ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] – ตอนที่ 266 เถ้าแก่จี้เจี้ยนอวิ๋น

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

ตอนที่ 266 เถ้าแก่จี้เจี้ยนอวิ๋น

คุณแม่ซูสบตากับหล่อนครู่หนึ่งก่อนจะเข้าเรื่อง

“ครอบครัวของเธอเป็นยังไงบ้าง ได้ข่าวว่าแม่ของเธอมาเมื่อวันก่อน” คุณแม่ซูเอ่ยถาม

“เรื่องนั้นไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วงแล้วค่ะ” หลี่ไหลตี้เอ่ยอย่างยิ้ม ๆ “แล้วคุณแม่ก็เอาไข่มาให้ฉันนิดหน่อยด้วย”

แม้ว่าฐานะครอบครัวของหลี่ไหลตี้จะไม่ดีนัก แต่ครอบครัวของหล่อนก็ดีกว่าของสามีอยู่มาก อย่างน้อย ๆ เมื่อหล่อนกับอันปังมีปัญหา แม่ของหล่อนจะขอให้พี่ชายนำไข่และแป้งมาให้บ้างเป็นครั้งคราว

ส่วนแม่สามีของหล่อนนั้นวางใจไม่ได้เลย ถ้าเลิกยุ่งได้ก็คงจะดีมาก ๆ

“จะเป็นผลเสียกับลูกสาวของเธอไหม” แม่ซูยิ้มและพยักหน้า “น้องชายของเธอก็ไม่เด็กแล้วนี่?”

“ใช่ค่ะ ไม่เด็กแล้ว อายุ 18 แล้วค่ะ” หลี่ไหลตี้พยักหน้า และเอ่ยยิ้ม ๆ “ป้าห้าจะแนะนำคนรักให้น้องชายฉันเหรอคะ?”

“ฉันจะไปแนะนำใครมั่วซั่วได้ล่ะ ก็แค่ถามเฉย ๆ พ่อของเธอว่างงานอยู่ไหม จี้เจี้ยนอวิ๋นกำลังหาคนมาเฝ้าสวน” คุณแม่ซูกล่าว

หลี่ไหลตี้เข้าใจได้ในทันที ว่าเป้าหมายของป้าห้าที่มาหาหล่อนในวันนี้ก็เพื่อมาแนะนำงานให้ทำนี่เอง!

“คุณป้าอย่าเพิ่งหาคนอื่นเลยค่ะ วันนี้ฉันจะไปถามเขาให้นะคะ!” หลี่ไหลตี้ตกใจจนลนลานพูดออกมา

“ฉันแค่มาถามเอาไว้ก่อน ตอนนี้เกณฑ์เลือกคนของจี้เจี้ยนอวิ๋นค่อนข้างสูง” คุณแม่ซูกล่าว “จะต้องเป็นคนซื่อสัตย์ ไม่ลักเล็กขโมยน้อย ไม่ปัดสวะให้พ้นตัว ไม่อย่างนั้นลูกเขยฉันคงไม่ยอม”

“ป้าห้าวางใจได้เลยค่ะ พ่อของฉันทำงานมาตลอด เขาเป็นคนซื่อสัตย์จนไม่สามารถซื่อสัตย์ไปได้มากกว่านี้แล้ว และตอนนี้เขาก็เหมาะสมกับงานนี้ด้วย” หลี่ไหลตี้รีบพูด

“งั้นก็ดี เธอกลับไปก็ลองพูดดู ตามระเบียบที่นั่นแล้ว ตอนนี้จะได้เงินเดือนน้อยกว่าคนเก่าอยู่ 5 หยวน อยู่ที่ 35 หยวน หลังจากครึ่งปีเป็นต้นไปก็จะปรับเงินเดือนให้เหมือนกันทุกคน ถ้ายอมรับได้ ก็ให้พ่อของเธอไปคุยกับจี้เจี้ยนอวิ๋นได้เลย” คุณแม่ซูเอ่ย

