ตอนที่ 515 ถูกคนหลอกล่อ
สีหน้าของทั้งสองคนเปลี่ยนไปยกใหญ่ ขณะนี้ไม่น่ามองเป็นอย่างยิ่ง ราวกับว่าถูกใครเปิดโปงเรื่องเลวทรามที่กำลังทำอยู่
เมื่อเผชิญหน้ากับหลินหยางที่ดูน่าเกรงขามขนาดนี้ พวกเขาก็รู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่พอนึกถึงจำนวนเงินที่คนคนนั้นรับปากว่าจะให้พวกเขา และนึกขึ้นได้ว่า ‘ลูกสาว’ เป็นถึงหมอระดับแถวหน้าของโรงพยาบาลหมิงซิง ใช้เวลาเพียงไม่นานก็มีบ้านและรถของตัวเองแล้ว ดูท่าเธอจะได้เงินเดือนไม่น้อยเลยทีเดียว บวกกับประกันชีวิตของเธอแล้ว เมื่อเธอตายไป พวกเขาหาเองทั้งชีวิตก็ไม่มีทางได้เท่ากับเงินประกันชีวิตก้อนใหญ่นั้น
เงินทำให้คนเป็นบ้าได้ ยิ่งทำให้เคยเผยธาตุแท้ออกมา!
ผู้ชายคนนั้นถลึงตามองหลินหยางด้วยความโมโห “คุณพูดจาไร้สาระให้น้อยๆ หน่อยเถอะ เธอเป็นลูกสาวของพวกเรา พวกอยากพาเธอไปก็เพราะหวังดีกับเธอ”
หลินหยางค่อยๆ นั่งลงบนเก้าอี้ เก็บอารมณ์โกรธก่อนหน้านี้เอาไว้ เพียงมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชาเท่านั้น “ผมเป็นหมอเจ้าของไข้ของเธอ และเป็นผู้ปกครองชั่วคราวของเธอด้วย ถ้าผมไม่อนุญาตให้พวกคุณพาเธอไป พวกคุณก็พาเธอไปที่ไหนไม่ได้ทั้งนั้น”
เขาไม่สนใจชายหญิงสองคนที่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ กล่าวต่อว่า “กลับไปบอกคนที่อยู่เบื้องหลังพวกคุณคนนั้น บอกเธอว่าขอแค่มีผมหยางเทียนอยู่ ผมไม่มีทางให้มีใครมาทำไป๋จื่อ”
จากนั้นเขาก็หันไปมองไป๋จื่อที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง มองใบหน้าซีดขาวของเธอ เห็นน้ำตาหยดหนึ่งกำลังไหลลงจากหางตา ก่อนจะหายไปในเรือนผมสีดำขลับอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มปรี่ไปที่ข้างเตียง จับมือของไป๋จื่อไว้แน่น “ไป๋จื่อ? คุณตื่นแล้วเหรอ คุณตื่นแล้วจริงๆ ใช่ไหม”
ไป๋จื่อไม่ได้ลืมตา แต่น้ำตากลับไหลออกจากหางตาอีกครั้ง เธอไม่รู้ว่านี่เป็นน้ำตาแห่งความเสียใจ หรือน้ำตาแห่งความซาบซึ้งกันแน่
พ่อกับแม่ที่ทิ้งเธอไปในอดีตกลับมาในวันนี้ ไม่ใช่เพราะอยากมาเยี่ยมหรือเป็นห่วงเธอ แต่มีใครบางคนหลอกล่อพวกเขา ต้องการให้พวกเขาทำร้ายเธอถึงชีวิต พวกเขาเองก็ต้องการครอบครองทรัพย์สินของเธอด้วย
เปรียบกับหลินหลินหยางที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเธอทางสายเลือด แต่กลับอยู่ข้างกายเธอไม่ห่างไปไหนเสมอ แต่เธอไม่เคยแม้แต่จะตอบสนองความต้องการของหลินหยาง ระหว่างพวกเขาไม่เคยมีพันธะสัญญาอะไรต่อกัน เขาไม่จำเป็นต้องสนใจเธอด้วยซ้ำ
เธอขยับริมฝีปาก เสียงอ่อนแรงดังออกมาจากลำคอ “ให้พวกเขาไป”
แม้หลินหยางจะได้ยินไม่ชัดว่าเธอกำลังพูดอะไร แต่เธอกำลังพูด กำลังพูดอยู่จริงๆ
เขาดีใจจนแทบคลั่ง ทว่าเขาก็กดข่มความรู้สึกนั้นเอาไว้ แล้วก้มหน้าลงเข้าไปใกล้ปากของเธอ “คุณพูดอีกครั้งสิ”
ไป๋จื่อขยับริมฝีปากขยุกขยิก เสียงอ่อนแรงมาก แต่กลับชัดเจนขึ้นกว่าเมื่อครู่นัก “ให้พวกเขาไป ฉันไม่อยากเห็นพวกเขา”
