“เสี่ยวซื่อ วิถีการโจมตีของหุ่นรบ B” หลิงหลานกล่าวอย่างเยือกเย็น “ให้โฮเวอร์คาร์คันที่สองลอยขึ้นฟ้าพร้อมกัน” ยิ่งเป็นวิกฤติยิ่งไม่อาจลนลาน พ่อบ้านหลิงฉินต้องอาศัยเธอป้องกันความปลอดภัย
หลิงหลานรู้สึกดีใจเป็นล้นพ้นที่เธอมีเสี่ยวซื่อคู่หูที่ยอดเยี่ยมคอยช่วยเหลือ หลังจากที่เสี่ยวซื่อจัดการโฮเวอร์คาร์ที่เป็นกองหลังแล้ว เขาก็บอกหลิงหลานว่าโฮเวอร์คาร์อีกสองคันถูกเขาควบคุมแล้วเหมือนกัน ข่าวนี้ทำให้หลิงหลานหาโอกาสรอดที่ล้ำค่าอย่างยิ่งเจอท่ามกลามสภาพอับจนที่ครุ่นคิดไปก็ไร้ทางออก บางทีนี่อาจจะทำให้เธอกับหลิงฉินยืนหยัดได้จนกระทั่งกำลังเสริมมาถึง
หลิงหลานดีใจและก็หดหู่อย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอเกินไปแล้ว ทำได้แต่เบิกตาโพลงมองดูคนใกล้ชิดที่เธอให้ความสำคัญต้องพบเจอกับอันตราย ถ้าหากครั้งนี้ไม่มีเสี่ยวซื่อ เกรงว่าเวลานี้คุณปู่หลิงฉินคงจะเลือดสาดกระเซ็นคาที่ไปแล้ว
ตอนนี้หลิงหลานไม่ได้สังเกตเห็นว่าเมล็ดพันธุ์ที่อยากจะเเข็งแกร่งได้แตกหน่อขึ้นในใจเธอ และเริ่มเติบโตอย่างแข็งแรง ทำให้ในอนาคตตอนที่เธอเผชิญหน้ากับอุปสรรคและรู้สึกเหนื่อยล้าสับสน เธอก็ยังคงเลือกที่จะยืนหยัดต่อไป…
การทำงานของเสี่ยวซื่อยอดเยี่ยมมาก มันไม่เพียงขัดขวางวิถีการโจมตีของหุ่นรบ B มันยังให้โฮเวอร์คาร์คันที่สองย้ายไปขวางวิถีการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามโดยอัตโนมัติ
เสี่ยวซื่อเป็นเด็กที่รักการเรียนรู้ หลิงหลานสั่งครั้งเดียวก็จดจำได้ขึ้นใจ มันทำเรื่องที่หลิงหลานต้องการจะทำได้อย่างสมบูรณ์โดยที่ไม่จำเป็นต้องให้หลิงหลานสั่งเป็นครั้งที่สอง
“เสี่ยวซื่อ ทำได้ไม่เลวเลย” ต่อให้หลิงหลานไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน แต่เธอก็รู้เหมือนกันว่าเด็กๆ ชอบถูกชม ดังนั้นเธอก็เลยกล่าวชมเชยโดยไม่ตระหนี่แม้แต่น้อย ทำให้ดวงหน้าน้อยๆ ของเสี่ยวซื่อแดงแปร๊ดทันที คิ้วและตายิ้มจนเป็นเส้นเดียว
………
โฮเวอร์คาร์ขวางกั้นวิถีการยิงของฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง ต่อให้เป็นคนที่ไม่ฉลาดอย่างไรก็มองออกได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