“ได้ค่ะ!” หลี่ไหลตี้พยักหน้า

คุณแม่ซูพูดธุระเสร็จก็กลับไป หลี่ไหลตี้ไม่กล้าลังเล กลัวว่าโอกาสนี้จะหลุดลอยไปให้คนอื่น รีบพาลูกสาวตัวเองไปยังบ้านตนเองทันที

เมื่อกลับมาที่บ้านหล่อนก็เอ่ยถึงเรื่องนี้ ซึ่งแม่ของไหลตี้ดูดีใจมาก “จริงเหรอ ไหลตี้ แน่ใจนะว่าเป็นเรื่องจริง”

“ฉันมาเพื่อบอกเรื่องนี้แหละค่ะ ได้ไม่ได้พ่อก็ต้องไป พ่อกลับไปกับฉันก่อนนะคะ รอให้อันปังมาก่อนก็ให้เขาพาพ่อไป เขาสนิทกับเถ้าแก่ เป็นหลักประกันให้พ่อได้ แต่พ่อจะต้องทำงานด้วยตัวเอง ห้ามฝ่าฝืนข้อห้ามพวกนั้นด้วย ไม่งั้นก็ทำงานนี้ไม่ได้ ส่วนอันปังก็จะทำงานต่อไปไม่ได้อีก”

อย่ามองว่าหลี่ไหลตี้เป็นคนอ่อนแอ สิ่งที่ควรพูด หล่อนก็กล้าที่จะพูด

“วางใจได้เลย ให้อันปังเป็นคนรับประกันให้พ่อ เขาจะไปดูแลสวนให้เถ้าแก่ของอันปังเอง!” แม่ของไหลตี้เอ่ย

“อืม พ่อทำได้!” พ่อของไหลตี้พยักหน้า

ปีนี้เขาเพิ่งมีอายุได้ 53 ปี แน่นอนว่ายังทำงานไหว

ลูกชายของเขาอายุ 18 ปีแล้ว ที่บ้านก็ไม่ได้มีอะไร ผ่านไปอีกสักสองปีก็คงต้องแต่งลูกสะใภ้แล้ว หากถึงตอนนั้นจะเอาอะไรไปแต่ง?

เมื่อคืนภรรยาของเขาก็พูดถึงเรื่องนี้ก่อนนอน แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีงานทำในวันนี้ ทำให้เขามีความสุขมาก

ซูอันปังกลับมาในตอนเย็นก็พบว่าพ่อของภรรยาอยู่ที่บ้านด้วย

เขากับพ่อของภรรยาค่อนข้างมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดว่าอีกฝ่ายจะให้ลูกสาวแต่งกับคนไม่มีอะไรอย่างเขา แต่เวลาผ่านไป เงื่อนไขของบ้านฝ่ายหญิงก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย แถมพ่อและแม่ภรรยายังให้อาหารและไข่มาอีกด้วย

ดังนั้นเขาเลยค่อนข้างประทับใจกับทางคนของบ้านภรรยา

“คุณพ่อมาได้ยังไงครับ เย็นนี้ผมจะให้ไหลตี้ทำอะไรให้กินนะครับ!” ซูอันปังเอ่ยยิ้ม ๆ

“ตอนนี้ยังไม่กินหรอก พาฉันไปที่บ้านของเถ้าแก่เธอก่อน” พ่อของไหลตี้กับไหลตี้ต่างคิดเหมือนกันว่ายิ่งไวยิ่งดีมากเท่านั้น พวกเขาไม่ยอมให้คนอื่นแย่งโอกาสนี้ไปหรอก ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้มีอะไรแบบนี้อีกแน่

ซูอันปังตกใจ

หลี่ไหลตี้จึงพูดในสิ่งที่คุณแม่ซูพูดกับหล่อนให้เขาฟัง แล้วแววตาของซูอันปังก็ลุกวาว “ได้ครับพ่อ ไปกันเถอะ ผมจะพาไปเอง ผมกับเถ้าแก่ความสัมพันธ์ดีมาก ผมพาพ่อไปจะต้องได้งานแน่นอน”

