คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา – ตอนที่ 289 จันทร์เต็มดวงคืนสิบห้าค่ำอีกแล้ว ตอนที่ 290 อ

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

ตอนที่ 289 จันทร์เต็มดวงคืนสิบห้าค่ำอีกแล้ว

นางนั่งลงข้างกายเขา “หิวหรือไม่ ยังมีปลากับกุ้งอยู่อีก เจ้าจะกินหรือไม่”

หูเฟิงส่ายหน้า “ข้าไม่หิว”

“อ๋อ…”

ความเงียบของทั้งสองคนพลันทำให้บรรยากาศน่าอึดอัดขึ้นมาบ้าง ปกติหูเฟิงไม่ค่อยชอบพูดจานัก เงียบขรึมและพูดน้อยเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของเขา นางชินแล้ว ทว่าในสถานการณ์นี้ ความเงียบทำให้นางทำตัวไม่ถูกอยู่เหมือนกัน

“วันนี้พระจันทร์กลมโตมากเลยนะ…” นางมองดวงจันทร์ที่อยู่กลางท้องฟ้า พยายามทำลายบรรยากาศน่าอึดอัดนี้ทิ้งเสีย

หูเฟิงมองตามสายตาของนาง ก่อนจะกล่าวเสียงเบา “วันนี้ขึ้นสิบห้าค่ำ แน่นอนว่าพระจันทร์ต้องกลมโตอยู่แล้ว”

“จริงด้วย วันนี้ขึ้นสิบห้าค่ำแล้ว ถึงว่าพระจันทร์ถึงได้กลมสวยเช่นนี้ ฮ่าๆ…” นางหัวเราะแห้งๆ เหมือนบรรยากาศตอนนี้จะน่าอึดอัดเพิ่มขึ้นอีก…

ผ่านไปครู่แล้ว ครู่เล่า นางก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ฝ่ายหูเฟิงหันมามองนางอย่างอดไม่อยู่ กลับเห็นนางนั่งกอดเข่าหลับไปแล้ว

นางเอียงใบหน้าเล็กๆ กองไว้บนหัวเข่า หลับไปทั้งอย่างนั้น

เพื่อเตรียมเสบียงอาหารให้เมิ่งหนาน เมื่อคืนนางแทบไม่ได้นอนเลยทั้งคืน บวกกับเกิดอุบัติเหตุเมื่อกลางวันอีก ทั้งยังต้องดูแลเขาที่ได้รับบาดเจ็บ ดูท่านางจะเหนื่อยจนทนไม่ไหวแล้ว

เขาขยับเข้าไปใกล้นางขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ร่างกายของนางพิงมาหาเขา

ความรู้สึกนี้อีกแล้ว เหมือนครั้งก่อนไม่มีผิด เธอเหมือนกับตกลงไปในเหวลึกอย่างกะทันหัน ร่างกายร่วงหล่นลงสู่ด้านล่างไม่ยอมหยุด จนสุดท้ายมีเสียงปั้ก เธอตกลงบนเตียงนุ่มๆ แล้ว

เธอรีบลืมตาขึ้นอย่างใจร้อน ครั้งนี้ไม่มีแสงสว่างแยงตา ในห้องมีแสงอยู่ แต่กลับไม่สว่างจ้า บนผนังเหนือเตียงผู้ป่วยแขวนนาฬิกาดิจิทัลไว้เรือนหนึ่ง บนนั้นแสดงเวลาปักกิ่ง อุณหภูมิแบบเรียลไทม์และระดับความชื้นภายในห้อง ทั้งยังมีข้อมูลส่วนตัวผู้ป่วยของเธอด้วย

นอกจากเธอแล้ว ในห้องไม่มีใครอื่นอีก

ไม่มีคนอื่นก็เป็นเรื่องปกติ เพราะขณะนี้ตีสองแล้ว เด็กกำพร้าไร้ญาติอย่างเธอ ใครจะมาค้างคืนเฝ้าไข้อยู่ข้างเตียงผู้ป่วยของเธอกัน

เธอฝืนร่างกายที่ไม่ค่อยฟังคำสั่งลุกขึ้นนั่ง อาการหน้ามืดเป็นระลอกทำให้เธอแทบจะหงายหลังลงนอนอีกครั้ง

