ตอนที่ 383 ให้ปลา
ยิ่งไปกว่านั้น นิสัยของจ้าวและหูจ่างหลินเป็นเช่นนั้น แล้วจะทำร้ายเจ้าใหญ่ได้อย่างไร
หญิงชรากล่าวเสียงอู้อี้ “พวกเขาก็อยู่ในเหตุการณ์ ย่อมต้องเป็นคนลงมือแน่ เป็นฝีมือของพวกเขาไม่ผิดแน่ เจ้าไปกับข้า พาต้าเป่ากับฟู่กุ้ยไปด้วย พวกเราไปด้วยกันต้องทำให้พวกเขาอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน”
หลิวซื่อเข้าใจเจตนาของแม่สามีในทันที ไหนเลยนางจะไปถามหาคำอธิบายจากสกุลหู นางจะไปขู่กรรโชกเงินชัดๆ ทำร้ายคนแล้ว แน่นอนว่าต้องมอบเงินค่ารักษาให้ บวกกับค่าดูแลรักษาอีกด้วย อย่างน้อยก็ต้องได้มาสักสิบตำลึงเงิน คิดคำนวณดูการซื้อขายนี้แล้ว ได้มากกว่าส่งคนไปเข้าร่วมกองทัพสักคนอีก
หลิวซื่อกล่าวเสริมว่า “ใช่ๆๆ พวกเราไปหาพวกเขาตอนนี้เลยดีกว่า ไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจจะบิดพลิ้วก็ได้”
เจ้ารองไม่ใช่เจ้ารองคนก่อนแล้ว เขาไม่มีทางหลงกลของพวกนางเพียงแค่คำพูดไม่กี่คำหรอก
อีกอย่าง ตอนนี้พวกเขาแยกบ้านแล้ว ถึงแม้จะบังคับให้เขาออกไปเพื่อรีดไถเงินค่ารักษาจากพวกเขา ด้วยนิสัยของหญิงชราและหลิวซื่อแล้ว เกรงว่าเขาไม่มีทางได้ส่วนแบ่งแม้สักเหรียญทองแดงเดียว
เขามองไปทางต้าเป่า “ต้าเป่า เจ้าเล่าให้ฟังหน่อยสิ ว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ใครเป็นคนลงมือทำร้ายพ่อเจ้า”
ต้าเป่าหน้าถอดสี “ท่านก็ฟังข้าพูดจนจบแล้วไม่ใช่หรือ ท่านพ่อขวางพวกเขาเอาไว้ บอกว่าจะคิดบัญชีกับหูจ่างหลิน อยากจะหักแขนทั้งสองข้างของหูจ่างหลินเป็นการแก้แค้น จากนั้นคนแซ่โจวนั่นก็โผล่มา เขาบอกว่าถ้าหากจะทำร้ายก็ให้ทำร้ายเขาแทน เขาเป็นคนดูแลสกุลหูแล้ว ท่านพ่อโมโหมาก จึงถลันเข้าไปผลักเขา แต่ใครจะรู้ว่าผลักแล้วแต่คนผู้นั้นก็ไม่ขยับเขยื้อน ตัวท่านพ่อกลับล้มเสียเอง ครั้นล้มลงก็แขนหักแล้ว”
ปีนี้ไป๋ต้าเป่าอายุสิบแปดปี แต่ไหนแต่ไรไม่ค่อยได้ออกไปเห็นโลกกว้าง รู้เรื่องทางโลกน้อยนัก จนตอนนี้แล้วเขาจึงยังไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดท่านพ่อของตนถึงแขนหัก โจวอาอู่ผู้นั้นไม่ได้ลงมือแท้ๆ คนที่ลงมือมีแต่ท่านพ่อของเขาเท่านั้น! เหตุใดโจวอาอู่ไม่เป็นอะไร แต่ท่านพ่อกลับแขนหักเสียเอง
ครั้นเจ้ารองได้ฟังดังนั้น เขาก็พลันเข้าใจทุกอย่าง เจ้าใหญ่เห็นหูเฟิงไม่อยู่แล้ว จึงอยากหาทางระบายความโกรธเกรี้ยวกับหูจ่างหลิน แต่ผลสุดท้ายกลับถูกโจวอาอู่จัดการเสียยกหนึ่ง พ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ
เจ้ารองกล่าวกับผู้เป็นมารดาว่า “เรื่องนี้พวกข้าขอไม่ยุ่งเกี่ยว ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร หากอยากไปพวกท่านก็ไปเองเถอะ ข้าไม่ไปด้วยหรอก” เขาหยิบตะกร้าเดินเข้าไปด้านในหลังพูดจบ กล่าวกับจางซื่อที่ยืนอยู่หน้าห้องว่า “วันนี้ข้าจับปลามาได้สองตัว อีกเดี๋ยวเจ้านำไปตุ๋นให้ฟู่กุ้ยกับเจินจูกินบำรุงร่างกายสักหน่อย ตอนนี้พวกเขาผอมแห้งยิ่ง เพราะไม่ค่อยได้กินเนื้อสัตว์เท่าไร”
จางซื่อยิ้มไม่หุบ รีบเข้าไปรับตะกร้าจากมือของสามี ไม่เพียงแค่ปลาเท่านั้น ยังมีข้าวสารอีกครึ่งถุง นางรู้ได้ทันทีว่าเขายืมข้าวมาจากบ้านน้องชายของตน จึงรีบกล่าว “เจ้านี่จริงๆ เลย พวกข้ากินปลาตัวเดียวก็พอแล้ว เจ้าไปที่บ้านน้องรอง อย่างไรก็ต้องให้พวกเขาสักตัวสิ!”