“พูดเรื่องนั้นให้น้อย ๆ หน่อย พ่อฉันไปก็ต้องทำงานออกมาดีอยู่แล้ว เงินเดือนเยอะออกขนาดนั้น จะต้องทำงานให้สมกับเงินเดือนที่ได้สิคะ” หลี่ไหลตี้เอ่ย

“วางใจเถอะ พ่อรู้ตัวเองดี” พ่อของไหลตี้กล่าว

ซูอันปังจึงพาพ่อของภรรยามาถึงที่

จี้เจี้ยนอวิ๋นอยู่ที่บ้านพอดี ซึ่งตอนนี้เขากำลังสร้างบ้านให้เสี่ยวหน่าย เพราะเสี่ยวไป๋ที่อยู่ในสวนผลไม้แห่งแรกคลอดลูกสุนัขออกมา 3 ตัว เขาจึงพาพวกมันกลับมาเลี้ยงที่นี่ก่อน จากนั้นจะส่งมันไปประจำยังสวนผลไม้แห่งที่ 3

สำหรับเรื่องคนที่จะมาดูแลสวนนั้น คงไม่เลวเลยทีเดียวถ้ายกให้แม่ยายเป็นคนจัดการ เพราะแม่ยายเขาเก่งในด้านนี้

และการให้แม่ยายดูแลเรื่องนี้มันยังแสดงให้เห็นถึงสถานะของแม่ยายของเขาด้วย

พอเห็นซูอันปังพาชายชราที่ดูคุ้นตามาด้วย แต่ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใหญ่ท่านไหน จี้เจี้ยนอวิ๋นก็อดคิดอยู่ในใจไม่ได้

พอแนะนำตัวกันเสร็จ ก็พูดเข้าประเด็น

“เถ้าแก่ สวนผลไม้ขาดคนใช่ไหมครับ? พ่อตาของผมเป็นยังไงบ้าง พ่อตาของผมทำงานละเอียดมาก จะต้องดูแลสวนของเถ้าแก่ได้แน่นอน” ซูอันปังเอ่ย

“เอาสิ” จี้เจี้ยนอวิ๋นยิ้ม “ลองทำดูสักครึ่งปี ในครึ่งปีก็รับเงินเดือนไป 35 หยวนก่อน ครึ่งปีหลังค่อยให้เงินเท่ากับคนอื่น”

คำพูดนี้เขาหันไปพูดกับพ่อตาของซูอันปัง

“ได้เลย” พ่อของไหลตี้พยักหน้า

“ทุก ๆ เดือนจะกลับบ้านได้ 3 ครั้ง ถ้าไม่มีเรื่องร้ายแรงอะไรก็อย่าลางาน ส่วนเรื่องอื่นคุณลุงหลี่ก็จัดการเองได้เลยนะครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นเอ่ย

เขาเป็นคนที่เข้าเกณฑ์พอดี พ่อของไหลตี้อยู่หมู่บ้านเดียวกับหลี่จื้อ หมู่บ้านต้าวาน ห่างจากที่นี่ไปไม่มาก แต่ก็สามารถให้เขากับไปกินข้าวที่บ้านได้

“เถ้าแก่ แล้วเรื่องอาหารการกินล่ะครับ?” ซูอันปังเอ่ยถาม

“กินข้าวที่บนเขา ตอนเช้า 7 โมง ตอนเที่ยง ตอนเย็น 5 โมงครึ่ง ตามเวลาปกติ แม่ผมจะเป็นคนทำกับข้าวไว้ แล้วค่อยให้พี่ชายของตานหงเอาไปส่งให้คุณลุงหลี่ ลุงหลี่ขนแค่เสื้อผ้าเอาไว้เปลี่ยนอาบน้ำก็พอครับ บนภูเขามีของให้ทุกอย่างแล้ว แต่น้ำอุ่นคุณลุงหลี่คงต้องต้มเอาเอง เสื้อผ้าก็ต้องซักเอง” จี้เจี้ยนอวิ๋นอธิบาย

บนภูเขาได้จัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นห้องอาบน้ำ ห้องน้ำ ล้วนถูกสร้างไว้หมดแล้ว

แน่นอนว่าการที่หาคนมาดูแลสวน ก็คงจะต้องทำแบบนี้ไม่ใช่หรือ?