“ผิดปกติ! ต้องมีปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน” หุ่นรบ B วางปืนสไนเปอร์ในมือลง สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา
“หัวหน้า ผมจำได้ว่าคนของโฮเวอร์คาร์สองคันนั้นออกมากันหมดแล้ว ด้านในไม่มีคนเลย” หุ่นรบ A เองก็พบความจริงเช่นกันว่า คนที่แต่เดิมอยู่ในรถกำลังสู้ยิบตากับฝ่ายตรงข้ามอยู่
“แย่ล่ะ พวกเราถูกเจอตัวแล้ว” เมื่อคิดโยงไปถึงการโจมตีของพวกเขาสองคนถูกขวางเอาไว้ หุ่นรบ B ก็หลั่งเหงื่อเย็นๆ ออกมา เขารู้แล้วว่าบางทีเขากำลังถูกฝ่ายตรงข้ามเฝ้าสังเกตทุกการเคลื่อนไหว
“อ่า…หัวหน้า งั้นพวกเราควรจะทำยังไงดี” หุ่นรบ A ร้อนใจ ถ้าเกิดตัวตนถูกเปิดเผยขึ้นมาจริงๆ พวกเขาย่อมมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเบื้องบนคือใคร แต่อาศัยแค่ตัวอักษรในคำพูดของหัวหน้าก็เข้าใจแล้วว่า คนที่สามารถพลิกทะเลคว่ำแม่น้ำ[1] จะจัดการพวกเขาก็ย่อมง่ายดายเหมือนกับบี้มดสองตัวเท่านั้น
“ยิงโฮเวอร์คาร์สองคันนั้น” หุ่นรบ B กัดฟันกล่าวด้วยความดุดัน ถ้าหากยั้งมือไว้แบบนี้ พวกเขากลับไปก็ไม่เป็นผลดีเหมือนกัน ไม่สู้ต่อกรสักตั้ง บางทีอาจจะมีความดีความชอบอยู่บ้าง
“ได้ครับ หัวหน้า” หุ่นรบ A ไม่กล้าไม่เชื่อฟัง เขาชูปืนสไนเปอร์เล็งไปที่หนึ่งในโฮเวอร์คาร์อีกครั้ง
………….
“เสี่ยวซื่อ รีบกลับมาเร็ว” หลิงหลานเห็นฝ่ายตรงข้ามชูปืนก็รู้ว่าพวกเขาไม่ยอมวางมือ เธอกลัวว่าเสี่ยวซื่อจะเป็นอันตรายก็รีบตะโกนเรียกให้เขากลับมา
แน่นอนว่าหลิงหลานรู้สึกเสียใจอยู่บ้างเหมือนกัน ควรทราบว่าเดิมทีเธออยากใช้วิธีนี้เตือนอีกฝ่ายให้พวกเขารู้ว่าตัวเองถูกศัตรูเฝ้าสังเกตการณ์มาตั้งแต่ต้น หวังว่าพวกเขาจะรู้สึกพะว้าพะวงเลือกถอยหนีไป ไม่นึกว่าแผนการนี้จะไม่ได้ผล เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเป็นคนโหดเหี้ยมคิดจะต่อสู้จนถึงช่วงเวลาสุดท้าย
ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็มาเลย! หลิงหลานกำมือน้อยๆ จนแน่น ใบหน้าแสดงการตัดสินใจอย่างเด็ดขาด “เสี่ยวซื่อ ให้โฮเวอร์คาร์คันสุดท้ายไปอยู่ตรงจุดที่สามารถขวางวิถีการโจมตีของหุ่นรบสองตัวได้พร้อมกัน”
สิ้นเสียงคำกล่าวของหลิงหลาน ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรงสองเสียง
ปัง! ปัง!
สองเสียงนี้แทบจะดังขึ้นมาพร้อมกัน ฝ่ายตรงข้ามลั่นไกปืนสไนเปอร์ยิงใส่โฮเวอร์คาร์สองคันที่จอดอยู่ด้านหน้าสุดตามที่คาดคิดไว้จริงๆ ทว่าเนื่องจากโฮเวอร์คาร์ถูกดัดแปลงมาก่อน มันจึงแข็งแกร่งทนทานมาก ถึงแม้ว่าตัวรถจะถูกปืนสไนเปอร์ยิงจนเป็นร่องเว้าลึกมากอย่างชัดเจน ถึงขนาดที่ด้านหนึ่งยุบเข้าไป แต่มันก็ไม่ได้เสียหายจนไปถึงระบบออปติคัลคอมพิวเตอร์ด้านใน ดังนั้นโฮเวอร์คาร์ยังคงตั้งตระหง่านอยู่
“ดีมาก ดัดแปลงได้ทนทานดีจริงๆ” หลิงหลานเห็นโฮเวอร์คาร์ยังลอยอยู่ในท้องฟ้าอย่างมั่นคง ปกป้องหลิงฉินสุดความสามารถ ในใจก็รู้สึกยินดีมาก เดิมทีเธอยังเป็นห่วงว่าโฮเวอร์คาร์จะไม่ได้เรื่องถูกยิงครั้งเดียวก็พังเสียหาย แต่ตอนนี้ดูท่ามันยังสามารถต้านทานได้อีกสักพัก
เมื่อคำนวณเวลาที่พ่อบ้านหลิงฉินปล่อยพลุสัญญาณ หลิงหลานรู้ว่าบางทียืนหยัดต่อไปอีกสามสี่นาที กำลังหนุนก็จะมาถึง
โฮเวอร์คาร์ นายต้องแข็งแกร่งอีกนิดยืนหยัดเข้าไว้ หลิงหลานอดภาวนาไม่ได้
………..
“แม่งเอ๊ย ใครดัดแปลงโฮเวอร์คาร์ให้ทนทานขนาดนี้วะ” หุ่นรบ B อดเอ่ยปากสบถไม่ได้ เขาหันหน้าไปสั่งการต่อว่า “อย่าทำตัวหย่อนยาน ยิงต่อไป ต้องยิงมันลงมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“ครับ หัวหน้า!” หุ่นรบ A เอ่ยตอบ หลังจากนั้นก็เหนี่ยวไกปืนสไนเปอร์อย่างดุเดือด
ปัง! ปัง! ปัง! ปืนสไนเปอร์ยิงออกไปนัดแล้วนัดเล่า ไม่รู้ว่ายิงไปกี่นัดแล้ว ในที่สุดโฮเวอร์คาร์ก็ปรากฏรอยแตกออกมา จนสุดท้ายมันก็กลายเป็นซากโดยสิ้นเชิง…
ปัง! โฮเวอร์คาร์คันหนึ่งถูกปืนสไนเปอร์ยิงอีกครั้ง คราวนี้มันทำภารกิจของมันเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว และกลายเป็นเมฆเพลิง ร่วงลงไปบนพื้นท่ามกลางเปลวไฟที่ลุกไหม้อย่างรุนแรง
โฮเวอร์คาร์อีกคันทนรับการยิงอีกไม่กี่ครั้งก็ฝังตัวอยู่ในทะเลเพลิงระเบิดร่วงลงไปที่พื้นตามเพื่อนของมันไปติดๆ
“เชี่ย ทำไมยังมีอีกคัน มาขวางตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่” ในที่สุดหุ่นรบ B ก็จัดการโฮเวอร์คาร์ที่ขวางทางเขาได้แล้ว ในตอนที่เพิ่งจะโล่งอก และเตรียมตัวปรับปืนสไนเปอร์ไปกำจัดหลิงฉินนั้น เขาก็พบว่าในภาพหน้าจอของเขาหาตัวหลิงฉินไม่เจอแล้ว สาเหตุเป็นเพราะมีโฮเวอร์คาร์อีกคันปรากฏตัวขึ้นมาตรงจุดใกล้กับหลิงฉิน