ในฐานะที่เป็นหมอ เธอรู้ว่าอาหารหน้ามืดบ่งบอกถึงอะไร ด้วยสิ่งมีชีวิตที่กินสารอาหารเหลวในการดำรงชีพ ยังปรารถนาสุขภาพที่แข็งแรงเหมือนคนทั่วไปได้อีกเหรอ

โลหิตจางและความดันโลหิตต่ำ จึงเป็นภาวะปกติทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง

แต่แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเธอถึงกลับมาที่นี่อีกครั้ง

ลมระลอกหนึ่งพัดเข้ามาจากด้านนอกหน้าต่าง พาให้ผ้าม่านสีขาวที่ข้างหน้าต่างสั่นไหว

เธอหันไปมอง ดวงจันทร์กลมโตสะท้อนเข้าสู่ม่านตา

พระจันทร์ สิบห้าค่ำ?

ครั้งที่แล้วเธอกลับมาที่นี่อย่างกะทันหัน และเป็นค่ำคืนวันขึ้นสิบห้าค่ำเช่นเดียวกัน หรือว่าทั้งหมดนี่จะเกี่ยวข้องกัน

ขณะนี้มีเสียงฝีเท้าดังจากทางเดินข้างนอกห้องผู้ป่วย เป็นเสียงตึกตักของรองเท้าหนังกระทบกับแผ่นกระเบื้อง เสียงนี้คุ้นหูมาก น่าจะเป็นหลินหยาง

ดึกป่านนี้แล้ว ทำไมเขาถึงมาล่ะ

ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไร เธอนอนลงไปอีกครั้ง แสร้งว่าหลับต่อ

หลินหยางเปิดประตูห้องผู้ป่วย ก่อนจะเปิดไฟเพดานในห้องตามใจชอบ ทำให้ในห้องผู้ป่วยสว่างโร่เหมือนตอนกลางวันในทันที

เขาเดินไปพลาง ถอดเสื้อกาวน์ที่สวมอยู่บนตัวไปพลาง ครั้นเดินมาถึงหน้าเตียงของไป๋จื่อ เขาก็กวาดสายตามองเครื่องมือข้างเตียงผู้ป่วยตามความเคยชิน

จากนั้นเขาก็เดินตรงไปที่ห้องน้ำ แต่เพิ่งจะเดินไปถึงหน้าประตูห้องน้ำ เขาเหมือนกับนึกอะไรขึ้นได้ จึงกลับหลังหันโดยพลัน นั่นเป็นเพราะเขาเห็นอัตราการเต้นของหัวใจที่แสดงอยู่บนจอมอนิเตอร์อยู่ที่แปดสิบห้า

แปดสิบห้าเป็นอัตราปกติ เขาจึงไม่ได้รู้สึกผิดสังเกตเมื่อเห็นมันเมื่อครู่นี้

คราวนี้เขาเพิ่งจะรู้ตัว ว่าอัตราการเต้นของหัวใจโดยทั่วไปของไป๋จื่ออยู่ต่ำกว่าหกสิบ แปดสิบห้าจึงไม่นับว่าปกติสำหรับเธอ นี่ผิดปกติแล้ว

เขารีบถลันไปที่ข้างเตียงผู้ป่วย จับมือของไป๋จื่อไว้แน่น “ไป๋จื่อ คุณจะตื่นแล้วใช่ไหม คุณรู้สึกตัวแล้วใช่ไหม คุณได้ยินผมพูดใช่หรือเปล่า”

……….

