ตอนที่ 258 ฉันจะออกไปทำงานนอกบ้าน
เมื่อเดือนที่แล้วจี้อวิ๋นอวิ๋นได้คลอดลูกสาวที่โรงพยาบาลแถบชานเมือง
ในช่วงนี้จึงเป็นช่วงเวลาของการอยู่ไฟ ซึ่งหลี่จื้อต้องคอยดูแลหล่อน เนื่องจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้ปิดเทอมกันแล้ว เขาจึงมีเวลาหยุดพักหลังจากช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัย และเขาต้องดูแลหล่อนเพียงลำพังโดยที่ไม่มีใครว่างมาช่วย
คุณแม้จี้ต้องการช่วยงานลูกชาย หากงานที่สวนยุ่ง นางจะเอาเวลาที่ไหนไปดูแลลูกสาวที่กำลังอยู่ไฟได้กัน?
ระหว่างลูกชายกับลูกสาว คุณแม่จี้เลือกจะช่วยลูกชายอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนลูกสาวผู้ไม่รู้จักโตก็ได้แต่งงานออกไปแล้ว ย่อมต้องปล่อยให้หล่อนใช้ชีวิตด้วยตนเอง และนางก็คร้านจะใส่ใจเรื่องนี้
นางยังคงไม่พอใจในเรื่องเมื่อคราวที่แล้วตอนที่นางพาฉีฉีไปด้วย
หากแต่ในท้ายที่สุดนางก็ยังเป็นแม่ของหล่อน คุณแม่จี้จึงเจียดเวลาจากตารางงานแน่นขนัด และนำเพียงแค่ไก่และไข่ติดไปฝาก ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น
คุณแม่จี้ถูกลูกสาวโวยวายใส่ดังคาดไว้ บอกว่านางขี้เหนียวเกินไป เอาแค่ไก่มาฝากได้อย่างไร? นำของมาให้มากกว่านี้เสียหน่อยก็ไม่ได้!
คุณแม่จี้ทำเพียงเหลือบมองหลานสาว ก่อนเดินทางกลับโดยไม่สนใจคำต่อว่าของลูกสาว
ด้านคุณป้าหลี่เองเคยมาเยี่ยมเช่นกัน หากแต่นางไม่อาจปรับตัวเข้ากับลูกสะใภ้คนนี้ได้ จึงไม่ได้มาหาอีก
ดังนั้นหน้าที่ดูแลช่วงอยู่ไฟจึงตกเป็นของหลี่จื้อ
อวิ๋นลี่ลี่มาเยี่ยมในเช้าวันต่อมา
วันนี้ฝนตกเบาลงมาก โปรยปรายลงมาเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งหล่อนนำของมาฝากหลายอย่าง แน่นอนว่าต้องมีไข่ อีกทั้งยังมีเครื่องบำรุงร่างกายต่าง ๆ ซึ่งซื้อมาจากแถวบ้าน
หล่อนมาถึงในเวลาที่เหมาะเจาะไม่น้อย เพราะดูจากสีหน้าของคู่สามีภรรยาแล้ว เห็นได้ชัดว่าเพิ่งทะเลาะกันมา
“พี่สะใภ้นั่งลงก่อนครับ ผมจะออกไปซื้อของสักหน่อย” หลี่จื้อบอกกับหล่อน ก่อนออกจากบ้านไป
“อวิ๋นอวิ๋น มีเรื่องอะไรกับสามีล่ะ?” อวิ๋นลี่ลี่ถามในทันทีที่หลี่จื้อออกไป
หล่อนรู้ดีว่าคงไม่ใช่ความผิดของหลี่จื้อ น้องสามีของหล่อนน่าจะเป็นฝ่ายอาละวาดอีกเช่นเคยเสียมากกว่า
“ฉันบอกจะให้ลูกหย่านม และให้ลูกกินนมผงแทน แต่เขาก็มาทะเลาะกับฉันเสียอย่างนั้น ฉันยังโกรธไม่หายเลยนะคะ!” จี้อวิ๋นอวิ๋นเอ่ยด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“ตอนนี้ลูกยังเล็กขนาดนี้ จะให้หย่านมแม่ได้ยังไง หย่านมแล้วจะให้เด็กกินอะไรล่ะ?” อวิ๋นลี่ลี่ถึงกับขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ไม่แปลกใจเลยที่หลี่จื้อมีท่าทีอย่างนั้น น้องสามีของหล่อนทำเกินไปแล้ว!
“ยังไงก็ต้องปล่อยให้โตตามยถากรรมอยู่แล้ว ก็แค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ทำไมจะต้องใส่ใจด้วยล่ะคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นบอก
อวิ๋นลี่ลี่แทบทนฟังไม่ไหว หล่อนมองหน้าอีกฝ่ายและว่าขึ้น “ที่บอกว่าแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งหมายความว่ายังไง? เธอเองก็เป็นลูกสาวไม่ใช่เหรอ แต่พี่ก็เห็นว่าพ่อแม่เธอก็ดูแลเธอเป็นอย่างดีนี่!”