นอกจากนี้ด้านในโฮเวอร์คาร์คันนี้ไม่ได้ว่างเปล่าไร้ผู้คน พวกเขาเห็นโฮเวอร์คาร์ที่ว่างเปล่าสองคันถูกยิงจนระเบิดร่วงลงพื้น ไหนเลยจะไม่รู้จุดจบของตัวเอง พวกเขาหวาดหวั่นพรั่นพรึง ทยอยกันทุบเตะใส่ประตูหน้าต่าง แต่น่าเสียดายที่ประตูหน้าต่างรถของโฮเวอร์คาร์ถูกเสี่ยวซื่อล็อกไว้นานแล้ว พวกเขาไม่มีทางเปิดมันออกได้เลย
แน่นอนว่าพวกเขาก็เคยคิดเรื่องทุบหน้าต่างรถให้แตก แต่น่าเสียดายที่โฮเวอร์คาร์ถูกดัดแปลงได้หมดจดมากเกินไป ต่อให้เป็นปืนสไนเปอร์ที่ทรงอานุภาพบนหุ่นรบก็ต้องยิงติดต่อกันหลายสิบนัดถึงจะทำลายโฮเวอร์คาร์ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเขาที่มือเปล่าเลย
เวลานี้เอง หลิงฉินก็ฉวยโอกาสกำจัดไปอีกสองคน เหลือเพียงหัวหน้าทีมที่หลบอยู่ด้านหลังสุดกับลูกทีมที่อยู่ข้างตัวเขาเท่านั้น
หลิงหลานรู้สึกเครียดมาก เธอหวังว่าโฮเวอร์คาร์สองคันนี้จะทนการโจมตีครั้งต่อไปได้ ทำให้หลิงฉินมีเวลาไปกำจัดศัตรูสองคนสุดท้ายมากขึ้น เวลานั้นต่อให้ไม่มีของคุ้มกันที่ขัดขวางการซุ่มยิง หลิงฉินหาภูมิประเทศที่ได้เปรียบหลบซ่อนตัวก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น ในป่าพุ่มไม้เตี้ยๆ แห่งนั้น
ตอนนี้เองจู่ๆ โฮเวอร์คาร์ก็หันหลังกลับ ทันใดนั้นปืนใหญ่เลเซอร์สองกระบอกก็ยิงขึ้นไปบนฟ้าอย่างรวดเร็ว
หลิงหลานเห็นแบบนี้ก็ตกใจยกใหญ่ “เสี่ยวซื่อ เกิดอะไรขึ้น”
เสี่ยวซื่อตอบกลับมาทันทีว่า “หึๆ เมื่อตะกี้นี้ฉันไม่ได้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์นะ ในที่สุดฉันก็ทำความเข้าใจโครงสร้างออปติคัลคอมพิวเตอร์ของโลกใบนี้ได้แล้ว นึกไม่ถึงจริงๆ ว่ามนุษย์อย่างพวกเธอจะคิดเรื่องการใช้เครื่องมือทางคณิตศาสตร์แบบนี้ มาสร้างสิ่งมีชีวิตเอไอที่คล้ายคลึงกับพวกเราออกมาได้ แน่นอนว่ามันคล้ายนิดหน่อยเท่านั้น เทียบกับพวกเราแล้วยังห่างชั้นมากเกินไป…” เสี่ยวซื่ออวดดีมาก ใบหน้าเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง ภูมิใจในความเป็นหนึ่งที่ไม่เป็นสองรองใครของตัวเอง
หน้าผากของหลิงหลานปรากฎตัว 井 ออกมาทันที เธอกล่าวด้วยความเดือดดาลว่า “พูดประเด็นสำคัญ!” ให้ตายสิ ไม่ดูเลยว่านี่มันเวลาอะไร พูดจาไร้สาระมากขนาดนี้เพื่ออะไร
“ฉันออกแบบระบบเอไอเล็กๆ ออกมาสองอัน จากนั้นก็วางมันไว้ในระบบนำร่องของปืนใหญ่เลเซอร์แล้ว” เสี่ยวซื่อรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมมาก เขาทิ้งคำพูดสองประโยคด้วยใบหน้าที่คับแค้นใจ ก่อนจะหันตัวไม่สนใจหลิงหลาน เอาล่ะ ดูท่าเจ้าเด็กแสบนี่จะงอนเสียแล้ว
………………………………………
[1] พลิกทะเลคว่ำแม่น้ำ หมายถึงมีพลังอำนาจมหาศาล