เจ้ารองรีบพูด “ให้ไปแล้ว วันนี้ข้าจับปลาได้สี่ตัว ให้น้องรองไปสองตัว เหลือให้พวกเราสองตัว”
จางซื่อยิ่งรู้สึกเบิกบานใจ เจ้ารองเปลี่ยนไปมากจริงๆ แต่ก่อนเขาคิดถึงเพียงเรื่องของสกุลไป๋ ไม่ว่าน้องรองจะดีกับเขาเพียงไร ไม่ว่าในมือของเขาจะมีอะไร เขาก็ไม่มีทางคิดจะมอบให้พวกน้องรอง ทว่าบัดนี้นับว่านางไม่เสียแรงเปล่าแล้ว
หญิงชราและหลิวซื่อได้ยินบทสนทนาของสามีภรรยาบ้านรอง ก็พลันโมโหจนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เขายังเป็นบุตรชายที่นางเลี้ยงมาหรือไม่ เจ้ารองในอดีตไม่ใช่คนเช่นนี้
……….
ตอนที่ 384 อกตัญญู?
หญิงชราชี้หน้าต่อว่าเจ้ารอง “เจ้ามันคนอกตัญญูไร้น้ำใจ ข้าเลี้ยงเจ้าจนเติบใหญ่มาเสียเปล่า จับปลามาได้แต่ไม่ให้คนในบ้าน กลับมอบให้คนนอกอีก เจ้าโง่หรือไร”
เจ้ารองสวนนางกลับในทันที “ข้าไม่ได้โง่ เช้าวันนี้ก่อนข้าจะออกไป ข้าก็ไปหารือกับพวกท่านแล้ว พวกข้าแยกบ้านไป แต่กลับไม่ได้รับส่วนแบ่งเสบียงอาหารแม้สักนิด พวกท่านบอกเป็นเพราะข้าเสนอขอแยกบ้าน จึงทำการลงโทษข้า ได้ ข้ายอมรับได้ เมื่อเช้าข้าขอยืมเสบียงอาหารจากพวกท่านมาประทังชีวิตก่อนสองสามวัน แล้วพวกท่านตอบข้าว่าอย่างไร ยังจำได้อยู่หรือไม่ ท่านบอกว่าไม่มีเสบียงอาหารให้ จงไปอดตายเสีย”
เขาชี้ไปยังถุงข้าวสารในตะกร้า “ข้าไปยืมข้าวที่บ้านน้องรอง เขาส่งข้าวครึ่งถุงให้ข้าโดยไม่อิดออดสักคำ ข้าจึงมอบปลาให้พวกเขา ทว่าพวกเขาก็ยังไม่ยอมรับไว้ ปฏิเสธอยู่นานกว่าจะรับไปได้ หากเปลี่ยนเป็นพวกท่าน เกรงว่าพวกท่านยังจะคิดว่านั่นน้อยเกินไปกระมัง อยากแต่จะให้พวกข้าบ้านรองเฉือนเนื้อมาเลี้ยงปากท้องของพวกท่านบ้านใหญ่ เมื่อก่อนข้าโง่นัก อีกทั้งยังมีจ้าวหลานและไป๋จื่อคอยรับใช้พวกท่านอยู่ พวกข้าบ้านรองถึงพอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ จึงไม่เคยคิดมากเรื่องอะไรมาก่อน แต่วันนี้ข้าคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ไม่เพียงจ้าวหลานและไป๋จื่อที่คอยรับใช้พวกท่านบ้านใหญ่ พวกข้าบ้านรองก็ไม่ได้ดีไปกว่าพวกนางสักเท่าไร”
ต้าเป่าเป็นหลานชายคนโต เขามักจะตะคอกใส่ฟู่กุ้ยและเจินจูเมื่ออยู่ในบ้านเสมอ ช่างวางท่ายิ่งนัก และไม่เคยเห็นอารองและน้าสะใภ้รองอย่างพวกเขาอยู่ในสายตา