ตอนที่ 290 อวี๋ม่านน่า

ไป๋จื่อกำลังคิดว่าจะตื่นตอนนี้เลยดีหรือไม่ เพื่ออธิบายสถานการณ์ทุกอย่างให้เขาฟัง

ขณะที่เธอกำลังจะลืมตานั้นเอง เสียงรองเท้าส้นสูงอันเร่งร้อนกระทบกับพื้นกระเบื้องด้านนอกประตูก็ดังขึ้น

รองเท้าส้นสูง เดินอยู่ในโรงพยาบาลตอนกลางค่ำกลางคืนเนี่ยนะ

“หลินหยาง?” เสียงไพเราะจนหวานเลี่ยนเจือความหึงหวงเล็กน้อย

เสียงนี้คุ้นหูมาก นางเคยได้ยินนับครั้งไม่ถ้วน อวี๋ม่านน่า ลูกสาวคนเดียวของกรรมการบริหารโรงพยาบาลหมิงซิง และเป็นรองผู้อำนวยการของโรงพยาบาลด้วยเช่นกัน เธอรับตำแหน่งนั้นอยู่ในนาม

อวี๋ม่านน่ายังมีอีกสถานะหนึ่ง นั่นก็คือเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเดียวกับหลินหยาง

แม้จะจบจากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์หนานจิงเหมือนกัน แต่อวี๋ม่านน่ากลับฉีดยาไม่เป็น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทักษะทางการแพทย์อื่นๆ เลย

อวี๋ม่านน่ารู้จักกับหลินหยางตอนเรียนมัธยมปลาย เหตุผลที่เธอเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์หนานจิงได้ หลักๆ ก็เป็นเพราะหลินหยาง เธอชอบหลินหยางตั้งแต่เรียนมัธยม ตกหลุมรักเขาอย่างหัวปักหัวปำเลยก็ว่าได้ เวลาอยู่ต่อหน้าหลินหยาง ตัวเธอไม่เหลือแม้กระทั่งความหยิ่งในศักดิ์ศรี

หลินหยางก็สมบูรณ์แบบจริงๆ สถานะทางบ้านดีเลิศ เป็นผู้ชายสูง รวย หล่อฉบับคลาสสิค มีผู้หญิงเข้ามาชอบพอเขามากมาย แต่คลั่งไคล้เหมือนกับอวี๋ม่านน่าเห็นทีจะไม่มี

เขาขมวดคิ้วได้รูปสวยในทันที ก่อนจะวางมือของไป๋จื่อลงอย่างอาลัยอาวรณ์ แล้วหมุนตัวเดินไปที่ประตูห้องผู้ป่วย

“เธอมาทำอะไร” เสียงของหลินหยางเย็นชามา ไม่มีความอ่อนโยนเหมือนกับตอนที่พูดกับไป๋จื่อเมื่อครู่นี้เลย

ร่างกายที่พิงอยู่บนกรอบประตูห้องผู้ป่วยของอวี๋ม่านน่า พลันพุ่งเข้าใส่หน้าอกของหลินหยาง สองแขนเรียวบางกอดเอวของชายหนุ่มไว้แน่น ซบใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอางมาอย่างประณีตบนไหล่ของเขา

“หลินหยาง หัวใจนายเต้นเร็วมากเลย นายก็มีความรู้สึกดีๆ ให้ฉันเหมือนกันใช่ไหม นายชอบฉันเหมือนกันใช่หรือเปล่า” เสียงของนางอ่อนหวานเสียเหลือเกิน เจือไปด้วยความหึงหวง ลมหายใจมีแต่กลิ่นเหล้า

ทว่าหลินหยางกลับไม่หลงกลอุบายอย่างที่เธอวางไว้ เขาออกแรงดันเธอออกไป บนใบหน้ามีความเบื่อหน่ายที่ปิดไว้ไม่อยู่

“อวี๋ม่านน่า ระวังกิริยาหน่อย ที่นี่โรงพยาบาล” เสียงของหลินหยางเยือกเย็นกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก ความรังเกียจในน้ำเสียงของเขาแทงหัวใจของอวี๋ม่านน่าสาหัสนักอย่างไม่ต้องสงสัย

เป็นแบบนี้อีกแล้ว เขายังคงเป็นเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนเลยสักนิด

ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ เธอก็ยิ่งรักเขา ยิ่งอยากครอบครองเขา ถ้าเธอไม่ได้เขามาครอบครอง คนอื่นก็อย่าหวังว่าจะได้

