225 แคลนอลล์มาแล้ว
“อะ อาโน…….วันนี้เป็นวันที่ดี ดังนั้นเดาว่านี่เป็นวันที่สมบูรณ์แบบในการขอโทษ…….”
” ――ฉันจะทักทายก็ได้ ดังนั้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ ซิลต้องเป็นคนพาไป”
ดีล่ะ ก่อนอื่น ก็หนึ่งคน
หลังจากไปคุยเรื่องเมื่อวาน ซิลเลนก็กลับไปที่ปราสาท ก่อนพาแคลนอลล์ พี่สาวมาด้วย
การตัดสินใจภายในวันเดียวนั้นรวดเร็วมากจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นสมาชิกของราชวงศ์
แคลนอลล์・ซิลค์・มาเวเลีย
เธอมีร่างกายที่ทำให้ยากที่จะเชื่อว่าเธอแก่กว่าแค่หนึ่งปี แต่ใบหน้าของเธอนั้นเหมือนกับของซิลเลนทุกประการ ยังไงก็ดีรู้สึกถึงบรรยากาศที่นุ่มนวลกว่าซิลเลน
เธอและน้องสาวยืนอยู่ในสวนด้วยชุดที่เคลื่อนไหวได้ง่ายโดยตอนนี้เข้าแถวอยู่ตรงหน้าฉัน
“เรื่อง ได้ยินแล้วใช่ไหม?”
“อะ ค่ะ เอ่อ อยากจะทำสักอย่างเกี่ยวกับเด็กกำพร้าหรืออะไรแบบนั้น………”
ฟุมุ
ดูเหมือนจะยังไม่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแต่ก็ไม่เป็นไร
ยังไงก็ตาม ดูเหมือนว่าลิวิเซล พี่ชายของเธอกับรองผู้บัญชาการ อิลก์ กำลังออกสำรวจพื้นที่ที่ยังไม่ได้สำรวจทางตะวันออก
ตามแผนการแล้ว ดูเหมือนพวกเขาจะยังไม่กลับมา ดังนั้นในตอนนี้ มีเพียงแคลนอลล์เท่านั้นที่มา
“คุณเองก็อยากจะแข็งแกร่งกว่าทหารจักรกลด้วยงั้นเหรอคะ?”
“เรื่องนั้น แน่นอน”
ดูเหมือนเธอจะค่อนข้างจะกลัวฉันนะ แต่ ――ตอนที่เธอตอบแบบนั้นเท่านั้นแหละที่ฉันรู้สึกถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ของเธอ
“พวกเราจำทำลายแมลง ต้องใช้ความเข้มแข็งในการทำเช่นนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเราต้องการทหารจักรกล แต่ ไม่สำคัญว่าจะเป็นทหารจักรกลหรือไม่ตราบใดที่ฉันมีพลัง ――อย่างน้อยฉันก็”
ต้องการที่จะแข็งแกร่ง
ในความคิดเดียวนั้น ความรู้สึกของเธออาจแข็งแกร่งกว่าของซิลเลน
“ดีสิ แคลน จากนี้ฉันจะฝึกคุณเอง”
“แคล…….อะ ค่ะ ――ฉันเองก็ต้องเรียกแบบนั้นไหม?”
” ――ท่านพี่หญิง ไม่ต้องกังวลกับรายละเอียดจะดีกว่า แค่ตระหนักไว้ก็พอค่ะ”
” ――ตระหนักไว้?”
” ――ความแตกต่างของพลังค่ะ”
ถ้าจะกระซิบกันเบา ๆ ก็ลดเสียงลงหน่อย ฉันสามารถได้ยินเสียงคุณ.ม๊า ฉันมีความรู้สึกว่าควรที่จะแสร้งทำเป็นว่าไม่ได้ยิน
“คุณใช้คทาศึกสินะ จ๊า ลองเหวี่ยงให้ดูทีสิ”
เนื่องจากฉันไม่ได้เรียกเธอมาเพื่อพูดคุย ฉันจึงตัดสินใจตรงเข้าประเด็นทันที
หลังจากทักทายกันนิดหน่อย ก่อนอื่นมาดูทักษะของแคลนอลล์กันก่อน
คทาศึกสินะ
เป็นอาวุธที่โดดเด่นจากการใช้ประโยชน์จากน้ำหนักของมัน มันเป็นอาวุธที่มีพลังทำลายล้างสูง
“ฮ๊าっ!”