“จะให้มาเริ่มงานวันไหนเหรอ?” พ่อของไหลตี้พูดขึ้น

“พรุ่งนี้ครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นตอบ

หลังจากวางแผนที่จะขยายฟาร์มไก่แล้ว เขาก็ปล่อยให้แม่ไก่บางส่วนฟักไข่

ตราบใดที่พวกมันวางไข่ได้มากกว่าหนึ่งโหล พวกมันก็จะฟักไข่ได้เอง ไม่จำเป็นต้องช่วยเหลืออะไรเป็นพิเศษ ต่อให้ตอนนี้ยังไม่มีลูกเจี๊ยบเกิดขึ้น แต่เขายังมีที่ดินอีก 30 หมู่อยู่อีกนะ

หลังจากที่ฝนตกหนักครั้งสุดท้าย เขาก็ให้คนมาปลูกข้าวโพดฤดูใบไม้ร่วง ถั่วลิสง และถั่วเหลือง ตอนนี้พวกเขากำลังจะเก็บเกี่ยวและยังขาดคนอยู่ ต้องให้พ่อของไหลตี้ไปช่วย ซึ่งอย่างไรก็ต้องให้เงินค่าจ้างเพิ่มด้วย

หลังจากที่ยุ่งจนใกล้เสร็จงาน ถึงตอนนั้นก็คงมีลูกเจี๊ยบออกมาแล้ว

ในตอนนี้เองซูตานหงบอกกับเขา “เถ้าแก่ของบ้านเรานับวันยิ่งดูมีระเบียบวินัยมากขึ้นนะคะ”

จี้เจี้ยนอวิ๋นได้ยินแล้วก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูก “พรุ่งนี้ถ้าแม่ของคุณมา ผมจะไปจับปลากับกุ้งมาให้ ผมไปทำงานก่อนนะ”

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

มีสามีขยันแล้วชีวิตดีแบบนี้นี่เอง เจี้ยนอวิ๋นเป็นทุกอย่างให้แล้ว

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

Status: Ongoing
คุณหนูซูผู้มีชีวิตอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ยึดหลักสามเชื่อฟังสี่คุณธรรมมาตั้งแต่ยังเล็ก ยังไม่ทันจะได้ออกเรือนนำเกียรติมาให้วงศ์ตระกูลกลับจับไข้สิ้นลมกลางสายฝนยามสารทฤดู และมาเกิดใหม่ในปี 1980 นางไม่คิดเลยว่าวิถีกุลสตรีในชาติที่แล้วของตนจะกลายเป็นคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมในยุคนี้ เนื่องจากเจ้าของร่างเดิม ซูตานหง ผู้กระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการกินยาฆ่าแมลงตายคนนี้ นอกจากนามสกุลเดียวกันแล้วก็ไม่มีอะไรดีเหมือนนางเลยสักด้าน ถึงอย่างนั้นคุณหนูซูก็ไม่สนใจ นางคิดเพียงว่าจะใช้ทักษะที่มีอยู่มาสร้างเงินทอง ปลูกต้นไม้ดอกไม้มีค่า เย็บปักถักร้อยวาดภาพภูเขาสายน้ำอันงดงาม ใช้ชีวิตในชาตินี้ให้เรียบง่ายสุขสบายตามอัตภาพเท่านั้นและนี่ก็คือเรื่องราวของคุณหนูสูงศักดิ์จากยุคโบราณผู้มาเกิดใหม่ในร่างหญิงสาวยุค 80 เพื่อทำสวนทำไร่และให้กำเนิดบุตร นางจะเอาชีวิตรอดในยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างไรบ้าง เอาใจช่วยคุณหนูซูไปพร้อมๆ กันได้ในเรื่องนี้เลย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท