คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา – ตอนที่ 331 ไม่มีทางหวั่นไหว ตอนที่ 322 ไม่เห็นแก่ความรั

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

ตอนที่ 331 ไม่มีทางหวั่นไหว

ไป๋จื่อยิ้มกล่าว “ข้าอยากยิ้มก็ยิ้ม ไม่เกี่ยวกับเจ้า อีกอย่าง ความคิดของเจ้าเป็นของเจ้า ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า ข้าไม่ได้ติดหนี้อะไรเจ้า อย่าคิดว่าข้าจะใช้ร่างกายชดใช้จริงๆ ไม่มีทางเสียหรอก”

หูเฟิงก็ยิ้มเช่นกัน “เช่นนั้นก็ดี คอยดูแล้วกัน!”

เขามองนางอย่างลึกซึ้งครั้งหนึ่ง ก่อนจะลุกออกไป บัดนี้ในเรือนเหลือเพียงไป๋จื่อเพียงลำพัง ใบหน้าของนางไม่เพียงยังแดงระเรื่อไม่ยอมหาย กลับยิ่งแดงขึ้นเสียด้วยซ้ำ หัวใจก็เต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ ด้วย

เกิดอะไรขึ้นกันแน่ นี่มันสถานการณ์อะไรกัน

นางใช้มือทาบหน้าอก “หยุดเต้นเดี๋ยวนี้ ข้าไม่มีทางหวั่นไหวให้กับบุรุษคนหนึ่งที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงสองเดือนหรอก ไม่มีทาง!”

หลังจากกู้ผิงฮุ่ยออกจากหมู่บ้านหวงถัว นางไม่ได้ตรงกลับไปที่จวนสกุลเฉียน แต่มุ่งหน้าไปยังที่ว่าการอำเภอ

กู้เฟิงคังเห็นสภาพจนตรอกของพี่สาว เขาก็สะดุ้งตกใจ “ท่านเป็นอะไรไป เหตุใดมีสภาพเช่นนี้”

กู้ผิงฮุ่ยถลึงตามองน้องชาย “จะเป็นอะไรไปได้ เจ้าควรถามสวี่ซีจู๋มากกว่า”

กู้เฟิงคังขมวดคิ้ว “เกี่ยวอะไรกับนาง” แม้จะพูดออกไปเช่นนี้ แต่เขาก็ยังคงมองไปยังสวี่ซื่อ “แท้จริงแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น”

สวี่ซื่อทำหน้าตาราวกับไม่ได้รับความเป็นธรรม “ไหนเลยข้าจะรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาง ข้าอยู่ที่นี่ตลอด ไม่ได้ออกไปที่ใดด้วยซ้ำ”

กูเฟิงคังคิดดูแล้วก็จริงอย่างที่นางว่า หลังจากกู้ผิงฮุ่ยออกไป สวี่ซื่อก็คอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายเขาตลอด ไม่ได้ห่างออกไปแม้แต่ครึ่งก้าว

กู้ผิงฮุ่ยชี้หน้าต่อว่าสวี่ซื่อ “เจ้าอย่าได้เสแสร้งหน่อยเลย รู้ดีอยู่แล้วว่านางเด็กน่าตายไป๋จื่อถูกเฟิงคังโบยเมื่อวาน ทั้งยังผูกพยาบาทกับจงหยวน แล้วเหตุใดเจ้าไม่บอกข้า ยังให้ข้าไปขอให้นางรักษาที่หมู่บ้านหวงถัว เจ้ามีเจตนาอะไร ถึงได้ทำให้ข้าอับอายถึงเพียงนั้น”

“ท่านว่าอะไรนะ ไปหาไป๋จื่อที่หมู่บ้านหวงถัวหรือ” กู้เฟิงคังร้อนใจ

ผู้เป็นพี่สาวเช็ดน้ำตา “ใช่ สวี่ซีจู๋บอกข้าว่าไป๋จื่อเชี่ยวชาญวิชาแพทย์ และนางอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านหวงถัว หากไม่เห็นแก่จินเอ๋อร์ ข้าคงไม่ไปสถานที่เช่นนั้นหรอก”