หลินหยางกันไปกล่าวกับชายหญิงที่ยืนอยู่ปลายเตียงแต่ไม่กล้าเข้ามาใกล้ “เธอให้พวกคุณไป เธอไม่อยากเห็นพวกคุณ”
พวกเขาสองคนสบตากันครั้งหนึ่ง ฝ่ายผู้หญิงลังเลเล็กน้อย สุดท้ายเธอก็ยังคงเดินไปข้างหน้า เข้าไปใกล้หลินหยาง แล้วจับมือของไป๋จื่อเอาไว้ แต่ไป๋จื่อกลับออกแรงดึงมือกลับ
ผู้หญิงคนนั้นทำตัวไม่ถูก แต่ก็ไม่ได้ดึงดันจับมือไป๋จื่อต่อไป เพียงกล่าวเสียงอ่อนว่า “ลูกรัก ลูกตื่นแล้วสินะ ตื่นแล้วก็ดี พรุ่งนี้พวกเราออกจากโรงพยาบาลกันเถอะ”
ไป๋จื่อสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พยายามหยุดความปรารถนาที่อยากจะระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างสุดความสามารถ
พรุ่งนี้ออกจากโรงพยาบาล? เธอมีสภาพนี้แล้ว พรุ่งนี้จะออกจากโรงพยาบาลได้ยังไง ผู้หญิงคนนี้ไม่ถามหลินหยางเลยสักคำ ว่าออกจากโรงพยาบาลแล้วเธอจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง
“ไสหัวไป!” อารมณ์ขุ่นเคืองทั้งหมดของเธอ กลั่นออกมาเป็นคำพูดนี้ในที่สุด
หลินหยางกำลังตรวจสอบอุปกรณ์ที่เชื่อมกับร่างกายของไป๋จื่อเหล่านั้น อาการโดยทั่วไปล้วนเป็นปกติ ไป๋จื่อในตอนนี้นอกจากอ่อนแรงแล้ว ก็ไม่แตกต่างอะไรจากคนทั่วไปเลย
เขาได้ยินไป๋จื่อบอกให้ผู้หญิงคนนั้นไสหัวไป แต่เธอกลับยังยืนอยู่ข้างเตียงเหมือนกับภูเขาก้อนหนึ่ง ไม่ขยับตัวสักนิด
……….
ตอนที่ 516 หมู่เมฆเคลื่อนคล้อย เห็นแสงจันทร์อีกครั้ง
หลินหยางกดปุ่มสีแดงบนหัวเตียงทันที สามวินาทีหลังจากนั้นก็มีพนักงานรักษาความปลอดภัยสวมเครื่องแบบเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วย ก่อนจะไล่พ่อแม่แท้ๆ ที่ว่าของไป๋จื่อให้ออกไปจากห้องตามคำสั่งของหลินหยาง ทั้งยังเพิ่มชื่อพวกเขาเข้าไปในแบล็กลิสต์ ไม่อนุญาตให้เหยียบเข้ามาในอาคารหลังนี้อีก
“ไป๋จื่อ คุณรู้สึกยังไงบ้าง ลืมตามามองผมหน่อยเถอะ” เสียงของหลินหยางคล้ายกับเสียงสะอื้นอยู่บ้าง ขอบตาแดงก่ำ เขาไม่อยากให้ไป๋จื่อเห็นว่าเขาร้องไห้ ตอนที่น้ำตาไหลลงมา เขาก็รีบเช็ดมันออกอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดไป๋จื่อก็ลืมตา ตรงหน้าของเธอคือหลินหยางที่ดีใจจนแทบคลั่ง แต่หัวใจของเธอกลับจนใจเป็นอย่างยิ่ง เธอกลับมาที่นี่แค่ช่วงสั้นๆ หรือว่ายังต้องกลับไปที่นั่นอีก
เธอควรจะพูดอะไรกับหลินหยางดี
“ดีจัง ดีเหลือเกิน ในที่สุดคุณก็ตื่นแล้ว” เขาก้มลงโอบกอดไป๋จื่อไว้จนแน่น เขาเฝ้าคอยมาหลายเดือน จนวันนี้หมู่มวลเมฆเคลื่อนคล้อย เห็นแสงจันทร์อีกครั้ง
หลินหยางประคองเธอลุกขึ้นนั่ง ถามเธอว่าหิวน้ำ หิวข้าว หนาว หรือว่าร้อนหรือเปล่า
หลังจากไม่เจอกันหลายเดือน เขาดูเปลี่ยนไปมาก คล้ายกับว่าไม่ได้ดูแลรูปลักษณ์ภายนอกให้สมบูรณ์แบบเหมือนเมื่อก่อนอีก ใต้คางของเขามีเคราอยู่บ้าง ผมก็ไม่เป็นทรงเหมือนที่เธอจำได้ สีหน้าเหนื่อยล้า ขอบตาลึกโหล
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอ!