“แล้วทำไมแม่ถึงเอาแต่เอาใจลูกชายล่ะคะ? ครั้งนี้แม่มาหา กลับเอาแค่ไก่กับไข่มาให้เอง ฉันก็เป็นลูกสาวแม่นะ คงกลัวว่าฉันจะไปเอาเปรียบลูกชายแม่น่ะสิ!” จี้อวิ๋นอวิ๋นขึ้นเสียง
“เรื่องนั้นมันก็จริง คนรุ่นคุณแม่ย่อมต้องเห็นแก่ลูกชายมากกว่าอยู่แล้ว เธอแต่งงานไปแล้ว พ่อแม่จะมาเอาประโยชน์อะไรจากเธอได้อีก? แต่พวกเขายังต้องพึ่งพาลูกชายอยู่นะ หรือจะต้องให้พวกเขาเอาข้าวของจากพี่สะใภ้มาจุนเจือเธออีกล่ะ?” อวิ๋นลี่ลี่เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา
หล่อนแทบจะอดใจตบหน้าอีกฝ่ายและก่นด่าว่าเนรคุณไม่ไหว
เมื่อนึกถึงแม่สามีของหล่อนที่ต้องใช้เวลาเป็นค่อนวันขนของจากบ้านมาฝากถึงที่นี่ อีกทั้งในตอนนี้งานที่บ้านก็ยุ่งไม่น้อย ไม่แปลกที่แม่สามีของหล่อนจะมาเยี่ยมที่นี่เพียงครั้งเดียว หลังจากน้องสามีคลอดลูกสาว
แล้วดูน้องสามีทำเข้าสิ เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?
เห็นแล้วชวนให้ปวดใจไม่น้อย
“พี่สะใภ้สี่พูดอย่างนี้กับฉันได้ยังไงกันคะ? แค่ได้ลูกสาวฉันก็หงุดหงิดใจมากพออยู่แล้ว!” จี้อวิ๋นอวิ๋นตอกกลับอย่างไม่พอใจ
“ที่พี่พูดก็เพราะหวังดีนะ พี่อยากให้เธอมีเหตุผลกว่านี้ ไม่อย่างนั้นพี่จะมาพูดกับเธอตรง ๆ ทำไมกัน? สู้ไปนินทากับคนข้างนอกไม่ดีกว่าหรอกเหรอ? ไม่มาพูดเรื่องนี้กับเธออย่างนี้หรอก การให้นมลูกเป็นหน้าที่ของเธอ หลี่จื้อเองก็มีงานมีการทำ แล้วนี่ก็เป็นลูกสาวของเธอ ถ้าเธอไม่เสียสละตอนนี้จะไปทำตอนไหน?” อวิ๋นลี่ลี่บอก
“ดูอย่างซูตานหงสิคะ หล่อนมีลูกชายตั้ง 2 คนแหนะ!” จี้อวิ๋นอวิ๋นกัดฟันกรอด
หล่อนคิดว่าตนมีลูกชายมาตลอด ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้วเป็นลูกสาว?
ครั้งที่แล้วที่แม่สามีมาหา นางก็ไม่พอใจเมื่อรู้เรื่องนี้ นางเกือบจะคว้าของบางอย่างมาตีหล่อนด้วยซ้ำ
ส่วนซูตานหงตอนนี้คงหัวเราะเยาะหล่อนในใจอยู่ เธอมีลูกชายติดกันถึง 2 คน ในขณะที่หล่อนมีลูกสาว
เรื่องนี้ทำให้หล่อนอับอายขายหน้าไม่น้อย!
อวิ๋นลี่ลี่หมดคำจะพูด หล่อนมีท่าทางอึ้งงันไปเล็กน้อย “เธอยังจะมาโทษพี่สะใภ้สามอีกเหรอ?”
ในที่สุดหล่อนก็เข้าใจแล้วว่าทำไมตานหงถึงมีจิตใจแข็งแกร่งนัก ทั้งที่ใคร ๆ ก็รู้ว่าซูตานหงเป็นคนใจกว้าง แต่กลับไม่ได้ให้ไข่แม้สักฟองมาเป็นของฝากตอนที่น้องสามีคลอดลูก
มันช่างสูญเปล่าจริง ๆ
หากให้ทานกับคนแปลกหน้า พวกเขาก็ยังสำนึกบุญคุณอยู่บ้าง แต่ถ้าให้น้องสามีคนนี้ มีแต่จะเสียอารมณ์และทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น!