สวี่ซื่อปั้นหน้าใสซื่อ ขอบตาแดงก่ำ “ท่านใส่ร้ายข้าแล้ว ไป๋จื่อเชี่ยวชาญวิชาแพทย์ เรื่องนี้ข้าไม่ได้หลอกท่าน แต่ข้าไม่รู้เรื่องที่เมื่อวานนางถูกนายท่านโบย แล้วนางไปผูกพยาบาทกับจงหยวนของท่านได้อย่างไรกัน ข้าไม่รู้เรื่องเหล่านี้เลยจริงๆ”

กู้ผิงฮุ่ยเชื่อนางก็ถือว่าโง่นัก สตรีนางนี้แต่ไหนแต่ไรมาชอบหน้าไหว้หลังหลอก ครานี้นางจงใจหาเรื่องให้ตนอย่างแน่นอน

กู้เฟิงคังไม่มีกะใจจะสนใจเรื่องความแค้นระหว่างพวกนาง และไม่อยากรู้ว่ากู้ผิงฮุ่ยได้รับความอับอายมามากเพียงใด เขาเพียงอยากรู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันของไป๋จื่อ

“ท่านพบไป๋จื่อหรือไม่” เขาถาม

กู้ผิงฮุ่ยพยักหน้า “พบสิ หากไม่พบ ข้าจะมีสภาพเช่นตอนนี้รึ”

“ตอนนี้นางเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากนางรู้ว่าท่านเป็นพี่สาวของข้า นางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟหรือไม่”

ฝ่ายพี่สาวขมวดคิ้ว ไยเขาต้องถามเรื่องเหล่านี้ด้วย ตอนนี้เขาควรจะเป็นห่วงว่านางได้รับความอับอายมากน้อยเพียงใด จากนั้นก็ส่งคนไปจับนางเด็กน่าตายนั่นกลับมาถามโทษไม่ใช่หรือ

“ยังตะลึงอะไรอยู่ รีบพูดเร็ว!” กู้เฟิงคังกล่าวด้วยความร้อนรน

คราวนี้กู้ผิงฮุ่ยถึงได้กล่าว “ตอนที่ข้าไปถึง นางนอนอยู่บนเตียง ดูจากสีหน้าแล้วป่วยหนักทีเดียว ทว่าฝีปากกล้านัก ข้าบอกว่าข้าเป็นพี่สาวของเจ้า นางก็ไม่ได้โกรธเกรี้ยวอะไร กลับหัวเราะเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่หัวเราะแปลกๆ ไม่ว่าพูดอย่างไรก็ไม่ยอมตามข้ากลับมารักษาจินเอ๋อร์ เดิมทีข้าคิดจะลากตัวนางกลับมา แต่ใครจะรู้ว่าจู่ๆ จะมีบุรุษร้ายกาจคนหนึ่งโผล่ออกมา พวกข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา จึงทำได้เพียงกลับมาก่อน” นางคิดในใจ หากไม่ใช่เพราะตอนนี้สกุลเฉียนวุ่นวายกันไปหมด ไหนเลยนางจะถ่อมาขอความช่วยเหลือที่นี่ ให้จงหยวนส่งคนไปจับพวกเขากลับมาโดยตรงเลยก็สิ้นเรื่อง

……….

ตอนที่ 322 ไม่เห็นแก่ความรักในวันวาน

“อะไรนะ ท่านลงมือกับนางด้วยหรือ” กู้เฟิงคังร้อนใจจนอยากจะลุกขึ้น ทว่าเมื่อขยับตัว บาดแผลบนบั้นท้ายก็เจ็บจนเขาต้องร้องเรียกมารดาเลยทีเดียว

กู้ผิงฮุ่ยไม่เข้าใจว่าไยน้องชายของตนถึงได้เคร่งเครียด และร้อนรนจนเสียอาการเช่นนี้ อีกทั้งเขาไม่ได้โมโหเพราะพี่สาวเช่นนางได้รับความอับอายที่หมู่บ้านหวงถัวอย่างเห็นได้ชัด

“เฟิงคัง เจ้าเป็นอะไรไป” นางถาม

กู้เฟิงคังนอนคว่ำหอบหายใจอยู่บนเตียง ไม่กล้าขยับร่างกายแม้สักกระผีก เมื่อปรับลมหายใจได้แล้วถึงจะเอ่ยปาก “ท่านรู้หรือไม่ว่าไป๋จื่อเป็นคนของผู้ใด”