เมื่อถึงเวลาฝึกซ้อม ดูเหมือนว่าเธอจะอารมณ์ร้อนขึ้น และไม่มีข้อกังขาเกี่ยวกับฉันเลย
แคลนอลล์ใช้แรงเหวี่ยงของการเหวี่ยงแขนและน้ำหนักของอาวุธ ใช้ประโยชน์จากคุณลักษณะของอาวุธในการฟาดให้กลายเป็นการโจมตีอันทรงพลังเข้าใส่ท่อนไม้
เปรี้ยง ฟังดูค่อนข้างดี
――เข้าใจล่ะ ไม่เลวเลย
ฉันคิดว่านั่นเป็นการโจมตีที่สะท้อนถึงความปรารถนาของเธอที่จะแข็งแกร่งขึ้น
มันเป็นอาวุธที่ทรงพลังแม้จะต้องเหวี่ยงไปมาด้วยสุดกำลังของคุณ แต่ถ้าคุณพยายามปรับปรุง เธอคงได้ศึกษาวิธีใช้มันให้ทรงพลังได้มากกว่าแค่ใช้กำลังแล้ว
ฉันแน่ใจว่าเธอก็ใช้อาวุธคล้าย ๆ กันนี้เวลาที่ขับทหารจักรกลด้วยเหมือนกัน
“คุณต้องการทำลายที่ไหนและยังไง?”
“เอ๊ะっ?”
” ――ขอยืมที”
ฉันรับคทาสำหรับฝึกที่แคลนอลล์พกติดตัวมาด้วย โอ้ หนักน๊า วงแหวนเหล็กที่เพิ่มน้ำหนักไม่ได้มีไว้โชว์เฉย ๆ สินะ
“ใช้ได้? โดยพื้นฐานแล้ว การโจมตีมีสองประเภท การทำลายภายนอกและการทำลายภายใน สำหรับฉัน ก็เหมือนกับเทคนิคการต่อย และเตะแบบง่าย ๆ แต่”
ฉันลองเหวี่ยงดูนิดหน่อย หมุนมือรอบ ๆ ด้ามจับ
――อืม น้ำหนักกำลังดี สำหรับฉันหนักกว่านี้อีกหน่อยน่าจะกำลังดี แต่หากต้องรับมือกับศัตรูที่มีจำนวนมาก การมีความคล่องตัวจะดีกว่า
“ถะ ถือมือเดียวได้ด้วย? ขนาดฉันยังทำไม่ได้เลย………..”
“อีกไม่นานคุณเองก็จะสามารถทำแบบนี้ได้เหมือนกัน ก่อนอื่นก็ดูให้ดี”
ฉันตั้งท่า วางคทาในแนวนอน
ราวกับว่าพวกเธอสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ แคลนอลล์ กับซิลเลน และก็มิโตะที่กำลังฝึกฝนอยู่ห่างออกไปก็มองมาทางนี้เป็นทางเดียวกัน ส่วนริโนกิสไม่อยู่ เพราะกำลังทำขนม และจะฝึกซ้อมตอนกลางคืน
“สิ่งที่คุณพึ่งทำไป คือการทำลายภายนอกให้ส่งผลกระทบเข้าไปทำลายภายใน แต่ว่าแกนแท้ของการตีคือ การเปลี่ยนแรงและเพิ่มพลังปะทะกับแรงตีให้เป็นพลังทำลายล้างไปยังตำแหน่งเป้าหมายให้มากที่สุดเท่าที่คุณต้องการ
――เป้าหมายโดยพื้นฐานแล้วคือ การทำลายล้างภายใน ถ้าเป็นการจัดการกับแมลงเน๊ะ”
ป๊าบ
เมื่อคทาซึ่งเหวี่ยงไปด้านข้างสัมผัสกับท่อนไม้ ด้านหลังของพื้นผิวที่ตีก็ระเบิดออก
ความเสียหายบนพื้นผิวที่ถูกตีมีเพียงเล็กน้อย และแทบไม่มีเสียงปะทะ
“พลังทำลายล้างจะถูกสลายไป เมื่อเป้าหมายถูกปกป้องโดยเปลือกนอกที่แข็งแกร่ง ดังนั้นจึงต้องทำลายภายในด้วยแรงปะทะไม่ใช่จากการตี อ้า ฉันจะแสดงอีกด้านให้ดูด้วย”
ฉันยกคทาขึ้นอีกครั้ง คราวนี้จะเป็นการทำลายล้างจากภายนอก
ปัง!
มันส่งเสียงแตกแบบเดียวกัน แต่สองในสามส่วนบนสุดของท่อนไม้กลับกลายเป็นเศษไม้ ม๊า ด้วยความแข็งแกร่งของท่อนไม้ควรจะถูกทำลายจนหมดด้วยซ้ำ
“นี่คือการทำลายล้างภายนอกซึ่งเพิ่มพลังทำลายล้างให้กับพื้นผิวที่ถูกโจมตี
หากอยากแข็งแกร่งขึ้น ต้องรู้จักจังหวะของการตี คุณยังยืนอยู่ที่ทางเข้าเท่านั้น”
แคลนอลล์ไม่แม้แต่จะพยายามซ่อนสีหน้าประหลาดใจของตัวเองด้วยซ้ำ เธอมองมาที่ฉันและท่อนไม้ซึ่งเหลือเพียงเศษไม้และฐานที่กระจัดกระจาย
ฉันยิ้มกว้าง และพูดพรางหัวเราะให้เธอ
” ――ว่าไง? อาจมีคนอื่นที่เหมือนฉันในประเทศอื่นอยู่ก็ได้ มาเวเลียที่เป็นอยู่ตอนนี้จะไม่เป็นไรจริง ๆ เหรอ?”