“หลินหยาง ขอบคุณคุณมาก!”
เขาตะลึงไปเล็กน้อย เพราะคิดไม่ถึงว่าคำแรกที่เธอพูดกับคำ จะเป็นคำว่าขอบคุณไปได้
“ขอบคุณอะไรกัน ผมควรทำให้คุณอยู่แล้ว”
ตอนที่เขายิ้มขึ้นมา ก็ยังคงอบอุ่นเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิดเพี้ยน
ไป๋จื่อหันหน้าไปมองท้องฟ้ายามค่ำคืนข้างนอก แล้วหันกลับมามองนาฬิกาแขวนบนผนัง ขณะนี้เป็นเวลาตีสี่สิบห้านาที
อีกสองชั่วโมงฟ้าก็สว่างแล้ว
วันนี้ไม่มีจ้าวหลานปลุกเธอกลางดึก เธอก็จะไม่ไปจากที่นี่อย่างกะทันหัน แต่หลังจากตอนนี้อีกสองชั่วโมง เธอจะยังคงกลับไปยังแคว้นฉู่อยู่ดี
“หลินหยาง ฉันไม่รู้ว่าควรอธิบายให้คุณฟังยังไงดี แต่ฉันคิดว่ามีเรื่องบางเรื่องที่ฉันไม่ควรปิดบังคุณ”
เธอสูดลมหายใจเข้าปอด แล้วพูดต่ออีกว่า “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันตื่น ทุกคืนพระจันทร์เต็มดวง ขอแค่ฉันเห็นแสงจันทร์ ฉันจะตื่นขึ้นที่นี่ หลังจากฉันที่อยู่อีกด้านหนึ่งหลับแล้ว ฉันที่อยู่ทางนี้ก็จะตื่นขึ้น พอตอนที่แสงจันทร์หายไป ฉันก็จะกลับไปที่โลกนั้นอีก”
หลินอย่างมองนางอย่างงุนงง จู่ๆ ก็ยื่นมือมาจับหน้าผากเธอ “คุณกำลังพูดอะไรน่ะ คงไม่ได้เป็นไข้หรอกใช่ไหม”
ไป๋จื่อส่ายหน้า “ฉันไม่ได้พูดไปเรื่อยเปื่อยนะ นี่เรื่องจริง”
เมื่อเห็นหลินหยางยังคงไม่เชื่อ เธอก็พูดต่ออีก “ความจริงแล้วนี่เป็นครั้งที่สี่ที่ฉันหลับมา ตอนที่ฉันกลับมาครั้งแรก ฉันเอากล่องปฐมพยาบาลของคุณไปด้วย ตอนที่ฉันกลับมาครั้งที่สอง ฉันเจอม่านน่า เธออยากฆ่าฉัน คุณก็เห็นไม่ใช่เหรอ ส่วนครั้งที่สามที่กลับมา ฉันยืนอยู่ตรงหน้าต่าง มองคุณเดินมาแต่ไกล ไม่ใช่ว่าคุณเห็นฉันหรอกเหรอ วันนี้เป็นครั้งที่สี่แล้ว”
หลินหยางตกใจจนไม่รู้จะพูดยังไง เขารู้ว่าไม่ควรเชื่อ แต่สิ่งที่เธอพูดเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นจริงๆ เขาทำกล่องปฐมพยาบาลหายไปแล้วจริงๆ และเคยจับได้ว่าม่านน่าพยายามฆ่าไป๋จื่อ…เขาเคยเจอเรื่องเหล่านี้ทั้งสิ้น
“แล้วทำไมคุณไม่เคยบอกผมสักครั้งเลยเวลาที่กลับมา” หลินหยางรีบถาม
ไป๋จื่อส่ายหน้า “ไม่ใช่ว่าฉันไม่บอกคุณนะ แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันมาก จู่ๆ ฉันก็กลับมา แล้วจู่ๆ ฉันก็กลับไปอีก ในอีกโลกหนึ่ง ฉันมีแม่ที่รักฉันมาก พอฉันมาที่นี่ ร่างกายของฉันที่อยู่ที่นั่นก็จะเย็นเฉียบเหมือนกับคนตาย เธอปลุกฉันอย่างเอาเป็นเอาตายทุกครั้ง ฉันที่อยู่ทางนี้ก็เลยหลับลึกอีกครั้ง”
“หลินหยาง ฉันรู้ว่าทุกอย่างนี้มันเหมือนเรื่องเพ้อฝัน แต่ฉันมีสติครบถ้วนมาก และมันคือเรื่องจริง!”