กู้ผิงฮุ่ยส่ายหน้า “ไม่รู้ ก็แค่เด็กสาวตามป่าเขาคนเดียวเท่านั้น จะเป็นคนของผู้ใดได้”

“เมิ่งหนาน ท่านรู้จักเมิ่งหนานหรือไม่” กู้เฟิงคังกัดฟันถาม

ผู้เป็นพี่สาวพยักหน้า “ระ รู้จักสิ นางไม่ใช่ว่าเคยรักษาบาดแผลให้เมิ่งหนานหรือ ทว่าตอนนี้เมิ่งหนานจากไปแล้ว ไม่มีทางกลับมาอีกเช่นกัน ถึงแม้นางจะช่วยชีวิตเมิ่งหนานแล้วอย่างไร”

ก่อนหน้านี้กู้เฟิงคังก็คิดเช่นนั้น ถึงได้โบยไป๋จื่อโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ทว่าตอนนี้เขารู้ว่าตนเองพลาดแล้ว ผิดพลาดอย่างมหันต์

“เมิ่งหนานชอบพอเด็กสาวนางนี้ อีกสักพักเขาจะส่งคนมารับนางเข้าเมืองหลวง ทั้งยังฝากฝังยอดฝีมือให้ปกป้องนางด้วย ท่านคิดว่าบาดแผลบนตัวข้านี้ได้มาอย่างไร ท่านคิดว่าหายนะที่สกุลเฉียนของพวกท่านเจอนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร”

กู้ผิงฮุ่ยตะลึงลาน หมายความว่าอย่างไร นี่มันเรื่องอะไรกัน

หลังจากงงงันอยู่นาน จู่ๆ กู้ผิงฮุ่ยก็ตื่นจากภวังค์ ถลึงตามองไปทางสวี่ซื่อทันที “เจ้ารู้อยู่แล้วใช่หรือไม่ รู้เรื่องเหล่านี้ดีอยู่แล้ว แต่เจ้ายังให้ข้าไปหานางที่หมู่บ้านหวงถัว เจ้าต้องการเห็นข้าขายหน้า ต้องการเห็นข้าถูกหัวเราะเยาะใช่หรือไม่”

สวี่ซื่อยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นเช็ดน้ำตา กล่าวเสียงสะอึกสะอื้น “พี่หญิงพูดเช่นนี้ได้อย่างไร แล้วข้าจะทำเรื่องพรรค์นั้นได้อย่างไรกัน ข้าก็เพิ่งจะรู้เรื่องของไป๋จื่อเมื่อครู่นี้เอง”

สตรีสองคนส่งเสียงเอะอะ คนหนึ่งร้องไห้ คนหนึ่งโวยวาย น่าหนวกหูเสียจนกู้เฟิงคังปวดศีรษะจนแทบจะระเบิด “จะทะเลาะกันก็ออกไปข้างนอก อย่ามาทำให้ข้ารำคาญ”

กู้ผิงฮุ่ยหมุนกายจะจากไปด้วยความโมโห ทว่ากู้เฟิงคังกลับเรียกนางไว้ “กลับไปบอกสามีของท่าน ให้เขาสงบเสงี่ยมหน่อย อย่าไปหาเรื่องไป๋จื่ออีก หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น เง็กเซียนฮ่องเต้ก็ช่วยเขาไม่ได้แล้ว”

สีหน้าของกู้ผิงฮุ่ยมีแต่ความอดสู หมดหนทางโดยสิ้นเชิง นางได้แต่กัดฟัน กลั้นน้ำตาพลางเดินจากไป

เมื่อพี่สาวของตนไปแล้ว กู้เฟิงคังถึงถลึงตามองสวี่ซื่อที่เดินไปถึงหน้าประตูแล้ว “เจ้าก็อยู่เงียบๆ หน่อยเถอะ ขืนยังกล้าสร้างเรื่องอีก ก็อย่าหาว่าข้าไม่เห็นแก่ความรักในวันวาน”

สวี่ซื่อไม่ได้พูดอะไร เพียงกวาดสายตามองเขา แล้วยกชายกระโปรงเดินไป

ไม่เห็นแก่ความรักในวันวาน? เขาเคยนึกถึงความรักในอดีตตั้งแต่เมื่อใดกัน

เมื่อฟ้าสาง ไป๋จื่อเรียกอาอู่และหูเฟิง “หนังนี่ตากได้ที่แล้ว วันนี้พวกเรานำไปขายในเมืองเถอะ อีกเดี๋ยวจะเข้าฤดูหนาวแล้ว เมื่อได้เงินมาก็จะได้ซื้อเสื้อผ้ากันหนาวและผ้าห่มได้”