ซ้า ให้เธอนำความกังวลนี้กลับไปที่ปราสาทกันเถอะ อย่ามัวแต่มองทหารจักรกล ให้มองออกไปข้างนอกด้วย มาเปิดประเทศกันเลย
และด้วยเหตุนี้เอง แม้แต่แคลนอลล์ก็เริ่มมาที่บ้านของฉัน
เมื่อเธอมีเวลาว่าง เธอก็จะหมกมุ่นอยู่กับการฝีกฝน「คิ」ที่เธอพึ่งเรียกไป ฝึกซ้อมการเหวี่ยง ดูจะดื่มด่ำยิ่งกว่าซิลเลนที่รักการฝึกฝนเสียอีก
คนที่ต้องการแข็งแกร่งขึ้นเข้าใจง่ายเป็นอย่างดี
ในตอนแรก…….อาจจะเริ่มต้นด้วยการเผชิญหน้ากัน นั่นเป็นเพียงสิ่งที่ทำให้ฉันติดใจ แต่ถ้าพวกเรามีเป้าหมายเดียวกัน เวลาที่พวกเราจะสามารถให้อภัยซึ่งกันและกัน อาจจะมาหรือไม่มาล่ะนะ
” ――เนียจัง!พิมพ์เขียวสำหรับต้นแบบพร้อมแล้ว!”
” ――เนียโอโจ้ซามะ! ดูสิดูสิ! ผมก็คิดด้วยเหมือนกัน!”
เขาแตกต่างจากผู้หญิงไม่เกรงอกเกรงใจคนนี้จริง ๆ
เมื่อเห็นว่าเริ่มโดนแสดงความไม่พอใจต่อการพัฒนารถม้าที่วิ่งโดยไม่มีม้า เธอก็พาบัลเจอร์พี่ชายฝาแฝดของคาลัวมาอยู่ข้าง ๆ ด้วย ช่างไร้ความเกรงอกเกรงใจจริง ๆ แต่ก็มีไหวพริบ
“ไหน”
ฉันไม่สนใจรอยยิ้มของอาคาชิ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องดู เมื่อถูกสายตาที่จ้องมองอย่างคาดหวังของเด็กคนหนึ่ง ………อะ ยังไงดี ก็ออกมาดูดีทีเดียว……..?
“มีสองล้อ? ไม่ใช่รถม้าเหรอ?”
“พูดให้ถูกก็คือ มีล้อสามล้อต๊างห๊าก ล้อหน้าเชื่อมต่อกับพวงมาลัยโดยตรง เมื่อหมุนไปทางซ้ายและขวาแบบนี้ ทิศทางก็จะเปลี่ยนไปตามไปด้วยน๊า
ด้านหลังมีสองล้อและแท่นบรรทุกสัมภาระ จึงสามารถบรรทุกสัมภาระได้มากมายล๊า”
โห้
“ได้ปรับปรุงส่วนที่ทำให้เลี้ยวได้ช้าก่อนหน้าแล้วสินะ?”
“ใช่! ถูกต้องเลย! ครั้งนี้ต้องด๊ายผลแน่น๊อน!”
………ฉันไม่ไว้ใจอาคาชิมากกว่าตัวต้นแบบอีกน๊า………อะ ใช่แล้ว
“ไปทำข้างนอกกันเถอะ ที่นอกเมือง”
ที่พวกเราเคยทำที่หน้าบ้านเพราะมีถนนหินกรวด ที่เรียบและง่าย แต่ถึงแถวนี้จะมีคนไม่มากนัก ก็ใข่ว่าจะไม่มีเลย จะเป็นอันตรายได้ถ้าเผลอไปชนใครสักคนเข้า
เมื่อเป็นเช่นนี้ หากมีสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับการทดลอง อย่างน้อยฉันก็จะไม่ทำให้หญิงชราฝั่งตรงข้ามโกรธขึ้นมาอีกแล้ว
“ข้างนอกม๊านไกลน๊า”
“ถ้ายังพูดอะไรขาดความรับผิดชอบ ฉันจะซัดให้เลอะเลย”
“แต่ว๊าถ้าจะย้ายไปที่ไหนล่ะก๊อ ไปโรงเรียนไม่ดีกว่าเหรอ? กว้างขวางพร้อมเครื่องมือและเวิร์กช็อปมากมาย ต่อห๊ายมีอุบัติเหตุ ตราบใดที่ฉ๊านมีชื่อของซิลซามะ ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยดีล๊า”
อาคาชิเมินเฉยต่อคำขู่ของฉันอย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังคิดแผนขึ้นมาในเวลาแบบนี้ได้อีก ……..จิ๊ส ม๊าม๊า ก็ไม่ใช่ความคิดที่ไม่ดี แม่สาวจอมอวดดีเอ๊ย
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบคุณ คุณCH****AI KIMN มาก ๆ ครับ
ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