“พี่สะใภ้สี่ นี่พี่ได้ผลประโยชน์จากหล่อนใช่ไหมคะเนี่ย? ทำไมถึงเอาแต่ช่วยออกหน้าแทนตลอดเลย!” จี้อวิ๋นอวิ๋นว่าขึ้นอย่างไม่พอใจ
“ช่างเถอะ พี่จะไม่พูดเรื่องนี้กับเธอแล้ว ดูแลลูกให้ดีแล้วกัน” เดิมทีอวิ๋นลี่ลี่ตั้งใจจะมาหา และช่วยดูแลน้องสามีให้ แต่หล่อนล้มเลิกความตั้งใจเสียแล้ว สู้หล่อนไปช่วยแม่สามีดีกว่า และเมื่อนึกถึงเรื่องเงินทอง หล่อนเลือกกลับไปทำงานหาเงินดีกว่า
หากแต่เมื่อคิดได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับแม่สามีไม่ค่อยดีนัก หล่อนก็ไม่ได้ออกความเห็นอะไรอีก
“วันนี้เยียนเอ๋อร์ไม่ค่อยสบาย พี่แค่แวะมาแป๊บเดียว ต้องกลับไปดูแลลูกก่อน” อวิ๋นลี่ลี่บอก
ว่าจบหล่อนก็เดินออกมา
หล่อนพบกับหลี่จื้อที่ชั้นล่าง
“พี่สะใภ้ ทำไมกลับเร็วจังล่ะครับ?” หลี่จื้ออดจะถามไม่ได้
“พอดีติดธุระที่บ้านน่ะจ้ะ แค่แวะเอาของมาให้อวิ๋นอวิ๋น แล้วก็จะกลับแล้ว” อวิ๋นลี่ลี่ยิ้ม
สิ้นคำพูด อวิ๋นลี่ลี่ก็จากไป ในขณะที่หลี่จื้อขึ้นมาบนบ้านอย่างเงียบ ๆ
“ฉันบอกคุณไว้เลยนะคะว่าฉันจะออกไปทำงานนอกบ้าน ส่วนเรื่องลูกเราให้บ้านคุณเลี้ยงแล้วกันค่ะ หรือจะไปให้แม่ฉันเลี้ยงก็ได้” จี้อวิ๋นอวิ๋นบอก
หล่อนรู้ว่าเขางานยุ่ง
หลี่จื้อสูดหายใจลึก มองหน้าหล่อนก่อนบอก “คุณไม่พอใจอะไรผมนักหนาเหรอครับ?”
จี้อวิ๋นอวิ๋นสะบัดหน้าหนี “ฉันแค่ไม่อยากอยู่บ้านค่ะ!”
“นอกจากตอนอยู่ไฟคุณเคยชอบอะไรบ้างล่ะครับ แต่เดือนนี้คุณต้องอย่าสร้างปัญหาให้ผมอีกนะ!” หลี่จื้อคร้านจะต่อปากต่อคำกับหล่อน
“ก็ได้ค่ะ!” จี้อวิ๋นอวิ๋นตอบตกลงสั้น ๆ
อีกไม่กี่วันหลี่จื้อก็จะมีงานยุ่ง เนื่องจากเทศกาลไหว้พระจันทร์ใกล้เข้ามาแล้ว อีกทั้งเขายังต้องเตรียมนมผงสำรองไว้
เขาทำอาหารเช้าตุนไว้ในวันต่อมา และขับรถไปหาจี้เจี้ยนอวิ๋นทันที
หากแต่จี้เจี้ยนอวิ๋นไม่อยู่เพราะไปดูสถานการณ์ที่อ่างเก็บน้ำแต่เช้า ซูตานหงจึงถามขึ้น “น้องเขย มีเรื่องด่วนอะไรเหรอจ๊ะ?”
“พี่สะใภ้สาม ตอนที่พี่สามเข้าเมืองมหาวิทยาลัย ถ้าเขามีเวลา รบกวนฝากซื้อนมผงมาสักหน่อยได้ไหมครับ?” หลี่จื้อบอก
“รบกวนอะไรกัน เดี๋ยวพวกเขาก็ต้องไปที่นั่นอยู่แล้ว ถ้าเธอขึ้นเขาไปบอกคุณแม่ เดี๋ยวคุณแม่ก็จะใช้สวี่เหอซานหรือคนอื่นไปซื้อให้เอง” ซูตานหงเอ่ย
“ครับ” หลี่จื้อจึงขึ้นเขาไป
“ซื้อนมผงเหรอ? อวิ๋นอวิ๋นไม่ได้ให้นมลูกหรอกเหรอ? ทำไมต้องเสียเงินซื้อด้วย? ต่อไปยังมีเรื่องให้ต้องใช้เงินอีกมากนะ” คุณแม่จี้กล่าวเมื่อได้ยินในสิ่งที่ชวนให้ไม่เข้าใจ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
อ่านแล้วถึงกับขำแห้ง เดี๋ยวอีกหน่อยเธอก็จะไม่เหลือใครแล้วล่ะอวิ๋นอวิ๋น พี่สะใภ้สี่ที่สนิทกับเธอที่สุดก็จะเทเธอแล้ว
ไหหม่า(海馬)