เสี่ยวเฟิงยิ่งหนักข้อ เขาเป็นหลานรักของหญิงชรา จึงเห็นคนทั้งบ้านเป็นดังบ่าวรับใช้ของเขาก็ไม่ปาน เห็นตนเองสำคัญที่หนึ่ง ตลอดทั้งปีมานี้ไม่เคยได้ยินเขาเรียกตนว่าอารองสักครั้ง ยังไม่ทันได้เป็นขุนนางก็มีท่าทีเช่นนี้แล้ว หากมีวันหนึ่งที่เขาได้เป็นขุนนางจริงๆ จะยังมองเห็นเขาเป็นอารองอยู่อีกหรือ
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เขาจะต้องเสียสละผลประโยชน์ของครอบครัวตน ไปจุนเจือพวกไม่รู้คุณคนที่ไม่เห็นตนอยู่ในสายตาโดยสิ้นเชิงด้วยหรือไร
วาจาของเจ้ารองทำให้หญิงชราและหลิวซื่อเป็นบื้อใบ้ เรื่องไม่ยุติธรรมเหล่านี้เป็นพวกนางที่ก่อขึ้น การแยกบ้านเมื่อวานนี้ พวกนางไม่มอบเสบียงอาหารให้บ้านรองแม้สักเมล็ด วันนี้เช้าเจ้ารองก็มาเจรจากับพวกนาง จริงๆ เขาอยากขอยืมเสบียงมาเลี้ยงปากท้องก่อนสักสองสามวัน ทว่าพวกนางกลับไม่ยอม เขาจึงต้องออกไปขอยืมจากน้องชายของภรรยาเช่นนี้
จางซื่อกวาดสายตามองหญิงชราและหลิวซื่ออย่างเย็นชาครั้งหนึ่ง ก่อนจะหอบข้าวของไปที่ครัวหลังบ้าน ส่วนเจ้ารองเข้าเรือนไปเปลี่ยนกางเกงและรองเท้าที่เปียกชุ่มออก
“พวกท่านยังตะลึงอะไรอยู่ ยังไม่รีบตามหมอมาดูอาการข้าอีก อยากเห็นข้าเจ็บจนตายอยู่ที่นี่หรือไร” เจ้าใหญ่เจ็บจนหน้ามืดตาลาย เสียงเอะอะเมื่อครู่นี้ทำให้เขาโมโหมากเช่นกัน
หลิวซื่อทำอะไรไม่ถูก จึงรีบมองแม่สามี รออีกฝ่ายตัดสินใจ
หญิงชรากัดฟันกรอด นางกล่าวกับต้าเป่าว่า “ต้าเป่า เจ้าตามพวกข้าไปที่สกุลหู เมื่อเจอพวกเขาแล้ว ให้ตายอย่างไรเจ้าก็ต้องบอกว่าโจวอาอู่เป็นคนลงมือ บีบให้พวกเขาจ่ายเงินค่ารักษาก่อนค่อยว่ากัน”
ต้าเป่ารีบโบกมือ “ไม่ๆๆ ข้าไม่ไป โจวอาอู่ผู้นั้นดูท่าทางโหดเหี้ยมนัก แค่ข้าเห็นเขาก็กลัวแล้ว”
หญิงชราโมโหจนทนไม่ไหว เท้าสะเอวพลางต่อว่า “นั่นก็ไม่ไป นี่ก็ไม่ไป แล้วอย่างไร หวังให้ยายแก่คนนี้ไปสู้รบปรบมือแทนพวกเจ้าหรือ ดูสิว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น แค่ไปซื้อเสบียงในเมืองก็พอแล้ว ไยต้องไปหาเรื่องพวกเขาด้วย”
เจ้าใหญ่ก็มีอารมณ์ฉุนเฉียวเช่นกัน เขาตะคอกว่า “ท่านไม่มีเงินเหลือ จึงไม่อยากเชิญหมอมารักษาข้าสิท่า หรือท่านอยากให้ข้าเจ็บปวดจนตายทั้งเป็นเหมือนกับท่านพ่อ”