อาอู่ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง หนังสัตว์สองสามผืนนี้มีค่ามาก แม่นางไป๋บอกไว้แล้วว่าเงินที่ได้จากการขายพวกมัน ทุกคนจะได้ส่วนแบ่งอย่างเท่าเทียม เขาเองก็จะได้รับหนึ่งส่วนเช่นกัน ถึงตอนนั้นแล้วเขาจะได้ซื้อเสื้อผ้ากันหนาวให้กับหรูเอ๋อร์และซู่เอ๋อ

ซู่เอ๋อกำลังเก็บถ้วยชามอยู่ในเรือน เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ในใจนางรู้สึกเบิกบานนัก ในที่สุดชีวิตก็มีแต่เรื่องดีๆ ขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีผ้าห่มในฤดูหนาวอีกต่อไปแล้ว

หรูเอ๋อร์กระโดดโลดเต้นออกไปจากในเรือน วิ่งไปถึงข้างๆ อาอู่ ก่อนจะดึงชายเสื้อของเขา “ท่านพ่อ ข้าก็อยากไปในเมือง ครั้งก่อนท่านรับปากว่าจะซื้อถังหูลู่และน้ำตาลปั้นให้ข้า”

อาอู่ยิ้มกล่าว “วันนี้พ่อจะไปทำธุระในเมือง เมื่อพ่อกลับมาแล้วจะต้องนำถังหูลู่มาให้เจ้าอย่างแน่นอน ดีหรือไม่”

หรูเอ๋อร์ทำปากจู๋พลางส่ายหน้า “ไม่เอาๆ ข้าจะไปด้วย ข้าจะไปด้วย!”

ไป๋จื่อชอบหรูเอ๋อร์มาก นางรู้ประสา ทั้งยังว่านอนสอนง่าย ถึงแม้จะป่วยก็ไม่ร้องไห้โยเย นิสัยดียิ่ง “พานางไปด้วยเถอะ พวกเรามีกันตั้งสามคน ถึงเวลาแล้วพวกท่านสองคนก็รับผิดชอบขายหนังสัตว์ ส่วนข้าจะดูแลหรูเอ๋อร์เอง”

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

Status: Ongoing
จู่ๆ แพทย์หญิงยอดฝีมือจากยุคปัจจุบัน ดันตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กสาวชาวบ้านยุคโบราณที่ถูกย่าและป้าสะใภ้ตีจนตายทั้งเป็นครั้นรอดชีวิตมาได้ ก็ถูกโขกสับไม่ต่างกับสาวใช้ในบ้าน ทั้งยังจะถูกจับขายแลกเงินให้แต่งกับบุรุษอายุคราวพ่อแต่ไป๋จื่อคนใหม่นี้จะไม่ปล่อยให้พวกนางใช้งานข่มเหงรังแกได้ตามใจชอบอีกต่อไปแล้วให้ตายอย่างไรก็ต้องออกจากบ้านที่เหมือนกับขุมนรกแห่งนี้ไปให้ได้ จึงตัดสินใจสร้างอุบายทำให้ตนเองเสียชื่อเพื่อแยกบ้านกับเหล่าคนสกุลไป๋ได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพื่อให้มีข้าวกินอิ่มท้องสักมื้อหญิงสาวที่เคยมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งประเทศในยุคปัจจุบันต้องถกแขนเสื้อทำไร่ทำนา ใช้วิชาแพทย์แผนปัจจุบันรักษาคนไข้และจัดการกับเหล่าคนในหมู่บ้านที่เข้ามาเอารัดเอาเปรียบนางด้วยแต่ขณะเดียวกัน… ก็ต้องรักษาโรคความจำเสื่อมให้ชายหนุ่มกล้ามโตขี้น้อยใจอีก!เดิมทีคิดจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข หาเช้ากินค่ำ เลี้ยงชีพให้ตนและท่านแม่มีชีวิตที่ดีแต่ความหวังพรรค์นั้นน่าจะไม่มีทางเป็นจริงได้ หนทางข้างหน้าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเอาเสียเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท