัวก็ไม่มีภาระอะไร บวกกับยังโสดอีกต่างหาก ค่าใช้จ่ายปกติของเขาไม่มาก ดังนั้นการยกระดับกวงซู่อินเทอร์เน็ตเป็นกวงซู่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่จึงไม่ได้กดดันอะไรเขามากนัก ทำบัตรสมาชิกไปเลย 500 ได้แถมอีก 500 ก็เพียงพอสำหรับการใช้บริการไปครึ่งปีแล้ว
ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่มีราคาแพงกว่าเล็กน้อย แต่สภาพแวดล้อมดีขึ้นมากจริงๆ ทั้งหมดเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ อย่างน้อยก็ไม่มีควันและบรรยากาศที่เลวร้ายเหมือนเมื่อก่อน และเดี๋ยวนี้ก็มีเด็กผู้หญิงมาใช้บริการอินเทอร์เน็ตอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ขณะที่หวังผู่เพิ่งจะหย่อนก้นนั่งลงตรงที่ประจำของเขา มีหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามานั่งอยู่ที่โต๊ะข้างๆ
หวังผู่เปิดคอมพิวเตอร์อย่างคล่องมือ และลงชื่อเข้าใช้บัญชีเฟยซวิ่นของเขาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเสียง ‘ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง’ ดังขึ้นจากหูฟังที่อยู่บนโต๊ะ กินเวลาไปหลายวินาที
หญิงสาวโต๊ะข้างๆ ได้ยินดังนั้นก็เหลือบมองหวังผู่ด้วยความสงสัย
หวังผู่ไม่ได้สนใจ เขารีบคลิกเปิดเฟยซวิ่นอย่างรวดเร็ว ทั้งสิบนิ้วตอบกลับข้อความทีละข้อ
โดยทั่วไปแล้วข้อความเหล่านี้มาจากกลุ่มเฟยซวิ่น หวังผู่สร้างกลุ่มเฟยซวิ่นไว้ทั้งหมดเจ็ดกลุ่ม ล้วนแต่เป็นกลุ่มแฟนหนังสือ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ทั้งนั้น จำนวนสมาชิกในกลุ่มรวมแล้วเกินสองหมื่นคน ถือว่ามีอิทธิพลเล็กน้อยในวงการนิยายกำลังภายใน
เนื่องจากไม่สามารถใช้เฟยซวิ่นในบริษัทระหว่างวันได้ ดังนั้นหวังผู่จึงใช้เวลาช่วงเย็นเพื่อดูแลจัดการกลุ่มเฟยซวิ่นของตัวเอง และพูดคุยเรื่องราวในหนังสือกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม
หวังผู่เป็นหนึ่งในแฟนตัวยงรุ่นแรกๆ ของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ในสมัยนั้นตอนที่ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เผยแพร่ในเว็บไซต์ล่างฉาวบุ๊กอย่างต่อเนื่อง เขาเคยจัดกิจกรรมสนับสนุนการลงคะแนนเสียงมากมาย และเป็นแฟนพันธุ์แท้ของนักเขียน ‘อี้จินกู่’
ลิขสิทธิ์ของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ถูกเฉินเฟยมีเดียซื้อไป ช่วงที่เตรียมถ่ายทำภาพยนตร์นั้น หวังผู่มีความสุขมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย เขาแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นหนังสือเล่มโปรดของเขาบนหน้าจอขนาดใหญ่
พวกเพื่อนๆ ในกลุ่มเฟยซวิ่นก็เฝ้าตามติดเรื่องนี้เช่นกัน หัวข้อสนทนาเปลี่ยนจากนิยายเป็นภาพยนตร์ โดยเฉพาะตอนที่พวกเขารู้ว่าลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ หลิวกั่งเซิง ถานหง และนักแสดงระดับบิ๊กคนอื่นๆ ร่วมแสดงใน ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นมากถึงมากที่สุด
ปรากฏว่าเวลาเข้าฉายภาพยนตร์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เลื่อนออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเลื่อนเข้าฉายไปจนถึงวันชาติจีน
หวังผู่ย่อมไม่พึงพอใจกับเรื่องนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเมื่อไม่นานนี้ยังเห็นข่าวทางอินเทอร์เน็ตว่า เนื่องจากผลกระทบจากความล้มเหลวในการทำยอดจำหน่ายตั๋วของภาพยนตร์กำลังภายในอย่าง ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธจักร’ และเรื่องอื่นๆ ทำให้ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ อาจจะไม่เข้าฉายตามกำหนดการ
หัวใจของเขารู้สึกอึดอัดจริงๆ มักจะรู้สึกผิดหวังและมีอาการกระสับกระส่ายอย่างอธิบายไม่ถูก
โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าเหลืออีกไม่กี่วันก็จะถึงวันชาติจีนแล้ว แต่เฉินเฟยมีเดียไม่มีการเคลื่อนไหวแม้แต่นิดเดียว ดูเหมือนว่าข่าวลือนี้ได้รับการยืนยันจากอีกฝ่ายแล้ว
“หัวหน้ากลุ่ม ในที่สุดคุณก็ออนไลน์แล้ว คุณเห็นโปสเตอร์ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ หรือยัง”
“ภาพนิ่ง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ก็ออกมาแล้ว หัวหน้ากลุ่มต้องมอบอั่งเปาแล้วละ!”
“ใช่ๆ ยังมีการแข่งขันคอสเพลย์อีก ไม่มีใครในกลุ่มนี้เข้าร่วมเลยเหรอ ถ้าจะไปละก็พาฉันไปด้วยคนนะ!”
“ฮ่าๆๆ ฉันกำลังเตรียมตัวจะไปดูตอนนี้…”
เมื่อเห็นข้อความเด้งในกลุ่มเฟยซวิ่น หวังผู่รู้สึกมึนงงเล็กน้อย
“ภาพนิ่ง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ออกมาแล้วเหรอ”
เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ แถมยังกล่าวโทษการปิดเป็นความลับของทีมงานภาพยนตร์ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ยังมีเรื่องการละเลยการประชาสัมพันธ์อีกด้วย ถ่ายทำภาพยนตร์มานานกว่าครึ่งปีแต่ไม่เคยเห็นแม้แต่ภาพหลุดออกมาเลย ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าช่างลึกลับซับซ้อนเสียจริง
ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ก่อนเข้าฉายหนึ่งปีก็เริ่มสร้างกระแสกันแล้ว ไม่ต้องพูดถึงภาพนิ่ง โปสเตอร์ และการประชาสัมพันธ์ต่างๆ เรื่องอื้อฉาวทุกประเภทและการเปิดเผยจากวงในบินว่อนกระจายเต็มท้องฟ้า ทั้งจริงทั้งเท็จมากมายจนลายตาไปหมด
เมื่อเทียบกันแล้ว ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เป็นเหมือนกระแสใสน้ำบริสุทธิ์ เดินในเส้นทางที่ต่างจากทั่วไปโดยสิ้นเชิง
ในที่สุดตอนนี้ภาพนิ่งก็ออกมาแล้ว จะเริ่มประชาสัมพันธ์แล้วใช่ไหม
แล้วก็การแข่งขันคอสเพลย์นั่นอีก หมายความว่าอย่างไร
หวังผู่ไม่ได้หาคำตอบในกลุ่ม เขาต้องรักษาศักดิ์ศรีของเจ้าของกลุ่ม เปิดเบราว์เซอร์เข้าสู่บล็อก และคลิกบัญชีทางการของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ จากรายชื่อการติดตาม
บัญชีทางการของภาพยนตร์ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ในบล็อกล่างฉาวถือเป็นดอกไม้ประหลาดดอกหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา นอกจากรายงานความคืบหน้าในการผลิตอย่างสม่ำเสมอแล้ว โดยพื้นฐานแล้วไม่มีการประชาสัมพันธ์ใดๆ เลย เป็นการจัดการอย่างเงียบๆ จนต้องขอโทษแฟนคลับหลายล้านคนที่ให้ความสนใจเรื่องนี้ด้วย
แต่สถานการณ์วันนี้แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด บัญชีทางการของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ได้อัปเดตโพสต์บล็อกสามรายการในคราวเดียว รวมถึงโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ถึงห้าแบบ ภาพนิ่งหลายร้อยใบ และประกาศประชาสัมพันธ์กิจกรรมอีกต่างหาก!
หวังผู่คลิกโปสเตอร์รูปแรกด้านบนด้วยความเร็วสูงราวกับกลัวไม่ทัน
ภาพโปสเตอร์ที่มีความละเอียดสูงปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างชัดเจนในชั่วพริบตา
หล่อมาก!
แววตาของหวังผู่เป็นประกาย
ตัวเอกของโปสเตอร์นี้คือลิ่งหูชง (เล่งฮุ้ชง) ที่รับบทโดยลู่เฉิน เขาสวมชุดสีเทาพร้อมกระบี่ยาวห้อยอยู่ที่เอว บนใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ มีภูเขาสูงชันเป็นฉากหลัง ให้ความรู้สึกอิสระเหนือกฎเกณฑ์สุดจะบรรยาย
นี่แหละคือลิ่งหูชงในดวงใจของเขา!
นี่เป็นความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในความคิดของหวังผู่เมื่อได้เห็นโปสเตอร์นี้
นอกจากความหล่อสุดๆ แล้ว เสน่ห์ของลู่เฉินยังสอดคล้องกับคำอธิบายในหนังสืออย่างสมบูรณ์ และที่สำคัญที่สุดหวังผู่เห็นความแตกต่างระหว่าง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ กับภาพยนตร์กำลังภายในอื่นๆ
นั่นคือกลิ่นอายของจอมยุทธ์ในยุทธจักร
…………………………………………………………