“หลินหยาง เธอมีอะไรดีกันแน่ นายถึงดีกับเธอขนาดนี้ ฉันอวี๋ม่านน่าด้อยกว่าเธอที่ตรงไหน” เธอเป็นดาวมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์หนานจิง นอกจากผลการเรียนที่สู้ไป๋จื่อไม่ได้แล้ว ฐานะทางบ้าน หน้าตา ความร่ำรวย ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนชนะเด็กกำพร้าอย่างไป๋จื่อ คนที่ไม่มีอะไรเลยสักนิดได้ไม่รู้ตั้งกี่เท่า

แต่ทำไม? ทำไมหลินหยางถึงมองไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยมองมาที่เธอบ้างเลย เพราะอะไรกัน

หลินหยางขมวดคิ้ว “ฉันไม่มีหน้าที่อธิบายอะไรกับเธอทั้งนั้น ที่นี่ไม่ต้อนรับเธอ กรุณาออกไป”

อวี๋ม่านน่าแค่นหัวเราะ “ไม่ต้อนรับฉัน หลินหยาง นายลืมไปแล้วสินะ ว่าที่นี่คือโรงพยาบาลหมิงซิง และฉันอวี๋ม่านน่าเป็นรองผู้อำนวยการของโรงพยาบาลหมิงซิงแห่งนี้ ในโรงพยาบาลนี้ มีที่ไหนที่ฉันไปไม่ได้ด้วยเหรอ”

ขณะพูด อวี๋ม่านน่าพยายามเดินเข้าไปข้างใน

ชายหนุ่มขวางเธอไว้ในทันที “จะทำอะไร เธอยังคิดจะทำร้ายไป๋จื่ออีกครั้งเหรอ สภาพของไป๋จื่อยังเลวร้ายไม่พอใช่ไหม”

ไป๋จื่อที่นอนอยู่บนเตียงรู้สึกตะลึงเล็กน้อย หลินหยางหมายความว่าอย่างไร อวี๋ม่านน่าทำร้ายเธอ

ถูกต้อง ก่อนหน้านี้อวี๋ม่านน่าไม่ชอบขี้หน้าเธอจริงๆ นั่นแหละ เพราะหลินหยางตัวติดกับเธอตลอด กินข้าวด้วยกัน ทำงานด้วยกัน เลิกงานพร้อมกัน มีเวลาว่างอยู่ร่วมกัน ได้ดูภาพยนตร์อย่างสบายใจด้วยกัน ได้กินอาหารฟาสต์ฟู้ดง่ายๆ ด้วยกันเสมอ

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

Status: Ongoing
จู่ๆ แพทย์หญิงยอดฝีมือจากยุคปัจจุบัน ดันตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กสาวชาวบ้านยุคโบราณที่ถูกย่าและป้าสะใภ้ตีจนตายทั้งเป็นครั้นรอดชีวิตมาได้ ก็ถูกโขกสับไม่ต่างกับสาวใช้ในบ้าน ทั้งยังจะถูกจับขายแลกเงินให้แต่งกับบุรุษอายุคราวพ่อแต่ไป๋จื่อคนใหม่นี้จะไม่ปล่อยให้พวกนางใช้งานข่มเหงรังแกได้ตามใจชอบอีกต่อไปแล้วให้ตายอย่างไรก็ต้องออกจากบ้านที่เหมือนกับขุมนรกแห่งนี้ไปให้ได้ จึงตัดสินใจสร้างอุบายทำให้ตนเองเสียชื่อเพื่อแยกบ้านกับเหล่าคนสกุลไป๋ได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพื่อให้มีข้าวกินอิ่มท้องสักมื้อหญิงสาวที่เคยมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งประเทศในยุคปัจจุบันต้องถกแขนเสื้อทำไร่ทำนา ใช้วิชาแพทย์แผนปัจจุบันรักษาคนไข้และจัดการกับเหล่าคนในหมู่บ้านที่เข้ามาเอารัดเอาเปรียบนางด้วยแต่ขณะเดียวกัน… ก็ต้องรักษาโรคความจำเสื่อมให้ชายหนุ่มกล้ามโตขี้น้อยใจอีก!เดิมทีคิดจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข หาเช้ากินค่ำ เลี้ยงชีพให้ตนและท่านแม่มีชีวิตที่ดีแต่ความหวังพรรค์นั้นน่าจะไม่มีทางเป็นจริงได้ หนทางข้างหน้าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเอาเสียเลย!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท